ไขข้อข้องใจ เข็มขัดนิรภัยบนเครื่องบิน มันมีไว้ทำอะไรกันแน่!?

1 กันยายน 2558 (20:58) โพสท์โดย AdamS JaideE

ทุกวันนี้เราเดินทางด้วยเครื่องบินมากขึ้น เพราะง่าย สะดวก รวดเร็ว แถมยังปลอดภัยกว่าการโดยสารทางถนนอีกด้วย และดูเหมือนว่าเข็มขัดนิรภัยบนเครื่องบินจะไร้ประโยชน์และนึกภาพไม่ออกว่ามันจะช่วยคุณให้รอดพ้นจากอันตรายได้อย่างไร ในเมื่อถ้าเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอย่างเช่นเครื่องบินตกขึ้นมา เข็มขัดนิรภัยมันก็ไม่ได้ช่วยชีวิตอะไรเราสักหน่อย

แต่เปล่าเลย…เดินทางโดยเครื่องบิน ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอุบัติเหตุเล็กๆน้อยเกิดขึ้น และนี่คือเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของการ ‘คาดเข็มขัดนิรภัย’
ทำไมเราต้องคาดเข็มขัดนิรภัย?

กัปตันของสายการบินหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า “การที่ผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจะทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บจากหลุมอากาศ โดยตัวของผู้โดยสารจะลอยออกจากที่นั่งแล้วกระแทกที่วางแขน รถเข็นอาหาร เพดานหรือผู้โดยสารท่านอื่น ถ้าหากมีผู้โดยสารกำลังเดินอยู่แล้วล่ะก็จะได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้หนักยิ่งกว่า เพราะเสี่ยงที่จะล้มและกระแทกกับของแข็งที่อยู่รอบตัว เพราะฉะนั้นให้ปฏิบัติตามกฎ คาดเข็มขัดนิรภัยดีกว่า ปลอดภัยไว้ก่อน มีแอร์โฮสเตสไม่น้อยได้รับอุบัติเหตุจากหลุมอากาศบ่อยมากระหว่างเดินไปมาบนเครื่องบินและได้รับบาดเจ็บที่คอ หลัง ขาและเท้า โดยเฉพาะที่เท้า เมื่อของหนักๆกว่า 200 ปอนด์ (ราว 90 กิโลกรัม) บนรถเข็นอาหารยกตัวขึ้นจากพื้นแล้วไปทับเท้าแอร์โฮสเตสเข้า”

แล้วกัปตันจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนไหนควรจะเปิดสัญญาณคาดเข็มขัดนิรภัย

“ผมจะปิดสัญญาณคาดเข็มขัดนิรภัยก็ต่อเมื่อแน่ใจแล้วว่าสภาพอากาศคงที่ และจะเปิดตอนที่อยู่ในระหว่างสภาพอากาศแปรปรวนและมีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดหลุมอากาศ แต่โชคร้ายที่บางครั้งการเกิดหลุมอากาศเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้และเกิดขึ้นอย่างฉุกละหุกมาก เพราะฉะนั้นสัญญาณคาดเข็มขัดนิรภัยจึงต้องเปิดแม้จะเป็นตอนที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้โดยสารอาจไปเห็นเข้าและปฏิบัติตามโดยบังเอิญก็ได้ แต่สิ่งที่ผมอยากแนะนำมากๆคือ เมื่อผู้โดยสารมาถึงที่นั่งแล้วให้คาดเข็มขัดนิรภัยเลย และคาดไว้ตลอดเวลา แม้สัญญาณปิดแล้วก็ตาม”

นักบินจะตรวจจับสภาวะอากาศแปรปรวนได้อย่างไร

“อย่างแรกเลยคือพนักงานอำนวยการบินจะเตรียมแผนการบินร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและวางแผนเส้นทางการบินให้เรา รวมถึงคำนวนระดับความสูงที่จะบินด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเจอกับสภาพอากาศแปรปรวนให้น้อยที่สุด แผนการบินและบทสรุปจากพนักงานอำนวยการบินช่วยเตือนเราให้รู้ว่าพื้นที่ตรงไหนจะเกิดสภาวะอากาศแปรปรวนได้ ก่อนจะขึ้นบิน กัปตันต้องมีแผนที่จากกรมอุตุฯที่บ่งบอกถึงสภาพอากาศแต่ละอย่าง เช่น จะมีพายุฟ้าคะนอง มีลมในระดับความสูงต่างๆและจุดที่จะเกิดหลุมอากาศ เราจะทบทวนแผนที่และใช้วางแผนการเปลี่ยนเส้นทางการบินและระดับความสูงถ้าหากเราเจอสภาวะอากาศแปรปรวนตลอดเที่ยวบิน เราใช้ข้อมูลตรงนี้มาบรีฟกับแอร์โฮสเตสด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าช่วงไหนจะเจอกับหลุมอากาศและจะได้ปรับการให้บริการกับผู้โดยสารได้ถูก

เมื่อเที่ยวบินพร้อมแล้ว ระบบเรดาห์ตรวจสภาพอากาศจะทำงานเพื่อวิเคราะห์หาปริมาณความชื้นในอากาศ ดังนั้นความแปรปรวนของสภาพอากาศสัมพันธ์กับพายุฟ้าคะนอง ทำให้เราหลบหลีกสภาพอากาศที่รุนแรงได้ ”