ความโหดร้ายของคุกญี่ปุ่น ในความทรงจำของ Takashi Akemitsu
เชื่อว่า หากพูดถึง “คุก” หรือ “เรือนจำ” ความคิดแรกที่แว่บขึ้นมาในหัวทุกคนคงไม่พ้นความน่ากลัว ความสกปรก แออัด อีกทั้งการถูกทารุณ ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่เคียงคู่มากับภาพลักษณ์ของคุกทุกแห่งทั่วโลกอยู่แล้ว ไม่ว่าประเทศเหล่านั้นจะมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี หรือ มีระบบสาธาราณสุขที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน แต่สถานที่แห่งนี้ก็ถือพื้นที่ยกเว้นสำหรับสิ่งเหล่านั้น รวมคุกในประเทศญี่ปุ่นด้วย
คุกญี่ปุ่น ถือเป็นหนึ่งในคุกที่เรียกได้ว่ามีกฏระเบียบที่เคร่งครัดที่สุดในโลก ระบบเรือนจำแทบทุกที่ของญี่ปุ่นอยู่ภายใต้กฏระเบียบและมีปัญหาเกิดขึ้นน้อยมาก เป็นสถานที่ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณจะใหญ่ล้นฟ้ามาจากไหน เมื่อเข้าไปแล้ว คุณก็ต้องมีสถานะเทียบเท่ากับนักโทษคนอื่นทุกคน เพราะเหตุนี้เอง เพราะเหตุนี้เอง ทั้งๆ ที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีปัญหาด้านแก๊งยากูซ่า หรือแก๊งผู้มีอิทธิพลมายาวนาน แต่ปัญหาด้านกลุ่มผู้มีอิทธิพลในคุกของญี่ปุ่นกลับถูกพบน้อยมาก
นอกจากนี้ปัญหาด้านการข่มขืนในคุกญี่ปุ่นยังถูกพบน้อยมาก รวมไปถึงปัญหาด้านอาวุธ และยาเสพติด ก็แทบจะไม่มีเลย สาเหตุเป็นเพราะญี่ปุ่นมีอัตราสัดส่วนประชากรในคุกน้อยมาก ทำให้สามารถควบคุมได้อย่างทั่วถึงนั่นเอง
นาย Toshikuni Murai คณะบดีประจำคณะกฏหมาย แห่ง มหาวิทยาลัย Hitotsubashi ได้กล่าวว่า เขาได้เคยไปเห็นคุกมาแล้วทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น จีน เกาหลีใต้ ยุโรป หรือแม้แต่ในอเมริกา แต่ไม่มีคุกที่ไหนที่จะมีความเข้มงวดได้เท่าคุกของประเทศญี่ปุ่นเลย
จากบันทึกในความทรงจำของ นาย Takashi Akemitsu ซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่ในคุกแทบทุกแห่งของญี่ปุ่นมาแล้วโดยเขาได้บอกเล่าเรื่องราวคุณภาพชีวิตของคนคุกในประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีระเบียบวินัยที่สุดในโลกไว้
นาย Takashi Akemitsu ในวัย 61 ปี ได้เล่าว่า เขาได้กระทำความผิดฐานลักขโมยจึงถูกส่งตัวไปชดใช้ความผิดในคุก แต่เมื่อขณะรับโทษอยู่นั้น เขาได้ทำการทะเลาะกับผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นเหตุให้เขาพลั้งมือฆ่านักโทษคนอื่นจนเสียชีวิต ทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนไป โดยเขาได้ผ่านคุก 4 แห่งของประเทศญี่ปุ่นที่กล่าวกันว่ามีความเข้มงวดที่สุดมาแล้ว
เขาได้เล่าว่าในเหตุการณ์ที่เขาได้พลั้งมือฆ่านักโทษคนอื่นนั้น เขาถูกผู้คุมจับเข้าไปในห้องขังที่เรียกว่า “Protection Cell” โดยในห้องขังนี้ ผู้คุมได้จับเขารัดด้วยเข็มขัดหนังทองแดงชุบ และใส่กุญแจมืออย่างแน่นหนา โดยในตอนกลางคืนอาหารที่ผู้คุมได้เอามาให้เขาก็มีเพียงแค่ซุปมิโซะ และข้าวเพียงถ้วยเดียว โดยผู้คุมไม่ได้คลายมัดให้เขาแต่อย่างใด แต่ใช้วิธีการป้อนเขาแทน เมื่อป้อนเสร็จแล้วก่อนที่ผู้คุมจะทิ้งให้เขาอยู่คนเดียวก็ได้ปรับเข็มขัดที่มัดตัวเขาให้แน่นขึ้นขนาดที่ทำให้เขาหายใจไม่ออกและแทบอาเจียนออกมา ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้เขาคิดว่าเขาจะถูกฆ่าซะแล้ว
นอกจากนี้เขายังได้เล่าว่า คุกในประเทศญี่ปุ่น มีกฏที่เข้มงวดมาก เช่น ห้ามจ้องมองไปทางอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ห้ามพูดโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือแม้แต่การห้ามเช็ดเหงื่อ จะมีกรณีพิเศษก็ต่อเมื่อช่วงเวลาที่เรียกว่า ”Free time” หรือเวลาพักผ่อนตามอัธยาศัยนั่นเอง จึงจะสามารถได้รับอนุญาตให้พูดคุยได้
เห็นไหมครับ เมื่ออ่านจบแล้วก็ยิ่งทำให้เราคิดได้ว่าชีวิตที่มีอิสระนั้นถือเป็นชีวิตที่มีความสุขแค่ไหน ถ้าใครไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปข้องเกี่ยวกับวงเวียนเหล่านี้ก็อย่าไปทำอะไรผิดกฏหมายเข้าล่ะครับ ไม่งั้นความหมายคำว่าอิสระของคุณ อาจจะต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล
Source : NYtimes.com