"บิ๊กตู่" กร้าว !! นั่งนายก 2 ปี หากปชช.ต้องการ -จัดครม.สัญจรถิ่นแดง ไม่ให้ราคาพวกต้าน
นายกระบุ คสช.พร้อมทำหน้าที่ต่อ 2 ปี หากปชช.ยังต้องการ -ย้ำ ไม่รู้สึกหวั่นไหว ประชุมครม.สัญจรเชียงใหม่ ที่อาจถูกต่อต้านจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่
วันนี้ ( 4 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานมอบโล่รางวัลแก่ผู้นำชาวนาดีเด่นประจำปี 2558 ถึงแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยยืนยันว่า พร้อมรับฟังความเห็นในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนไม่ใช่รัฐบาลปกติ จึงต้องฟังประชาชน ส่วนข้อเสนอที่จะให้อยู่ต่ออีก 2 ปี อยู่ที่ประชาชนต้องการหรือไม่ เพราะหากอยู่ต่อ ก็ต้องอยู่ด้วยความชอบธรรม ไม่ใช่อยู่ด้วยอำนาจ และทุกคนต้องช่วยกันปกป้องตนจากนานาชาติ และคนในประเทศ ที่จะกล่าวหาว่าตนต้องการสืบทอดอำนาจ หากทุกคนร่วมมือกันจะส่งผลดีต่อประเทศ และหากต้องอยู่ต่ออีก 2ปี ก็ไม่กังวลว่าจะมีใครตำหนิหรือว่ากล่าว เพราะยิ่งถูกว่าก็ยิ่งมีแรงทำงาน
นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่า ปลายเดือนมิถุนายนนี้จะเดินทางไปประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จัดประชุม ครม.สัญจรในพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสานมาแล้ว โดนจะกระจายให้ครอบคลุใทั่วประเทศไทย ดังนั้นจึงไม่กลัวหากจะมีคนต่อต้าน เพราะถ้ากลัวคงจะไม่มายืนอยู่ตรงจุดนี้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ชาวนาอยากให้มีการจับตัวไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังการทุจริตทั้งหมด ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ขั้นตอนการสอบสวน ส่วนข้าวที่อยู่ในสต๊อก ทางกระทรวงพานิชย์กำลังดูข้อกฎหมาย เพื่อที่จะนำข้าวออกมาขายในราคาถูก ซึ่งต้องระวังกลไกการตลาด ส่วนคนที่เกี่ยวข้องกับขบวนการทุจริตโครงการจำนำข้าว กำลังถูกดำเนินคดีทั้งอาญา และแพ่ง
โดยก่อนหน้านี้ นายปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำคณะผู้นำชาวนาที่ได้รับรางวัล เกษตรกรและสถาบันการเกษตรดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2558 เข้าพบนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ซึ่งจะตรงกับวันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี ณ ตึกสันติไมตรีทำเนียบรัฐบาล
โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวให้โอวาทในงานตอนหนึ่งว่าอยากให้ชาวนาภาคภูมิใจ กับประโยคที่ว่าชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ พร้อมกำชับว่ารัฐบาลกับชาวนาต้องร่วมมือกันเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปและอยากวอนให้ชาวนาเลิกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายให้หันมาร่วมมือพัฒนาข้าวเพื่อการส่งออกการแก้ปัญหาในระยะแรกที่ตนเข้ามาทำงานคือ การแก้ปัญหาการจำนำข้าว ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เพราะหากเกษตรกรในประเทศยังคงยากไร้ ก็เท่ากับ ประเทศยังเจ็บป่วย พร้อมยืนยันว่าตนเข้ามาทำงานเพื่อหยุดการทุจริตในทุกด้าน
และในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเข้าร่วมการสัมมนาระหว่าง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ สภาปฏิรูปแห่งชาติ เพื่อรับฟังผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของรัฐบาล ในรอบ 1 ปี โดยให้ สนช. สปช. และรัฐบาลได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน. การพัฒนา และการปฏิรูปประเทศ ที่อาคารรัฐสภาทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีทั้ง 5 ท่านเป็นผู้ชี้แจงการทำงานในรอบปีที่ผ่านมาของรัฐบาล และเสนอนโยบายที่รัฐบาลจะดำเนินการต่อไปภายหน้า