ทำได้จริง!! วิธีแยกระดับความอันตรายของ "ภูเขาไฟระเบิด" ด้วยตาตัวเอง!!
จากเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดที่เกิดขึ้นในหลายๆ พื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นที่ค่อนข้างจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง กว่าเราจะทราบข่าวหรือมีการอพยพก็ต้องรอจากศูนย์เตือนภัยว่าควรทำการอพยพได้แล้วหรือไม่ ซึ่งก็มีอีกหนึ่งวิธีในการเตรียมตัวพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ได้ด้วยตนเอง ซึ่งเราสามารถรู้ได้ด้วยตาของตัวเองโดยการสังเกตสีของควันภูเขาไฟหากเกิดเหตุภูเขาไฟระเบิดและพวยพุ่งควันออกมา
หากภูเขาไฟมีควันพวยพุ่งออกมาเป็นสีขาวนับว่ายังไม่ถึงขั้นอันตราย แต่เราต้องเตรียมตัวและไม่เข้าใกล้บริเวณนั้นเพราะหากควันเกิดเปลี่ยนสีเป็นสีเข้มขึ้น(สีดำ) เราจะหนีออกมาไม่ทันนั่นเอง หากจะเปรียบเทียบควันสีนี้กับสิ่งอื่นๆ ก็คงคล้ายกับ การที่เรากำลังต้มน้ำเดือดๆ แล้วมีควันสีขาวขึ้นมา ควันสีขาวที่ออกจากภูเขาไฟก็คงคล้ายกับเช่นนั้น เป็นน้ำที่เดือดหลังจากโดนลาวาภายในภูเขา
เช่น เหตุการณ์วันที่ 7 พ.ค. 58 สถานเอกอัตรราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประกาศเตือนคนไทยที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวชาวไทยห้ามเข้าใกล้บริเวณหุบเขาโอวาคุดานิและคามิยามะ
"ควันสีดำ"
หากภูเขาไฟมีควันพวยพุ่งออกมาเป็นสีดำนับว่าค่อนข้างอันตราย เพราะน้ำที่อยู่ภายในภูเขาได้ระเหยออกมาเกือบหมดแล้ว แต่ภายในภูเขาไฟยังคงมีการปะทุอยู่ ดังนั้นลาวาที่อยู่ภายในมีสิทธิ์ที่จะปะทุออกมาด้วย ซึ่งหากเราพบเจอสีนี้จะต้องอพยพคนบริเวณนั้นออกมาให้หมด ในระยะไม่กี่กิโลเมตรนั้น ขึ้นอยู่กับควันที่ปะทุออกมาว่าสูงขนาดไหน ครอบคลุมถึงขนาดไหน กี่กิโลเมตร เป็นต้น
เช่น เหตุการณ์เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 58 ภูเขาไฟชินดาเกะ ในเกาะคุชิโนะเอราบุ เกิดปะทุทำให้เกิดเขม่าควันสูงกว่า 9 กม. และทางการญี่ปุ่นประกาศ ยกระดับระวังภัยให้อพยพคนในหมู่เกาะออกมาก
"ควันสีดำ พร้อมลาวา"
หากภูเขาไฟมีควันพวยพุ่งออกมาเป็นสีดำพร้อมลาวา นับว่าอันตรายมากที่สุดมา เพราะเกิดการปะทุของลาวาและมีการดันตัวเองออกมาจากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งหากเราพบเจอในลักษณะนี้ จะต้องทำการอพยพโดยทันที
เช่น สำนักงานสังเกตการณ์ภูเขาไฟแห่งรัฐฮาวาย ประกาศเตือนภัยบนเกาะฮาวายแล้วหลังจากลาวายังคงไหลออกมาจากรอยแตกบนภูเขาไฟคีเลาเวอาหนึ่งในภูเขาไฟที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในโลก ทิศทางการไหลของลาวานั้นมุ่งหน้าสู่ชุมชนเล็กๆแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการสั่งให้อพยพเรียบร้อยแล้ว โดยตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. ลาวาไหลเป็นระยะทางเฉลี่ยวันละ 820 ฟีต (ราว 250 ม.) ต่อวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ "ตามติดชีวิตในญี่ปุ่น Jee & Japan Lifestyle"