หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

บัณเฑาะก์มี ๕ ชนิด(องค์โคดมทรงห้ามกระเทยบวชจริงหรือ?!?)

โพสท์โดย นาคเฝ้าคัมภีร์

บัณเฑาะก์ใดเอาปากอมองคชาตของชายเหล่าอื่น ถูกน้ำอสุจิรดเอาแล้ว ความเร่าร้อนจึงสงบไป บัณเฑาะก์นี้ชื่อ อาสิตตบัณเฑาะก์

 

บัณเฑาะก์ใดเห็นอัชฌาจารของชนเหล่าอื่น เมื่อความริษยาเกิดขึ้นแล้ว ความเร่าร้อนจึงสงบไป บัณเฑาะก์นี้ชื่อ อุสุยยบัณเฑาะก์

 

บัณเฑาะก์ใดมีอวัยวะดังพืชทั้งหลาย ถูกนำไปปราศแล้วคือ ถูกเขาตอนเสียแล้ว ด้วยความพยายาม๑-บัณเฑาะก์นี้ชื่อ โอปักกมิยบัณเฑาะก์

 

บางคนข้างแรมเป็นบัณเฑาะก์ ด้วยอานุภาพแห่งอกุศลวิบาก แต่ข้างขึ้น ความเร่าร้อนของเขาย่อมสงบไป นี้ชื่อว่า ปักขบัณเฑาะก์

 

บัณเฑาะก์ใดเกิดไม่มีเพศ ไม่มีภาวรูป ในปฏิสนธิทีเดียว คือไม่ปรากฏว่าชายหรือหญิงมาแต่กำเนิด บัณเฑาะก์นี้ชื่อ นปุงสกบัณเฑาะก์

 

ในบัณเฑาะก์ ๕ ชนิดนั้น อาสิตตบัณเฑาะก์และอุสุยยบัณเฑาะก์ ไม่ห้ามบรรพชา

 

๓ ชนิดนอกนี้ห้าม แม้ในบัณเฑาะก์ ๓ ชนิดนั้น สำหรับปักขบัณเฑาะก์ ห้ามบรรพชาแก่เขาเฉพาะปักข์ที่เป็นบัณเฑาะก์เท่านั้น

 

[เรื่องเพศชายกลับเป็นเพศหญิง](ปักขบัณเฑาะก์) จาก อรรถกถา ปฐมปาราชิกสิกขาบท

 

ในเรื่องที่ ๑๔ มีวินิจฉัยดังนี้ :-

 

    สองบทว่า อิตฺถีลิงฺคํ ปาตุภูตํ ความว่า เมื่อภิกษุนั้นหยั่งลงสู่ความหลับในเวลากลางคืน อวัยวะทั้งปวงมีหนวดและเคราเป็นต้น ซึ่งเป็นทรวดทรงของบุรุษหายไป ทรวดทรงของสตรีเกิดขึ้นแทนที่.

หลายบทว่า ตญฺ...ว อุปชฺฌํ ตํ อุปสมฺปทํ ความว่า เราอนุญาตอุปัชฌายะที่เธอเคยถือมาแล้วในกาลก่อนนั่นเอง (และ) การอุปสมบทที่สงฆ์ทำไว้ในกาลก่อนเช่นกัน.

 

    อธิบายว่า ไม่ต้องถืออุปัชฌายะใหม่ ไม่ต้องให้อุปสมบทใหม่.

 

    สองบทว่า ตานิ วสฺสานิ ความว่า เราอนุญาตให้นับพรรษา จำเดิมแต่อุปสมบทเป็นภิกษุมานั้นนั่นแล.

 

    อธิบายว่า ไม่ต้องทำการนับพรรษา ตั้งแต่เพศกลับนี้ไปใหม่.

 

    สองบทว่า ภิกฺขุนีหิสงฺกมิตุ ํ ความว่า ทั้งเราอนุญาตให้ภิกษุณีนั้นไปด้วยกัน คือสมาคมกัน พร้อมเพรียงกันกับภิกษุณีทั้งหลาย.

 

มีคำอธิบายตรัสไว้ดังนี้ว่า

 

    บัดนี้ นางภิกษุณีนั้นไม่ควรอยู่ในท่ามกลางภิกษุทั้งหลาย จงไปยังสำนักนางภิกษุณี แล้วอยู่ร่วมกับนางภิกษุณีเถิด.

 

    หลายบทว่า ยา อาปตฺติโย ภิกฺขูนํ ภิกฺขูนีหิ สาธารณา ความว่า อาบัติเหล่าใดเป็นเทสนาคามินีก็ตาม เป็นวุฏฐานคามินีก็ตาม ที่ทั่วไปแก่ภิกษุกับนางภิกษุณีทั้งหลาย.

 

    หลายบทว่า ตา อาปตฺติโย ภิกฺขุนีนํ สนฺติเกวุฏฺฐาตุ ํ ความว่า เราอนุญาตให้ทำวินัยกรรมซึ่งเหล่าภิกษุณีพึงทำแล้วออกจากอาบัติเหล่านั้นแม้ทั้งหมด ในสำนักของนางภิกษุณีทั้งหลาย.

 

    หลายบทว่า ตาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺติ ความว่า ส่วนอาบัติเหล่าใดมีสุกกวิสัฏฐิเป็นต้นของพวกภิกษุ ซึ่งไม่ทั่วไปด้วยนางภิกษุณีทั้งหลาย, ไม่เป็นอาบัติด้วยอาบัติเหล่านั้น คืออาบัติเหล่านั้นเป็นอันเธอออกเสร็จแล้วแล เพราะเพศกลับ. ถึงเมื่อเพศเดิมกลับเกิดขึ้นอีก คงเป็นอนาบัติแก่เธอด้วยอาบัติเหล่านั้นเหมือนกัน.

 

วินิจฉัยบาลีในเรื่องที่ ๑๔ นี้ มีเท่านี้ก่อน.

(หมายความว่า หากอยู่ในปักษ์ที่ภิกษุนั้นกลับเพศเป็นหญิง ตามบัญญัติพระวินัยต้องแจ้งให้ภิกษุอื่นทราบก่อนแล้วจึงพากันนำตัวไปส่งที่สำนักภิกษุณี เมื่อคืนสู่บุรุษเพศจึงกลับสู่สำนักภิกษุได้ตามปรกติ)

 

ส่วนวินิจฉัยท้องเรื่องนอกจากบาลี มีดังต่อไปนี้ :-

บัณเฑาะก์ใดเอาปากอมองคชาตของชายเหล่าอื่น ถูกน้ำอสุจิรดเอาแล้ว ความเร่าร้อนจึงสงบไป บัณเฑาะก์นี้ชื่อ อาสิตตบัณเฑาะก์

 

บัณเฑาะก์ใดเห็นอัชฌาจารของชนเหล่าอื่น เมื่อความริษยาเกิดขึ้นแล้ว ความเร่าร้อนจึงสงบไป บัณเฑาะก์นี้ชื่อ อุสุยยบัณเฑาะก์

 

บัณเฑาะก์ใดมีอวัยวะดังพืชทั้งหลาย ถูกนำไปปราศแล้วคือ ถูกเขาตอนเสียแล้ว ด้วยความพยายาม๑-บัณเฑาะก์นี้ชื่อ โอปักกมิยบัณเฑาะก์

 

บางคนข้างแรมเป็นบัณเฑาะก์ ด้วยอานุภาพแห่งอกุศลวิบาก แต่ข้างขึ้น ความเร่าร้อนของเขาย่อมสงบไป นี้ชื่อว่า ปักขบัณเฑาะก์

 

บัณเฑาะก์ใดเกิดไม่มีเพศ ไม่มีภาวรูป ในปฏิสนธิทีเดียว คือไม่ปรากฏว่าชายหรือหญิงมาแต่กำเนิด บัณเฑาะก์นี้ชื่อ นปุงสกบัณเฑาะก์

 

ในบัณเฑาะก์ ๕ ชนิดนั้น อาสิตตบัณเฑาะก์และอุสุยยบัณเฑาะก์ ไม่ห้ามบรรพชา

 

๓ ชนิดนอกนี้ห้าม แม้ในบัณเฑาะก์ ๓ ชนิดนั้น สำหรับปักขบัณเฑาะก์ ห้ามบรรพชาแก่เขาเฉพาะปักข์ที่เป็นบัณเฑาะก์เท่านั้น

 

[เรื่องเพศชายกลับเป็นเพศหญิง](ปักขบัณเฑาะก์) จาก อรรถกถา ปฐมปาราชิกสิกขาบท

 

ในเรื่องที่ ๑๔ มีวินิจฉัยดังนี้ :-

 

    สองบทว่า อิตฺถีลิงฺคํ ปาตุภูตํ ความว่า เมื่อภิกษุนั้นหยั่งลงสู่ความหลับในเวลากลางคืน อวัยวะทั้งปวงมีหนวดและเคราเป็นต้น ซึ่งเป็นทรวดทรงของบุรุษหายไป ทรวดทรงของสตรีเกิดขึ้นแทนที่.

หลายบทว่า ตญฺ...ว อุปชฺฌํ ตํ อุปสมฺปทํ ความว่า เราอนุญาตอุปัชฌายะที่เธอเคยถือมาแล้วในกาลก่อนนั่นเอง (และ) การอุปสมบทที่สงฆ์ทำไว้ในกาลก่อนเช่นกัน.

 

    อธิบายว่า ไม่ต้องถืออุปัชฌายะใหม่ ไม่ต้องให้อุปสมบทใหม่.

 

    สองบทว่า ตานิ วสฺสานิ ความว่า เราอนุญาตให้นับพรรษา จำเดิมแต่อุปสมบทเป็นภิกษุมานั้นนั่นแล.

 

    อธิบายว่า ไม่ต้องทำการนับพรรษา ตั้งแต่เพศกลับนี้ไปใหม่.

 

    สองบทว่า ภิกฺขุนีหิสงฺกมิตุ ํ ความว่า ทั้งเราอนุญาตให้ภิกษุณีนั้นไปด้วยกัน คือสมาคมกัน พร้อมเพรียงกันกับภิกษุณีทั้งหลาย.

 

มีคำอธิบายตรัสไว้ดังนี้ว่า

 

    บัดนี้ นางภิกษุณีนั้นไม่ควรอยู่ในท่ามกลางภิกษุทั้งหลาย จงไปยังสำนักนางภิกษุณี แล้วอยู่ร่วมกับนางภิกษุณีเถิด.

 

    หลายบทว่า ยา อาปตฺติโย ภิกฺขูนํ ภิกฺขูนีหิ สาธารณา ความว่า อาบัติเหล่าใดเป็นเทสนาคามินีก็ตาม เป็นวุฏฐานคามินีก็ตาม ที่ทั่วไปแก่ภิกษุกับนางภิกษุณีทั้งหลาย.

 

    หลายบทว่า ตา อาปตฺติโย ภิกฺขุนีนํ สนฺติเกวุฏฺฐาตุ ํ ความว่า เราอนุญาตให้ทำวินัยกรรมซึ่งเหล่าภิกษุณีพึงทำแล้วออกจากอาบัติเหล่านั้นแม้ทั้งหมด ในสำนักของนางภิกษุณีทั้งหลาย.

 

    หลายบทว่า ตาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺติ ความว่า ส่วนอาบัติเหล่าใดมีสุกกวิสัฏฐิเป็นต้นของพวกภิกษุ ซึ่งไม่ทั่วไปด้วยนางภิกษุณีทั้งหลาย, ไม่เป็นอาบัติด้วยอาบัติเหล่านั้น คืออาบัติเหล่านั้นเป็นอันเธอออกเสร็จแล้วแล เพราะเพศกลับ. ถึงเมื่อเพศเดิมกลับเกิดขึ้นอีก คงเป็นอนาบัติแก่เธอด้วยอาบัติเหล่านั้นเหมือนกัน.

 

วินิจฉัยบาลีในเรื่องที่ ๑๔ นี้ มีเท่านี้ก่อน.

(หมายความว่า หากอยู่ในปักษ์ที่ภิกษุนั้นกลับเพศเป็นหญิง ตามบัญญัติพระวินัยต้องแจ้งให้ภิกษุอื่นทราบก่อนแล้วจึงพากันนำตัวไปส่งที่สำนักภิกษุณี เมื่อคืนสู่บุรุษเพศจึงกลับสู่สำนักภิกษุได้ตามปรกติ)

 

ส่วนวินิจฉัยท้องเรื่องนอกจากบาลี มีดังต่อไปนี้ :-

 

    เริ่มแรกในสองเพศนี้ เพศชายเป็นอุดมเพศ เพศหญิงเป็น...นเพศ เพราะเหตุนั้น เพศชายจึงชื่อว่าอันตรธานไป เพราะอกุศลมีกำลังรุนแรง, เพศหญิงปรากฏขึ้นแทน เพราะกุศลมีกำลังเพลาลง. ส่วนเพศหญิงจะอันตรธานไป ชื่อว่าอันตรธานไป เพราะอกุศลมีกำลังเพลาลง, เพศชายปรากฏขึ้นแทน เพราะกุศลมีกำลังรุนแรง. เพศทั้งสองอันตรธานไปเพราะอกุศล, กลับได้คืนเพราะกุศล ด้วยประการฉะนี้.

 

ก็ในบัณเฑาะก์ ๓ ชนิดนี้ บัณเฑาะก์ใดทรงห้ามบรรพชา พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายเอาบัณเฑาะก์นั้น ตรัสคำนี้ว่า อนุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ

 

บัณเฑาะก์แม้นั้น ภิกษุพึงให้ฉิบหายด้วยลิงคนาสนาทีเดียว

 

เบื้องหน้าแต่นี้ แม้ในคำที่กล่าวว่า พึงให้ฉิบหาย ก็มีนัยนี้เหมือนกัน

 

เพิ่มเติมได้ที่

 

[ต้องอาบัติเพราะนอนร่วมกับภิกษุผู้มีเพศกลับ]

http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=01&i=48#ต้องอาบัติเพราะนอนร่วมกับภิกษุผู้มีเพศกลับ

 

[วิธีปฏิบัติกับภิกษุณีผู้มีเพศกลับ]

http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=01&i=48#วิธีปฏิบัติกับภิกษุณีผู้มีเพศกลับ

จาก

https://www.facebook.com/notes/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B9%80%E0%B8%91%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%B5-%E0%B9%95-%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD/653389194790226

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
4 VOTES (4/5 จาก 1 คน)
VOTED: เผลอหัวใจ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สำนักงานพุทธฯ สั่งตรวจสอบ พ่อแม่ "น้องไนซ์" เชื่อมจิต5 สิ่งที่คุณมีอยู่แล้วน่าอิจฉาแต่คุณอาจไม่รู้ตัวที่สุดของความพยายาม!! เมื่อคุณพ่อเผลอทำเงินตกในเครื่องทำลายเอกสาร เลยให้ลูกชายช่วยต่อให้ใหม่ใช้เวลา 3 สัปดาห์ เเละเเล้วก็สำเร็จวิธีทำให้บ้านเย็นไม่ใช้แอร์เมื่อสาวเจอความทรงจำที่หายไป..มาอยู่ที่ใต้สะพานลอย7 สิ่งที่ควรทำเมื่ออายุ 40หนุ่มเครียด! แฟนไปทำศัลยกรรม แล้วหน้าตลกจนไม่มีอารมณ์..ด้วย?หนุ่มเขมรเอวพริ้ว โชว์สเต็ปแดนซ์ K POP ที่งานมินิคอนเสิร์ตญี่ปุ่น!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
วิธีทำให้บ้านเย็นไม่ใช้แอร์เอาอีกแล้ว! เขมรก็อปปี้หนังไทย เรื่องเด็กหญิงวัลลี ยอดกตัญญู?เชฟชาอูน เมืองสีฟ้าในโมร็อกโก ดินแดนแห่งสถาปัตยกรรมอันงดงามกว๊านพะเยา หนึ่งในทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ตั้งกระทู้ใหม่