หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ลดไขมันง่ายๆ ด้วยไลโคปีน!!

Share แชร์โพสท์โดย fahkhow

ลดไขมันง่ายๆ ด้วยไลโคปีน!!

ไลโคปีน  เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่า ช่วยชะลอความชรา บำรุงผิวพรรณ ต้านความเสื่อมของร่างกาย ช่วยการไหลเวียนของเลือด ลดเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ช่วยในการมองเห็น และลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งประเภทต่างๆ 

 

 ลดไขมันง่ายๆ ด้วยไลโคปีน!!  

 

การวิจัยทางการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่า ไลโคปีน ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ ที่สำคัญยังช่วยลดคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ ได้ดีเมื่อเทียบกับ ยาฟลูวาสแต ติน(Fluvastatin) จากการทดลองในการต่ายที่กินอาหารไขมันสูง พบว่า เมื่อให้ไลโคปีน 4 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม สามารถลดไขมันในเลือดได้  จากสถิติพบว่าผู้ที่รับประทานอาหารที่มีมะเขือเทศเป็นส่วนประกอบ แม้แต่ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ก็มักมีอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้ รับประทานมะเขือเทศ

 

ลดไขมันง่ายๆ ด้วยไลโคปีน!!

 

ไลโคปีน มีฤทธิ์มากกว่า เบต้า-แคโรทีน ถึง 2 เท่า ในการต้านอนุมูลอิสระ และการยับยั้งการเกิดมะเร็ง คนส่วนใหญ่มักจะรู้กันแต่เพียงว่า ไลโคปีน มีมากในมะเขือเทศ ในงานวิจัยของประเทศแถบยุโรป และอเมริกา มีงานวิจัยไลโคปีน เฉพาะในมะเขือเทศ แต่ งานวิจัยไทยล่าสุดพบว่า ไลโคปีน ในผลไม้ไทยที่มีชื่อว่า ฟักข้าว มีไลโคปีน มากกว่ามะเขือกว่าถึง 20-70 เท่า

ปริมาณ ไลโคปีน ที่ควรได้รับต่อวัน

ปกติแล้วหากในแต่วันเราสามารถรับประทานมะเขือเทศ หรือฟักข้าว ประมาณ 10-15 กรัม ก็จะได้ไลโคปีนเพียงพอ แต่หากไม่ได้รับประทานมะเขือเทศทุกวัน และเป็นผู้ที่เสี่ยงต่อการมีภาวะไขมันสูง ต่อมลูกหมากโต ต้องเผชิญกับมลพิษในสิ่งแวดล้อม หรือต้องการบำรุงร่างกายและผิวพรรณ ก็สามารถรับประทานไลโคปีนเสริมได้ โดยปัจจุบันก็มีตัวช่วยมากมายทั้งน้ำผักผลไม้ หรืออาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของไลโคปีน ก็สามารถเลือกทานได้เช่นกัน

ข้อควรระวัง

ไลโคปีนมีความปลอดภัยหากรับประทานไม่เกิน 75 มิลลิกรัมต่อวัน ไลโคปีนเป็นสารที่ละลายในไขมัน จะสะสมไว้ที่ตับ หากสะสมมากเกิน ไปจะทำให้ตัวเหลือง คลื่นไส้ หากรับประทานไลโคปีน ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็ไม่ควรบริโภคมากกว่าปริมาณที่กำหนดไว้บนฉลากบรรจุภัณฑ์

 

 

Credit ข้อมูล : http://www.greenclinic.in.th/lycopene.html

Credit รูปภาพ : https://www.facebook.com/neyaplus

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
fahkhow's profile


โพสท์โดย: fahkhow
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ปรี๊ดเลย! "ครูไพบูลย์" โดนแซวว่าเล็ก..โต้กลับทันที "ผมเล็กหรือคุณโบ๋" กันแน่"ลิซ่า" จะเดบิวต์เป็นดาวติ๊กต๊อก..แต่กลับโดนแซะว่าเลียนแบบ "กามิน"แดนเซอร์ "ลำไย ไหทองคำ" หล่อระดับพระเอก..ค่ายเตรียมดันเป็นศิลปินแล้วลุงเปิดพัดลมคลายร้อนทั้งวันทั้งคืน จนช็อตไฟไหม้บ้านทั้งหลัง 🥺รถไฟเหาะที่เร็วสุดในโลก! ประกาศปิดถาวร หลังมีคนกระดูกคอหักหลายรายJKN ขาดทุน 2,157 ล้านบาท ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ธุรกิจคอนเทนต์แผ่วปลาคาร์ฟสีสันสดใส แหวกว่ายผ่านท่อระบายน้ำข้างถนนในญี่ปุ่นนักดื่มกระทิงแดง กำลังมองหากระป๋อง ที่มีจุดสีน้ำเงินอยู่ข้างใต้แม่น้ำที่อันตรายที่สุดในโลก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
JKN ขาดทุน 2,157 ล้านบาท ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ธุรกิจคอนเทนต์แผ่ว"ลิซ่า" จะเดบิวต์เป็นดาวติ๊กต๊อก..แต่กลับโดนแซะว่าเลียนแบบ "กามิน"ควนยักษ์กมลา สถานที่ลึกลับแห่งภูเก็ต ที่ซ่อนตำนานเอาไว้กว่า 30 ปี?9 วิธีเด็ดแก้ปัญหา แอร์กินไฟช่วงหน้าร้อน
ตั้งกระทู้ใหม่