สหรัฐอเมริกา ปฏิเสธ แทรกแซงการเมืองไทย พร้อมยืนยันเป็นพันธมิตรที่ดีต่อไทย
นางเจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงข่าว ปฏิเสธ ว่าท่าทีของ นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้ไทยยกเลิกกฎอัยการศึกนั้น ไม่ได้เป็นการแทรกแซงการเมืองของไทยเพียงแต่ต้องการให้ไทยกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว
พร้อมตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐฯ ยังเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันเช่นเดิม โดยจะเดินหน้าการฝึกร่วม ผสมคอบร้าโกลด์ กับไทยในเดือนหน้า เพียงแต่ปรับลดขนาดการฝึกซ้อม เป็นการมุ่งเน้นความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม และบรรเทาสาธารณภัย ตามที่ได้เคยแถลงก่อนหน้านี้
ทางด้าน นายแพทริค เมอร์ฟี อุปทูต สหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ได้แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ ตอกย้ำว่าการเดินทางเยือนไทย ของ นายแดเนียลเป็นการแสดงความกังวลต่อเรื่องสิทธิพลเมืองและความยุติธรรมในฐานะพันธมิตรที่ดี พร้อมกระตุ้นให้รัฐบาลไทย เร่งนำประเทศกลับสู่ประชาธิปไตย โดยยืนยันสหรัฐ ไม่ได้เลือกข้างทางการเมืองแต่อย่างใด
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ระบุ ท่าทีของ นายแดเนียล รัสเซล เป็นการแสดงออกที่ไม่ถูกต้องทางการทูต ซึ่งไทยจะไม่ทำหนังสือตอบโต้ไปยังรัฐสภาของสหรัฐ เพราะยังมีเวทีโลกที่สามารถชี้แจงได้ พร้อมย้ำ คสช. และ สนช.มีเป้าหมายเดียวกัน ที่จะสร้างระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์และจัดเลือกตั้งในอนาคต
ขณะที่ คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ แถลงตอบโต้ความเห็นของ นายแดเนียลที่วิพากษ์วิจารณ์ การลงมติถอดถอน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นเรื่องทางการเมือง โดยยืนยัน สนช.ลงมติ ตามอำนาจหน้าที่ที่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามการทุจริต ซึ่งหวังว่าสหรัฐจะเข้าใจ ทั้งนี้จะได้เชิญผู้แทนสถานทูต สหรัฐฯ เข้าหารือเพื่อทำความเข้าใจต่อไป




