ครั้งหนึ่งกับดินแดนในฝันของลูกน้อย Tokyo Disneyland

ท้าวความก่อน นี้เป็นวันที่ 6 ในทริป 12 วันของพวกเราพ่อแม่ลูกนะครับ ช่วงที่พักที่โตเกียวนี้ แม่เพื่อนใจดีเปิดคอนโด (ที่ไม่มีใครอยู่)
ให้ได้พักอาศัยอยู่ติดกับ Takeshita Dori Harajuku ใกล้สถานี JR แค่ 10 นาที

หลักจากที่ "อกหัก" ไปเมื่อสองวันก่อนที่เพื่อนชาวญี่ปุ่นขับรถพาไปถึงที่ แต่ Disney ทั้งสอง Park เต็ม เข้าไม่ได้ ไม่ขายตั๋วเพิ่ม
>>>> ดูได้จากกระทู้นี้เลย https://board.postjung.com/842984.html

ติดตามแบบ Realtime ได้ที่ Page http://www.facebook.com/namjaipainai ครับ เวลาไปเที่ยวแนวครอบครัวจะมีลงแนะนำเรื่อยๆ ครับ

แถมวันรุ่งขึ้น (วันที่ 13 ตุลาคม) เป็นวันที่พายุใหญ่เข้า เราก็ไม่กล้าออกไปไหนไกล ตอนกลางวันลุยๆฝนไป Shibuya ไปทานข้าว Shopping นิดหน่อย
นึกว่ามันจะเดินสะดวก เห้ยมันก็ต้องเดินตากฝนเหมือนกัน บวกกับความั่วและไม่ได้วางแผนทำให้ Shop ไม่กี่ที่แล้วก็ต้องยอมแพ้ไป
แต่หลักๆที่มาเพราะจะมาซื้อตั๋วเข้า Disney ล่วงหน้าที่ Disney Store Shibuya เพราะว่าไม่อยากโง่พลาดไปแล้วเข้าไม่ได้อีกแล้ว
ตอนแรกซื้อจะไปวันพุธที่ 15th เพราะอยากจะรอให้พายุจบแล้วคิดว่าฟ้าน่าจะใส

ทางเดินลัดจาก คอนโดเพื่อน ผ่านวัดเล็กตรงนี้ ไปออกกลาง Takeshita Dori แล้วก็เดินไปสถานีรถไฟง่ายนิดเดียว
อากาศชื้นเหมือนจะตกได้ทุกเมื่อแต่ก็ยังไม่ตก




มาถึง Shibuya ใกล้จัง แต่ออกมาฝนตกปรอยซะละ ถ่ายรูปที่แยกหน้าสถานีซักหน่อยละกัน


เจ้าหมามาเฝ้ารอเจ้าของ น้ำใจมานั่งเฝ้าเจ้าหมาอีกทีค้าาาาา




คุณแม่นัดเจอเพื่อนสาวที่ เรียนอยู่ที่ญี่ปุ่น



มา Disney Store ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ชั้นบนสุดเลย


ซื้อรองเท้าใหม่ที่ Shop Adidas ไม่อยากบอกเลยว่า ใส่ Croc มาเที่ยวญี่ปุ่นเจอฝนนี้เย็นชะมัด
ความพร้อมอยู่ที่ไหนเนี้ยตรู


เจ้าอ้วนก็ได้รองเท้า Adidas Spiderman เหมือนกัน

ตอนเย็นก็กลับคอนโดที่ Harajuku มานั่งดู ทีวี แล้วก็ส่องดุซิ พายุที่มันทำลายล้าง Okinawa และที่ว่าแรงที่สุดในโลกของปีนี้ เป็นยังไง เห็นขู่กันเหลือเกิน
ตอนกลางคืนลมแรงมากครับ ต้นไม้สั่นไปหมด แต่ฝนดูตกไม่หนักเท่าไหร่ นั่งเล่นจเที่ยงคืนก็หลับ



ขากลับผ่าน Mc Donald Takeshita Dori แวะซื้อ Pancake มาให้ลูกระบายสีกินเล่นซะหน่อย


กินมื้อดึกกันง่ายๆ เพราะฝนตกที่ Yoshinoya ข้ามถนนไปก็เจอละ


แวะ Family Mart ข้างล่างคอนโด ซื้อ ทาโร่ชีส มาให้ลุกกินเค้าว่าชีสมีประโยชน์สำหรับเด็กครับ

ตื่นมาตอนเช้าเห้ยฟ้าใสกิ๊งเพื่อนรีบโทรมาบอก
เห้ยวันนี้ละๆๆๆ เดี๋ยวจะรีบไปรับไปลุย Disney กัน เอาอีกละ แผนเปลี่ยนอีกละ รีบแต่งตัวกันพ่อแม่ลูก เพราะรถเพื่อนมารอข้างล่างแล้ว
ไปถึงก็ให้เพื่อนญี่ปุ่นไปเจรจาที่ counter ดูว่าเปลี่ยนวันเข้าได้มั้ย สรุปเปลี่ยนได้แต่เสียเงินเพิ่ม คนละประมาณ 400 เยนมั้งครับถ้าจำไม่ผิด
ก็ใครจะไปนึกละว่าพายุที่ใครๆ ก็ขู่เหลือเกินว่าตรูซวยแล้ว มาโตเกียวผิด เวลา มันจัจบภายในหนึ่งคืนง่ายๆ แบบนี้
เอาละไหนๆ Trip นี้ก็มั่วมาทั้ง Trip จริงๆ ก็ดีเหมือนกัน พอไม่ Fix แบบนี้เลือกได้วันไหนจะทำอะไรทำให้ได้วันเหมาะๆ ไม่เชื่อไปดูรูปท้องฟ้าตอนไป Disneyland ได้เลยครับ ฟ้าหลังฝนนี้มันสุดยอดจริงๆ




นี้ไงครับ อากาศวันนั้น น่าจะซัก 17'C แต่ท้องฟ้าใส แดดเปรี้ยงๆ Perfect จริงๆ ฟ้าหลังฝน




เดินจากที่จอดรถไกลน่าดู เห็นโรงแรม สามสี่ตึกมั้งครับ เดินมาถึงก็ไปเจรจาเปลี่ยนตั๋วได้มาเรียบร้อยวันนี้ไม่เต็มจ้า
จริงๆ ผมว่าปกติมันก็ไม่เต็มหรอกวันนั้นที่ไปมันเป็น Long Weekend พอดีเลย


แค่ข้างหน้าก็สวยแล้วละครับ


ตรงทางเข้าก็มีเจ้าตัวนี้มาตอนรับ โหยย้อนยุคมาก จากเรื่อง Peter Pan รู้สึกจะชื่อ Smicht ประมาณนี้มั้งครับ
ลูกสาวไม่รุ้จักแน่นอน คนละรุ่นมากๆ ต้อง Frozen Lion King จะพอทันหน่อย



ช่วงนี้เป็น Theme Halloween ก็มีแต่ฟักทองเต็มไปหมดเลย ลมแรงมาก ผมเจ้าน้ำใจปลิวเลย




เข้ามาส่วนแรกก็เป็นส่วนดัก คือร้านค้า ดักทั้งเข้าทั้งออกเลย เข้าก็ให้ซื้อ Prop ให้เข้าไปแล้วแต่งตัวเป้นตัวการ์ตูนเข้ากับ Disney
ขาออกก็มาหลอกให้เราคิดถึง ให้ซื้อของที่ระลึกกัน


ตลอดทางเค้าไม่นิ่งเฉยนะครับ จะมี ตัวละครมี Show มา Entertain ตลอดเวลา ตั๋วราคาแค่นี้บริการหยั่งงี้คุ้มครับ




มาถึงก็เกือบเที่ยงๆ แล้วเลย หาอาหารทานกัน พวกร้านราคาถูกหน่อย คนเยอะ
เพื่อนเลยแนะนำไปกินส่วนที่เป็น ศูนย์อาหาร ครับ มันพาไปไหนก็ไปนั้นเลย



อยู่ตรง Small World นี้เอง เครื่องเล่นปิดแต่ ร้านอาหารเปิดนะครับ ไม่เป็นไรน้ำใจเคยเล่นที่ Hongkong แล้วครับ
โอ๊ะมีเจ้าพวกคนเคระทั้งเจ็ด มากระโดด โหย๋งๆ แถวนี้ด้วย ไฮโฮ ไฮโฮ!




เดินไกลเหมือนกันครับ แล้วเห็นคนเริ่มนั่งจองที่กันแล้ว รอดู Parade เราไม่สนครับ
Parade เดี๋ยวมีอีกหลายรอบ ตรงไปที่ทานข้าวก่อน







ร้านอาหารนี้เป็นแบบต่อคิวเข้าไป แล้วก็สั่งเค้าว่าจะเอาอะไรบ้าง ใส่ถาดแล้วก็มาคิดเงินตรงปลายทาง
คล้ายๆกับโรงอาหารเมืองไทยครับ ราคาอาหารก็จานละ 500-700 บาท มือนี้โดนไปประมาณ 1500 บาท
แพงแต่ก็ต้องยอมแหละครับ ทำใจไว้แล้วมาเที่ยวที่แบบนี้ รสชาติก็มาตราฐานนะครับ ไม่ได้อร่อยเว่อร์
หรือว่าจืดชืดไม่ไหว แต่บริการดีครับ คอยหาโต๊ะให้ ช่วยถือถาดดูแลอย่างดี







ออกมาเราก็หาที่เหมาะสำหรับเด็กครับ ก็มาส่วนที่เป็น Cartoon Town มีแนะนำไว้ว่าเหมาะสำหรับเด็ก
โหยเด็กเยอะจริงๆ มีรถให้นั่ง มีปลาให้ดู มีบ้าน Gooffy




แล้วก็มี ช็อตประทับใจด้วย คือน้ำใจนั่งเล่นอยู่บนรถราง (ที่ไมได้วิ่ง) ก็มีเด็กผู้หญิงญี่ปุ่นคนนี้ขึ้นมา
แล้วก็เปิด ป็อปคอร์นในกล่องมาป้อนให้น้ำใจกิน นิสัยดีมากๆ แถมน่ารักด้วย ก็ป้อนกันไปป้อนกันมา
พ่อแม่เค้าก็มาถ่ายรูป พ่อแม่ก็ดูใจดีมากๆ ลูกถึงได้ออกมาใจดีอย่างนี้ นี้เอง



มีรถการ์ตูนให้ขับกัน แล้วก็มีตู้ปลาการ์ตูน น่าจะจากการ์ตูนเรื่อง Roger Rabbit ครับ
ถ้าคนติดตามน้ำใจมา จะทราบว่าน้ำใจชอบ ปลามากๆ ขนาดปลาการ์ตูนยังไปยื่นดูตั้งนาน



โชคดีมากๆ เล่นอยู่ซํกแป็บ Goofy มันออกมาเต้นโชว์ เห้ยมีถ่ายรุปแน่ๆ รีบพาครอบครัวไปต่อคิว
แล้วในที่สุดก็ได้ถ่ายรูปมา เจ้าน้ำใจดีกใจมาก เพราะตัวนี้รู้จัก ดู Mickey Mouse Club house มาแล้ว




เดินไปก็เดินมา คิวเครื่องเล่นก็ยาว ของเล่นเด็กก็ไม่เยอะ จนเพื่อนเดินไปถามเข้าหน้าที่ให้
ก็แนะนำให้ข้ามแพไปเกาะ เค้าบอกว่าเด็กจะชอบวิ่งเล่นที่นั้นมากๆ คิวไม่ยาว เลยไปดูไม่มีแผนอยู่แล้ว (อีกแล้ว)




มารอแพกันที่ท่าไม้เลย เจ้าหน้าที่จะดุนิดนึงเพื่อความปลอดภัย คงกลัวเด็กซนตกน้ำ


ข้ามแพหน้าตาแบบนี้เข้าไปนี้ละครับ คนแน่นๆ แต่เค้าวิ่งแบบว่า Slowly มาก นิ่มๆ ไม่ดีกระตุกเลย





สมที่เค้าแนะนำจริงๆ ครับ เป็นเขาเป็นป่า มีสะพานแบบต่างให้ข้าม มีเครื่องเล่นโบราณออกแนว
American Cowboy Adventure ขนาเผู้ใหญายังตื่นเต้นเลย เด็กคงตื่นเต้นและก็ได้ประสบการ์ณใหม่ๆ
ดีใจแทนลูกจริงๆครับ มาคิดตอนนี้ยังดีใจแทนเลย



นี้เป็นเครื่องแบบที่ ยื่นหรือนั่งข้างบนแล้วห็ให้คนข้างล่าง หมุนๆๆ สนุกๆ
ตอนที่น้ำใจกับเอโตะปีนขึ้นไปยืน ยังไม่มีพี่พวกนี้มาเลย พอมาถึงนี้หวังดีช่วยกันหมุนใหญ่
จนตอนหลังน้องๆ เสียวขอลงเจ้าพวกนี้ก็ไม่ยอมหยุดจนแม่ต้องเดินเข้าไปขู่ถึงจะลงมาได้



ส่วนที่เป็นภูเขา เหมือน Grand Canyon ข้างบนมีนก อินทรีด้วยละ





ส่วนนี้เป็น หมู่บ้าน Cowboy ในบ้านเข้าไม่ได้แต่ส่องไปจะเห็นเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ
ขึ้นไปเดินเล่นข้างบนได้ด้วย




ส่วนนี้เป็นหมูบ้าน อินเดียแดง ก็จะมีกระโจม หมาจำลอง ของใช้จำลอง เด็กๆ วิ่งเข้าวิ่งออกสนุกไปเลย





กลับออกมาทางแพเหมือนเดิม ก็เจอเค้าจับจองที่ดู Parade พอดี เลยต้องให้ขี่คอดู
เห็นลุกโบกมือ ตะโกนเรียกชื่อตัวการ์ตูน เราเองก็คิดว่าคงเหมือนฝันที่ได้ดูการ์ตูนพวกนี้มา
ได้มาเจอของจริงๆ ลูกคงเหมือนฝันเป็นจริง (จริงๆพ่อ ดราม่าไปเอง)


เอ้า พอเริ่มบ่ายแก่ๆ หลับซะละ ไม่เป็นไร พ่อแม่ก็อยากพักเหมือนกัน ก็นั่งเปิดรายการกันดูว่าจะมี Show ตรงไหนอีก
จะได้เข็นไปรอเลย



เห็นว่าตรงปราสาทจะมี โชว์ โหวโผล่ไปคนต่อคิวเต็มเลย ข้างในมที่นั่งแต่เหมือนว่าต้องจองเพราะต้องมี ตั๋วอะไรซักอย่าง
ก็นั่งเล่นแถวนั้น เมฆเริ่มเยอะนครับเย็นๆ ก็เสียวๆ ว่าฝนมันจกตกมั้ย แต่ก็ไม่ตกครับ


สภาพอากาศตอนยังไม่มืดมาก


เริ่มมือๆ เห้ย เมฆเยอะๆ เจอกับไฟแบบนี้มันได้บรรยากาศ Fantasy มากๆ นี้บอกเลย


Show นี้ที่ตัวปราสาท จริงมัน Late มาซักครึ่งชัวโมงเพราะเค้าคงต้องรอให้ มันมืดจริงๆก่อน
เพราะมันเหมือนการ ฉายหนัง + Laser แสงสีเสียงยิงไปที่ปราสาท จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ
การ์ตูนต่างๆ ของ Disney ตั้งแต่แรกๆ จนบัจุบัน แต่เสียงเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ก็ประทับใจมากครับ

พอจบโชว์ที่ปราสาทก็ขอแยกตัวจากเพื่อน ชาวญี่ปุ่นเพราะมันเองก็บอกขี้เกียจเดินแล้ว
แต่เราเปิดแผนที่ดูแล้วเจอเป้าหมายสำคัญ คือตัวละครที่ลูกชอบที่สุด Chip & Dale.
จะมีส่วนที่เป็นบ้านของเจ้ากระรอกสองตัวนี้อยู่ เลยรีบไปกันเลย เพราะต้องทำเวลาด้วย
เดี๋ยวอีกไม่นานจะมี Night Parade ที่เรียกว่าเป็น Highlight หลักเลยละ


เข้าส่วนหมูบ้านการ์ตูน




บ้านแรกที่เจอ คือบ้านของเจ้า Goofy บ้านหลังนี้จะดูไม่เรียบร้อย เละเทอะ
ในส่วนจะมีผักกับต้นไม้ใหญ่ๆ อยู่ แต่จะประดับด้วย ฟักทอง Halloween เต็มไปหมดเลย




มีต่อคิวให้เข้าไปเล่นเครื่องยิงสีด้วย จะเป็นเหมือน Projector แล้วให้เรายิงใส่จอให้บ้าน Goofy มันเละไปกว่าเดิม
มีพวกผู้ใหญ่ต่อคิวเข้ามาตั้งนาน พอมาถึงแล้วเดินออกกันหลายคนเลย แต่เด็กๆ ชอบครับ ทำเละเทอะนี้ขอให้บอก





ต่อมาก็เป็นบ้านของ Miss Daisy แฟนเจ้า Donald Duck นี้เอง ทำเป็นเรือ อยู่กลางน้ำมีสะพานเข้าไป
สวยงามจริงๆครับ มีสองสามชั้น มีอุปกรณ์ต่างเช่นอ่างอาบน้ำ พวงมาลัย กล้องส่องดู
เจ้าน้ำใจขับเรือสนุกไปเลยละ



มาถึงบ้านเจ้า Chip Dale เป็นต้นไม้ ขึ้นไปอ้าวไม่ค่อยมีอะไรให้เล่นเลยแหะ สงสัยเป็นตัวละครที่ไม่ดังเท่าไหร่




แล้วแม่ลูก ก็เข้าไปเจอ Highlight บ้าน เจ้าหนู Mickey Mouse, คุณพ่อไปเข้าห้องน้ำข้างนอกเลยไม่ได้ลงไปด้วย


บ้านเจ้า พลูโตเฝ้าบ้าน



แล้วฟลุ๊คมากเข้ามาเจอเค้าต่อคิวถ่ายรูปกับ Mickey Mouse เห้นว่าจริงๆต้องเสียเงิน
แต่ไม่ร็คุณแม่ต่อคิวยังไง เห้ยได้มาถ่ายฟรีๆ เฉยเลย ถือว่า ฟิน มากๆ เพราะน้ำใจเคยไป
Disney ที่ Hongkong แล้วพลาดที่จะได้ถ่ายกับ Mickey Mouse ถึงกับตะโกนเรียกชื่อ จะร้องไห้เลย


เจ้าแม่ลูก มัวแต่เสียเวลากับ Mickey Mouse วิ่งออกมาดู Parade แทบไม่ทันเห้นแสงรำไรๆ แล้วเห้นมั้ย




โบกมือบ้ายบายใหญ่ เจอทั้ง นีโม เจอทั้ง มิกกี้







อลังกาลไม่ผิดหวังจริงๆครับ สวยมากๆ และที่ประทับใจสุดๆ คือมันยาวมากๆ
น่าจะประมาณ​ 20 นาทีได้มั้งครับ แนะนำเลยใครที่มาขอให้อดทนหน่อย ดูโชว์นี้ตอนดึกให้ได้ครับ



พอจบแล้วคนก็เริ่มแยกย้าย กลับกันเพราะไม่มีอะไรแล้ว
แต่เจ้าสองตัวนี้ยังไม่ยอมจบ กระโดดไปเต้นกันกลางถนน เฉย เลย เห้ย!


เล่นกันเยอะ พอก็เหนื่อยลูกก็เหนื่อยนะ ชดน้ำกันยกก้นเลยทีเดียว




ดึกมากแล้ว เด็กๆ ได้เวลานอนแล้ว แถม เอโตะที่วันนี้ โดดโรงเรียนมาพาน้ำใจเที่ยวพรุ่งนี้ยังต้องไปโรงเรียนอีก

วันนี้ต้องลาไปก่อนจ้า ขอบคุณทุกท่านที่รับชมครับบบบ