นักวิจัยส่งหมาป่าสู่เขตที่กวางถูกคุกคาม โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่ตามมาจะโคตรน่าทึ่ง!!
หากถามคนส่วนใหญ่ว่า ‘กวาง’ กับ ‘หมาป่า’ มีสายสัมพันธ์แบบใดต่อกัน มั่นใจว่าหลายคนคงตอบว่า มันคือ ‘ผู้ถูกล่า’ กับ ‘ผู้ล่า’ และถ้าดูแบบผิวเผิน ก็ไม่มีทางเป็นมิตร หรือเอื้อประโยชน์ต่อกันได้เลย ทว่านักวิจัยกลุ่มนี้ได้พิสูจน์ว่าความคิดนั้นผิด เพราะแท้จริงแล้วหมาป่านี่แหละที่เป็นผู้สร้างปาฏิหาริย์ให้แก่กวางตัวจริง!!!
การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา คือ ปรากฏการณ์ “น้ำตกห่วงโซ่อาหาร” หรือ trophic cascade คือกระบวนการทางนิเวศวิทยาที่เกิดขึ้นบนยอดพีระมิดอาหาร แล้วส่งผลกระทบลงมาถึงเบื้องล่าง ตัวอย่างการเกิดปรากฎนี้ก็คือ อุทยานแห่งชาติ Yellowstone ในประเทศสหรัฐอเมริกา
ณ อุทยานแห่งนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ของผืนป่าถูกฝูงกวางจำนวนมหาศาลครอบครองอยู่ ซึ่งเจ้ากวางตัวแสบเหล่านี้
จะคอยกัดกินแทะเล็มต้นไม้ใบหญ้าในป่า จนเสียหายเป็นจำนวนมาก จึงทำให้นักอนุรักษ์ตัดสินใจใช้หมาป่าเป็นตัวช่วย!! โดยที่พวกเขาเองก็ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย
เป็นเรื่องที่ทราบกันอยู่แล้ว ว่ากวางนี่แหละคืออาหารชั้นเลิศของเหล่าหมาป่า แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ!! เพราะมีสิ่งที่น่าตะลึงมากกว่านั้น!! ว่าหมาป่าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ได้!!
นี่คือภาพที่หมาป่ามองกวาง…
เป็นระยะเวลากว่า 70 ปีที่หมาป่าโดนล่า และค่อยๆลดจำนวนลงเรื่อย ส่งผลทำให้จำนวนประชากรของกวางเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศน์ของป่า ต่อมาในปีค.ศ.1995 หมาป่าถูกปล่อยเข้ามาในเขตอุทยาน โดยนักอนุรักษ์หวังว่าพวกมันจะช่วยทำให้ทุกสิ่งดีขึ้นได้ ซึ่งมันก็เป็นไปตามคาดจริงๆ!! เพราะเมื่อกวางถูกหมาป่าคุกคาม พวกมันจึงระวังตัวมากขึ้น และเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ฝูงกวางเริ่มหลีกเลี่ยงพื้นที่บางแห่งในเขตอุทยาน ที่ที่มันจะไม่ถูกกับดัก และแล้วการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น!! เมื่อต้นไม้ในบริเวณอุทยานสูงขึ้นถึง 5 เท่า!!
สัตว์ป่าน้อยใหญ่ค่อยๆเข้ามาอยู่ในพื้นที่แห่งนี้มากขึ้น รวมทั้งนก songbird ที่ดูเหมือนจะชื่นชอบต้นไม้ต้นใหม่เอามากๆด้วย
เหล่าบีเวอร์ก็ชื่นชอบต้นไม้ไม่แพ้กัน โดยเจ้าตัวน้อยเหล่านี้ได้พากันอพยพเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ และได้ช่วยกันสร้างฝายเก็บน้ำขึ้นมา ซึ่งส่งผลให้เกิดแหล่งที่อยู่ทางน้ำ บรรดาเป็ด นาก และปลาต่างๆเพิ่มจำนวนมากขึ้น
หมาป่าได้ฆ่าตัวไคโยตีศัตรูตัวฉกาจของเหล่าหนูและกระต่าย จึงทำให้จ้าตัวน้อยเหล่านี้กล้ามาอาศัยอยู่มากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้เป็นตัวนำพาให้เหล่าผู้ล่าอย่างเหยี่ยว วีเซิล หมาจิ้งจอก และนกฮูกเข้ามาในอุทยาน เพื่อมากินซากของตัวไคโยตีนั่นเอง แน่นอนว่าเจ้าหมีก็ไม่พลาดเช่นเดียวกัน เพราะในป่ามีผลไม้จำพวกเบอร์รี่ ซึ่งเป็นอาหารโปรดของพวกมัน
จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ ทำให้รู้ความจริงที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่ง ว่าแท้จริงแล้วหมาป่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงแค่ระบบนิเวศน์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันสามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะทางภูมิประเทศได้อย่างเยี่ยมยอดทีเดียว
ที่มา: upworthy