สวัสดีจ้า เพื่อนๆ ทุกคน

เราก็ติดตามและก็ดูรีวิวต่างๆ มาเยอะ กว่าจะได้ไปเที่ยวแต่ละที่

มาถึงคราวเราบ้าง ขอแชร์ประสบการณ์เล็กๆน้อยๆ

กับการไปเที่ยวปีใหม่ในปี 2558 ที่กาญจนบุรี

 

งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าา าา

 

˙ω˙

เราออกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวน๊าาา า

 

เราเริ่มจากการไปเค้าดาวน์ที่ชะอำ แล้วค่อยตีเราเข้ามาที่กาญจนบุรี

ทางถามหรอว่าไปยังไง ... google map ช่วยได้เลยจ้ะ

 

ละแล้ววว เราก็เข้าถึง จ.กาญจบุรี

แต่กว่าจะถึงนี่หลายชั่วโมงมากๆ ไหนจะรถติด ไหนจะอุบัติเหตุข้างทาง

ขับรถไปเรื่อยๆ ไปทาง อ.ไทรโยค 

แวะสักนิด ก่อนเดินทางไป อ. สังขละบุรี

เพราะมันเป็นทางผ่าน นั่นก็คือ น้ำตกไทรโยคน้อย

จากนั้น สมาชิก พร้อม ก็ออกเดินทางต่อสู่ อ. สังขละบุรี

 

บอกเลย 274 กิโลเมตร ที่นี่ไกลมากกกกกกกกกก

ไหนจะขึ้นเขา ไหนจะทางคดเคี้ยวว

หูนี่อื้อไปตามๆ กัน 

กว่าจะถึง อ. สังขละบุรี ก็มืดแล้ว 4ทุ่มกว่าได้ เลยหาที่พักกัน

เพราะว่าเราไม่ได้มีการจองที่พักแต่อย่างใดจ้า เจอฟลุ้คมีที่พักก็ถือว่าโชคดีไป

 

เดินหากันอยู่พักนึง

 

และแล้ว ว .. ว

เจอแล้ววว ว 

แต่ไม่ใช่บ้านพักนะ เป็นเต๊นท์ อยุ่ฝั่งมอญ ชื่อที่พักบ้านดอกบัว

โอเค นอนก็นอน มาซะมืดขนาดนี้ หนาวก็หนาว น้ำค้างก็แรงซะเหลือปะดา

 

โอ้ย ยย ย .. 

ท้องเริ่มร้อง หิวจัง 

ในเมื่อทุกคนหิวแล้วก็หาไรกินสิค้า บบ บ

มาถึงถนนคนเดิน จะอยุ่ฝั่งไทยนะ มาช่วงเทศกาลเลยมีของกินเยอะ เพราะมีเวทีคอนเสิร์ต แม่ค้าพรึ่บ

หาไรกินซะ อาหารที่นี่ก็เหมือนทั่วไป มี 7-11 มีร้านค้าส่ง

 

เรากินอาหารตามสั่ง แต่รสชาติที่นั่นมันดูจืดๆ เราเลยกินไม่หมด

แต่ทีเด็ดอยุ่ที่นี่ หัดไป หัดมา....

 

ป๊ะ! เข้าให้ ป้ายเขียน หมู่จุ่มพม่า

อารมณ์เหมือนคอหมูย่าง เสียบไม้พอดีคำ มีน้ำซุปในหม้อกลิ่นสมุนไพรโชยย

มีน้ำจิ้ม 2 แบบ ซีฟู้ดกะน้ำจิ้มพม่า ซีฟู้ดแซ่บมากกกกก ขายในราคาไม้ละ 1 บาท

รอไรล่ะจ้ะ อย่างงี้ต้องลองงง

 

ซัดไปบางๆ 20 ไม้

โดยส่วนตัวชอบน้ำซุปมากๆ เพราะคล้ายๆ น้ำขิงอ่อนๆ หอมอีกต่างหาก

 

อิ่มท้องแล้ว เริ่มง่วง กลับที่พัก ล้างหน้า ล้างตา แปรงฟัน นอนนนน..zZ

อากาศแบบนี้ขอไม่อาบน้ำนอนน้ะจ๊ะ

 

เช้าแล้ววว

ตื่นมา 10 โมงได้ นักท่องเที่ยวนี่แบบเริ่มเข้าที่พักเยอะมาก 

เีราก็อาบน้ำ ไม่ใช่สิ! เรียกล้างตัวน่าจะดีกว่า

แต่งตัวเสร็จ ทำไรเสร็จก็กิวอีกแล้ว ว ว

ไปหาไีรกินกันเถอะ

อาหารมื้อนี้ไม่ค่อยถูกปากเรา เพราะมันเป็นขนมจีน มีหลายน้ำยา 

เรากับเพื่อนๆ ก็สั่งคละ ๆ กัน เพราะอยากชิม

น้ำยาที่นีไม่ค่อยมีรสชาติมาก ถ้าจืดคือจืดมาก ถ้าเผ็ดคือเผ็ดมาก รสไม่ค่อยอูมามิเท่าไหร่

 

อิ่มแล้ว ไปไหนต่อดี

 

กลับที่พักก่อนละกัน 

ระหว่างเดินกลับก็เก็บภาพไปพลางๆ

เดินถึงที่พัก

คุณลุงเจ้าของที่พักเดินมาถามว่า "นั่งเรือชมวัดไม๊?"

เราเลยมีเป้าหมายต่อทันที

เรือที่นั่งลุงคิดคนละ 100 บาท แต่เราไป 10 คน ลุงคิด 900 บาทคะ (มีต่อรอง)

เดินไป รอขึ้นเรือจ้ะ

ที่แรกที่ไป คือ วัดวังก์วิเวการาม หรือวัดใต้น้ำ 

ในวัดไม่มีอะไร เหมือนวัดที่ยังสร้างไม่เสร็จ

ก็จะมีเด็กๆ วิ่งมาขายดอกไม้ ธูป เทียน กำละ 10 บาท เพื่อนำไปไหว้พระ

 

ต่อไปเป็นวัดสมเด็จเก่า

เรือจอดแล้วต้องเดินขึ้นไปนะจ้ะ 

ใช้เวลาเกือบ ชั่วโมง ก็เสร็จสิ้นภารกิจไหว้พระ 

เดินกลับไปที่พักปรึกษาหารือกันแพ้บ ไปไหนต่อดี

และแล้วก็ได้ที่อีกแล้วจ้าา

ไปด่านเจดีย์ 3 องค์ ดีกว่า ลุงที่เป็นเจ้าของบอกอีกแล้ว ว

ลุงบอกว่ามันก็ไม่ได้มีไรนะ แต่ที่โน้นเหล้า เบียร์ บุหรี่ ถูกมว้ากกกก

เพราะไม่ต้องเสียภาษีนะจ้ะ

เรากะเพื่อนๆ เลยไปกัน (เราไม่กินเหล้า ไปดูดบุหรี่นะ) 55

 

ขับรถไป จากที่พัก ก็ประมาณ 19 กิโล (ดูจากป้ายบอกทางอะ)

 

ถึงแล้ววว ด่านเจดีย์ 3 องค์

ถึงปุ้บเพื่อนเราก็ไปซื้อของทันที ส่วนเราก็ไหว้ขอพรเล็กน้อย 

แล้วก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ 

 

ที่นี่เป็นสุดเขตของภาคตะวันตก ติดเมียนมาร์เลยล้ะ

ที่นั้นจะมีของขายเป็นทาง เราก็เป็นสายกินคนนึง เลยเดินเล่นๆดู

แล้วก็เจออะไรที่น่าสนใจ หรือเราสนใจคนเดียว 55

 

ที่นั่นเรียก ส่ามูส่า  แต่ถามคนขาย เขาบอกว่า ...ปั๊บ

คนขายเป็นคนพม่า พูดไม่ชัด 

ราคาขาย 10 ชิ้น 20 บาท แต่เราฟังเป็น 4 ชิ้น 20 ตลกตัวเองมากกก 55

แต่ก็ซื้อคะ เอา 20 บาท คะ 

รสชาติเหมือนเป๊าะเปี๊ยทอด บ้านเ้รา แค่หน้าตาแตกต่างไปนิสนุง

กรอบๆ ไส้ของในคล้ายหมูผัดซอสมะเขือเทศ หวานๆ อูมามิสุดๆ

 

เดินเสร็จไรเสร็จ ก็ขับรถกลับ 

ระหว่างทางกลับ ก็แวะเล่นน้ำตกซองกาเรีย ที่เป็นทางผ่านอยู่แล้วว 

แล้วที่สำคัญ หิว อีกแล้ว วว

 

เลยสั่งส้มตำ ไก่ย่าง มากินกันที่ แพริมน้ำ

ที่นี่น้ำเย็นมว้ากกกกกกกกกกกก แชเท้านี่ เท้าชาเลยล่ะ

ส่วนน้ำก็ใสมากกกกกกกกกกกกกก

ตอนแรกก็จะเล่นน้ำนะ แต่เจออากาศไปถอยดีกว่า แต่เพืิ่อนเราก็มีโดนลงไป 2 คนนะ

แต่ไม่ถึง 5 นาที ขึ้นอย่างไว เพราะว่าไม่ไหวจะทน

 

เสร็จเสร็จภารกิจ 

กลับที่พักไป ก็หาซื้อของกิน เพื่อปิ้งย่างคืนนี้

 

คืนสุดท้ายที่สังขละบุรี

ตื่นเช้ามากวันนี้ 6โมงครึ่ง ตื่นมาเพื่อไปใส่บาตร 

อากาศที่นี่ตอนเช้าเย็นฟุดๆ มีหมอกอยู่เหนือผิวน้ำ สวยมากๆ 

แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปมา (น่าเสียดายจุง)

 

เดินไปใส่บาตรกันเนอะ

ตอนเช้าที่นี่ คนเยอะมากๆ 

ใส่บาตรเสร็จก็หาไรกิน อีกแล้วว ว 

คนนั่งกินเยอะดี เลยลองดูสิ 

โจ๊กร้อนๆ มอญแท้ๆ 

รสชาดก็เหมือนโจ๊กบ้านเรา มีไข่ มีหมูสับ มีหมี่กรอบ ราคาชามละ 30 บาท

ส่วนข้างๆ เป็นปาท่องโก๋ รสชาดหวานมัน เหมือนมีนมข้น เป็นไส้ อร่อยดี เราชอบ ราคาถ้วยละ 20 บาท

ในตลาดตอนเช้ามีของขายเยอะมาก ทั้งของกิน และของฝาก 

 

เราเลยซื้อแป้งทานาคา มา 1 กระปุก ราคา 35 บาท 3 กระปุก 100 บาท

แต่เราซื้อ 1 กระปุกเลยต่อรอง 30 บาทละกันน (ไม่มีรูปนะจ้ะ)

 

กลับมาจากใส่บาตร อาบน้ำ แต่งตัว เตรียมตัวจะกลับบ้านแล้ววว

บะบายนะพม่าที่น่ารัก ชาวมอญที่น่าเยิ้บ

55555 5

 

ใครบอกล้ะ ทริปนี้ยังไม่จบบบ

และแล้ววว ... ก็มีทริปใหม่เกิดขึ้น 

 

ขับรถออกจากที่พัก เวลา 11 โมง 

โก ทู... อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

 

ถึงซะที นั่งรถจนเมื่อยไปหมดแล้ววว ห่ะ 4 โมงแล้ว ว 

ค่าเข้าคนละ 40 บาท

ค่ารถคันละ 30 บาท

แต่เห็นป้ายเขียนว่าจะปรับราคา เริ่มเดือน กุมภาพันธ์ 2558 นี้

แต่ถ้าอยากจ่ายครึ่งราคา พกบัตรนักเรียน บัตรนักศึกษาไปนะจ้ะ

 

คืนนี้ตกลงนอนกันที่นี่เพราะเย็นแล้วว ว

เลยตัดสินใจนอนแพ ชื่อ แพน้ำค้าง (ไม่มีรูปที่พักนะ)

แต่บรรยากาศโดยรวมโอเคมากๆ

ตกลงเล่นน้ำโดดตู้มต้ามมมม ที่เขื่อนนี่แหละ

แล้วก็ทำอาหารกินกันเบาๆ

ส่วนผู้ชายก็กินเหล้า เมายาไปเรื่อย เราง่วงเลยไปนอนก่อน

 

นอนได้ไม่นานก็เช้าอีกแล้ววว

ได้เวลากลับบ้านจริงๆ แล้วล้ะ 

 

คนอื่นก็เล่นน้ำกันพักนึง ลุงก็มาลากแพกลับฝั่ง ทุกคนก็อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าวต้มรองท้องกันไป

วิวสวยดีเลยเก็บภาพมาฝาก

 

จบทริป!

 

แวะซื้อของฝากเล็กน้อยตีรถกลับกรุงเทพฯ เข้าบ้าน นอนนนน 

 

ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะคะ 

หวังว่าเพื่อนๆ คงชอบกันเนอะ ทริปต่อไปถ้าไปไหนจะมารีวิวอีกน๊ า