125 ปีที่ผ่านมาคนนับล้านเคยดูภาพนี้…แต่กลับไม่รู้ว่ามีความลับใดซ่อนอยู่!!
มั่นใจว่าทุกคนคงรู้จัก ‘วินเซนต์ แวนโก๊ะ’ ในฐานะศิลปินแห่งยุค ที่โด่งดังข้ามศตวรรษด้วยภาพ The Starry Night…ทว่า 125 ปีที่ผ่านมา กลับแทบไม่มีใครเคยรู้เลยว่ามีความลับน่าทึ่งอันใดซ่อนอยู่ในภาพชิ้นนี้!!!
ซึ่งในสายตาคนทั่วไปมักมองว่าแวนโก๊ะคือศิลปินอัจฉริยะ ทว่าน้อยคนนักที่จะรู้จักเขาในฐานะ “สุดยอดนักวิทยาศาสตร์” (เอ๊ะพูดเป็นเล่น?)
แล้วนี่ก็คือเรื่องราวอันน่าทึ่งของเขา…
ในช่วงที่แวนโก๊ะซุกชีวิตไว้ในฝรั่งเศส เขาได้ค้นพบทฤษฏีทางวิทยาศาสตร์เรื่องหนึ่งซึ่งถือว่ามีความซับซ้อนสูงมาก
แต่เขากลับถ่ายทอดทฤษฏีดังกล่าวออกมาเป็นภาพวาดได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งสิ่งที่เขาค้นพบก็คือ ทฤษฏี Turbulence (การปั่นป่วนของอากาศ)
แล้วการปั่นป่วนของสภาพอากาศที่ว่านี้คืออะไร?
มันก็คือการที่กระแสลมเคลื่อนไหวฉับไวปานของเหลว และหมุนวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากนั้นกระบวนการที่ว่านี้ก็จะเกิดขึ้นซ้ำเรื่อยๆ และเรื่อยๆ จากกระแสลมขนาดใหญ่ก็ตีวงแคบลงกลายเป็นขนาดเล็ก…เอ้าพูดมากเดี๋ยวงง มาดูภาพดีกว่า (น่าจะช่วยให้เข้าใจได้มากกว่าคำอธิบาย)
ทั้งนี้การปั่นป่วนของอากาศคือเรื่องซับซ้อนที่นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบหลังจากนั้น นานมากๆ
ทว่าแวนโก๊ะนั้นค้นพบสิ่งนี้ตั้งแต่ 100 ปีก่อนหน้านั้นแล้ว ในช่วงที่เขาถูกตราหน้าว่าเป็นโรคจิตเฉือนหูตัวเอง!!
เขาคือชายผู้มองไปบนฟากฟ้า แล้วสังเหตเห็นทฤษฏีอันลึกล้ำที่ซ่อนอยู่ในกลุ่มเมฆ และเขาคือชายที่สามารถมองเห็นกระแสลมในอากาศได้ในแบบที่ไม่มีใครเหมือน จากนั้นเขาก็ใช้หลักการ Turbulence เหล่านี้เป็นส่วนผสมสำคัญในการถ่ายทอดงานศิลปะ
แล้วแม้แต่ “The Scream” ของ Edvard Munch ก็มีหลักการของการปั่นป่วนสภาพอากาศที่ว่านี้เกิดขึ้นในงานเช่นกัน
ฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่าแวนโก๊ะคือสุดยอดศิลปิน อีกทั้งยังเป็นที่สุดแห่งนักวิทยาศาสตร์ เพราะแม้ว่าเขาจะมีโชคชะตาที่อาภัพและมืดมิด แต่เขากลับค้นพบเรื่องยิ่งใหญ่ตั้งแต่ 100 กว่าปี ก่อนหน้าที่นักวิทยาศาสตร์จะทันสังเกตเสียด้วยซ้ำ
ที่มา: upworthy