ตำนานหมายเลข 10 โลกไม่ลืม
โพสท์โดย I sea u
10 ตำนานหมายเลข 10 โลกไม่ลืม
ในเกมฟุตบอล หมายเลข 10 คือเลขที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายมากมายเหลือล้นป็นเบอร์ที่ยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอล มันมีความหมายหลายอย่างภายใต้เสื้อตัวนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมันเป็นหมายเลขที่มักถูกมอบให้นักเตะที่เก่งที่สุดในสนาม สร้างความตื่นตาตื่นใจให้คนดูมากที่สุดในสนาม 10 หมายเลข 10 ในตำนานจากสายตาของเรา รวมถึง หมายเลข 10 รายอื่นๆ ที่ตกโผนี้ไปอย่างน่าเสียดายมีใครบ้าง ไปชมกันได้เลย
จอมทัพของปีศาจแดงดำที่เคยค้าแข้งในซานซิโรตั้งแต่ปี 1992-2001 คือขุนพลยุคทองของทีมชาติโครเอเชีย ที่เกือบจะได้ไปถึงนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 1998 โดยออกนำไปก่อน 1-0 ก่อนที่จะถูกทีเด็ดของลิลิยง ตูราม ทำคนเดียวสองประตูพลิกแซงไปได้ จนพลาดโอกาสเข้าชิงไปอย่างน่าเสียดาย
เขาคือนักเตะหมายเลข 10 ของทีมตราหมากรุกในยุคนั้น ซึ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าฝีเท้ายอมเยี่ยมแค่ไหน โดยเฉพาะลูกจ่ายอันเฉียบคมและเหนือชั้นที่พลิกเกมมาแล้วนักต่อนัก
ท้าย ที่สุด โครเอเชียคว้าอันดับสามไปครอง ส่วนฝรั่งเศสก้าวขึ้นไปเป็นหมายเลขหนึ่งของโลกด้วยการปราบบราซิลหมดท่า 3-1 แต่โลกไม่เคยลืมผลงานของอันดับสามในคราวนั้นเลย เมื่อพวกเขาสร้างความลำบากให้ฝรั่งเศสได้มากกว่ารองแชมป์อย่างบราซิลเสียอีก
เขาคือนักเตะหมายเลข 10 ของทีมตราหมากรุกในยุคนั้น ซึ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าฝีเท้ายอมเยี่ยมแค่ไหน โดยเฉพาะลูกจ่ายอันเฉียบคมและเหนือชั้นที่พลิกเกมมาแล้วนักต่อนัก
ท้าย ที่สุด โครเอเชียคว้าอันดับสามไปครอง ส่วนฝรั่งเศสก้าวขึ้นไปเป็นหมายเลขหนึ่งของโลกด้วยการปราบบราซิลหมดท่า 3-1 แต่โลกไม่เคยลืมผลงานของอันดับสามในคราวนั้นเลย เมื่อพวกเขาสร้างความลำบากให้ฝรั่งเศสได้มากกว่ารองแชมป์อย่างบราซิลเสียอีก
จอมทัพแดนฝอยทองเป็นนักเตะที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องลูกจ่ายทะลุช่องที่เฉียบคม ฉีกแนวรับฝั่งตรงข้ามเป็นชิ้นๆ ซึ่งน่าจะถือเป็นคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้ของนักเตะหมายเลข 10 ทุกคน
เขา สร้างชื่อให้ยุโรปรู้จักด้วยการจับคู่กับกาเบรียล บาติสตูต้า ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจในทีมฟิออเรนตินา ก่อนจะออกมาค้าแข้งกับเอซี มิลาน และกลับไปปิดฉากชีวิตค้าแข้งที่เบนฟิก้า สโมสรที่เขาเคยเล่นตั้งแต่สมัยเยาวชน
ส่วนในทีมชาติ นี่คือจอมทัพของทีมชาติโปรตุเกสยุคทองที่เคยคว้าเยาวชนโลกเมื่อปี 1991 รวมถึงเกือบคว้าแชมป์ยูโรในปี 2004 แม้จะไม่มีรางวัลในระดับชาติมาครอบครอง แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทีมแดนฝอยทองในยุคของเขา คือทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุด นับตั้งแต่หลังยูเซบิโอเป็นต้นมา
เขา สร้างชื่อให้ยุโรปรู้จักด้วยการจับคู่กับกาเบรียล บาติสตูต้า ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจในทีมฟิออเรนตินา ก่อนจะออกมาค้าแข้งกับเอซี มิลาน และกลับไปปิดฉากชีวิตค้าแข้งที่เบนฟิก้า สโมสรที่เขาเคยเล่นตั้งแต่สมัยเยาวชน
ส่วนในทีมชาติ นี่คือจอมทัพของทีมชาติโปรตุเกสยุคทองที่เคยคว้าเยาวชนโลกเมื่อปี 1991 รวมถึงเกือบคว้าแชมป์ยูโรในปี 2004 แม้จะไม่มีรางวัลในระดับชาติมาครอบครอง แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทีมแดนฝอยทองในยุคของเขา คือทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุด นับตั้งแต่หลังยูเซบิโอเป็นต้นมา
"ซูเปอร์แมน" โลธาร์ มัทเธอุส อาจเป็นหมายเลข 10 ที่แตกต่างจากคนอื่น เมื่อไม่ได้มีลีลาสวยงามมากมายนัก แต่ถ้าพูดถึงความทรงพลังและประสิทธิภาพ ต้องยอมรับว่าคุณสมบัติในฐานะนักฟุตบอลของเขามีไม่แพ้ใคร เขาเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 1990 เมื่อในนัดชิงชนะเลิศ เป็นคนรับหน้าที่ตามประกบดิเอโก้ มาราโดนา แบบถึงพริกถึงขิงไม่ยอมปล่อยให้หายใจง่ายๆ
มัทเธอุสคือตัวแบบของนัก เตะในสไตล์เยอรมันขนานแท้ ที่อาจไม่ได้มีจินตนาการสร้างสรรค์ล้นเหลือ แต่มีความฟิต แข็งแกร่ง และรวดเร็ว จนอาจเรียกได้ว่า เขาเป็นกองกลางประเภท "บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์" ที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่ง
ส่วนในระดับสโมสร เขายังเป็นหัวใจของทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป ทั้งบาเยิร์น มิวนิค และอินเตอร์ มิลาน ก่อนจะขยับลงมาเล่นเป็นตัวลิเบอโรในช่วงปลายของชีวิตค้าแข้ง นอกจากนี้ มัทเธอุสยังครองสถิติเป็นนักเตะที่ได้ลงเล่นในฟุตบอลโลกถึง 5 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 25 นัด มากกว่านักฟุตบอลคนใดที่เคยค้าแข้งมา
คำนิยามของมาราโดนาที่บอกว่า มัทเธอุสเป็น "คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ผมเคยมี" น่าจะนิยามความยอดเยี่ยมของขุนพลอินทรีเหล็กหมายเลข 10 คนนี้ได้เป็นอย่างดี
มัทเธอุสคือตัวแบบของนัก เตะในสไตล์เยอรมันขนานแท้ ที่อาจไม่ได้มีจินตนาการสร้างสรรค์ล้นเหลือ แต่มีความฟิต แข็งแกร่ง และรวดเร็ว จนอาจเรียกได้ว่า เขาเป็นกองกลางประเภท "บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์" ที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่ง
ส่วนในระดับสโมสร เขายังเป็นหัวใจของทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป ทั้งบาเยิร์น มิวนิค และอินเตอร์ มิลาน ก่อนจะขยับลงมาเล่นเป็นตัวลิเบอโรในช่วงปลายของชีวิตค้าแข้ง นอกจากนี้ มัทเธอุสยังครองสถิติเป็นนักเตะที่ได้ลงเล่นในฟุตบอลโลกถึง 5 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 25 นัด มากกว่านักฟุตบอลคนใดที่เคยค้าแข้งมา
คำนิยามของมาราโดนาที่บอกว่า มัทเธอุสเป็น "คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ผมเคยมี" น่าจะนิยามความยอดเยี่ยมของขุนพลอินทรีเหล็กหมายเลข 10 คนนี้ได้เป็นอย่างดี
"เปเล่ขาว" ซิโก้ อาจเป็นอัจฉริยะที่อาภัพที่สุดคนหนึ่ง เมื่อเขาเป็นจอมทัพของทีมชาติบราซิลชุดที่ดีที่สุดที่ไม่ได้แชมป์โลก และต้องชอกช้ำในทัวร์นาเมนต์สำคัญทั้งหลายเรื่อยมา
เกมรอบแปดทีมสุด ท้าย ฟุตบอลโลก 1986 ที่บราซิลพบฝรั่งเศส ถือเป็นหนึ่งในเกมที่โลกยอมรับว่าคลาสสิคที่สุดตลอดกาล เมื่อซิโก้ต้องเปิดฉากดวลกับอีกหนึ่งสุดยอดหมายเลข 10 ของโลก อย่างมิเชล พลาตินี และกลับกลายเป็นว่าซิโก้ต้องชอกช้ำจากการดวลจุดโทษตัดสินในท้ายที่สุด
แม้ จะครองความยิ่งใหญ่ในแผ่นดินอเมริกาใต้กับฟลาเมงโกมาอย่างยาวนาน แต่ซิโก้กลับได้ค้าแข้งในยุโรปกับอูดิเนเซเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น ก่อนที่บั้นปลายชีวิตเขาจะไปเล่นในญี่ปุ่นและกลายเป็นขวัญใจของแดนปลาดิบ รวมถึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้เจลีกบูมในยุคเริ่มต้น และนั่นคือบทพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของหมายเลข 10 คนนี้ได้เป็นอย่างดี
เกมรอบแปดทีมสุด ท้าย ฟุตบอลโลก 1986 ที่บราซิลพบฝรั่งเศส ถือเป็นหนึ่งในเกมที่โลกยอมรับว่าคลาสสิคที่สุดตลอดกาล เมื่อซิโก้ต้องเปิดฉากดวลกับอีกหนึ่งสุดยอดหมายเลข 10 ของโลก อย่างมิเชล พลาตินี และกลับกลายเป็นว่าซิโก้ต้องชอกช้ำจากการดวลจุดโทษตัดสินในท้ายที่สุด
แม้ จะครองความยิ่งใหญ่ในแผ่นดินอเมริกาใต้กับฟลาเมงโกมาอย่างยาวนาน แต่ซิโก้กลับได้ค้าแข้งในยุโรปกับอูดิเนเซเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น ก่อนที่บั้นปลายชีวิตเขาจะไปเล่นในญี่ปุ่นและกลายเป็นขวัญใจของแดนปลาดิบ รวมถึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้เจลีกบูมในยุคเริ่มต้น และนั่นคือบทพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของหมายเลข 10 คนนี้ได้เป็นอย่างดี
"มาราโดนาแห่งเทือกเขาคาพาเธียน" คือชื่อที่โลกมอบให้อัจฉริยะลูกหนังแห่งยุโรปตะวันออก หรือคนไทยอาจคุ้นเคยสมญา "มาราโดนาแห่งคาบสมุทรบอลข่าน" มากกว่า แต่ทั้งสองชื่อยืนยันถึงความเป็นเลิศทางด้านฟุตบอลของ จอร์จี้ ฮาจี้ได้เป็นอย่างดี
ฮาจี้เป็นมิดฟิลด์หมายเลข 10 ที่ครบเครื่อง มีทั้งลูกจ่าย การเลี้ยงบอล และลูกยิงไกลเป็นเครื่องหมายการค้า โดยเฉพาะลูกใบไม้ร่วงรวมถึงลูกยิงตั้งแต่เกือบกลางสนาม ที่เขาทำประตูได้สวยๆ หลายครั้ง
นอกจากเป็นตำนานที่มีชีวิตของทีม ชาติโรมาเนีย เป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลของทีมผีดิบแล้ว จอร์จี้ ฮาจี้ ยังเคยค้าแข้งกับสโมสรดังอย่างบาร์เซโลนา รวมถึงพากาลาตาซารายไปถึงแชมป์ยูฟ่า คัพ เมื่อฤดูกาล 1999-00 อีกด้วย
ฮาจี้เป็นมิดฟิลด์หมายเลข 10 ที่ครบเครื่อง มีทั้งลูกจ่าย การเลี้ยงบอล และลูกยิงไกลเป็นเครื่องหมายการค้า โดยเฉพาะลูกใบไม้ร่วงรวมถึงลูกยิงตั้งแต่เกือบกลางสนาม ที่เขาทำประตูได้สวยๆ หลายครั้ง
นอกจากเป็นตำนานที่มีชีวิตของทีม ชาติโรมาเนีย เป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลของทีมผีดิบแล้ว จอร์จี้ ฮาจี้ ยังเคยค้าแข้งกับสโมสรดังอย่างบาร์เซโลนา รวมถึงพากาลาตาซารายไปถึงแชมป์ยูฟ่า คัพ เมื่อฤดูกาล 1999-00 อีกด้วย
สมัยยังเป็นดาวรุ่ง ซีเนดีน ซีดาน เคยได้รับการคาดหมายว่าจะเป็น "นิว พลาตินี" แห่งวงการฟุตบอลฝรั่งเศส แต่เจ้าตัวพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถไปได้ไกลกว่านั้น เมื่อคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกที่พลาตินีไม่เคยได้สัมผัสมาครองในปี 1998 ส่วนในฟุตบอลยุโรป ซีดานก็เคยได้ชูถ้วยยูโร 2000 เช่นกัน
ซีดานถือ เป็นกำลังสำคัญของทีมทั้งในระดับชาติและสโมสร ด้วยทักษะครองบอลที่เหนือชั้น การเล่นเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม และอาศัยความสามารถเฉพาะตัวขับเคลื่อนเกมที่เขารับหน้าที่บัญชาได้อย่างไหล ลื่นไร้ที่ติ ความล้มเหลวของฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก 2002 และยูโร 2004 ซึ่งเป็นช่วงที่ซีดานไม่ค่อยฟิตสมบูรณ์ และการกลับมาเป็นรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ซีดานสำคัญแค่ไหนในยุครุ่งเรืองของเขา
น่า เสียดายที่ฉากจบที่ไม่ค่อยสวยในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006 ที่เขาโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม และการไม่ได้สวมเสื้อเบอร์ 10 ประจำในระดับสโมสรเพราะติดเจ้าของสัมปทานเก่า ทำให้เขาไม่ได้เป็นหมายเลข 10 ที่อยู่ในอันดับสูงกว่านี้ แม้เรื่องฝีเท้าจะไม่เป็นรองใครก็ตาม
ซีดานถือ เป็นกำลังสำคัญของทีมทั้งในระดับชาติและสโมสร ด้วยทักษะครองบอลที่เหนือชั้น การเล่นเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม และอาศัยความสามารถเฉพาะตัวขับเคลื่อนเกมที่เขารับหน้าที่บัญชาได้อย่างไหล ลื่นไร้ที่ติ ความล้มเหลวของฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก 2002 และยูโร 2004 ซึ่งเป็นช่วงที่ซีดานไม่ค่อยฟิตสมบูรณ์ และการกลับมาเป็นรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ซีดานสำคัญแค่ไหนในยุครุ่งเรืองของเขา
น่า เสียดายที่ฉากจบที่ไม่ค่อยสวยในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006 ที่เขาโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม และการไม่ได้สวมเสื้อเบอร์ 10 ประจำในระดับสโมสรเพราะติดเจ้าของสัมปทานเก่า ทำให้เขาไม่ได้เป็นหมายเลข 10 ที่อยู่ในอันดับสูงกว่านี้ แม้เรื่องฝีเท้าจะไม่เป็นรองใครก็ตาม
"เทพบุตรเปียทองคำ" น่าจะถือได้ว่าเป็นต้นฉบับของ เทรควอร์ติสต้า (Trequartista - กลางรุกหรือหน้าต่ำ) จากอิตาลี และน่าจะถือเป็นหมายเลข 10 ที่คลาสสิคที่สุดคนหนึ่งของวงการลูกหนังมักกะโรนี
บา จโจ้ อาจอาภัพในทีมชาติ เมื่อเขาเป็นคนยิงจุดโทษข้ามคานในฟุตบอลโลก 1994 และถือเป็นช็อตคลาสสิคอีกหนึ่งฉากในโลกลูกหนัง แต่เขาก็เป็นคนพาทีมชาติอิตาลีในยุคนั้นเข้าไปถึงรอบชิง เมื่อเป็นคนเล่นลูกตัดสินเกมลูกแล้วลูกเล่าในรอบน็อคเอาท์ ขณะเดียวกันประตูในฟุตบอลโลก 1990 ที่เขาโซโลเดี่ยวเข้าไปยิง เช็คโกสโลวาเกีย ก็ยังมีคนพูดถึงอยู่มากมาย
ส่วนในระดับสโมสร เขาประสบความสำเร็จมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งกับฟิออเรนตินา, ยูเวนตุส และเอซี มิลาน นอกจากนี้เขายังเคยคว้าบัลลงดอร์มาครองได้อีก 1 สมัย แม้ต็อตติและเดล ปิเอโร จะถือเป็นอีกสองเบอร์ 10 ที่ยิ่งใหญ่ แต่เมื่อเทียบกับบาจโจ้แล้ว อาจจำเป็นต้องใช้คำว่า "คนละคลาส" มาอธิบาย
บา จโจ้ อาจอาภัพในทีมชาติ เมื่อเขาเป็นคนยิงจุดโทษข้ามคานในฟุตบอลโลก 1994 และถือเป็นช็อตคลาสสิคอีกหนึ่งฉากในโลกลูกหนัง แต่เขาก็เป็นคนพาทีมชาติอิตาลีในยุคนั้นเข้าไปถึงรอบชิง เมื่อเป็นคนเล่นลูกตัดสินเกมลูกแล้วลูกเล่าในรอบน็อคเอาท์ ขณะเดียวกันประตูในฟุตบอลโลก 1990 ที่เขาโซโลเดี่ยวเข้าไปยิง เช็คโกสโลวาเกีย ก็ยังมีคนพูดถึงอยู่มากมาย
ส่วนในระดับสโมสร เขาประสบความสำเร็จมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งกับฟิออเรนตินา, ยูเวนตุส และเอซี มิลาน นอกจากนี้เขายังเคยคว้าบัลลงดอร์มาครองได้อีก 1 สมัย แม้ต็อตติและเดล ปิเอโร จะถือเป็นอีกสองเบอร์ 10 ที่ยิ่งใหญ่ แต่เมื่อเทียบกับบาจโจ้แล้ว อาจจำเป็นต้องใช้คำว่า "คนละคลาส" มาอธิบาย
ขอบคุณรูปจาก http://news.7mth.com/data/20130806/177622.shtml
"นโปเลียนลูกหนัง" มิเชล พลาตินี คือตำนานหมายเลข 10 ผู้ยิ่งใหญ่ของฝรั่งเศสที่อาจเรียกได้ว่าเป็นผู้ทำให้หมายเลขนี้คงความขลัง ในดินแดนตราไก่ รวมถึงกับสโมสรยูเวนตุสที่เขาเป็นเจ้าของหมายเลขศักดิ์สิทธิอยู่นานถึง 6 ปี
ใน ระดับชาติ เขาอาจไม่เคยพาทีมฝรั่งเศสไปถึงฟุตบอลโลกเหมือนซีเนดีน ซีดาน รุ่นน้องในทีมชาติ แต่ก็เป็นหัวใจสำคัญที่พาพลพรรคตราไก่ไปถึงตำแหน่งแชมป์ยุโรปในปี 1984
นอก จากจะมีลูกจ่ายที่เฉียบคม เทคนิคดี และมีทัศนะกว้างไกลเหมือนผู้เล่นหมายเลข 10 คนอื่นๆ พลาตินียังถือเป็นจอมปั่นฟรีคิกและตัวทำประตูชั้นเยี่ยม ผลงาน 41 ประตูในนามทีมชาติ เป็นอันดับสองตลอดกาลของฝรั่งเศส ทั้งที่เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุก คือ สิ่งยืนยันถึงความเด็ดขาดในจังหวะจบสกอร์ของเขาได้เป็นอย่างดี
"นโปเลียนลูกหนัง" มิเชล พลาตินี คือตำนานหมายเลข 10 ผู้ยิ่งใหญ่ของฝรั่งเศสที่อาจเรียกได้ว่าเป็นผู้ทำให้หมายเลขนี้คงความขลัง ในดินแดนตราไก่ รวมถึงกับสโมสรยูเวนตุสที่เขาเป็นเจ้าของหมายเลขศักดิ์สิทธิอยู่นานถึง 6 ปี
ใน ระดับชาติ เขาอาจไม่เคยพาทีมฝรั่งเศสไปถึงฟุตบอลโลกเหมือนซีเนดีน ซีดาน รุ่นน้องในทีมชาติ แต่ก็เป็นหัวใจสำคัญที่พาพลพรรคตราไก่ไปถึงตำแหน่งแชมป์ยุโรปในปี 1984
นอก จากจะมีลูกจ่ายที่เฉียบคม เทคนิคดี และมีทัศนะกว้างไกลเหมือนผู้เล่นหมายเลข 10 คนอื่นๆ พลาตินียังถือเป็นจอมปั่นฟรีคิกและตัวทำประตูชั้นเยี่ยม ผลงาน 41 ประตูในนามทีมชาติ เป็นอันดับสองตลอดกาลของฝรั่งเศส ทั้งที่เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุก คือ สิ่งยืนยันถึงความเด็ดขาดในจังหวะจบสกอร์ของเขาได้เป็นอย่างดี
อาจเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันไม่รู้จบว่าใครเหนือกว่าใคร สำหรับดิเอโก้ มาราโดนาและเปเล่ ซึ่งการคัดเลือกสุดยอดหมายเลข 10 ของเราในครั้งนี้ก็เจอปัญหาแบบเดียวกัน
ดิเอโก้ มาราโดนา เป็นทั้งพระเจ้าของอาร์เจนตินาและสโมสรนาโปลี จากการผลักดันให้ทั้งสองทีมประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดได้อย่างรวดเร็ว ด้วยฝีเท้าฟ้าประทานของเขา
ความคลาสสิคของมาราโดนาคือการเป็นทั้ง "พระเจ้า" และ "ซาตาน" ในคนเดียวกัน เมื่อมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมทั้งในและนอกสนาม หากไม่นับรวมเรื่องยาเสพติดที่ทำให้ชีวิตค้าแข้งมีรอยด่างพร้อย ตัวอย่างแบบง่ายๆ ก็คือเกมพบอังกฤษในฟุตบอลโลก 1986 ที่มาราโดนาทำ "หัตถ์พระเจ้า" ตบบอลเข้าประตู ก่อนจะลากเลื้อยผ่านกองหลัง 5 คน และเป็นประตูที่สวยงามที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
ความ "เทพ" และ "มาร" ที่ห่างกันเพียงไม่กี่นาทีเช่นนี้ มีเพียงมาราโดนาคนเดียวเท่านั้น ไม่มีใครเสมอเหมือน
ดิเอโก้ มาราโดนา เป็นทั้งพระเจ้าของอาร์เจนตินาและสโมสรนาโปลี จากการผลักดันให้ทั้งสองทีมประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดได้อย่างรวดเร็ว ด้วยฝีเท้าฟ้าประทานของเขา
ความคลาสสิคของมาราโดนาคือการเป็นทั้ง "พระเจ้า" และ "ซาตาน" ในคนเดียวกัน เมื่อมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมทั้งในและนอกสนาม หากไม่นับรวมเรื่องยาเสพติดที่ทำให้ชีวิตค้าแข้งมีรอยด่างพร้อย ตัวอย่างแบบง่ายๆ ก็คือเกมพบอังกฤษในฟุตบอลโลก 1986 ที่มาราโดนาทำ "หัตถ์พระเจ้า" ตบบอลเข้าประตู ก่อนจะลากเลื้อยผ่านกองหลัง 5 คน และเป็นประตูที่สวยงามที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
ความ "เทพ" และ "มาร" ที่ห่างกันเพียงไม่กี่นาทีเช่นนี้ มีเพียงมาราโดนาคนเดียวเท่านั้น ไม่มีใครเสมอเหมือน
เหตุผลสำคัญที่เปเล่คือเบอร์ 10 หมายเลขหนึ่ง เพราะเขาเป็นต้นฉบับ เป็นต้นตำรับ และเป็นที่มาว่าทำให้หมายเลขนี้ที่กลางหลังเสื้อถึงได้ขลังหนักหนา
"เอ ดซง อารังชีส ดู นาซีเมงตู" ทำได้เกินกว่า 1,000 ประตูตลอดชีวิตค้าแข้ง ทำแฮตทริคได้มากที่สุด 92 ครั้ง รวมกับแชมป์ฟุตบอลโลกอีก 3 สมัย ถือเป็นสถิติที่มหัศจรรย์ไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ตาม
แม้ทัศนะด้านฟุตบอล ของเขาจะเป็นที่น่ากังขา เมื่อออกมาฟันธงเมื่อไหร่ก็ผิดเมื่อนั้น แต่ถ้าพูดถึงผลงานในสนาม เขาคือตำนาน เป็นคิงออฟฟุตบอล ที่ไม่มีทางเสื่อมคลายไปตามกาลเวลา
"เอ ดซง อารังชีส ดู นาซีเมงตู" ทำได้เกินกว่า 1,000 ประตูตลอดชีวิตค้าแข้ง ทำแฮตทริคได้มากที่สุด 92 ครั้ง รวมกับแชมป์ฟุตบอลโลกอีก 3 สมัย ถือเป็นสถิติที่มหัศจรรย์ไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ตาม
แม้ทัศนะด้านฟุตบอล ของเขาจะเป็นที่น่ากังขา เมื่อออกมาฟันธงเมื่อไหร่ก็ผิดเมื่อนั้น แต่ถ้าพูดถึงผลงานในสนาม เขาคือตำนาน เป็นคิงออฟฟุตบอล ที่ไม่มีทางเสื่อมคลายไปตามกาลเวลา
โพสท์โดย: I sea u
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
สวยสะกดโลก! สรุปผล 100 ผู้หญิงใบหน้าสวยที่สุดปี 2025
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึก
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
OpenAI กำลังเปิดรับสมัครงาน ด้วยเงินเดือนประจำ ปีละ 17.5 ล้านเหรียญ
ผู้ช่วยกอบกู้บริษัท IBM "ลู เกิร์สต์เนอร์" เสียชีวิตแล้ว
ลือหึ่ง "ลิซ่า" BLACKPINK แอบจดทะเบียนสมรสกับแฟนหนุ่มแล้ว
เขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทย
สรุปเผยข้อมูลกลโกงใหม่ๆที่ต้องระวัง!!!
UNICEF เตือน การจำกัดอายุการใช้งานโซเชียลมีเดีย ไม่ได้ช่วยให้เด็กปลอดภัยขึ้น
ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดในภารกิจที่เขาสัตตะโสม ขณะกองทัพบกเร่งรวบรวมหลักฐานชี้ว่ากัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา
5 คุณประโยชน์ต่อสุขภาพที่น่าทึ่งของปลาทะเลHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เขมรเผย เราจะเป็นเพื่อนบ้านไทยอย่างถาวร
'MH370' ปริศนาเกี่ยวกับเครื่องบินที่ลึกลับที่สุดในยุคปัจจุบัน
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา “ฮุน มาเนต” เรียกร้องให้สื่อมวลชนรายงานข่าวชายแดนกัมพูชา–ไทยอย่างถูกต้องตามจริยธรรมวิชาชีพ
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
Avatar 3 ช่วยแบก MAJOR ไม่ไหว! กำไรดิ่งหนัก 30%
UNICEF เตือน การจำกัดอายุการใช้งานโซเชียลมีเดีย ไม่ได้ช่วยให้เด็กปลอดภัยขึ้น









