กินต้านหวัด จัดไปตามนี้
เผ็ดร้อนต้านหวัด
ในช่วงที่สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ช่วงเปลี่ยนฤดู หรือแม้แต่ช่วงที่ป่วยเป็นหวัดแล้ว นักโภชนาการสายธรรมชาติมักจะแนะนำให้กินอาหารเผ็ดร้อน เพื่อช่วยไล่น้ำ และเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย ซึ่งความเผ็ดร้อนนั้น แน่นอนเดากันได้ไม่ยากว่าต้องมาจากสารพัดชนิดของพริกนั่นเอง แต่นอกจากนั้นยังมีอยู่ในหอม กระเทียม พริกไทย ขิง ข่า ขมิ้น ตะไคร้ กระชาย กะเพราหรือแมงลักอีกด้วย ซึ่งแต่ละชนิดก็มีสรรพคุณแตกต่างกันไป เช่น
หอม สามารถแก้ไข้หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอครืดคราด ขับลม
กระเทียม ช่วยระบายพิษไข้ แก้ไอ ขับเสมหะ
ขิง บรรเทาหวัด อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้และวิงเวียนศีรษะ
ตะไคร้ ช่วยลดไข้ แก้ปวดหัว ลดความดันโลหิตสูง ขับเหงื่อ ช่วยรักษาโรคหืดและช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
กะเพรา เสริมไฟธาตุ ทำให้ร่างกายอบอุ่น ขับเสมหะและขับเหงื่อ
เพิ่มภูมิต้านทานด้วยวิตามินซี
นอกจากการมองหาผักและสมุนไพรที่มีฤทธิ์เผ็ดร้อนเพื่อช่วยต้านหวัดแล้ว ผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ๆ ก็สามารถช่วยป้องกันได้เช่นกัน ด้วยการเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย สำหรับผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงก็มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดอกขี้เหล็ก มะรุม พริกหวาน สะเดา พริกหนุ่ม บรอกโคลี ผักหวาน ผักคะน้า ผักกาดเขียว หรือมะระ (ยอดอ่อน) โดยจะต้องกินสด ๆ เท่านั้น เพราะความร้อนจะไปสลายวิตามินซีที่มีอยู่
ส่วนผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงก็ได้แก่ มะขามป้อม ฝรั่ง สาลี่ สตรอว์เบอร์รี มะละกอ รวมไปถึงผลไม้ตระกูลส้ม มะม่วง มะนาว สับปะรด มะเขือเทศ และอีกมากมายนอกจากจะใช้วิธีกินซึ่งง่ายต่อการปฏิบัติแล้ว ยังต้องอาศัยการพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออีกด้วย เพื่อช่วยในการต้านหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Note : รู้ไหมว่า มะขามป้อม 100 กรัม จะมีปริมาณวิตามินซีอยู่ถึง 276 มิลลิกรัม จัดว่าเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุด (ข้อมูลจาก livestrong.com)
Did You Know ?
รู้หรือไม่ว่า โยเกิร์ตสามารถช่วยต้านหวัดได้ เนื่องจากจะไปช่วยเพิ่มการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว และช่วยเพิ่มการสร้างสารแอนติบอดี้บางชนิด จากการศึกษากับอาสาสมัครทั้งคนหนุ่มและคนสูงอายุ พบว่าการรับประทานโยเกิร์ตทุกวันเป็นเวลา 1 ปี ช่วยลดอาการจากหวัดและภูมิแพ้ ผู้ป่วยหายเร็วขึ้น และร้อยละ 25 เป็นหวัดน้อยลง เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับประทาน
ทำไมเป็นหวัดต้องกินน้ำอุ่น ? หลายคนคงจะเคยสงสัยว่าเหตุใดเวลาเป็นหวัดคุณหมอจึงแนะนำให้ดื่มน้ำอุ่นและเลี่ยงน้ำเย็น ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะไม่ว่าจะดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น ขอให้เป็นของเหลวก็ได้ทั้งนั้น เพียงแต่ว่าหากเราดื่มน้ำอุ่นจะทำให้รู้สึกสบายคอมากกว่า เนื่องจากน้ำอุ่นจะช่วยให้ทางเดินหายใจและทางเดินอาหารชุ่มชื้น ทำให้เสมหะนิ่มและถูกขับออกได้ง่าย แต่ไม่ว่าจะดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นควรดื่มในปริมาณที่เยอะเข้าไว้ จะทำให้เสมหะในลำคอนิ่มขึ้น ภาวะน้ำไหลในร่างกายเยอะขึ้น ส่งผลให้ร่างกายสดชื่น และอุณหภูมิในร่างกายก็จะลดลงด้วย
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
มาดู “อดีตไอดอล” ที่พิสูจน์ว่า 40 ยังแจ๋ว — เซรินะ อดีต SDN48 กับการคัมแบ็กสายกราเวียร์
คุกกี้เสี่ยงทาย... ทายนิสัยความขี้อ้อนของคนเกิดทั้ง 7 วัน
เงินเดือนผู้ประกาศข่าว
ปลาย พรายกระซิบ ยัน "ไม่ใช่ผู้วิเศษ" ต้องหาอาชีพอื่นสำรองไว้ด้วย
พชร์ อานนท์ การันตี "หอแต๋วแตก" ภาคล่าสุด เส้นเรื่องแน่น มุกสดใหม่ทันเหตุการณ์
"จีน-รัสเซีย" ผนึกกำลังรุมบดขยี้ "สหรัฐ" ส่งเรือรบยึดน้ำมัน ใช้กำลังทหารรุกราน "เวเนซุเอลา"