ทำไมคนเราสีผิวต่างกัน

 

     เราก็คงต้องย้อนเวลากลับไปเมื่อ ประมาณ …. 60,000 ปีที่แล้ว  ช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาที่บรรพบรุษของคุณและผมเดินทางออกจากทวีปแอฟริกาตะวันออกเป็นครั้งแรกและแน่นอนว่าบรรพบุรุษของพวกเราที่เดินทางออกมาในวันนั้น ….มีผิวดำ

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?

      จะเข้าใจ เราก็คงต้องย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง …. คราวนี้กลับไปประมาณ 200,000 กว่าปีที่แล้วนั่นคือ กลับไปในวันที่มนุษย์คนแรกเพิ่งจะเกิดขึ้นมาบนโลก ก่อนหน้านั้น บรรพบุรุษวานรของเรามีคนรุงรังเต็มตัวไม่ต่างไปจากลิงสายพันธุ์อื่นๆทั่วโลกถ้าเราไปแหวกขนของบรรพบุรุษมนุษย์วานรดูเราจะพบว่าผิวของท่านบรรพบุรุษมนุษย์วานรนั้นคงจะมีสีขาวคล้ายกับที่พบในสีผิวของชิมแปนซีในปัจจุบัน หรือพูดว่ามีผิวขาวภายใต้ขนสีดำ

     หลังจากผืนป่าในแอฟริกาตะวันออก ได้เปลี่ยนจากป่าดิบชื้นเป็นทุ่งหญ้ากว้าง ทำให้มนุษย์วานรค่อยๆปรับตัวให้มีขนลดลงเพื่อการระบายความร้อนและผิวขาวๆของบรรพบุรุษเราต้องเผชิญกับแสงแดดอันแรงกล้าของแอฟริกาปัญหาคือ แสงแดดสามารถส่องเข้าไปใต้ผิวหนังเราได้และจะไปทำลาย กรดโฟลิกที่ไหลเวียนอยู่ในเลือดเราได้ ซึ่งกรดโฟลิกจำเป็นต่อการสืบพันธุ์ของเรา จึงปรับสีผิวให้เข้มขึ้นเพื่อการอยู่รอด(ตัวขาวตายเร็ว)

    

     โดยเซลล์ชนิดหนึ่งในชั้นล่างสุดของหนังกำพร้า ชื่อ melanocyte เซลล์นี้จะผลิตเม็ดสี (melanin) ทําให้เกิดเป็นสีผิว มนุษย์ทุกคนมีจํานวนเซลล์นี้เท่าๆกัน ต่างกันที่จํานวนเม็ดสีที่ถูกผลิตขึ้น นั่นคือ ถ้าเรามีผิวสีคลํ้าแสดงว่าเซลล์ melanocyte ของเราผลิตเม็ดสีมากกว่าเซลล์ melanocyte ของคนที่ผิวขาวกว่านั่นเองค่ะ แต่ร่างกายของมนุษย์เราไม่ได้ต้องการเม็ดสีเพื่อให้เกิดสีผิว เม็ดสีช่วยป้องกันเซลล์ของร่างกายจากอันตรายจากแสงอุลตร้าไวโอเลต และยังทําหน้าที่ช่วยลดจํานวนอนุมูลอิสระ(free radical) ซึ่งเป็นอันตรายต่อเซลล์ด้วย ยิ่งถ้ามีการตากแดดมากเท่าไรเมลานินก็จะถูกสร้างขึ้นมากเท่านั้น 

 

สรุปดำขึ้นเพื่อป้องกันมะเร็งผิวหนังและรักษาโฟลิก

 

      ต่อมาเมื่อมนุษย์เดินทางออกจากแอฟริกา และกระจายย้ายถิ่นไปยังที่ต่างๆทั่วโลกมนุษยก็เจอปัญหาของแสงแดดอีกเมื่อชาวผิวดำเดินทางขึ้นไปตอนเหนือ หรือยุโรปปัจจุบัน ปัญหาก็เกิดขึ้น เพราะผิวที่ดำ กับแสงแดดที่น้อยของยุโรปมันไม่เท่ากันคราวนี้ไม่ใช่เรื่องของโฟลิก แต่เป็นเรื่องของ วิตามินดีเรื่องราวมันมีอยู่ว่า ร่างกายของมนุษย์เรามีกลไกที่จะอาศัยแสงแดดในการเปลี่ยน คอเลสเตอรอลใต้ผิวหนังให้กลายเป็นวิตามินดีเมื่อผิวสีดำ ทำงานกรองแดดดีเกินไป(ในที่ไม่มีแดด)ก็เกิดการขาดวิตามินดีผลเสียที่เกิดจาก การขาดวิตามินดีนี้มีมากมายแต่ที่น่าจะเด่นชัดที่สุดสำหรับคนยุคนั้นคือ กระดูกไม่แข็งแรง กระดูกผิดรูป ดังนั้นจึงมีการปรับสภาพผิวของตน โดยลดความหนาแน่นของเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ทำให้ผิวหนังผลิตวิตามินดีที่จำเป็นได้มากขึ้น

       โดยการปรับตัวของผิวหนัง หรือการปรับปริมาณของเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง ก็จะถ่ายทอดทางพันธุกรรม คือ เกิดการเปลี่ยนแปลงของดีเอ็นเอในเซลล์ ที่ถ่ายทอดต่อเนื่องจากคนชั่วรุ่นหนึ่งมาสู่คนชั่วรุ่นใหม่

 

  โดยกระบวน การนี้เอง ในที่สุดจึงเกิดเป็นลักษณะพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอในยีนของมนุษย์ กลายเป็นลักษณะเฉพาะของเผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นผิวเหลือง (ในพื้นที่อบอุ่น ดังเช่นเอเชียที่ไม่ร้อนเท่าในแอฟริกาโดยทั่วไป) และผิวขาว (ในพื้นที่เย็นถึงหนาวเย็น ดังเช่นในยุโรป และใกล้ขั้วโลกเหนือและใต้)

ส่วนมนุษย์ที่ยังอยู่ในแอฟริกา ซึ่งได้รับแสงอาทิตย์เข้มตลอดมา ผิวหนังก็จะมีปริมาณของเม็ดสีเมลานินในระดับสูง เพื่อให้พอเหมาะกับปริมาณของวิตามินดีที่ร่างกายต้องการ คนแอฟริกันจึงมีผิวดำดังเช่นที่เคยเป็นมาถึงปัจจุบัน

 

ผม สีทอง ตาสีฟ้าเป็น mutation หรือการกลายพันธุ์ที่เพิ่งเกิดเมื่อไม่กี่หมื่นปีก่อน แถวๆทะเลสาป แคสเปี้ยนในเอเชียกลาง การจะเกิด คอร์เคซอยด์ได้ ต้องอาศัย นีแอนเดอทัลเป็นมนุษย์พื้นเมืองในยุโรปผสมเข้ากับ มนุษย์สายที่ออกจากอัฟริกา

                                     สรุปขาวขึ้นเพราะต้องการรับแสงแดดเพื่อสร้างวิตามินดี

      คนบริเวณอื่นๆของโลก เราก็พบการเปลี่ยนแปลงของสีผิวในทำนองเดียวกันมียกเว้นแต่เพียงที่เดียวเท่านั้น !!
นั่นคือ ชนเผ่าอินูอิท หรือที่เราเคยเรียกกันว่า ชาวเอสกิโมคนกลุ่มนี้อาศัยในที่มีแดดน้อยที่สุด (ขั้วโลก)แต่สีผิวกลับเข้มอยู่

มันเป็นไปได้อย่างไร?

คำอธิบายมันอยู่ที่อาหารที่เขากินกันคนกลุ่มนี้กินปลาและไขมันของแมวน้ำมาก
ซึ่งปลามันๆ (นึกถึงน้ำมันตับปลา) และไขมันสัตว์เหล่านี้อุดมไปด้วยวิตามินดีทำให้พวกเขาไม่ขาดวิตามินดี แม้แต่ในช่วงที่ไม่มีแสงแดดเป็นเวลานานๆ (ต่อให้มีแดดก็ไม่ได้รับ เพราะใส่ชุดหนามาก)

 

สำหรับสีของตาล่ะ? นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ ที่เชื่อในทฤษฎีผิวสีที่เปลี่ยนไปของมนุษย์ ก็เชื่อว่า มี การเปลี่ยนแปลงของดีเอ็นเอหรือยีน คล้ายๆ กับกรณีการเปลี่ยนแปลงของดีเอ็นเอสำหรับสีผิวของมนุษย์ เพราะสีตาของมนุษย์ ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณของเม็ดสีเมลานินในม่านตา (Iris) นั่นเอง

 

 

การกลายพันธุ์ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ

  

เห็นไหมครับ เรื่องของสีผิว มันเป็นเรื่องของการปรับตัวเพื่อสืบเผ่าพันธุ์ของบรรพบุรุษที่ถูกบันทึกไว้บนผิวหนัง
ทั้งหมดเริ่มต้นมาจาก โฟลิกและวิตามินดี แต่มนุษย์เราดราม่า เกลียดกัน ฆ่ากันตายไปหลายล้านคนเพียงเพราะสีผิวที่ต่างกัน

 

 

 

 

 

แผนที่ ความเข้มข้นของแสงแดด ซึ่งมีผลกับสีผิว 

มนุษย์โบราณได้ปรับสภาพสีผิวตามถิ่นที่อยู่เพื่อให้เหมาะกับสถานที่นั้นๆ แต่ทุกวันนี้เรากระจายตัวอยู่กันทั่วโลก

คนขาวจึงเป็นมะเร็งผิวหนังง่ายในเขตร้อน เช่นชาวออสเตเรีย คนดำแถบเขตหนาวก็ขาดวิตามินดี การป้องกันและอาหารเสริมจึงเป็นสิ่งสำคัญนะครับ

 

 

 

 

 

 

 

ต่อไปคนเราจะเปลี่ยนไปอีกใหมนะ