4 เรื่องน่ารู้ก่อนไปดู ‘ห้องหุ่น‘
ต้อนรับกับกระแส ภาพยนตร์ห้องหุ่น ที่เมื่อวาน พึ่งลงโรงจัดฉายรอบสื่อ
ก่อนฉายจริง วันพฤหัส (พรุ่งนี้ !!) 19มิถุนายน ที่ Paragon Cineplex
ไปหมาดๆ เมื่อวานนี้ เรียกได้ว่า ขนบรรดาสื่อมวลชน แหละเหล่าทีมเซเลป
ได้อย่างหนาแน่น หันซ้ายหันขวา แทบจะชนกันก็ว่าได้
นำทีมความสยอง โดย พระเอกและนางเอกของเรื่อง อนันดา และพลอย
วันนี้ เพื่อทำความเข้าใจในตัวหนังกันสักนิด เลยหยิบประเด็น
ท้าวความเดิม กับ 4 เรื่องน่ารู้ก่อนชมภาพยนตร์ "ห้องหุ่น"
มาดูกันสิว่า .. มันคืออะไรบ้าง?
1. ห้องหุ่นนั้นถูกสร้างจากบทประพันธ์คลาสสิคของ ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก และเคยถูกสร้างเป็นละครทางโทรทัศน์แล้ว 3 ครั้งในปี 2519, 2532 และปี 2546 ก่อนที่จะถูกผู้กำกับเลือดใหม่ไฟแรงอย่าง กัลป์ กัลย์จาฤก ทายาทรุ่นหลานของสตูดิโอกันตนาหยิบเอามาดัดแปลงและตีความใหม่อีกครั้ง ซึ่งหลังจากที่เขาจบการศึกษาปริญญาโทด้านภาพยนตร์มาจากสหรัฐอเมริกา โดยสตูดิโอกันตนานั้นเรียกได้ว่าห่างหายจากการสร้างหนังไปนานพอสมควร นี่จึงเป็นก้าวครั้งสำคัญของสตูดิโอยักษ์ใหญ่ในประเทศไทย
2. หากย้อนอดีตไปแล้วห้องหุ่นฉบับโทรทัศน์เคยเล่าเรื่องราวของ เดช สัตยาภา ชายหนุ่มผู้หลงใหลในหุ่นขี้ผึ้ง จนเขาปั้นหุ่นเอาไว้มากมายไม่ว่าจะเป็นหุ่นนางระบำ หุ่นทหาร หุ่นนางฟ้า หุ่นนักดาบ หุ่นนักยิงธนู หุ่นภรรยาและลูกๆ รวมไปถึงหุ่นของตัวเอง แต่ความสยองขวัญก็มาเยือนคนรอบข้างเมื่อเดชเสียชีวิตลงไป หุ่นที่เขาปั้นเอาไว้ก็ลุกขึ้นมามีชีวิตและคอยปกป้องครอบครัวสัตยาภาจากคนที่คิดปองร้าย
3. หนังห้องหุ่นเวอร์ชั่นปี 2557 เป็นการหยิบงานเก่าเอามาตีความเล่าเรื่องใหม่ ซึ่งกล่าวตามตรงนี่คือเป็นผลงาน "ภาคต่อ" ในการเล่าชีวิตรุ่นลูกรุ่นหลายของครอบครัวสัตยาภาที่มีชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบัน และยังมีความสัมพันธ์โยงใยไปกับรุ่นบรรพบุรุษ ซึ่งเกิดเหตุการณ์ที่เป็นความตายอันเป็นปริศนา เมื่อ นพ (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) ได้สูญเสียน้องสาวของตนไปหลังจากที่เธอปั้นหุ่นขี้ผึ้งเสร็จ ก่อนที่เขาจะพบว่าหลายคนที่ปั้นหุ่นก็มีอันเป็นไปเช่นเดียวกับตัวน้องสาวของเขา นพได้พบกับ พลอย (รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล) หญิงสาวที่สูญเสียพ่อไปพร้อมกับอุบัติเหตุ เธอไม่เชื่อในไสยศาสตร์แต่ก็ต้องตกตะลึงเมื่อหุ่นขี้ผึ้งของพ่อตัวเองถูกส่งมาที่บ้าน
4. กัลป์ กัลย์จาฤก มอง "ห้องหุ่น" ในเวอร์ชั่นใหม่เป็นมากกว่าแค่หนังผี เมื่อเขาเลือกจะให้หนังมีทิศทางที่เป็นแนวดราม่าลึกลับ ผสมผสานการเล่าเรื่องราวไปกับปมของตัวละคร ซึ่งแม้เขาจะตีความเรื่องจากบทประพันธ์ดั้งเดิมว่าการที่ตัวเอกได้ปั้นหุ่นแล้วมีคนตายนั้น แท้ที่จริงแล้วมันเกิดจากอาถรรพ์จริงๆหรือเปล่า หรือว่ามันเป็นฝีมือของมนุษย์ เขาจึงหยิบเอาแนวคิดตรงนี้มาสานต่อ ซึ่งตัวผู้กำกับเองตั้งใจจะตีโจทย์ให้หนังชิ้นนี้มีความเป็น "พาณิชย์ศิลป์" อยู่ในตัว ก็คือการผสมผสานความเป็นอินดี้เขากับหนังตลาดซึ่งให้บรรจบกันที่จุดตรงกลางอย่างพอดี
พรุ่งนี้แล้ว !!!!!!!!!!!!! ขอให้ทุกคน ENJOY กับ "ห้องหุ่น" นะ
ภาพยนตร์ดีๆ ฝีมือคนไทย สนับสนุนกันนะ เห็นเขาบอกว่าภาพในหนังสวยมาก
ขนาดที่ได้เข้าร่วมชิงรางวัลต่างประเทศด้วย นับถือผู้กำกับเลือดใหม่ ทายาทกันตนา จริงๆ