ต้นกำเนิด "น้ำพริกลงเรือ"
'น้ำพริกลงเรือ' เป็นตำรับอาหารที่คนไทยรู้จัก โดยเฉพาะรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ แต่น้อยคนที่ทราบว่าน้ำพริกสูตรพิเศษนี้มีกำเนิดภายในรั้ววังสวนสุนันทา
เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์ เจ้าจอมในรัชกาลที่ 5
เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับเป็นเจ้าจอมคนสุดท้ายในพระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่มีอายุน้อยที่สุด เมื่อเสด็จสวรรคตนั้น เจ้าจอมสดับมีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุไรรัตนศิริมาน ทรงเล่าว่า....
"มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับคุณจอมสดับอีกเรื่อง คือ กับข้าวสำเร็จรูปซึ่งเรียกว่า น้ำพริกลงเรือ คนรู้จักกันมาก แต่ไม่รู้เหตุผลเรื่องนั้น คือ เจ้านายในรัชกาลที่ห้า เข้าไปอยู่วังสวนสุนันทาใหม่ๆ ดินที่ขุดมาถมเพื่อทำตำหนักทำให้มีสระกว้างใหญ่ยาว ต่างองค์ต่างมีเรือพายเล่น...
วันหนึ่งตอนค่ำ คิดจะลงเรือกัน สมเด็จอาหญิงน้อย (สมเด็จเจ้าฟ้านิภานพดล กรมขุนอู่ทองเขตขัติยนารี พระราชธิดาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระวิมาดาเ ธอฯ) ก็ชวนว่าให้ไปกินข้าวในเรือกันเถอะ ก็รับสั่งว่า'...สดับไปดูซิในครัวมีอะไรบ้าง...'คุณจอมสดับเข้าไปในห้องเครื่อง เห็นมีแต่ ปลาดุกทอดฟู กับ น้ำพริก ตำไว้เท่านั้น
จึงหยิบน้ำพริกกับปลามาผัดรวมกับ หมูหวาน เล็กน้อย พอตักขึ้นมาก็หยิบ ไข่เค็ม ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้ต้ม ความที่เป็นคนคล่องและไว เลยทิ้งไข่ขาว เอาแต่ไข่แดงดิบวางลงไปทั้งลูก และจัดผักเตรียมลงมาด้วย กลายเป็นอร่อยมาก ถึงเรียก น้ำพริกลงเรือ เกิดขึ้นเพราะคุณจอมสดับนี่เอง....
เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์ เจ้าจอมในรัชกาลที่ 5
"เหตุด้วย เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ เป็นผู้ที่เติบโตมาภายใต้พระอุปถัมภ์บำรุงของพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาถฯ ซึ่งรับสนองพระมหากรุณาธิคุณในกิจการห้องพระเครื่องต้นแห่งราชสำนัก
จึงมีผลให้เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับมีความชำนาญในการปรุงอาหารคาวหวาน ควบคู่ไปกับงานฝีมือด้านอื่นๆ ซึ่งอุปนิสัยส่วนตัวของเจ้าจอมสดับนั้นเป็นผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารเป็นอย่างยิ่ง มีความสุขที่จะเป็นผู้ทำอาหารให้ผู้อื่นรับประทานมาตั้งแต่วัยส าว จนแม้กระทั่งอายุ 92 ปีเศษแล้ว ก็ยังไม่งดที่จะลงมือตำน้ำพริกเองในยามมีหลานหรือแขกไปรับประทานอาหาร
ด้วยวันหนึ่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาเสด็จเยี่ยมที่ในพระบรมมหาราชวังชั้นใน ประจวบเป็นเวลาที่เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับกำลังจะรับประทานอาหา รกลางวัน จึงกราบทูลเชิญเสด็จ พร้อมทั้งกราบทูลว่า"แหม...นี่ถ้าประทานรับสั่งมาก่อนล่วงหน้าสัก 10 นาทีว่าจะเสด็จจะตำน้ำพริกตั้งเครื่องทันที..."นอกจากเป็นผู้ที่มี รสมือ หาตัวจับได้ยากแล้ว ยังเป็นผู้ไม่ปิดบังตำรา
ตรงกันข้ามกลับมีความยินดีที่จะถ่ายทอดสิ่งเหล่านั้น และทุกครั้งที่ได้ถ่ายทอดแก่ผู้ใดแล้วก็ตาม ก็จะต้องพูดติดปากเสมอว่า "เป็นตำราพระวิมาดา" แสดงถึงความยกย่องในพระวิมาดาในฐานะที่ทรงเป็นต้นตำรับ และแสดงถึงเป็นผู้ไม่แอบอ้างว่าอาหารอร่อยเพราะเพียงฝีมือผู้ปรุงเท่านั้น ตำรับเป็นส่วนสำคัญด้วยเช่นกันหลังจากที่พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จสวรรคตแล้ว
เจ้าจอมสดับได้ครองตนเป็นที่น่าเคารพนับถือ โดยปฏิบัติธรรมตลอดชีวิต และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบันให้เข้ามาอยู่ในพระบรมมหาราชวัง จนได้กราบบังคมลาอนิจกรรมในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2526 สิริรวมอายุได้ 93 ปี
ตำนานน้ำพริกลงเรือโดยเจ้าจอมคนสุดท้ายในพระบาทสมเด็จพระจุลจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว จึงปิดฉากลงและทิ้งตำรับอาหารที่ยิ่งใหญ่ไว้ให้แผ่นดิน
ตำรับน้ำพริกลงเรือที่ 'เจ้าจอมสดับ' เขียนไว้ ปรากฏดังความว่า.....
น้ำพริกลงเรือ
เครื่องปรุง
1. กะปิ 1 ช้อนชา
2. พริกชี้ฟ้าหรือพริกขี้หนูสด 5 เม็ด
3. กระเทียม 7 กลีบ
4. น้ำปลา
5. น้ำตาล
6. มะดันหรือมะนาวตามสมควร
7. กระเทียมดอง 2 หัว
8. ไข่เค็มดิบ 2 ฟอง
9. ปลาดุกหรือปลาช่อน 1 ตัว
10. น้ำมันหมูตามควร
11. มะเขือเปราะ 4 ผล
12. ผักชีตามควร
13. หมูสามชั้น 1 ชิ้น
วิธีทำ
ตำน้ำพริกอย่างจิ้มผักสดธรรมดา แต่ปรุงให้เหลวๆ หน่อย ชิมรสตามชอบ
แล้วเอาน้ำมันหมูใส่กระทะลงเล็กน้อย
พอน้ำมันร้อนเอากระเทียมโขลกสัก 5 กลีบเล็กๆ เจียวพอหอม
แล้วเทน้ำพริกที่ตำไว้ ลงผัดพอสุกทั่ว แล้วตักใส่ถ้วยไว้
แล้วเอาหมูต้มให้หนังเปื่อย แล้วหั่นให้ละเอียดสัก 3 ช้อนคาว หรือคะเนดูให้เท่าๆ กับน้ำพริกที่ผัดไว้
เอาผัดน้ำมันหมู น้ำปลา น้ำตาล ชิมให้รสจัดเหมือนหมูต้มเค็ม แล้วตักใส่ถ้วยไว้
เอาปลาอย่างใดอย่างหนึ่ง นึ่งให้สุก แล้วแกะแต่เนื้อขยี้ให้ละเอียด ลงทอดในน้ำมันหมูให้เหลืองกรอบ ต้องใช้น้ำมันให้ท่วมปลา ไฟแรง แล้วตักใส่ถ้วยไว้ คะเนเท่ากับหมูและน้ำพริก
เอาจานลึก หรือชามตื้นๆ ใช้สำหรับจัดวิธีจัดเอาน้ำพริกกับหมู ผัดผสมด้วยกันเคล้าให้ทั่วแล้วตักลงก้นจานก่อน จึงเอาปลาทอดขยี้ให้ร่วนโรยทับ
เอากระเทียมดองปอกเป็นกลีบสำหรับกลีบเล็กๆ ถ้ากลีบใหญ่ก็ผ่า 2-3 ชิ้น เอาไข่เค็มดิบ รีดใช้แต่ไข่แดงผ่าเป็นชิ้นเล็กตามควร
ประดับลงบนปลาสลับกันกับกระเทียมดอง มะเขือ ผักชี จัดลงภาชนะเดียวกัน อย่าแยกภาชนะ
จัดเป็นอย่างๆ จะหมดอร่อยหมดสวยงามและหมดความหมาย
ที่ชื่อน้ำพริกลงเรือเกิดขึ้นเพราะเจ้านายทรงเล่นเรือพาย เวลาพลบค่ำจะเสวยในเรือโดยมิได้เตรียม ผู้คิดพบอะไรมีอยู่ในห้องเครื่อง ก็เก็บผสมกันเข้าให้สำเร็จประโยชน์ และให้ง่ายเหมาะในเรือเล็กๆ มืดๆ
ซ้ำขออภัยค่ะ
รูปประกอบ : Google
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
โซเชียลฮาลั่น! ทหารไทยยึดฐานสำเร็จ พบปลากระป๋องไทยเพียบ ชาวเน็ตตั้งคำถาม ไหนบอกแบนสินค้าไทย?
คลิปนาทีทหารไทยโคตรเดือด ควบม้าเหล็ก รัวปืนกล กระบอกคู่ ถล่มเขมร ช่องอานม้า จนสามารถยึดครองพื้นที่ได้สำเร็จ
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
เด็ก 10 คนที่เป็นโรคธาลัสซีเมียติดเชื้อเอชไอวีหลังจากได้รับเลือด
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้าน
พ่อนอกใจเป็นชู้ กับแฟนสาวของลูกชาย
10 เลขเด็ดเลขดัง "สลาก 5 ภาค" งวดวันที่ 2 มกราคม 69..รีบส่องเลย ก่อนหวยหมดแผง!!
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
โซเชียลฮาลั่น! ทหารไทยยึดฐานสำเร็จ พบปลากระป๋องไทยเพียบ ชาวเน็ตตั้งคำถาม ไหนบอกแบนสินค้าไทย?
เด็ก 10 คนที่เป็นโรคธาลัสซีเมียติดเชื้อเอชไอวีหลังจากได้รับเลือด


