อุณหภูมิขั้วโลกเหนือสูงสุดในรอบ 44,000 ปี

26 ตุลาคม 2556 (19:16)โพสท์โดย mata

งานวิจัยหลายชิ้นได้แสดงให้เห็นว่าขั้วโลกเหนือนั้นกำลังมีอุณหภูมิสูงขึ้นและภูเขาน้ำแข็งก็กำลังละลาย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับในอดีตนั้นมีความแตกต่างนั้นมากเพียงใด และเป็นปัญหาที่ร้ายแรงแค่ไหน

งานวิจัยชิ้นใหม่แสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูร้อนนั้นขั้วโลกเหนือแถบแคนาดาในช่วงร้อยปีที่ผ่านมานั้นนับว่าสูงสุดในรอบ 44,000 ปี และอาจจะเป็นไปได้ว่าสูงสุดในรอบ 120,000 ปีด้วยเช่นกัน

“ประเด็นหลักของเรื่องนี้ก็คือการละลายตัวของน้ำแข็งในแถบขั้วโลกเหนืออย่างไม่คาดฝัน” Gifford Miller นักวิจัยจาก University of Colorado กล่าวในคำแถลงการณ์ร่วมจากทางคณะและในรายงานวิทยาศาสตร์ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Geophysical Researcher Letters “งานวิจัยนี้นั้นได้แสดงว่าการสูงขึ้นของอุณภูมิที่เรากำลังประสบอยู่นั้นนอกเหนือจากความแปรปรวนตามธรรมชาติทั้งหมดที่เรารู้จัก และเป็นปัญหาที่มีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศอย่างแน่นอน”

งานวิจัยชิ้นนี้นับเป็นชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิในขั้วโลกเหลือนั้นสูงกว่าจุดสูงสุดในช่วงต้นยุค Helocene ซึ่งเป็นชื่อเรียกทางธรณีวิทยาของยุคปัจจุบันซึ่งเริ่มต้นเมื่อประมาณ 11,700 ปีก่อน ซึ่งในช่วงนั้นรังสีของดวงอาทิตย์นั้นมากกว่าปัจจุบันประมาณ 9%

Miller และเพื่อนร่วมงานของเขาได้วัดอุณหภูมิของขั้วโลกเหนือโดยการดูฟองอากาศภายในหลอดน้ำแข็งที่ขุดขึ้นมาจากพื้นน้ำแข็งที่แสดงถึงชั้นหิมะที่ทับถมกันเป็นเวลานาน ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถตรวจหาอุณหภูมิในอดีต รวมถึงระดับของการตกตะกอนได้ หลังจากนั้น พวกเขาก็ได้จับคู่ผลของการตรวจสอบเข้ากับการตรวจอายุขัยจากกัมมันตภาพรังสีในรูปของคาร์บอนของตะไคร่ที่ได้จากภูเขาน้ำแข็งที่กำลังละลายในเกาะ Baffin Island ของแคนาดา

การวิเคราะห์ของพวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าพืชเหล่านี้ได้ติดอยู่ในน้ำแข็งดังกล่าวเป็นเวลาอย่างน้อยกว่า 44,000 ปี และอาจจะยาวนานถึง 120,000 ปีก็เป็นได้ ซึ่งเมื่อรวบรวมข้อมูลเข้าด้วยกันแล้วจะเห็นได้ว่ามีความเป็นไปได้ที่อุณภูมิในพื้นที่นี้นั้นไม่เคยสูงถึงขนาดนี้มาก่อนในรอบ 120,000 ปีนั่นเอง

ขั้วโลกเหนือนั้นเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้นมาเรื่อยๆเป็นว่ากว่าร้อยปีแล้ว แต่ในช่วงปีอุณหภูมิเกิดสูงขึ้นอย่างมากนั้นได้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นในช่วงปี 1970 “และเป็นช่วงเวลา 20 ปีกว่าแล้วที่สัญญาณของการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นที่น่าตกใจอย่างมาก เกาะ Baffin Island เกือบทั้งเกาะนั้นกำลังละลายตัว และพวกเราคาดว่าภูเขาน้ำแข็งที่มีอยู่นั้นจะหายไปในอนาคตแม้ว่าอุณหภูมิจะไม่สูงขึ้นกว่านี้แล้วก็ตาม”