จากการที่มีคน(โง่)หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ มาพูดในเชิงดูหมิ่้นว่าทำไมผู้ชายไทยกับการกีฬาจึงไม่ค่อยโดดเด่น ถ้าจะเจาะลึกไปตรงๆกับวิถีชีวิตของผู้ชายไทย ไม่ยากเลย ดังนั้น เราจึงมาตั้งคำถามกันเกี่ยวกับผู้ชายและอาชีพกีฬากัน

 

 

ผู้ชายไทยไปเป็นทหาร ตำรวจ และบวชเป็นพระ รวมกันประมาณ1ใน3ของประเทศ

 

 

 

 

ทุกๆปี จะมีการรับทหารเพิ่มมากขึ้น ซึ่ีงสมัยใหม่นี้ไม่ได้แค่จับใบดำใบแดง แต่โควต้ากา่รสมัครตรงเข้าเป็นทหารมีเพิ่มขึ้นมากๆ (ไม่รู้ว่าผู้ชายอยากเป็นทหารอะไรกันนักหนา) บางหน่วยจึงไม่ต้องจับใบดำใบแดงก็มีเพราะว่ามีคนมาสมัครเกินอัตราแล้ว

 

สาเหตุที่ผู้ชายมาเป็นทหารเพิ่มมากขึ้น เพราะ บ้านเมืองเราไม่ได้รบกันหนักๆอย่างสงครามระหว่างประเทศ สวัสดิการทหารดีมาก สบายไปตลอดชีวิต มียศ ฯลฯ  แล้วถ้าได้เป็นทหารหรือตำรวจ เงินดี เป็นท่านเป็นนายคน แล้วจะมาเป็นนักกีฬาทำไมละ

 

 

 

เช่นเดียวกัน ผู้ชายที่บวชเป็นพระ รวมถึงเณร มีผู้ชายที่เข้าสู้ร่มร่มกาสาวพัสตร์เพิ่มมากขึ้น (ไม่รู้สาเหตุเป็นเพราะอะไร) แต่้นี่ก็เป็นทางเลือกที่ดีมากสำหรับเฉพาะเพศชายเท่านั้น ยกตัวอย่าง เช่น ดาราหนังท่านนึง หรืออดีตสาวประเภท2 ก็ห่มผ้าเหลืองและไม่คิดจะสึกก็มีมาแล้ว และการบวชเป็นพระ ถ้าท่านเป็นพระที่เคร่งศาสนา มีหลักธรรมคำสอนที่ดี วัดนั้นก็จะัมีชื่อเสียง ร่ำรวย คนไปมาหาสู่มากมาย กลายเป็นสถานที่บรรเทาทุกข์ ชี้ทางสว่างให้แก่ประชาชน ฯลฯ

 

 

 

 

 

ผู้ชายไทยมีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน 1ใน3 (หรืออาจจะเป็น2ใน3)ของประเทศ

 

ไม่ต้องสงสัยหรืออธิบายไรเพิ่มเติมเลย เกย์ไทยมีเพิ่มมากขึ้น ถ้าใครรู้จักการลิ้งเข้าไปดูสถิติ(มุมล่างขวา)ของหน้าเวปหาคู่เกย์จะพบว่า ต่อวันโดยเฉลี่ยผู้เข้าใช้บริการประมาณ 60000-80000 ครั้ง/วัน (ซึ่งถ้าคนที่ไม่้ได้มีรสนิยมชอบชาย ชายแท้ หรือผู้หญิงจะเข้ามาทำไมในเมื่อเขาหาคู่เกย์ไม่ได้หาเพศอื่น) ซึ่งต่างจากหน้าเวปของหาเพื่อนหญิงกับหญิงซึ่งมียอดแตะอยู่ที่หลักพันกว่าๆเท่านั้นเอง  

 

และที่สำคัญกว่านั้น คือ ทุกอาชีพล้วนแล้วแต่มีเกย์เข้าถึงได้ทุกที่

 

 

แล้วทำไมเกย์ส่วนใหญ่ถึงไม่ชอบเล่นกีฬา?

 

 

1. กีฬาหลายๆชนิดจะต้องเล่นกลางแจ้ง ทำให้ผิวเสีย แลดูไม่หล่อ

เกย์ทุกคน จะมีความรักสวยรักงาม ก็กีฬาแต่ละประเภทมันต้องโดนแดด ลม โดยเฉพาะแดดเป็นตัวดำทำให้ผิวไม่สวย แล้วเกย์(ส่วนใหญ่)ที่ไหนจะชอบล่ะ 

 

 

 

2.จริงแล้วๆเกย์เก่งกว่าผู้ชาย แต่เขาเอาความเก่งไปทำอย่างอื่นแบบตามที่พวกเขาต้องการ

เกย์จะมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัว คือ มีความแข็งแกร่ง(เพราะเป็นเพศชาย) มีวินัยมากกว่า มีความมุ่งมั่น + ความละเอียดอ่อนยิบๆ(ยิ่งกว่าผู้หญิง) มีความเอาใจใส่ซะจนพิถีพิถัน(มากกว่าชะนีหลายๆคน) พูดง่ายๆคือ เอาข้อดีของชายกับหญิงมาประยุกต์ใช้ได้อย่างลงตัว อย่าลืมสิว่า เกย์ไม่ใช่ผู้ชายแท้ๆ100%ที่จะต้องทำตัวกร่าง ให้ดูแมนแข็งแรงตามสังคม หรือต้องไปทำตัวเลียนแบบชะนี แต่งหญิง แบบกระเทยนั้นไม่ใช่เลย

  ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่าืำทำไมเกย์ถึงชอบเข้าฟิตเนส ทุกๆอย่างที่เกย์ทำ เพื่อทำให้ตัวเองดูดีทั้งสิ้น ความหล่อ และดูดี จะเป็นตัวต่อยอดให้เกย์ฺหลายๆคน มีงานมีการทำที่ดี เพราะการออกกำลังกาย มันต้องใช้วินัยขั้นสูงถึงจะมีซิกแพคได้  และความมีวินัย จะส่งผลทำให้การงานที่ทำมันจะดีตามๆไปด้วย และเมื่องานดีเงินก็ต้องดีตาม  และที่สำคัญรู้หรือไม่ว่า เกย์ที่หล่อดูดี จะมีผู้ให้การสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นเพศไหนๆ ให้ความอุปถัมภ์ (เลี้ยงดู) รายได้สูงซะด้วยนะเออ แล้วทำไมต้องไปแข่งกีฬาที่ส่วนใหญ่จะต้องไปตากแดดให้มันดำคล้ำป่าวๆล่ะ ในเมื่อเงินดีอยู่แล้ว

 

 

 

เอาเป็นว่า สรุปให้ง่ายๆเลย คือ ผู้ชายที่ไปเป็นทหาร ตำรวจ บวชเป็นพระ หรือเป็นเกย์ มีมากกว่าครึ่งประเืทศเข้าไปแล้ว ประมาณ2ใน3ของชายไทยทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ทีนี้ก็จะเหลือแต่ผู้ชายทั่้วๆไป ต่อไปนี้เราจะมาพูดต่อกันว่า จริงๆแล้วผู้ชายไทย(ที่เหลือ) เก่งกับกีฬาหรือเปล่า 

 

โดยเริ่มจาก กีฬาประจำชาติของเรา ก็คือ "มวยไทย" ซึ่งกีฬามวย ยังดีที่ผู้ชายไทยยังคงความเป็นที่1ของโลกอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่มวยไทยจะชนะคู่ต่อสู้ ซึ่งหลา่ยๆคนแม้ตัวใหญ่กว่า แต่ชายไทยเราก็เอาชนะมาได้อย่างสมศักดิ์ศรี

 

ดังนั้น จึงพูดได้เต็มปากว่า "จริงๆแล้วผู้ชายไทย เก่งอยู่แล้ว แต่ถ้าจะเก่งกว่านี้ มันต้องมีหลากหลายกีฬา"

 

 

มาดูต่อกันที่กีฬามหาอำนาจเบอร์1ของโลก คือ "ฟุตบอล" เอิ่มขอยกข้ามไปแล้วกันนะ (เพราะว่าผู้เขียนชะนี ไม่สันทัดกับเรื่องบอล แต่ก็ขอถามเหมือนกันนะว่า เมื่อไหร่บอลไทยจะไปบอลโลกซะที ที่พูดไม่ได้ว่านะ แต่อยากให้ไปจริงๆ)

มาต่อกันที่กีฬา1ใน3ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก (ฟุตบอล กอล์ฟ เทนนิส) กอล์ฟคนไทยก็มีการสร้างชื่อเสียงเหมือนกันนะ 

 

แต่เราจะขอเน้นหนักไปที่กีฬาีระดับโลกที่ติด1ใน3กีฬาที่เงินมหาศาลที่สุด คือ เทนนิส (TENNIS) นั่นเอง

เทนนิส ถือว่าเป็นกีฬาที่มีเงินรางวัลสูงมากๆ แถมเป็นไพรเวท คือไม่ได้เล่นเป็นทีมเป็นหมู่แล้วต้องมีจ่าฝูงแล้วเงินรางวัีลก็ต้องไปหารกัน แต่มีแค่ประเภทเดี่ยว และคู่ ซึ่งหลักๆเงินรางวัลจะไปอยู่ที่ประเภทเดียว คือ แข่งเอง เล่นเอง ได้เอง รวยเอง ผู้ชายไทยคนที่เป็นนักเทนนิสระดับโลก เห็นจะมีอยู่คนเดียวก็คือ ภราดร ซึ่งกีฬาเทนนิส เป็นกีฬาที่เงินเพิ่มมากขึ้นทุกปี แถมตลอดอาทิตย์ก็มีรายการให้เล่นสนุกกันรับทรัพย์เลยทีเดียว 

และกีฬาเทนนิสกับผู้ชาย มันเห็นผลดีกว่าเทนนิสฝ่ายหญิง เพราะว่า เงินรางวัลโดยรวมฝั่งชายมีมากกว่าฝ่ายหญิงประมาณเท่าตัว แถมทางสปอนเซอร์ก็ให้การสนับสนุนฝั่งทางATP(ฝ่ายชาย)มากกว่า เพราะว่ามีคนติดตามและดูมากกว่าฝ่ายหญิง

 

 

ยกตัวอย่างนักกีฬาชายที่พัฒนาตัวเองเยี่ยมของปี 2013 คือ "ราฟาเอล นาดาล" Rafael Nadal

 

ซึ่งนาดาลได้หยุดเล่นไปเกือบครึ่งปีเพราะมีอาการบาดเจ็บ แ้ล้วกลับมาลงเล่นใหม่และได้แชมป์ ยูเอส โอเพ่น 2013 (1ใน4แกรนด์แสลม) ได้เงินไป 3.6$ หรือประมาณ 122ล้านบาท นี่ยังไม่รวมเงินรางวัลรายการย่อยอื่นๆที่ปีนี้นาดาลทำไปได้ รวม 10,448,869$ ก็แค่ 330ล้านบาท และถ้ารวมเงินจากการเล่นทั้งหมด 60,510,697$ ประมาณ 2พันล้านบาท เบาๆ(ยังไม่รวมค่านอกสนาม โฆษณา และยังเล่นได้อีก)

 

จริงๆแล้ว เทนนิสถือว่าเป็นกีฬาที่ผู้ชายแท้ๆที่ไม่ต้องห่วงกลัวดำ สามารถที่จะไปเป็นภราดร2 หรือจะจารึุกชื่อเป็นประวัติศาสตร์คนใหม่ได้  เพราะกีฬาที่ติด1ใน3ของโลกแบบนี้ เงินรางวัลมันล่อตาล่อใจคุณซะเหลือเกิน ซึ่งต่างจาก แบตมินตัน วอลเล่บอล ว่ายน้ำ หรือกีฬาอื่นๆที่ไม่ได้เป็นกีฬาใหญ่ของโลก3กีฬาแบบนี้ เพราะเงินรางวัลที่ได้จากการแข่งขันเทียบกันไม่ได้เลย

 

"ดังนั้นถ้าอยากรวยเรื่องกีฬา เชื่อว่าผู้ชายไทยทำได้ไม่ยาก ถ้ารู้ทักษะ ความมุ่งมั่น ความมีวินัย และมีปัญญาทำให้ตัวเองไปติดอันดับของโลกได้ นอกเหนือจากกีฬามวยซึ่งไทยเราได้แชมป์โลกมาหลา่ยสมัยแล้ว กีฬาเงินเยอะๆที่น่าจะมีความหวังต่อไป ก็จะไป กอล์ฟ และเทนนิส และถ้าคนไทยจะมีชื่อไปติดอันดับเป็นนักเทนนิสชายมือวางอันดับ1ของโลก ทำไมจะทำไม่ได้ละจ๊ะสุดหล่อ"

 

 

 

 

 

้