ไทยวนย้ายแผ่นดิน
ตามตำนานสิงหนวัศิกล่าวว่า สิงหนวัศิกุมาร ได้อพยพผู้คนบริวารมาจากเมืองราชคฤห์ เข้าใจว่าอยู่ในแคว้นยูนาน มาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่เชียงแสนราวต้นสมัยพุทธกาล ตั้งชื่อบ้านเมืองนี้ ว่า “โยนกนคร” เรียกประชาชนเมืองนี้ว่า “ยวน” ซึ่งเป็นเสียงเพี้ยนมาจากชื่อเมือง “โยนก” นั่นเอง
จากนั้นก็มีกษัตริย์ครองเมืองโยนกนี้มาเรื่อยๆ ประชากรไทยวนก็แพร่หลายออกไปในล้านนาไทย ต่อมา พ.ศ. 2101 พระเจ้าบุเรงนองกษัตริย์พม่าได้นำทัพมาตีเมืองเหนือ และปกครองเมืองเหนือเป็นเวลานานถึง 200 ปี
พ.ศ. 2347 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ปฐมกษัตริย์แห่งรัตนโกสินทร์ โปรดฯ ให้ทัพหลวงไปตีพม่าออกจากเชียงแสน พม่าแพ้ท่านให้ทำลายเมือง และรวบรวมผู้คนชาวเมืองเชียงแสนได้ 23,000 คน แบ่งคนเหล่านี้ออกเป็น 5 ส่วน ส่วนหนึ่งให้ไปอยู่เชียงใหม่ ส่วนหนึ่งไปอยู่ลำปาง ส่วนหนึ่งไปอยู่น่าน ส่วนหนึ่งให้ไปอยู่เวียงจันทน์ ส่วนหนึ่งนำมาใต้โดยให้คนยวนกลุ่มหนึ่งอยู่ที่สระบุรีอีกกลุ่มหนึ่งให้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ราชบุรี
อันเนื่องมาจากสมัยก่อนโน้น ที่ตัวเมืองสระบุรีอยู่ที่ท้องที่อำเภอเสาไห้ ที่ว่าคนยวนมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ท้องที่อำเภอเสาไห้นี่เอง โดยตั้งบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำป่าสักทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่ตะวันออกของที่ตั้งที่ว่าการอำเภอเสาไห้ขึ้นมาโดยปลูกบ้านรวมอยู่เป็นกลุ่ม
เพื่อสะดวกในการช่วยเหลือกันและการตั้งบ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำก็เพื่อสะดวกในการใช้
น้ำสัญจร หลังบ้านออกไปก็จะเป็นทุ่งนา
ลักษณะของเรือนไทยวนก็คงจะพัฒนามาจากเรือนชั่วคราว(กระท่อม)ก่อนแล้วมาปลูกเป็นเรือนถาวรอันเนื่องจากวัฒนธรรมเดิม
ของไทยวน จะมีเรือนกาแล ลักษณะมีไม้ไขว้อยู่บนหลังคาหน้าจั่วเรือน ส่วนบนผายออก เรียกว่า เรือนอกโตเอวคอด ดังนั้นเมื่อ แรก เริ่มคนไทยวนก็ปลูกเรือนกาแลอยู่ดังภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดจันทบุรี อำเภอเสาไห้ ในปัจจุบันจะมีบ้านทรงสมัยใหม่ภาคกลาง เป็นจำนวนมาก
เมื่อมาอยู่รวมกันเป็นหมู่บ้านมั่นคง ก็จะมีการเรียกชื่อหมู่บ้านของตนเองตามสภาพภูมิศาสตร์บ้าง เช่น หมู่บ้านที่มีต้นตาลมาก ก็จะเรียก บ้านต้นตาล หมู่บ้านที่มีกอไผ่มากก็จะเรียกบ้านไผ่ล้อม หมู่บ้านที่มีต้นยางมากก็จะเรียกว่าบ้านยาง เป็นต้น บางหมู่บ้าน ก็จะเรียกชื่อหมู่บ้านตามชื่อบุคคลสำคัญ เช่น บ้านสิบต๊ะ (ปัจจุบันคือบ้านสวนดอกไม้) ตามชื่อของหนานต๊ะ ผู้นำหมู่บ้านไทยวน มาตั้งถิ่นฐานรุ่นแรก บ้านเจ้าฟ้า ก็คือ ปู่เจ้าฟ้านำคนยวนมาตั้งอยู่ถิ่นนี้ เป็นต้น
เมื่อคนไทยวนมีประชากรมากขึ้นก็จะอพยพไปตั้งบ้านเรือน ห่างจากริมฝั่งแม่น้ำป่าสักออกไป เช่น ในท้องที่อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ปัจจุบันจังหวัดสระบุรีมี 13 อำเภอ จะไม่มีคนยวนในอำเภอหนองโดนและอำเภอดอนพุด นอกนั้นมีคนยวน มากมาย รวมกระทั่งอพยพไปอยู่ในต่างจังหวัดด้วย เช่น อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เป็นต้น
คนไทยวนจะประกอบอาชีพทำนาเป็นหลัก จนกระทั่ง “ข้าวเสาไห้” เป็นที่มีชื่อเสียงในเมืองไทยสรุปแล้วคนไทยวนจะมีลักษณะ 10 ประการ คือ นักเดินทาง ชอบสร้างบุญ อุดหนุนกัน ขยันดี กวีเก่ง นักเลงสือ ฝีมือดัง ของขลังมั่น กตัญญู รักหมู่พวก