หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สตรีที่มีอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อน

โพสท์โดย PoGuS BigBooM


สตรีที่มีอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อน


ผศ.นพ. ชัยเลิศ  พงษ์นริศร  


อวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนคืออะไร?
     การเคลื่อนต่ำลงมาจากตำแหน่งปกติของผนังช่องคลอด ทำให้อวัยวะในอุ้งเชิงกรานยื่นย้อยลงมา เกิดเป็นก้อนนูนออกในช่องคลอดหรือโผล่พ้นออกมานอกช่องคลอด ปกติอวัยวะในอุ้งเชิงกรานประกอบด้วย มดลูก ช่องคลอด กระเพาะปัสสาวะและลำไส้
สตรีที่มีอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนมีอาการอะไรบ้าง
อาการที่อาจเกิดขึ้นได้มีดังต่อไปนี้:
- รู้สึกหน่วงในช่องคลอดหรือบริเวณหลังส่วนล่าง
- รู้สึกว่ามีก้อนภายในหรือภายนอกช่องคลอด
- อาการเกี่ยวกับระบบขับถ่ายปัสสาวะ เช่น ลำปัสสาวะไหลช้า รู้สึกว่าปัสสาวะไม่สุด ต้องกดบริเวณผนังช่องคลอดเพื่อช่วยในการปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อยๆหรือปวดปัสสาวะอย่างมากจนรอไม่ได้ และปัสสาวะเล็ดเมื่อมีการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง เช่น ขณะออกแรง, วิ่ง, ไอ, จาม เป็นต้น
- อาการเกี่ยวกับลำไส้ เช่น ขับถ่ายอุจจาระลำบาก รู้สึกว่าถ่ายอุจจาระไม่สุดหรือต้องกดบริเวณผนังช่องคลอดเพื่อช่วยในการถ่ายอุจจาระ
- รู้สึกไม่สบายขณะร่วมเพศหรือไม่สามารถร่วมเพศได้ เพราะว่ามีก้อนยื่นมาขวาง

สาเหตุของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนคืออะไร?
อวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อ เอ็น และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ยึดเหนี่ยวอวัยวะเหล่านี้ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมมีการอ่อนแอลง สาเหตุหลักคือการที่เส้นประสาท เอ็น และกล้ามเนื้อที่พยุงอวัยวะในอุ้งเชิงกรานถูกทำลาย ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆต่อไปนี้
- การตั้งครรภ์และการคลอดบุตรเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ช่องคลอดและเนื้อเยื่อที่พยุงช่องคลอดอ่อนแอลง พบภาวะนี้ได้หนึ่งในสามของสตรีที่มีบุตรแล้วอย่างน้อย 1 คน อวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนนี้อาจเกิดขึ้นในขณะตั้งครรภ์หรือภายหลังคลอดไม่นาน ไปจนกระทั่งหลายปีผ่านไป อย่างไรก็ตามมีเพียง 1 ใน 9 ของสตรีที่มีอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด
- อายุที่มากขึ้นและการหมดระดูอาจเป็นเหตุให้โครงสร้างที่พยุงอุ้งเชิงกรานอ่อนแอลงได้
- ภาวะที่มีแรงดันกระทำต่ออุ้งเชิงกรานอย่างมาก เช่น โรคอ้วน ไอเรื้อรัง ท้องผูกเรื้อรัง การยกของหนัก และการออกแรงเบ่งมาก
- สตรีบางรายอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนโดยโรคทางพันธุกรรม ที่อาจมีผลต่อความแข็งแรงของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่น มาร์แฟนซินโดรม(Marfan syndrome) และโรคหนังยืดผิดปกติ (Ehlers-Danlos syndrome)

อวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนเกิดได้บริเวณใดบ้าง?
     อวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนอาจเกิดขึ้นบริเวณผนังช่องคลอดด้านหน้า ผนังช่องคลอดด้านหลัง มดลูกหรือผนังช่องคลอดด้านบน (ส่วนยอดของช่องคลอดภายหลังการผ่าตัดมดลูก)ก็ได้ สตรีจำนวนมากอาจมีการหย่อนของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหลายๆตำแหน่งพร้อมกัน
กายวิภาคปกติไม่มีอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อน

 




















 

การหย่อนของผนังช่องคลอดด้านหน้า
     เป็นตำแหน่งที่พบการหย่อนของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานบ่อยที่สุด จะพบการยื่นนูนของกระเพาะปัสสาวะและ/หรือท่อปัสสาวะลงมาในช่องคลอดได้ แพทย์อาจเรียกลักษณะเช่นนี้ว่า กระเพาะปัสสาวะหย่อนและ/หรือท่อปัสสาวะหย่อน

การหย่อนของช่องคลอดส่วนหน้า

 
























การหย่อนของผนังช่องคลอดด้านหลัง
     เป็นภาวะที่มีส่วนปลายของลำไส้ใหญ่ที่เรียกว่าไส้ตรงยื่นนูนเข้ามาทางผนังช่องคลอดด้านหลัง ซึ่งแพทย์อาจเรียกว่า ไส้ตรงเลื่อน และ/หรือมีส่วนใดส่วนหนึ่งของลำไส้เล็กยื่นนูนเข้ามาที่บริเวณส่วนบนของผนังช่องคลอดด้านหลัง ซึ่งแพทย์อาจเรียกว่า ไส้เลื่อน

การหย่อนของช่องคลอดส่วนหลัง

 



















การหย่อนของมดลูกและช่องคลอดส่วนยอด
      มดลูกหย่อนเกิดขึ้นเมื่อมดลูกยื่นย้อยหรือเคลื่อนต่ำลงมาในช่องคลอด พบมากเป็นอันดับสองของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อน

มดลูกหย่อน




 
















     ช่องคลอดด้านบนหย่อนภายหลังการผ่าตัดมดลูก ส่วนบนของช่องคลอดอาจหย่อนลงมา (คล้ายการปลิ้นกลับปลายถุงเท้าด้านในออกมา) และเคลื่อนลงมาที่ปากช่องคลอด หรือยื่นพ้นปากช่องคลอดออกมา

อวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนมีความรุนแรงเพียงใด?
     สตรีจำนวนมากประมาณร้อยละ 40  มีอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนซึ่งมีความรุนแรงต่างๆกัน ตั้งแต่มีอาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลย ไปจนกระทั่งมีก้อนยื่นพ้นปากช่องคลอดออกมาตลอดเวลา และมีอาการร่วมต่างๆ แพทย์จะซักประวัติและตรวจภายในอย่างละเอียด เพื่อวินิจฉัยว่าภาวะนี้มีความรุนแรงอยู่ในระยะใด ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้อธิบายข้อมูลเหล่านี้ให้คุณทราบ


อวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนรักษาได้อย่างไร?
     ทางเลือกในการรักษาแบ่งออกเป็น 2 วิธีใหญ่ๆ ได้แก่ การรักษาวิธีไม่ต้องผ่าตัดและการรักษาวิธีผ่าตัด
การรักษาเชิงอนุรักษ์หรือวิธีไม่ต้องผ่าตัด ได้แก่

- สังเกตอาการ:
     อวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนไม่ได้เป็นภาวะที่มีอันตรายร้ายแรงต่อชีวิต สตรีที่ไม่มีอาการหรือไม่มีปัญหาใดๆจากการหย่อนนี้มักเลือกที่จะไม่รับการรักษา อย่างไรก็ตามถ้าคุณได้รับการวินิจฉัยว่ามีอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนให้พยายามหลีก เลี่ยงการยกของหนัก การออกแรงเบ่งมาก เช่น ท้องผูก และการที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากเกินไป เพราะปัจจัยเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้อวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนรุนแรงมากยิ่งขึ้น

- ใช้อุปกรณ์พยุงช่องคลอด (Pessary):
     เป็นอุปกรณ์ที่ผู้ป่วยใช้สำหรับสอดเข้าไปในช่องคลอดเพื่อพยุงอวัยวะในอุ้งเชิงกราน จึงช่วยบรรเทาอาการที่เป็นอยู่ได้อุปกรณ์เหล่านี้มีหลากหลายรูปทรงและขนาดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ชนิดที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดคือ แบบรูปร่างเป็นวงแหวนเหมือนห่วง บางครั้งจึงเรียกว่า ห่วงพยุงในช่องคลอด การใช้อุปกรณ์พยุงในช่องคลอดเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงหรือยืดเวลาการผ่าตัดออกไป เช่น ในกรณีที่ยังต้องการมีบุตรหรือมีปัญหาสุขภาพ ที่ไม่อาจผ่าตัดได้เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง ผู้ป่วยที่จะใช้อุปกรณ์พยุงในช่องคลอดต้องได้รับการตรวจวัดและประเมินความ รุนแรงของการหย่อน โดยผู้ให้บริการทางการแพทย์ก่อน และอาจต้องมีการทดลองใส่ก่อนเพื่อหาขนาดและชนิดที่เหมาะสมที่สุดก่อนนำไปใช้จริงที่บ้าน อุปกรณ์พยุงช่องคลอดบางชนิดเท่านั้นที่ผู้ใช้ยังสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ขณะใส่อยู่ในช่องคลอด ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำในรายละเอียด

อุปกรณ์พยุงช่องคลอดชนิดวงแหวน




















- การบริหารกล้ามเนื้อพื้นอุ้งเชิงกราน (Kegel exercise):
     การบริหารกล้ามเนื้อพื้นอุ้งเชิงกรานที่อ่อนแอลง อาจช่วยฟื้นฟูหรือป้องกันไม่ให้อวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนเล็กน้อยเป็นรุนแรงมากขึ้น การบริหารกล้ามเนื้อพื้นอุ้งเชิงกรานต้องอาศัยเวลา แรงจูงใจและเทคนิคที่ถูกต้อง (กรุณาอ่านบทความเรื่อง "การบริหารกล้ามเนื้อพื้นอุ้งเชิงกรานที่ถูกต้อง ใครว่ายาก? " หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม)

การรักษาวิธีผ่าตัด
     สำหรับสตรีที่มีอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนที่มีอาการมาก อาจเลือกรักษาด้วยการผ่าตัด แพทย์จะแนะนำวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมกับคุณที่สุด โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่ อายุ ประวัติการผ่าตัดที่ผ่านมา ความรุนแรงของการหย่อนของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน และสุขภาพโดยรวมของคุณ การผ่าตัดมี 2 วิธีหลัก ได้แก่ การผ่าตัดเสริมสร้างและการผ่าตัดเย็บปิดช่องคลอด ดังนี้
การผ่าตัดเสริมสร้าง (reconstructive surgery):
     จุดประสงค์ของการผ่าตัดเสริมสร้างอุ้งเชิงกรานคือ การทำให้อวัยวะในอุ้งเชิงกรานกลับเข้าสู่ตำแหน่งปกติทางกายวิภาคและยังคงมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ
วิธีการผ่าตัดเสริมสร้างสามารถทำได้หลายวิธีดังนี้
- การผ่าตัดทางช่องคลอด
- การผ่าตัดทางหน้าท้อง ซึ่งทำได้หลายวิธี ได้แก่
      - การผ่าตัดผ่านแผลเปิดหน้าท้อง
      - การผ่าตัดผ่านกล้อง (ด้วยการเจาะรูเล็กๆบริเวณหน้าท้อง)
      - การผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์ (เป็นการผ่าตัดผ่านกล้องที่แพทย์ควบคุมการผ่าตัดผ่านทางหุ่นยนต์)

การเย็บปิดช่องคลอด (colpocleisis)
     แพทย์อาจแนะนำให้คุณรักษาด้วยวิธีนี้ หากการหย่อนของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานอยู่ในขั้นรุนแรง หรือในกรณีที่คุณไม่ได้ มีเพศสัมพันธ์แล้ว และไม่ต้องการมีเพศสัมพันธ์อีกในอนาคต หรือในกรณีที่สุขภาพของคุณไม่เหมาะสมกับวิธีการผ่าตัดเสริมสร้าง วิธีการนี้แพทย์จะเย็บผนังช่องคลอดเข้าหากันเพื่อป้องกันไม่ให้ภาวะอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนกลับเป็นซ้ำอีก ข้อดีของการเย็บปิดช่องคลอดคือใช้เวลาผ่าตัดน้อยและผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว อัตราความสำเร็จของการผ่าตัดด้วยวิธีนี้เท่ากับร้อยละ 90-95

การผ่าตัดรูปแบบใดเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ?
     ไม่มีการผ่าตัดรูปแบบใดดีที่สุดสาหรับผู้ป่วยทุกราย การเลือกรูปแบบการผ่าตัดที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ประวัติการเป็นโรคของคุณ ความเชี่ยวชาญในวิธีผ่าตัดต่างๆและประสบการณ์ของแพทย์ และความต้องการของคุณเอง
     แพทย์จะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวิธีการรักษารูปแบบต่างๆและแนะนำวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมกับภาวะและความต้องการของคุณ ทั้งนี้ การผ่าตัดจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แม้แต่ในกรณีของสตรีสองรายที่มีอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนลักษณะเดียวกัน ยังอาจต้องการวิธีการรักษาที่แตกต่างกันได้

การผ่าตัดทางช่องคลอด
     การผ่าตัดวิธีนี้ทำโดยการกรีดแผลที่ผิวภายในช่องคลอดแล้วเลาะแยกอวัยวะที่หย่อนออกจากผนังช่องคลอด จากนั้นจึงเย็บเนื้อเยื่อที่มีอยู่เดิมและ/หรือใส่วัสดุที่เป็นแผ่น ตาข่ายเพื่อเสริมความแข็งแรงและซ่อมแซมช่องคลอด อาจใช้วัสดุเย็บที่ไม่ละลายเย็บส่วนบนของช่องคลอดหรือปากมดลูกเข้ากับเอ็นที่แข็งแรงกว่า ในบริเวณอุ้งเชิงกรานเพื่อพยุงมดลูกหรือส่วนยอดของช่องคลอดหลังการผ่าตัดมดลูก เช่น sacrospinous หรือ uterosacral ligament suspension

การผ่าตัดทางแผลเปิดหน้าท้อง
     การผ่าตัดวิธีนี้ทำโดยกรีดแผลทางหน้าท้องเข้าไป ตัวอย่างเช่น sacrocolpopexy ดังภาพแสดงด้านล่าง ส่วนยอดของช่องคลอดหลังการผ่าตัดมดลูกที่หย่อนได้รับการพยุงไว้ด้วยการใช้วัสดุที่เป็นแผ่นตาข่ายซึ่งเย็บติดกับกระดูกสันหลังใต้กระเบนเหน็บ อย่างไรก็ตามการผ่าตัดทางหน้าท้องสามารถทำได้อีกหลายวิธี แพทย์จะอธิบายรายละเอียดเหล่านี้ให้คุณทราบ


Sacrocolpopexy

 


















 




การผ่าตัดผ่านกล้องและการผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์ช่วย
     วิธีการผ่าตัดนี้คล้ายคลึงกับวิธีการผ่าตัดผ่านแผลเปิดหน้าท้องทุกประการ ต่างกันที่ผ่าตัดผ่านแผลเล็กๆบริเวณหน้าท้องแต่ผู้ป่วยจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าและแผลเป็นจากการผ่าตัดจะมีขนาดเล็กกว่า ในปัจจุบันการผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์มีบริการในศูนย์ผ่าตัดเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น  เช่น คณะแพทยศาสตร์เชียงใหม่ สำหรับที่ศูนย์ศรีพัฒน์ ขณะนี้ยังไม่ได้เปิดบริการ แต่ในอนาคตคาดว่าอีกไม่นาน

มีความจำเป็นต้องใช้วัสดุที่เป็นแผ่นตาข่ายเสริมในการผ่าตัดหรือไม่?
     โดยทั่วไปการผ่าตัดเสริมสร้างไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุที่เป็นแผ่นตาข่ายเสริมเสมอไป จะเลือกใช้ในกรณีการผ่าตัดซ้ำและการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงที่จะล้มเหลว วัสดุที่เป็นแผ่นตาข่ายเสริมอาจเป็นแบบละลายได้ทำจากเนื้อเยื่อสัตว์ (ชีวภาพ) ซึ่งจะค่อยๆสลายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป หรือเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ไม่สามารถละลายได้ซึ่งจะคงอยู่ในร่างกายตลอดไป วัสดุที่เป็นแผ่นตาข่ายเสริมบางชนิดอาจมีส่วนผสมของวัสดุทั้งที่ละลายได้และละลายไม่ได้ คุณควรปรึกษากับแพทย์ถึงข้อดีและข้อเสียของการใช้วัสดุเหล่านี้ก่อน

การผ่าตัดมีโอกาสประสบความสาเร็จเพียงใด
     ประมาณร้อยละ 75 ของสตรีที่ได้รับการผ่าตัดทางช่องคลอดและร้อยละ 90-95 ของสตรีที่ได้รับการผ่าตัดทางหน้าท้องจะหายจากอาการหย่อนของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานได้เป็นเวลานาน การกลับเป็นซ้ำของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนอาจเกิดจากปัจจัยเดิมที่เป็นสาเหตุของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนในครั้งแรก เช่น ท้องผูกและเนื้อเยื่อที่อ่อนแออยู่เดิม

ถ้าหากยังต้องการมีบุตรควรทำอย่างไร
     ปกติแนะนำให้หลีกเลี่ยงการผ่าตัดเพื่อการรักษาอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อน ไปจนกว่าผู้ป่วยจะมีบุตรเพียงพอแล้ว ในระหว่างนั้นอาจใช้วิธีการรักษาเชิงอนุรักษ์ เช่น การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหรือการใช้อุปกรณ์พยุงช่องคลอดไปก่อน

เรียบเรียงโดย
ผศ. นพ. ชัยเลิศ พงษ์นริศร
หัวหน้าหน่วยนรีเวชทางเดินปัสสาวะและอุ้งเชิงกราน
ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เอกสารอ้างอิง
International Urogynecological Association (IUGA) Pelvic Organ Prolapse: A Guide for Women. 2011.

 

http://www.cmed.cmu.ac.th

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
PoGuS BigBooM's profile


โพสท์โดย: PoGuS BigBooM
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
4 VOTES (4/5 จาก 1 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หนุ่มโชคร้าย ผู้ถูกเพื่อนบ้านจับไปขังไว้ใต้ถุนบ้านกว่า 27 ปี!!ส่อง 5 ประเทศในเอเชียชุดนักศึกษาเห็นแล้วคุณอยากใส่?เจ้าหน้าที่ภาคพื้นตกจากเครื่องบิน เพราะเพื่อนร่วมงานเลื่อนบันไดหนีย้อนรำลึกภาพบรรยากาศไทยเมื่อ 50 ปีก่อนผ่านเลนส์กล้องหลายคนโฟกัสผิดจุด..ชุดนี้ห้ามจามโดยเด็ดขาดด่วน! กระทรวงศึกษาธิการส่งหนังสือผ่อนผันชุดนักเรียนแล้ว??? ระทึก หนุ่มคลั่งฟันคอเมียเพื่อนสาหัส ตำรวจเข้าห้ามโดนฟันท้ายทอยเจ็บอีกเลขปฏิทิน งวดที่แล้วเข้า 60 งวดนี้ 1 มิถุนายน 2567
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ระทึก หนุ่มคลั่งฟันคอเมียเพื่อนสาหัส ตำรวจเข้าห้ามโดนฟันท้ายทอยเจ็บอีกเคล็ดลับเด็ด! ลบไฟล์ขยะ LINE ให้มือถือกลับมาเร็วเหมือนใหม่ ✨เจ้าหน้าที่ภาคพื้นตกจากเครื่องบิน เพราะเพื่อนร่วมงานเลื่อนบันไดหนีนายทวียืนยัน ราชทัณฑ์ช่วย บุ้ง อย่างสุดความสามารถแล้ว"เราและนาย"เพื่อนกันตลอดไป
ตั้งกระทู้ใหม่