ติดเชื้อในเลือดอาจถึงตายได้
มาเรียน่า บริดี รูปจาก spiceday.com
เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลายคนคงได้ยินหรือได้อ่านข่าวของนส.มาเรียน่า บริดี นางแบบสาววัยยี่สิบปีชาวบราซิลที่เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสโลหิต แม้ข่าวจากแหล่งต่าง ๆ จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินโรคของเธอไม่มากนัก แต่สิ่งที่ทำให้ได้ยินแล้วต้องตกใจ คือ นางแบบสาวสวยคนนี้เริ่มตรวจพบว่าเป็นนิ่วเมื่อเดือนธันวาคมปีกลาย ต่อมาในเดือนมกราคมเธอก็มีการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ เป็นเชื้อดื้อยา ชื่อซูโดโมแนส แอรูจิโนซา (Pseudomonas aeruginosa) และอาการก็แย่ลงอย่างรวดเร็วทั้งช็อค (ความดันโลหิตต่ำ) ต้องถูกตัดเท้า ตัดมือ มีเลือดออกในช่องท้อง ไตวาย และเสียชีวิตภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือน
หลายคนที่ได้ยินข่าวคงจะสงสัยว่าเหตุใดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ และติดเชื้อในกระแสโลหิต จึงทำให้ถึงกับต้องตัดมือตัดเท้า ซึ่งฟังดูแล้วน่ากลัวมาก
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ จะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเพราะลักษณะท่อปัสสาวะของผู้หญิงสั้นกว่าทำให้ติดเชื้อได้ง่ายกว่า ผู้หญิงจะปวดปัสสาวะบ่อยกว่าแต่ก็หาห้องน้ำได้ยากกว่าผู้ชาย ทำให้ผู้หญิงต้องกลั้นปัสสาวะกันมาก นี่ยังไม่รวมเหตุผลอื่น ๆ ของการกลั้นปัสสาวะ เช่น การทำงานเป็นกะอย่างต่อเนื่องยาวนานจนไม่มีเวลาพักเข้าห้องน้ำ การเดินทางไกล ๆ ไม่สะดวกที่จะเข้าห้องน้ำ ความกลัวในเวลากลางคืนทำให้ไม่อยากลุกไปเข้าห้องน้ำ ฯลฯ การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะนั้นส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียกลุ่มแกรมลบ (ที่พบในลำไส้ของเรานั้นเอง) มีทั้งการติดเชื้อส่วนล่าง เช่น ท่อปัสสาวะอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งคุณผู้หญิงมักจะรู้จักกันดีว่าเป็นโรคที่ทำให้มีอาการ ขัดเบา คือ ปัสสาวะกะปริดกะปรอย ส่วนการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะส่วนบน เช่น กรวยไตอักเสบนั้นทำให้มีไข้ หนาวสั่น ปวดหลังตรงสีข้าง ปวดท้องน้อย ปัสสาวะขุ่น นอกจากนี้ การมีนิ่วในทางเดินปัสสาวะก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะได้เช่นกัน
เมื่อมีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ (หรือการติดเชื้อที่ใดก็ตาม) ย่อมมีโอกาสที่เชื้อจะแพร่กระจายเป็นการติดเชื้อในกระแสโลหิตได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของผู้ป่วย รวมทั้งปริมาณและความรุนแรงของเชื้อนั้นๆ เช่น ผู้ป่วยเด็กทารก ผู้ป่วยที่สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ผู้ป่วยที่กินยากดภูมิต้านทานของร่างกาย จะมีโอกาสติดเชื้อในกระแสโลหิตมากกว่าคนทั่วไป
มาเรียน่า บริดี อายุเพียงยี่สิบปี แต่โชคร้ายตรงที่ได้รับเชื้อดื้อยา (ส่วนใหญ่การติดเชื้อดื้อยาชนิดนี้พบในโรงพยาบาล) และเธออาจจะมีโรคบางอย่างที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยทำให้มีภูมิต้านทานต่ำกว่าปกติ หรืออาจจะมีความผิดปกติของลิ้นหัวใจ ซึ่งเมื่อมีการติดเชื้อในกระแสโลหิตแล้วทำให้เกิดกลุ่มก้อนตะกอนของเชื้อโรค (septic emboli) ลอยอยู่ในกระแสเลือด และไปอุดตันหลอดเลือดเล็ก ๆ ที่ปลายมือปลายเท้า ทำให้อวัยวะส่วนปลายขาดเลือดและมีการติดเชื้ออย่างรุนแรง (embolic or ischemic gangrene) จนต้องพิจารณาตัดอวัยวะนั้น
อ่านแล้วอย่าเพิ่งตระหนกตกใจกันจนเกินไป ทุกวันนี้ มีคนที่เจ็บป่วยด้วยการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะมากมาย ผู้หญิงส่วนใหญ่คงได้เคยมีอาการขัดเบากันมาบ้างอย่างน้อยก็สักหนึ่งครั้งในชีวิต แต่คนที่จะลงเอยอย่างมาเรียน่า บริดีมีน้อยมาก (เธอช่างโชคร้ายจริง ๆ) อย่างไรก็ตามเรื่องราวของเธอ ก็น่าจะเป็นสัญญาณเตือนให้เราหันมาสนใจดูแลตัวเองและคนใกล้ตัวใน 3 เรื่องสำคัญ ดังนี้ค่ะ
1.การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อต้านทานโรค
-
ออกกำลังกาย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที
-
รับประทานอาหารที่หลากหลาย เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน
-
นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
-
ดูแลบ้านให้สะอาด จัดบ้านให้ถูกสุขลักษณะ ไม่เป็นแหล่งเชื้อโรคและอันตราย
-
หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด
-
มีสุขภาพจิตที่ดี ไม่เครียด
-
ตรวจสุขภาพประจำปี
2.การดื่มน้ำมาก ๆ และสังเกตปัสสาวะของตนเอง
-
ดื่มน้ำสะอาด วันละ 6-8 แก้ว
-
อย่ากลั้นปัสสาวะ
-
สังเกตสีและลักษณะปัสสาวะ หากมีความผิดปกติ เช่น ปัสสาวะสีเข้มจัด หรือแดงคล้ายเลือด หรือมีตะกอน / ก้อนกรวดเล็ก ๆ หรือปัสสาวะกะปริดกะปรอย หรือปัสสาวะแล้วเจ็บ ปวดท่อปัสสาวะ/ท้องน้อย ควรไปพบแพทย์
-
เมื่อไปพบแพทย์และต้องเก็บปัสสาวะส่งตรวจ ควรเก็บให้ถูกวิธี เพื่อให้ได้คำวินิจฉัยที่ถูกต้อง โดยปัสสาวะทิ้งไปนิดหนึ่งก่อนแล้วจึงปัสสาวะลงภาชนะเก็บสิ่งส่งตรวจ
3.การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ทั้งที่บ้านและโรงพยาบาล
-
ล้างมือบ่อย ๆ ให้เป็นนิสัย โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ
-
เมื่อไปเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการลดการแพร่กระจายเชื้ออย่างเคร่งครัด เช่น การเปลี่ยนชุดเพื่อเข้าเยี่ยมผู้ป่วย การล้างมือเมื่อเข้า-ออกจากห้องผู้ป่วย
พญ.สุรางค์ เมฆดี
ศูนย์แพทย์โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
สาขาสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พญ.ประกายทิพ สุศิลปรัตน์
กลุ่มภารกิจปฐมภูมิ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา