หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

Share แชร์โพสท์โดย moses

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

 

 

ศิลปิน ส่วนใหญ่จะมีความคิดเป็นตัวของตัวเองแบบสุดโต่งที่เราก็ไม่อาจเข้าใจได้ ในบรรดานักสร้างสรรค์เหล่านี้มีบางคนที่ใช้ร่างกายมนุษย์ทั้งของตัวเองและคน อื่นสร้างออกมาเป็นผลงานสุดขั้วที่น่าทึ่งและน่ากลัวไปพร้อมๆกัน

 

 

 

ศิลปินใช้เลือดของตัวเองสร้างรูปปั้น

 

 

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

Marc Quinn กำลังยืนดูผลงานของตัวเอง

 

ที่มาภาพ  hyde or die

 

 

 

Marc Quinn เป็นศิลปินชาวอังกฤษที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพ Rembrandt ศิลปินชื่อดังในอดีตที่วาดภาพตัวเองติดต่อกันเป็นเวลาหลายปีตั้งแต่หนุ่มจน แก่ เขาจึงตัดสินใจจะทำแบบเดียวกัน แต่แทนที่จะใช้สีวาดเป็นภาพแบบทั่วๆ ไป เขาใช้เลือดของตัวเองที่แช่แข็งมาทำเป็นรูปปั้นส่วนหัวของตัวเองที่ดูน่าสยด สยองแทน

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ npg

 

 

 

รูป ปั้นแต่ละอันนี้จะต้องใช้เลือดของถึง 4.25 ลิตรในการสร้างขึ้นมา ซึ่งเป็นจำนวนพอๆ กับเลือดทั้งร่างกายของมนุษย์หนึ่งคนเลยทีเดียว เขาเก็บสะสมเลือดของตัวเองไว้โดยการไปให้แพทย์เจาะเลือดออกมา 0.4 ลิตร ทุกๆ 6 สัปดาห์ตลอดทั้งปี ปัจจุบันนี้เขาสร้างรูปปั้นได้ 5 ชิ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ.1991 และทำอันใหม่ขึ้นทุกๆ 5 ปี เพื่อเป็นการบันทึกความเปลี่ยนแปลงของหน้าตาตัวเองเมื่ออายุมากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ  hyde or die

 

 

 

ผลงานของเขาชุดนี้ส่วนมากจะอยู่ในการครอบครองของนักสะสม และในปี ค.ศ.2009 ก็มีชิ้นหนึ่งถูกขายไปให้กับ National Portrait Gallery ประเทศ อังกฤษ ในราคา 465,000 ดอลล่าร์สหรัฐ แต่การเก็บรักษาและจัดแสดงผลงานที่ทำจากเลือดนี้ค่อนข้างยุ่งยากมาก ผลงานจะต้องถูกตั้งแสดงไว้ในตู้แช่เย็นตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นมันก็จะเริ่มละลาย

 

 

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ mary boone gallery

 

 

 

Quinn บอก เอาไว้ว่า รูปปั้นรูปหัวชิ้นสุดท้ายจะสร้างขึ้นหลังจากเขาเสียชีวิตโดยใช้เลือดทั้งหมด ในร่างกายของเขา ซึ่งกว่าจะถึงเวลานั้น ประมาณการได้ว่าจะใช้เลือดของเขาไปทั้งหมด 42.5 ลิตร

 

 

 

********************************************

 

...สร้างหุ่นจำลองตัวเอง...

 

...โดยใช้ผม เล็บ และฟันของตัวเองจริงๆ...

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ ripleys

 

 

 

ในปี ค.ศ.1885 ศิลปินชาวญี่ปุ่น Hananuma Masakichi พบว่าตัวเองกำลังป่วยและจะเสียชีวิตจากโรควัณโรค เขาจึงได้สร้างหุ่นจำลองตัวเองขึ้นมาเพื่อเป็นของที่ระลึกให้กับหญิงคนรัก

 

Masakichi สร้าง ผลงานขึ้นในห้องที่เต็มไปด้วยกระจกเพื่อเขาจะได้เห็นรายละเอียดทุกอย่างของ ร่างกายตัวเอง ตั้งแต่เส้นเลือดไปจนถึงรูขุมขน หุ่นนี้ทำขึ้นจากไม้สีเข้มยึดต่อกันด้วยหมุด กาว และสลัก ซึ่งรอยต่อทั้งหมดนี้แนบเนียนเสียจนมองไม่เห็นแม้จะใช้แว่นขยายส่องดูก็ตาม และที่สุดยอดไปยิ่งกว่านั้นคือ หุ่นจำลองนี้มีชิ้นส่วนจริงๆ ของตัวศิลปินอยู่ด้วย

 

เพื่อที่จะได้หุ่นจำลองที่ตรงกับของจริงที่สุด Masakichi ดึงเส้นผมและเล็บของตัวเองใส่ไปให้ตำแหน่งเดียวกับร่างกายของเขา ถึงขนาดใช้สว่านเล็กๆ เจาะพื้นผิวให้เป็นรูขุมขนเหมือนของจริง และมีการบันทึกไว้ว่าเขาถึงกับถอนฟันของตัวเองออกมาใส่ให้กับหุ่นอีกด้วย

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ Cracked

 

หลังจากเขาสร้างหุ่น เสร็จสิ้นแล้ว Masakichi จัดงานแสดงผลงานของตัวเองโดยเขาไปยืนอยู่ข้างๆ หุ่นแล้วให้ผู้คนเดากันว่า อันไหนคือคนจริง อันไหนคือหุ่นจำลอง

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ anomalies

 

แต่ท้ายที่สุดแล้ว Masakichi ก็กลับรอดชีวิตจากโรควัณโรค และอยู่ต่อไปอีก 10 ปี ในสภาพที่ถูกแฟนสาวทิ้ง หมดตัว และอาจจะไม่มีฟันเหลือด้วย หุ่นจำลองของเขาถูกขายไปให้กับ Robert Ripley ผู้ก่อตั้ง Ripley's Believe it or not  ในราคาเพียง 10 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐในช่วงต้นศตวรรษที่ 20

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ ripleys

 

*************************************************

 

...ถูกยิงและถูกตอกร่างไว้กับรถเพื่องานศิลปะ...

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ transpositions

 

เป็นที่ถกเถียงกันมานานเป็นร้อยๆ ปีแล้วว่า ศิลปะคืออะไรกันแน่ และอะไรบ้างที่เรียกได้ว่าเป็นศิลปะ สำหรับ Chris Burden ศิลปินการแสดงแล้ว ศิลปะของเขาคือ การถูกยิงด้วยปืนไรเฟิล

 

ในปี ค.ศ.1971 ผลงานชื่อว่า Shoot ของ Burden คือการให้เพื่อนยิงปืนไรเฟิลเข้าใส่ตัวเขาโดยให้ถากเนื้อต้นแขนไป แต่ด้วยความผิดพลาดหรืออะไรสักอย่าง กระสุนที่ควรจะแค่ถากๆ นี้กลับโดนเข้าไปที่แขนเขาเต็มๆ ต่อมา Burden บรรยายประสบการณ์ในครั้งนั้นว่า "เลวร้ายมาก แต่ก็น่าสนใจดี"

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ  juleswidmayer

 

Burden ซึ่ง พออกพอใจกับผลที่ได้ เริ่มสร้างงานศิลปะที่เป็นการทำร้ายตัวเองต่อไป ไม่กี่ปีต่อมา เขาตรึงร่างตัวเองแบบตรึงไม้กางเขนเข้ากับหลังคารถ Volkswagen และขับไปรอบๆ เมือง ซึ่งผลงานครั้งนี้กลายเป็นที่โด่งดังขึ้นมาถึงขนาดกลายเป็นส่วนหนึ่งในเนื้อเพลง "Joe the Lion" ของ ศิลปิน Devid Bowie

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ volny

 

แต่ผลงานศิลปะแบบทำร้าย ตัวเองของเขาไม่ได้มีเพียงแค่นี้  ในสมัยที่เขาเป็นนักศึกษาทำศิลปะนิพนธ์ MFA เขาขังตัวเองไว้ในล็อคเกอร์ขนาด กว้าง 2 ฟุต สูง 2 ฟุต และลึก 3 ฟุต เป็นเวลา 5 วันเต็มโดยไม่กินอะไรเลย นอกจากนั้น ยังมีผลงานที่เขาใช้กำไลทองแดงตรึงข้อมือ ขา และคอตัวเองไว้กับพื้น โดยมีสายไฟแรงสูงอยู่รอบๆ พร้อมกับถังใส่น้ำ ซึ่งคนดูสามารถสาดน้ำใส่เขาเพื่อให้ไฟช็อตได้ แต่ก็น่าแปลกที่ไม่มีใครทำแบบนั้นสักคน

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ medienkunstnetz

 

***********************************************

 

...อาเจียนลงบนผืนผ้าใบเพื่อสร้างงานศิลปะ...

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ ihazhoumous

 

ในบรรดาผลงานศิลปะสมัยใหม่ที่ดูเหมือนกับเป็นภาพที่ใครมาอาเจียนใส่ หนึ่งในนั้นคืองานของ Millie Brown ศิลปินสาวสร้างผลงานภาพวาดขึ้นมาจากอาเจียนของเธอจริงๆ

 

ใน การสร้างผลงาน Brown จะไม่กินอะไรเลยเป็นเวลาก่อนหน้านั้น 2 วัน เพื่อไม่ให้มีเศษอาหารไปปนอยู่ในผลงาน หลังจากนั้น เธอจะดื่มนมที่ผสมสีต่างๆ เข้าไป ล้วงคอ แล้วอาเจียนเอาสีออกมาลงบนผืนผ้าใบ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาหลายชั่วโมงให้การทำให้เสร็จสิ้น

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ xaxor

 

นอกจากขายผลงานที่ทำเสร็จเป็นชิ้นแล้ว เธอยังเปิดแสดงการสร้างผลงานต่อหน้าผู้ชมอีกด้วย (ดูเสร็จแล้วคงแทบจะไปคายของเก่าสร้างผลงานของตัวเองออกมาบ้าง) ซึ่งผลงานแบบชิ้นนี้ ขายได้ถึง 2,400 เหรียญดอลล่าร์

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ผลงานราคา 2,400 เหรียญดอลล่าร์

 

ที่มาภาพ xaxor

 

ถึงแม้จะดูไร้สาระแค่ไหน Brown ก็มีชื่อเสียงจากผลงานของเธอมาก ถึงขนาดได้รับเชิญให้ไปอาเจียนใส่ Lady Gagaาพ ในวิดีโอที่ใช้ฉายในการแสดงคอนเสิร์ต Monster Ball Tour อีกด้วย

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ร่วมงานกับ Lady Gaga ในวีดีโอที่ใช้ฉายในคอนเสิร์ต

 

ที่มาภาพ gaga journal

 

*********************************************

 

...สร้างรูปสลักจากศพ...

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ serkadis

 

Honore Fragonard เป็นนักกายวิภาคชาวฝรั่งเศสในช่วงยุคศตวรรษที่ 18 เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนักวาดภาพที่มีชื่อเสียง Jean-Honore Fragonard และอาจจะด้วยสาเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจเข้าสู่โลกแห่งศิลปะด้วยคน ด้วยการเปลี่ยนร่างคนตายให้กลายเป็นรูปแกะสลัก

 

Fragonard ได้ ศพที่ใช้สร้างผลงานมาจากลานประหาร โรงเรียนแพทย์ หรือแม้แต่ศพที่ขุดมาจากหลุมแบบสดๆ ร้อนๆ จากนั้นก็ใช้วิธีการเก็บรักษาศพที่เป็นความลับซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีใคร เข้าใจว่าทำอย่างไร แต่จากเท่าที่้นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันศึกษาดู พบว่าศพเหล่านี้ถูกฉีดด้วยของเหลวจากสารบางอย่างที่เขาคิดค้นขึ้น จากนั้นก็แยกชิ้นส่วนร่างกายออกมาก่อนจะติดมันกลับเข้าไปให้อยู่ในท่าทาง ต่างๆ  บางครั้งก็มีการรวมชิ้นส่วนของสัตว์เข้าไปในผลงานด้วย และท้ายที่สุด ก็ทาน้ำมันให้ทั่วเพื่อกันแมลง

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ ucarochester

 

Fragonard สร้าง ผลงานด้วยวิธีนี้ขึ้นมาประมาณ 700 ชิ้น ซึ่งมีเพียง 21 ชิ้นเท่านั้นที่ยังหลงเหลืออยู่จนถึงทุกวันนี้ และหนึ่งในชิ้นที่โด่งดังที่สุดก็คือร่างกายผู้ชายเหลือแต่กระดูกที่กำลัง ขี่ม้าที่เหลือแต่กระดูกเหมือนกัน ความจริงแล้วแต่ก่อนผลงานชิ้นนี้จะประกอบด้วยตัวอ่อนของทารกมนุษย์ แกะ และม้าจำนวนมากอีกด้วย แต่ปัจจุบันนี้ไม่มีใครทราบว่ามันอยู่ที่ไหนกันแน่

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ ucarochester

 

Fragonardาพ สร้่าง ผลงานเหล่านี้ขึ้นมาขณะที่เขารับตำแหน่งเป็นเป็นศาสตราจารย์คนแรกอยู่ใน โรงเรียนสำหรับสัตวแพทย์แห่งแรกของโลกเป็นเวลา 6 ปี หลังจากนั้นในปี ค.ศ.1771 เขาก็ถูกไล่ออกด้วยข้อหาว่าเป็นคนวิกลจริต

 

************************************************

 

...ศิลปะปล่อยให้ผู้ชมทำอะไรก็ได้กับตัวเอง...

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ 

 

ศิลปิน ในหัวข้อบนๆ ส่วนมากจะสร้างผลงานขึ้นมาโดยการทำร้ายตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นใช้เลือดตัวเอง ดึงเล็บตัวเอง หรือทำให้ตัวเองอาเจียน แต่สำหรับ Marina Abramovic ศิลปินสาวชาวเซอร์เบีย เธอปล่อยให้คนดูเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะทำอะไรกับร่างกายเธอ และแน่นอนว่าผลที่ได้ไม่น่าดูนัก

 

ก่อนหน้านี้ เธอทำการแสดงศิลปะมาก่อนหลายชิ้น เช่น การแทงนิ้วตัวเอง และการนอนอยู่กลางกองไฟที่เกือบทำให้เธอเสียชีวิต ในปี ค.ศ.1974 เธอตัดสินใจสร้างผลงานการทำร้ายตัวเองให้สูงขึ้นไปอีกขั้นด้วยผลงานที่ชื่อ ว่า "Rhythm 0" โดย การยืนนิ่งอยู่หน้าโต๊ะที่มีของวางอยู่ 72 ชิ้น รวมถึงอาวุธอันตรายเช่น ปืน โซ่เหล็ก ขวาน และใบมีดโกน นอกจากนั้น จะมีป้ายบอกเหล่าผู้ชมว่า พวกเขาสามารถใช้ของบนโต๊ะเหล่านี้ทำอะไรก็ได้กับ Abramovic โดยที่เธอจะไม่พูดอะไรและไม่ขัดขืน

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ artobserved

 

เริ่มแรกผู้ชมพากันลองแหย่เธอเล่นๆ อย่างพยายามจั๊กกะจี้เธอด้วยขนนก หรือเอาเสื้อโค้ทมาแขวนไว้ตามตัวเธอ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปปฏิกิริยาของผู้ชมก็เริ่มก้าวร้าวขึ้น บางคนฉีกเสื้อผ้าเธอออกและเอาหนามกุหลาบกดลงไปบนตัวเธอ บางคนก็ใช้มีดกรีดตามตัวเธอ แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ มีบางคนเอาปืนที่มีกระสุนอยู่จ่อไปที่เธอแต่ Abramovie ก็ไม่ขัดขืนแต่อย่างใด การแสดงนี้กินเวลา 6 ชั่วโมง

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มาภาพ meandthewhitelash , gmoa

 

หลังจาก 6 ชั่วโมงผ่านไป Abramovic ก็เริ่มขยับแล้วเดินเข้าไปในกลุ่มผู้ชม ซึ่งพากันแตกตื่นและวิ่งหนีไปหมด ส่วนที่แปลกที่สุดของเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ไอเดียการแสดงแปลกๆ แบบนี้เท่านั้น แต่เป็นการที่คนธรรมดาที่มาชมงานศิลปะกลายเป็นคนที่พร้อมทำอันตรายคนอื่นได้ อย่างง่ายดาย ดังนั้น น่าจะถือได้ว่าการแสดงของเธอครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

 

 

 

เหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้วเหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้วเหล่า "ศิลปิน" ที่ใช้ "ร่างกายมนุษย์" สร้างสรรค์งานศิลปะอันสุดขั้ว

 

ที่มา : Cracked

แปลและเรียบเรียงโดยทีมงาน everyday-readers.com
http://www.clipmass.com/story/63039
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 


โพสท์โดย: moses
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
40 VOTES (4/5 จาก 10 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รถบินได้ ได้รับการอนุมัติแล้วสาวสั่งอาหารผ่านแอพฯ แต่ไรเดอร์แชทบอกเธอให้เปลี่ยนร้าน เพราะร้านนี้สกปรกมาก 😌
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
รพ.แม่ลาน แจง! "บังชาติ"หรือ"แม่หญิงลี" ไม่ได้เป็นบุคลากรรพ.แม่ลาน หลังบุคคลดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจผิด!อ่านนิยายไร้สาระจริงหรือ"ซีอิ๊วแบบเม็ด" ฉีกทุกกฎของซอส..นวัตกรรมใหม่จาก "เด็กสมบูรณ์""บิ๊กเต่า" รับหลักฐาน "ทนายตั้ม" ลั่น ใหญ่แค่ไหนก็จับ ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง
ตั้งกระทู้ใหม่