ครั้งแรก… ของยูเซอริน กับการเปิดเผยผลลัพธ์สุดทึ่ง!จากบทพิสูจน์ทางการแพทย์ รับรองประสิทธิภาพ ผลิตภัณฑ์ “ยูเซอริน ไวท์ เธราพี”

ครั้งแรก… ของยูเซอริน กับการเปิดเผยผลลัพธ์สุดทึ่ง!

จากบทพิสูจน์ทางการแพทย์ รับรองประสิทธิภาพ ผลิตภัณฑ์ “ยูเซอริน ไวท์ เธราพี”

ด้วยค่าเม็ดสีเมลานินที่ลดลงถึง 48% แก้ปัญหาจุดด่างดำใต้ผิวของผู้หญิงไทยได้จริง

ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมแห่งศาสตร์วิทยาการผิวตลอดกาล...

นับเป็นเวลามากกว่า 112 ปีที่ ยูเซอริน อยู่เบื้องหลังความสวยและสุขภาพดีของผิวผู้หญิงหลายล้านคนทั่วโลก ด้วยนวัตกรรมและวิทยาการที่ล้ำหน้าจากการทำงานร่วมกับแพทย์ผิวหนังและผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด ทั้งยังให้ความสำคัญกับคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นที่ผลิตขึ้นด้วยการทุ่มเทเวลาทำการศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้ถือได้ว่า ยูเซอริน เป็นผู้เชี่ยวชาญความงามด้านผิวพรรณและเวชสำอางแบรนด์แรกที่จับมือร่วมกับแพทย์ผิวหนังชั้นนำในประเทศไทย จัดทำ Clinical study เพื่อทดสอบและยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์“ยูเซอริน ไวท์ เธราพี”และเปิดเผยผลอย่างเป็นทางการกับเหล่าบรรณาธิการความงามจากนิตยสารชั้นนำของประเทศไทยว่า “ยูเซอริน ไวท์ เธราพี” สามารถช่วยแก้ไขปัญหา จุดด่างดำ กระ ฝ้า รอยสิว และสีผิวไม่สม่ำเสมอ ที่ฝังลึกและแก้ไขยากในผิวคนไทยโดยวัดจากค่าเม็ดสีเมลานินที่ลดลงมากถึง 48% และ ในทางสถิติถือว่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับความเชื่อมั่น 99.999% ในระยะเวลาเพียง 4 สัปดาห์ ตอกย้ำความเชื่อที่ว่านวัตกรรมในการดูแลผิวนั้นจะต้องมีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาผิวในระดับลึกภายใต้ผิว และมีความปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว โดยมีการพิสูจน์ยืนยันทางการแพทย์ด้วยผลทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถวัดได้จริง

Clinical study มีความสำคัญอย่างไร และมีความแตกต่างจากการทดสอบความพึงพอใจอย่างไร

Clinical study คือ การศึกษาวิจัยทางการแพทย์ เพื่อทดสอบผลลัพธ์ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัยและผลข้างเคียงของยา กลุ่มสาร หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยดำเนินการวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญ ทำการทดสอบกับผู้ใช้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจริง ไม่ใช่เพียงการทดลองในห้องแล็บ และใช้ระยะเวลาในการทดสอบเหมือนการใช้จริง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะต้องใช้เวลาประมาณ 4 – 8 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับชนิดของผลิตภัณฑ์ที่ทดสอบ รวมถึงจะต้องมีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ตลอดการศึกษา

ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมักใช้การวัดผลจากความรู้สึกของผู้ทดลองใช้เพียงอย่างเดียว แต่การวัดผลในการทำ Clinical study จะเป็นการวัดผลทางวิทยาศาสตร์ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อพิสูจน์ว่าหลังใช้มีการพัฒนาขึ้นมากน้อยเพียงใด เป็นผลที่จับต้องได้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ผิวหนังที่มีความชำนาญ ไม่ใช่แค่การวัดผลความพึงพอใจของผู้ใช้ซึ่งเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ โดยทางการแพทย์จะมีการวัดผลด้วย 3 วิธี คือ วัดด้วยการประเมินโดยใช้ความรู้สึก และการประเมินโดยสายตาจากทั้งอาสาสมัครที่ทดลองใช้ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ทำการทดลอง (Subjective measurement) การวัดประเมินด้วยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ให้ผลออกมาเป็นค่าตัวเลขที่เปรียบเทียบผลได้อย่างชัดเจน (Objective measurement) และการวัดประเมินโดยใช้เครื่องตรวจสภาพผิวที่มีความละเอียดสูง สามารถเห็นจุดด่างดำที่ก่อตัวภายใต้ผิวที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งในการทำ clinical study ต้องควบคุมสภาวะแวดล้อม ต่ำแหน่งการตรวจสภาพผิวและปริมาณแสงให้เหมือนเดิมในทุกครั้งเมื่อมีการวัดผลซ้ำ ซึ่งถ้าหากประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ออกมาในทิศทางเดียวกันจากทั้ง 3 วิธี ในการวัด แสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆมีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือสูง

ครั้งแรกกับการเปิดเผยผลการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ที่น่าทึ่งเพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ยูเซอริน ไวท์ เธราพี กับกลุ่มผู้หญิงไทยที่ใช้จริง

ยูเซอริน ได้ร่วมจัดทำ Clinical study ภายใต้การควบคุมของ นายแพทย์ จินดา โรจนเมธินทร์ แพทย์ผิวหนังชั้นนำของประเทศไทย เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ “ยูเซอริน ไวท์ เธราพี” ในการลดเลือนจุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ โดยช่วยลดจำนวนเม็ดสีเมลานินในชั้นผิว ทำให้ผิวกระจ่างใสทั้งภายนอกชั้นผิวและในชั้นผิวที่มองไม่เห็น รวมถึงความปลอดภัยต่อผู้ใช้ โดยผู้เข้าร่วมการศึกษาวิจัยเป็นอาสาสมัครผู้หญิงไทยจำนวน 30 คน ช่วงอายุระหว่าง 20-30 ปี ที่มีปัญหาของผิวด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และเคยผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์ชั้นนำในกลุ่มไวท์เทนนิ่งต่างๆ มาก่อน โดยให้ผู้ร่วมการศึกษาทั้ง 30 คน ใช้ผลิตภัณฑ์     “ยูเซอริน ไวท์ เธราพี” ทั้งหมดจำนวน 5 ชิ้น ได้แก่ โฟมล้างน้า ครีมบำรุงผิวหน้าสูตรกลางวัน และกลางคืน ซีรั่ม และ สปอตคอร์เรคเตอร์ ซึ่งมีส่วนผสมที่สำคัญ หรือ Active ingredient คือ บี-รีซอซินอล ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยลดเม็ดสีเมลานินในผิว เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ และเพื่อให้ได้ผลที่แท้จริงจากการทดลองผลิตภัณฑ์ อาสาสมัครทุกคนจะต้องงดการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวกระจ่างใสอื่นๆเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนเริ่มการทดลองจริง โดยมีการวัดผลทั้งจากการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง จากความรู้สึกของตัวอาสาสมัครเอง (Subjective Measurement) และจากการตรวจด้วยเครื่องวัดทางวิทยาศาสตร์ (Objective Measurement) เช่น เครื่อง Visea UV spot(ตรวจวิเคราะห์เมลานินใต้ผิวที่อาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า)  และเครื่อง DSM II ColorMeter (Cortex Technology)(ตรวจความกระจ่างใสของผิว และวัดปริมาณความเข้มข้นของเม็ดสีเมลานิน) เพื่อเปรียบเทียบภาพถ่ายจุดด่างดำบนใบหน้าที่สามารถมองเห็นได้ทั้งก่อนและหลังการใช้ผลิตภัณฑ์  

ผลการวิจัยพบว่าผิวของผู้หญิงไทยที่ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ “ยูเซอริน ไวท์ เธราพี” ขาวกระจ่างใสขึ้นโดยวัดจากค่าเม็ดสีเมลานิน (melanin index) ที่ลดลงมากถึง 48% และ ในทางสถิติถือว่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับความเชื่อมั่น 99.999%นอกจากนั้นปัญหาจุดด่างดำฝังลึกในชั้นผิวที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาปล่าวยังดูลดลงอย่างเห็นได้ชัดภายใน 4 สัปดาห์ จากการเปรียบเทียบภาพถ่ายจากเครื่อง ViseaUV spot

นายแพทย์ จินดา โรจนเมธินทร์ กล่าวว่า “ในการวัดจุดด่างดำแต่ละจุดบนใบหน้าของอาสาสมัคร แพทย์ผู้ควบคุม clinical study จะต้องมีความแม่นยำในการตรวจวัดความเปลี่ยนแปลงของจุดด่างดำในผิวในทุกๆ ครั้งที่ตรวจ จะต้องแน่ใจว่าเป็นการวัดที่จุดเดียวกัน เพราะถ้าหากเราวางการวัดผิดจุด ถึงแม้จะแค่นิดเดียวก็ตาม ปริมาณเม็ดสีเมลานินจะไม่เท่ากัน ผลที่ได้จะคลาดเคลื่อน เช่น หากเราจะวัดปริมาณเม็ดสีเมลานินใต้ผิวบริเวณโหนกแก้มข้างขวา เราต้องใช้ไม้บรรทัดวัดจากรูม่านตาไป 2 ซ.ม. ถึงบริเวณที่มีจุดด่างดำ ทำให้ทุกครั้งที่กลับมาวัดใหม่จะสามารถวัดได้ในจุดเดิม ซึ่งทำให้ผลที่ได้มีความแม่นยำ นี่คือหนึ่งในข้อแตกต่างที่สำคัญของการทำ clinical study และการวัดผลความพึงพอใจผู้ใช้ ทำให้ผลการทำ clinical study มีความเป็นกลาง แม่นยำ เชื่อถือได้ และเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์”

 “ยูเซอริน ไวท์ เธราพี” ผสานสองพลังประสิทธิภาพ ขจัด 5 ปัญหาจุดด่างดำลึกถึงจุดกำเนิด ไขกุญแจสำคัญสู่ผิวขาวกระจ่างใสอย่างยั่งยืนแท้จริง

 “ยูเซอริน ไวท์ เธราพี” ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยไขกุญแจสู่การครอบครองผิวขาวกระจ่างใสอย่างยั่งยืนแท้จริง ด้วยประสิทธิภาพสูงที่สุดที่ยูเซอรินเคยมีมา โดยใช้เวลาถึง 6 ปีในการค้นคว้าและวิจัย ด้วยการผสานสองพลังประสิทธิภาพจากสาร บี-รีซอซินอล ที่เป็นอนุพันธ์ของ Resorcinol หรือเป็นสารที่สามารถสกัดได้จากพืชหลายชนิด เช่น Sophora flavescens, Vicia Faba, Armillaria mellea และ Nuphar Lutea เป็นสารสำคัญที่ช่วยฟื้นบำรุงจุดด่างดำล้ำลึกถึงชั้นเซลล์ผิวที่จุดกำเนิด สามารถช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินทั้ง 2 ชนิด (เมลานินสีดำ และ เมลานินสีน้ำตาล) ที่มีอยู่ในผิวผู้หญิงไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการวิจัยเปรียบเทียบพบว่า  บี-รีซอซินอล มีประสิทธิภาพเหนือกว่าโคจิกแอซิด  (5.6เท่า) ไฮโดรควิโนน (100 เท่า) และอาร์บูติน (380 เท่า) ซึ่งเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน 
นอกจากนั้น ยูเซอรินยังได้พัฒนาสาร กลีเซอริทินิค (Glycyrrhetinic) สารสกัดจากรากของต้น ลิโคริส (Licorice หรือ ชะเอม) ซึ่งเป็นพืชที่พบได้บนเทือกเขาสูงและต้องเผชิญกับแสงแดดที่มีปริมาณรังสียูวีที่เข้มมากเป็นพิเศษ แต่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้เนื่องจากพืชชนิดนี้มีกระบวนการปกป้องตนเองที่พัฒนาขึ้นมาตามธรรมชาติ โดยการปล่อยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ออกมาเพื่อกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อเซลล์พืช จากการวิจัยพบว่าสารกลีเซอริทินิค สามารถช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมและลดเซลล์ผิวคล้ำเสียที่ถูกรังสียูวีทำร้ายอย่างล้ำลึกถึงจุดกำเนิดถึง 40% พร้อมช่วยเสริมเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรงขึ้น ไม่ไวต่อรังสียูวี และปัจจัยอื่นๆที่ก่อให้เกิดจุดด่างดำฝังลึกแก้ไขยาก

คุณมัทนี ศิริกายะ Group Product Manager ยูเซอริน (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ยูเซอริน ตระหนักถึง ปัญหาที่ผู้หญิงหลายๆ คนมี นั่นก็คือผิวที่ดูภายนอกแลดูเหมือนจะไม่มีปัญหา แต่ที่จริงแล้ว ภายใต้ผิวนั้นเริ่มมีจุดด่างดำและปัญหาผิวต่างๆ เริ่มก่อตัวอยู่ในระดับลึก ผู้หญิงส่วนมากมักไม่รู้ถึงความลับใต้ผิวของตัวเอง ทำให้ดูแลผิวแค่เพียงผิวเผิน ซึ่งวันหนึ่งปัญหาที่ซ่อนอยู่นี้ก็จะปรากฏให้เห็นและแก้ไขยากหากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี ทำให้ผิวของเราไม่สามารถสวยได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของแคมเปญ Eucerin Skin Science Secret ที่เราอยากจะชวนให้ผู้หญิงมาค้นพบความลับที่อยู่ใต้ผิวของตัวเองด้วยการตรวจผิวด้วยนวัตกรรม iPV (Invisible Pigmentation Visualizer)  เพื่อที่จะดูแลและป้องกันปัญหาผิวได้อย่างถูกต้องถูกจุดจากภายใน นอกจากนั้น ยูเซอริน ยังทุ่มเทและมุ่งเน้นที่จะทำ clinical study เพื่อยืนยันประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์ ด้วยผลวิจัยทางวิทยาศาตร์ที่พิสูจน์ได้ว่า สามารถแก้ปัญหาผิวได้ตรงจุดด้วยการทำงานลึกในระดับชั้นผิว และมีความปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว เพื่อผิวสวยและสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก”

 คุณแพร พิมพิศา จิราธิวัฒน์ หนึ่งในสาวหน้าใสที่ได้ร่วมค้นพบความลับใต้ผิวกับ ยูเซอริน กล่าวว่า “แพรเป็นคนผิวปกติ ตั้งแต่สมัยอยู่มัธยมก็ไม่ได้มีสิว หรือรอยจุดด่างดำ เหมือนเพื่อนๆ ก็เลยคิดว่าผิวคงไม่มีปัญหาอะไร และครีมที่ใช้อยู่ก็น่าจะดีพอแล้ว จนกระทั่งได้มาตรวจสภาพผิวกับยูเซอริน และได้พูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง จึงทราบว่าจริงๆแล้วใต้ผิวของเราเริ่มมีจุดด่างดำก่อตัวซ่อนเร้นอยู่ โดยที่ยังไม่ปรากฎให้เห็นภายนอก ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแล หรือป้องกันที่ถูกต้องเม็ดสีเมลานินที่ก่อตัวขึ้นก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ และปรากฎให้เห็นในที่สุด ซึ่งหากเราไม่ได้มีโอกาสมาตรวจ ก็คงจะไม่ได้รับรู้ถึงความลับใต้ผิว และคงจะปล่อยเลยตามเลย ไม่ได้ใส่ใจจะแก้ปัญหาที่มีอยู่”

***********************