Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

คิดว่าทริปนี้จัดโปรแกรมทัวร์เป็นไงบ้าง

โพสท์โดย sayit

พอดีกำลังทำรายงานการวิจัย เรื่องเกี่ยวการจัดทัวร์อยู่ เลยอยากให้ใครก้ได้ที่มีความรู้หรือประสบการณ์การจัดทริปท่องเที่ยว หรือเคยไปช่วยตอบคำถามหน่อย จากโปรแกรมทัวร์นี้ ของ AIS trip คิดว่าจัดโปรแกรมได้ดีมากน้อยแค่ไหน
โปรแกรมแน่นไปหลวมไป ระยะเวลาที่กำหนดเป็นอย่างไร และที่สำคัญการจัดลำดับสถานที่ที่เข้าเยี่ยวชมมีความเหมาะสม เสียเวลาหรือไปอย่างไร
ช่วยตอบหน่อน้าาา ทริปนี้เขาจะไป วันที่ 4 ก.ค.นี้แล้ว ใครอ่านแล้วสนใจคิดว่าทริปนี้เจ๋ง ก็ไปร่วมลงทะเบียนทริปนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/ais.privilege/app_133261546839516?ref=ts

 

 

ตย. โปรแกรมทัวร์ 

 

วันแรกของการเดินทาง      กรุงเทพฯ – ย่างกุ้ง – สิเรียม – ชเวดากอง 

 

06.30 น.   พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ Fสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส  โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวก

 

08.50 น .   เหินฟ้าสู่ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ PG 701

(เวลาท้องถิ่นของพม่าจะช้ากว่าประเทศไทย 30 นาที)

 

09.40 น .   ล้อแตะรันเวย์ สนามบินเม็งกลาดง กรุงย่างกุ้ง  หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าแล้ว นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองย่างกุ้ง

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Western Park ชิมเมนู เป็ดปักกิ่ง และ สลัดกุ้งมังกร 

บ่าย   ออกเดินทางสู่ เมืองสิเรียม หรือ Thanlyin ( ระยะทางห่างจากย่างกุ้งประมาณ 45 กิโลเมตร) เมื่อเดินทางถึงสิเรียม ชมความสวยงามแปลกตาของเมือง ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นเมืองท่าของโปรตุเกสในสมัยโบราณ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำย่างกุ้งที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอิระวดี 

นำท่านนั่งเรือข้ามสู่ เกาะกลางน้ำ ชม พระเจดีย์เยเลพญา (Kyaik Hwaw Wun Pagoda) เจดีย์ที่สร้างบนเกาะกลางน้ำอายุนับพันปี ตามตำนานเล่าว่า เจดีย์แห่งนี้สร้างในสมัยมอญเรืองอำนาจ เมื่อราวพันกว่าปีก่อน โดยมีคหบดีชาวมอญเป็นผู้สร้างและยังได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าน้ำท่วมก็ขออย่าให้ท่วมองค์พระเจดีย์ ถ้ามีผู้คนมากราบไหว้จำนวนมากเท่าไหร่ก็ขอให้ไม่มีวันเต็มล้นพื้นที่ เพราะเจดีย์แห่งนี้สร้างบนเกาะมีสภาพเป็นเพียงเกาะเล็กๆกลางแม่น้ำกว้างใหญ่เท่านั้น และเจดีย์แห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่อง ไหว้พระขอพรเพื่อธุรกิจทางการค้า นำท่านสักการะ พระงาซัด พระพุทธรูปที่องค์ท่านประกอบไปด้วย อัญมณี 5 ประการเปรียบได้กับสักการะ 5 ศิริมงคล และที่บริเวณท่าเทียบเรือบนเกาะ สามารถซื้ออาหารเลี้ยงปลาดุกขนาดใหญ่นับร้อยๆ ตัวที่ว่ายวนเวียนให้เห็นครีบหลังที่โผล่เหนือผิวน้ำ ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับเข้าสู่ย่างกุ้ง 

   นำท่านเข้าชม เจดีย์โบตะทาวน์ (Bothatown Pagoda) เล่ากันว่ามีพระสงฆ์แปดรูปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์มาประดิษฐานไว้ ณ ที่นี้ ให้กำลังทหารมาเฝ้าไว้ แต่เจดีย์องค์ที่เห็นปัจจุบันนั้น เป็นองค์ที่สร้างขึ้นใหม่ เจดีย์องค์เดิมนั้นได้พังทลายลงมาจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรใน ค.ศ.1943 ปรากฏว่าได้พบพระพุทธรูปทองคำ เงิน และสำริด อีกราว 700 องค์ และจารึกดินเผา อีกจำนวนหนึ่ง ปัจจุบันได้นำมาจัดแสดงไว้ให้ชมบางส่วนเท่านั้น เป็นนี้เป็นเจดีย์ทรงระฆังสูง 40 เมตร ข้างในกลวง มีงานประดับด้วยกระจกสีที่ประณีตสวยงาม ผนังด้านในเจาะเป็นช่องคูหาเล็กๆ ไว้สำหรับนั่งสมาธิ ด้านตัววัดแยกออกมา 

และที่ขาดไม่ได้เลยต้องมาสักการะขอพรกับ เทพทันใจ เป็นเทพที่ถือกันว่าขอพรได้เร็วดั่งใจและข้ามถนนไปอีกฝั่งจะได้สักการะขอพรกับ เทพกระซิบ ซึ่งเชื่อกันว่าเทพองค์นี้จะต้องไปขอพรเบาๆข้างๆหูของท่านแล้วจะสำเร็จตามที่ขอ จึงเป็นที่มาของชื่อท่าน ดังนั้นท่านไหนอยากจะให้พรที่ตัวเองขอสำเร็จผลอย่างรวดเร็วต้องอย่าพลาดมา

 

17.30 น.   นำท่านกราบนมัสการ มหาเจดีย์ชเวดากอง พระมหาเจดีย์ทองคำอันงดงาม เป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานแห่งประเทศพม่า ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้ง มีความสูงประมาณ 109 เมตร รอบฐานพระมหาเจดีย์รายล้อมไปด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ อีกร้อยองค์ มีซุ้มประตูสี่ด้าน บนยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์ประกอบด้วยเพชรและพลอยมากมาย นับเป็นงานสถาปัตยกรรมฝีมือช่างพม่าที่งดงาม สันนิษฐานว่าการก่อสร้างเริ่มขึ้นตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษแรกๆ เชื่อกันว่าภายในองค์พระมหาเจดีย์ได้บรรจุ เส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น พระมหาเจดีย์นี้ยังคงฐานะของพุทธสถานอันเป็นที่พึ่งทางใจของคนพม่าในทุกชั้นวรรณะทุกเพศทุกวัย ครั้งหนึ่งในชีวิตของชาวพม่าจะต้องหาโอกาสมานมัสการให้ได้  นำท่านสักการะองค์เจดีย์ ณ ลานอธิฐาน จุดที่ผู้ชนะสิบทิศ บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบ ชมระฆังใบใหญ่ที่อังกฤษพยายามจะเอาไปแต่เกิดพลัดตกแม่น้ำย่างกุ้งเสียก่อนอังกฤษกู้เท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นจนชาวพม่า ช่วยกันกู้ขึ้นมาแขวนไว้ที่เดิมได้ จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีซึ่งชาวพม่าถือว่าเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ ให้ตีระฆัง 3 ครั้งแล้วอธิษฐานขออะไรก็จะได้ ชม พระที่มีดวงตามนุษย์อยู่ข้างใน  ชาวพม่าเชื่อว่าเป็น พระแห่งความสำเร็จ 

ค่ำ      รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Fook Man Loa

      เช็คอินเข้าสู่ที่พักระดับ 5 ดาว ณ โรงแรมเซโดนา ย่างกุ้ง (Sedona Hotel Yangon) หรือ เทียบเท่า

 

 

วันที่สองของการเดินทาง       ย่างกุ้ง – หงสาวดี – พระธาตุมุเตา – พระราชวังบุเรงนอง – ย่างกุ้ง 

 

07.00 น .   รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

08.00 น.      นำท่านเดินทางสู่ เมืองหงสาวดี (ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง) 

   เมือง หงสาวดี (Hansawadee) หรือที่คนมอญเรียกว่า เมืองพะโค (Bago) เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ทั้งทางด้านพระพุทธศาสนา และประวัติศาสตร์ชาติพม่า เป็นเมืองหลวงของชาวมอญมาก่อน ต่อมา พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ ยึดครองได้และสถาปนาเป็นศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์ตองอู เจริญรุ่งเรืองสุดขีดในรัชสมัยของพระเจ้าสิบทิศบุเรงนอง 

   นำท่านสักการะ พระธาตุมุเตา หรือ ชเวมอดอร์ (Shwe Mordore) องค์เจดีย์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองและยังเป็นอีก 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า ภายในบรรจุ พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า เจดีย์องค์นี้เป็นศิลปะที่ผสมผสานระหว่างศิลปะพม่าและศิลปะของมอญได้อย่างกลมกลืน พระเจดีย์สูง 377 ฟุต สูงกว่า พระเจดีย์ชเวดากอง 51 ฟุต มีจุดอธิษฐานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงบริเวณยอดฉัตร ที่ตกลงมาเมื่อปี พ.ศ. 2473 ด้วยน้ำหนักที่มหาศาล ตกลงมายังพื้นล่างแต่ยอดฉัตร กลับยังคงสภาพเดิมและไม่แตกกระจายออกไป เป็นที่ร่ำลือถึงความศักดิ์-สิทธ์โดยแท้โดยเฉพาะส่งเสริมบารมีในเรื่องของธุรกิจการค้า และ สถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่ พระเจ้าหงสาลิ้นดำ ตะเบ็งชเวตี้ ใช้เป็นที่เจาะพระกรรณ(หู) ตามพระราชประเพณีโบราณเพื่อทดสอบความกล้าหาญก่อนขึ้นครองราชย์ รวมถึง พระเจ้าสิบทิศบุเรงนองจะต้องกราบสักการะองค์พระเจดีย์ก่อนออกรบทุกครั้งห้องบรรทมของพระองค์จะต้องหันหน้าไปสู่ทิศที่พระธาตุตั้งอยู่

 

10.30 น.   นำท่านเดินทางไปยัง วัดไจ้คะวาย เพื่อทำบุญใส่บาตรข้าวสวยแด่ภิกษุ สามเณร นับร้อยๆรูป ที่นี้เราจะใส่บาตรข้าวสวยเพียงอย่างเดียว สำหรับอาหารทางชาวบ้านจะจัดเตรียมไว้ต่างหาก (หรือถ้าต้องการถวายสิ่งอื่นๆ ก็สามารถนำไปได้ตามกำลังศรัทธาสิ่งที่ทางวัดต้องการขณะนี้คือ เครื่องเขียน สำหรับการศึกษาของ ภิกษุ สามเณร) สถานที่แห่งนี้เป็นโรงเรียนสอนพระพุทธศาสนานักธรรมชั้น ตรี โท และ เอก 

ชม พระราชวังบุเรงนอง (Kanbawza Thardi Palace) พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของท่านผู้ที่ได้รับคำสรรเสริญว่าเป็น ผู้ชนะสิบทิศ และ พระนางสุพรรณกัลยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรืออีกชื่อนึงคือ กัมโพชธานี นับว่าเป็นพระราชวังใหญ่โตที่มีประตูทางเข้าออกถึง 10 ประตู สร้างโดยเกณฑ์ข้าทาสจากเมืองขึ้นต่างๆ โดยหนึ่งในนั้นมีเมืองเชียงใหม่และอยุธยารวมอยู่ด้วย ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้เหลือเพียงแต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ และถูกสร้างจำลองพระราชวังและตำหนักต่างๆ ขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากพงศาวดาร และความเข้าใจตามข้อมูลของกรมศิลปกรของรัฐบาลพม่า ภายในมีห้องบรรทม พระที่นั่งขี้ผึ้ง และพระที่นั่งสิงค์ (จำลอง) 

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารเจ้าสัว มีน้ำพริกปาราชอง พร้อมกุ้งแม่น้ำเผาคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด 

บ่าย    นำท่านนมัสการ พระพุทธไสยาสน์เฉว่ตาเหลียว (Shew Thalyang Buddha) หรือ พระนอน ที่จัดว่าเป็น พระนอนที่งามที่สุดในประเทศพม่า สร้างโดยพระเจ้าเมงกะติปะ กษัตริย์มอญ เมื่อ พ.ศ.1537 (ค.ศ.994) หรือในสมัยอาณาจักรสุธรรมวดี  ราวพุทธศตวรรษที่ 11 – 16 (พ.ศ. 1100 – 1600) ปัจจุบันพระนอนองค์นี้มีอายุ 1018 ปี องค์พระยาว 55 เมตร สูง 16 เมตร โดยพระบาทจะวางเหลื่อมกันซึ่งจะเป็นลักษณะที่ไม่เหมือนกับพระนอนของไทยที่นิยมสร้างให้เสมอกัน กล่าวกันว่าพระบาทที่วางเหลื่อมกันเป็นกิริยาของพรุทธองค์ก่อนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน นำท่านสักการะ เจดีย์สีขาว องค์พระเจดีย์ที่สร้างขึ้นโดยพระเจ้าสิบทิศบุเรงนอง ซึ่งน้อยคนนักที่จะได้ไปสักการะ   ภายในบริเวณของวัดมีของที่ระลึกจำหน่ายหลายชนิด ส่วนใหญ่จะเป็นงานฝีมือ ไม้แกะสลักฝีมือช่างหงสาวดี เช่น พระพุทธรูปแกะสลักจากไม้จันทน์หอม กล่องใส่นามบัตร และอื่นๆ อีกหลายชนิด จากนั้นนำท่านเดินทางต่อเพื่อชม พระพุทธรูป 4 ทิศ หรือ เจดีย์ไจ้ปุ้น (Kyaik Pun Pagoda) สร้างในปี 1476 ก่อเป็นแกนทึบสี่เหลี่ยมอยู่ตรงกลาง รอบๆ มีพระพุทธรูปนั่งสูง 30 เมตร ประดิษฐานอยู่ทั้งสี่ทิศ แทนองค์พระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ในภัทรกัป เล่ากันว่าสร้างขึ้นโดย สตรีสี่พี่น้องที่มีพุทธศรัทธาสูงส่งและต่างให้สัตย์

   สาบานว่าจะรักษาพรหมจรรย์ไว้ชั่วชีวิต ต่อมา 1 ใน 4 สาวหนีไปแต่งงาน ร่ำลือกันว่าทำให้พระพุทธรูปองค์นั้นเกิดรอยร้าวขึ้นทันที ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางกลับเมืองย่างกุ้ง 

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Royal Garden ลิ้มลองเมนู กั้งทอดกระเทียมพริกไทย กุ้งผัดพริกแดง

เดินทางเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย 

เข้าที่พักระดับ 5 ดาว ณ โรงแรมเซโดนา ย่างกุ้ง (Sedona Hotel Yangon) หรือ เทียบเท่า

 

 

วันที่สามของการเดินทาง           พระนอนตาหวาน – พิธีครอบเศียรครอบเกล้า – วัดบารมี – กรุงเทพ   

 

07.00 น .   รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

 

08.00 น.      สักการะ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี หรือ พระนอนตาหวาน (Kyauk Htatgyi Buddha) พระที่มีความสวยงามองค์หนึ่งมีขนตาที่งดงาม พระบาทมีภาพมงคล 108 ประการ จากนั้นแวะช็อปปิ้งที่ ตลาดโบฉกอองซาน (Bogyoke Aung San) หรือ ตลาดสก๊อต (Scot Market) เป็นตลาดเก่าแก่ของชาวพม่าสร้างขึ้นโดยชาวสก๊อตในสมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เป็นลักษณะอาคารเรียงต่อกันหลายหลัง สินค้าที่จำหน่ายในตลาดแห่งนี้มีหลากหลายชนิด เช่น เครื่องเงิน ที่มีศิลปะผสมระหว่างมอญกับพม่า ภาพวาด งานแกะสลักจากไม้ อัญมณี หยก ผ้าทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป แป้งทานาคา เป็นต้น (หากซื้อสิ้นค้าหรืออัญมณีที่มีราคาสูงควรขอใบเสร็จรับเงินด้วย ทุกครั้ง เนื่องจากจะต้องแสดงให้ศุลกากรตรวจ)  

กลางวัน      รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Golden Duck

บ่าย   นำคณะฯเดินทางสู่ เจดีย์กาบาเอ เป็นเจดีย์ที่สร้างโดยนายอูนุนายกรัฐมนตรีคนแรกของพม่า เพื่อร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ ครอบเศียร ครอบเกล้า เพิ่มสิริมงคลในชีวิตสำเร็จดั่งใจหวัง ด้วยพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคลานะ ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ เจดีย์แห่งนี้  นมัสการพระพุธรูปองค์จำลองของพระมหามุนีที่เมืองมัณฑเลย์ ชม ถ้ำมหาปาตะนะกูหะ เป็นสถานที่ที่เคยใช้เป็นสถานที่ชำระพระไตรปิฎกครั้งที่ 6 หลังจากได้รับอิสระจากอังกฤษ  

      จากนั้นนำท่านสักการะ พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ณ วัดบารมี ที่เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่จริง ด้วยองค์พระเกศาธาตุนี้ เมื่อนำมาวางบนมือ จะสามารถเคลื่อนไหวได้ อีกทั้งวัดบารมีนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นที่เก็บองค์พระบรมสารีริกธาตุไว้มากที่สุดด้วย ไม่ว่าจะเป็นของพระโมคาลา พระสารีบุตร และพระอรหันต์อื่นๆ และ พิเศษ ทุกท่านจะได้รับพระธาตุกลับไปบูชาที่บ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต

ได้เวลาพอสมควรเดินทางสู่ สนามบินเม็งกลาดง 

16.50 น      เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ ด้วย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ PG 704 

18.45 น.   ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ…….

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
sayit's profile


โพสท์โดย: sayit
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ตึกร้างที่สูงที่สุดในโลก!รัฐบาลทหารเมียนมา ปิดกั้นสื่อต่างชาติเข้ารายงานข่าวแผ่นดินไหว อ้างขาดแคลนทรัพยากร ขณะยอดเสียชีวิตพุ่งเกิน 2,400 รายเกาหลีใต้แจกฟรีวีซ่าให้หลายประเทศ แต่เมินคนไทยเลขเด็ด เลขมาเเรง เลขดัง “รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.16” งวดวันที่ 1/4/68🐠 แซลมอนเมืองไทย! ปรากฏการณ์ “ปลากอง” ที่บ้านผาสุก น่านมัดรวมเลขเด็ดสำนักพิมพ์ ไทยรัฐ เดลินิวส์บางกอกทูเดย์ งวดวันที่ 1 เมษายน 2568เกิดเหตุไฟไหม้ท่อส่งก๊าซในมาเลเซียพม่า 🇲🇲 : แผ่นดินไหวยังไม่สงบ! อาฟเตอร์ช็อกกว่า 170 ครั้ง ประชาชนหวั่นภัย ออกมานอนนอกบ้าน😻 ชวนเข้ามาดูเหล่าหัวขโมยตัวแสบที่สุดแสนน่ารักที่จะมาขโมยหาอาหารของคุณ 🐶คาราเต้สายดำ VS แม่ไม้มวยไทย เจอมวยไทยเข้าไป ถึงกับอึ้ง!ราชกิจจาฯ เผยกฎกระทรวง เพิ่ม “3 กลุ่มโรค” ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร9 อันตราย จากการดื่มกาแฟร้อนจากแก้วกระดาษ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ต้นไมยราบ: พืชธรรมดาที่กลายเป็คาราเต้สายดำ VS แม่ไม้มวยไทย เจอมวยไทยเข้าไป ถึงกับอึ้ง!วิหารฝังพระศwของฮัตเชปซุต (Mortuary temple of Hatshepsut)ราชกิจจาฯ เผยกฎกระทรวง เพิ่ม “3 กลุ่มโรค” ไม่ต้องเกณฑ์ทหารใครยังจำได้บ้าง เพลงประกอบ F4 รักใสใสหัวใจสี่ดวง เวอร์ชั่นภาษาไทย ดอกหญ้ากับพายุ
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง