ขึ้นคานแล้วหนาวไหม?

เรื่อง  :   ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ (จิตแพทย์)

คอลัมน์  :  รู้จักความรัก

          ‘ขึ้นคาน’ คืออะไร?
          เด็กๆและวัยรุ่นหลายคนคงไม่ทราบหรอก แต่ผู้ใหญ่รุ่นเก่าคงทราบดี เพราะหมายถึงผู้หญิงโสดที่มีอายุแล้วไม่ได้แต่งงาน เพราะหาคู่แต่งงานที่คู่ควรไม่ได้ จึงเรียกว่าผู้หญิงคนนี้ ‘ขึ้นคาน’
           หรือในความหมายแบบชาวบ้านคงนึกถึงเรือ (หญิงสาว) ที่ตกแต่งซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว เจ้าของนำมาขึ้นคานเรือเอาไว้รอฤกษ์หรือคอยคนมาเข็นเรือลงน้ำไปใช้งานได้ต่อไป
           แต่เจ้าของเรือก็ไม่มาเข็นเรือลงน้ำเสียที เรือจึงขึ้นคานค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น
           เปรียบเรือเป็นผู้หญิงที่อยู่บนคาน ไม่ได้แต่งงาน
           ส่วนผู้ชายมีอายุและไม่แต่งงานเขาไม่เรียกว่าขึ้นคานหรอก เพราะผู้ชายจะเป็นฝ่ายมาเข็นเรือลงน้ำ จึงไม่ต้องไปขึ้นอยู่บนคานเหมือนผู้หญิง

          สาเหตุที่ผู้หญิงขึ้นคาน

           ผู้หญิงดีๆที่ขึ้นคานหาคู่ครองดีๆ ไม่ได้และต้องอยู่เป็นโสดมีจำนวนมากขึ้น บางคนก็สมัครใจที่จะเป็นเช่นนั้น แต่บางคนอยากมีคู่แต่หาไม่ได้สักที
           สาเหตุส่วนใหญ่มาจาก

           1. ตั้งมาตรฐานชีวิตตนเองสูงไป หาผู้ชายที่คู่ควรได้ยาก
           2. ไม่มีเวลาคบหาผู้ชายดีๆ เพราะใช้เวลากับการเรียนหรือการทำงานมากไป
           3. สิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย อยู่แต่ในแวดวงผู้หญิง ทั้งในที่ทำงาน สังคม เพื่อน และเครือญาติ ไม่มีคนกลางคอยช่วยแนะนำผู้ชายดีๆ ให้ จึงไม่มีโอกาสรู้จักผู้ชายดีๆ 
           4. ไม่ชอบผู้ชาย (แต่ชอบเพศเดียวกัน เป็นพวกเลสเบี้ยนทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัวก็ได้) จึงไม่ใส่ใจผู้ชายในเชิงพิศวาส
           5. ไม่อยากมีครอบครัว เพราะมีอคติกับการมีครอบครัว หรือฝังใจว่ามีครอบครัวแล้วไม่มีความสุข

         ‘ขึ้นคาน’ แล้วหนาวไหม?

           ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่า ‘ขึ้นคาน’ มักจะไม่ชอบใจนัก เพราะเหมือนเป็นการถูกเยาะเย้ย
           แต่หลายๆ คนที่ขึ้นคานบอกว่า มีความสุขดีชนิด ‘ไม่ต้องมีลูกกวนตัว มีผัวกวนใจ’ สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติ บางคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีโอกาสทำความดีได้มากกว่าผู้หญิงที่มีครอบครัวเสียอีก
           แต่ก็มีอีกเป็นจำนวนมากที่รู้สึกเป็นปมด้อย อาย ว้าเหว่ ขาดเพื่อนคู่คิด มิตรคู่ใจ และคงจะรู้สึก ‘หนาว’ มากกว่าธรรมดา ถ้าเธอวาดฝันว่าการมีคู่ครองจะทำให้เป็นสุขได้มาก แต่เผอิญเธอไม่สามารถมีได้ จึงคิดว่าเธอขาดสิ่งจำเป็นบางอย่างไป ทำให้ไม่มีความสุข
           บางคนพยายามจะลงจากคาน โดยการพยายามหาผู้ชายสักคนมาแต่งงาน จนบางทีมีทีท่าลุกลี้ลุกลนจนเกินงาม
           ที่จริงแล้วการจะมีคู่ครองหรือไม่ เป็นเรื่องของธรรมชาติ บางคนดีพร้อมแต่ก็ไม่มีคู่ครอง หรือมีแล้วก็ได้คนไม่ดี
           การจะได้คู่ครองที่ดีถือว่าเป็นผลบุญของคนคนนั้นร่วมกับบุพเพสันนิวาสด้วย
           การจะหาคู่ครองได้หรือไม่ ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องเร่งรีบ เพียงแค่ให้โอกาสตัวเองให้มากขึ้น มองโลกทางบวก เปิดใจให้กว้างขึ้น ให้มองตัวเองคนอื่นในแง่ดี จะทำให้การคบหาใครๆ เป็นไปได้กว้างและสะดวกขึ้น
           เมื่อพบคนที่จะเป็นมิตรได้ก็ให้แสดงความเป็นมิตร โดยยิ้มแย้ม ทักทาย ชมเชย ช่วยเหลือเสมอ
           ให้พัฒนาความคิดให้บวก มีภาษากายที่เข้ามาตรฐาน และมีภาษาวาจาที่สุนทรีย์ น้ำเสียงชวนฟัง โอกาสที่จะได้คนมาเป็นคู่จะมีมากขึ้น ให้คิดว่าการจะมีคู่ครองหรือไม่มีคู่ครองเป็นความปกติ ไม่ใช่ปมด้อยหรือผิดปกติ ใครจะว่าขึ้นคานก็ช่างเขาเถิด
           ผู้หญิงที่ขึ้นคาน จะไม่หนาว หรือเป็นทุกข์หรอก ถ้าเขามีความสุขกับตัวเองได้
           เพราะ ‘ความสุข’ ทำให้เกิด ‘ความพอ’
           สังเกตดูซิครับ คนที่มีความสุขกับแฟนจะ ‘พอ’ กับแฟน ไม่อยากมีกิ๊ก
           ถ้าผู้หญิงคนนั้นมีความสุขกับตัวเองได้ เธอก็จะ ‘พอ’ กับตัวเองได้ ไม่เป็นทุกข์ ไม่ลุกลี้ลุกลนหรือกระวนกระวายใจ
 มีอีกหลายๆ คนที่ลงจากคานได้ มีคู่ครอง แต่ไม่มีความสุขกับตัวเอง ทำให้ไม่สุขกับคู่ครอง และไม่ ‘พอ’ ในการดำเนินชีวิตทุกวัน
คนเหล่านี้ จะรู้สึกหนาวอยู่เสมอแม้อากาศรอบๆ ตัวจะร้อน และไม่ได้ไปห่มหนาวที่อากาศหนาวอย่างเชียงคานเลยก็ตาม
           สรุป : ผู้หญิงที่ขึ้นคานจะไม่หนาวหรอก ถ้าเธอมีความสุขกับตัวเองและมีความพอกับตัวเอง ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่เชียงคานหรือที่หนาวกว่าเชียงคาน ถึงขั้นไปอยู่ขั้วโลกเหนือหรือใต้ก็ตาม

ซ้ำขออภัยค่ะ

หมายเหตุ  :  รูปประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

รูปประกอบ  :  google