Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

อาวุธ เคมี-ชีวะ ในสงครามโลกครั้งที่ 1

โพสท์โดย mata

 

 

อาวุธ เคมี-ชีวะ นั้นจัดเป็นหนึ่งในอาวุธทำลายล้างสูง สามารถสร้างความเสียหายได้เป็นวงกว้าง โดยเรียกได้ว่าเทียบเท่าอาวุธนิวเคลียร์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับปริมาณที่จะใช้  โดยความแตกต่างของระบบอาวุธ เคมี-ชีวะ กับระเบิดแรงสูงทั่วไปนั้นแตกต่างกันที่ อำนาจการทำลายต่ออาคาร พื้นที่ เช่น แรงอัด แรงกระแทก นั้นเอง  โดยอำนาจการทำลายของ อาวุธ เคมี-ชีวะ มุ่งเน้นสังหารผู้คน ไม่ว่าจะทหาร หรือ พลเรือน โดยการสัมผัส หายใจเข้าไป ในจำนวนมากๆในการใช้ครั้งเดียวเรียกได้ว่าเป็น มินินิวเคลียร์ หรือ นิวเคลียร์คนจน ทำให้ คณะมนตรีความมั่นคงของ สหประชาชาติ มุ่งเน้น ควบคุมหรือทำลายในการมีไว้ครอบครองของประเทศมหาอำนาจต่างๆจนถึงเฝ้าระวังการมีไว้ของผู้ก่อการร้าย

ความแตกต่างหลายๆอย่างที่ทำให้น่ากลัวกว่า อาวุธนิวเคลียร์คือ ขนาดที่เล็กกว่า ตรวจพบได้ยากและสามารถผลิตได้ง่าย สามารถพัฒนาได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีขั้นสูง แต่นำไปใช้ได้ผลที่มีประสิทธิภาพสูงมาก มีการตกคา้งของเคมีที่นานและรักษาได้ยากแพร่กระจ่ายจากคนถึงคนได้ง่าย(ติดเชื้อ) สามารถปล่อยตามลม ตามน้ำได้

ทหารแคนาดาที่ถูกรมด้วยแก๊สมัสตาร์ดในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง 

เดิมทีนั้นอาวุธ เคมี-ชีวะ ถูกนำมาใช้แรกๆในสงครามโลกครั้งที่1 โดยฝ่ายเยอรมัน ในการมุ่งเน้นสังหารทหารฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ตามสนามเพลาะ โดยการใช้ก๊าซคลอรีน ที่เมือง อีพร์ ประเทศ เบลเยี่ยม  เมื่อ พ.ศ.2458 ใช้ คลอรีนไปประมาณ6000 หลอด วันแรกการรุกที่ตั้งทหารฝรั่งเศส วันที่สองการรุกที่ตั้งทหารแคนาดา  สองวันที่ใช้นั้นทหารฝ่ายตรงข้ามตายไป 5000 คน บาดเจ็บไปอีกราวๆ 1 หมื่น   หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2459 ฝรั่งเศสเองก็พัฒนาอาวุธเคมี ขึ้นมาใช้บ้าง แต่หลักๆแล้วพัฒนาระบบส่งอาวุธเคมีถึงแนวหลัง โดยใช้กระสุนปืนใหญ่ แต่ก็นับว่ามีผลน้อยเนื่องจาก กระสุนปืนใหญ่พาสารเคมีไปได้น้อย แต่ก็นับว่าดีเพราะไม่ต้องพึ่งพา สภาพอากาศ

   

กลางเดือนตุลาคม พ.ศ.2561 อังกฤษโจมตีที่ตั้งทหารเยอรมันใน หมู่บ้านเวอร์ริค ในเบลเยี่ยมทำให้ทหารเยอรมันได้รับบาดเจ็บ รวมถึงทหารเยอรมันที่ชื่อ สิบโทอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ด้วย ทำให้เขามีการอาการบาดเจ็บคือแสบตา ตามัวมองไม่เห็น แผลไหม้  ซึ่ีงตรงนี้อาจจะเป็นไปได้ว่า ฮิตเลอร์ รู้จักความน่ากลัวถึงอาวุธเคมี-ชีวะ และขีดความสามารถในการทำสงครามอาวุธ เคมี ของ พันธมิตร ดีเขาจึงไม่กล้านำมาใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่หลังจากนั้นก็ยังมีใช้ในอิรัก สงครามเวียดนาม อีก

  

ทหารอังกฤษโดนอาวุธเคมีครั้งสงครามโลกครั้้งที่ 1

 

ประเภทสารเคมีหลักๆที่ใช้ในทางทหาร

1.สารสำลัก  กล่าวโดยรวมๆเป็นสารเคมีทางการเกษตร  เป็นของเหลวสีข้น แต่มักไม่มีความคงทนในระยะเวลานาน ระเหยง่าย สารกลุ่มที่สำคัญ คลอรีน ฟอสจีน ไดฟอสจี  คลอโรพิครีน และ เอธิลไดคลอโรอาซีน  จัดเป็นสารเคมี แรกรเิ่มที่นำมาใช้ในสงครามโลกครั้งแีรก โดยยังเป็นที่นิยมของผู้ก่อการร้าย ในการใช้ทำลาย สังหารผู้คน ส่งผลอย่างมากได้รับบาดเจ็บสาหัส อาจจะถึงตายหากไม่ได้ีรับการรักษา โดยขึ้นอยู่กับการผสมเคมี ซึ่งหาได้ง่ายเพราะเป็นเคมีอุตสาหกรรม

ผลที่เกิดจากการรับได้รับ สารสำลัก

มีอาการไอ ปวดหัว  อาเจียน เกิดอาการเจ็บหน้าอก  ไอรุนแรง สำลักและตายในที่สุดในระยะ 2-6 ช.ม.

2.สารโลหิต  เรียกได้อีกอย่างว่า ไซยาไนต์ มีพิษร้ายแรงมาก โดยมีการใช้ในจำนวนมากในโลหะกรรม ชุบเคลือบ หากเป็นสารที่ใช้ในการทหารจะมีลักษณะเป็นของเหลวระเหยง่าย ไอเบากว่าอากาศ หากสูดดมเข้าร่างกายจะแพร่ได้รวดเร็ว ร่างกายไม่สามารถรับอ๊อกซิเจนได้จนร่างการขาดอากาศจนตาย  โดยสารที่นำมาใช้เป็นอาวุธเคมี เรียกว่า  ไฮโดรเจนไซยาไนด์ ( เอซี) ไซยาโนเจนคลอไรด์ ( ซีเค)เป็นของเหลว ซึ่งมีข้อเสียคือระเหยเร็ว ทางทหารจึงไม่นิยมใช้ในการสังหารเป้าหมายจำนวนมาก เน้นเป้าหมายบุคคล

ผลที่ได้รับ สารโลหิต

มีความรู้สึกร้อนไปทั่วตัว ไม่มีแรง คลื่นไส้ ปวดหัวมึนงง หายใจติดขัด หมดสติและชัก จนตายในที่สุด ซึ่งมาจากการขาดอ๊อกซิเจน

และนี่คือตัวอย่างของการใช้อาวุธเคมี-ชีวภาพ ในการทำลายร้างสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1  ปัจจุบันถึงแม้จะมีสนธิสัญญาการห้ามใช้อาวุธเคมีก็จริง แต่ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา รัสเซีย เกาหลีเหนือ และอีกหลายประเทศ ต่างก็รู้กันดีว่ามีอาวุธเคมีมหาศาลสะสมอยู่  ก็ไม่รู้ว่ามันจะกลับมาอีกในอนาคตอันใกล้นี้หรือเปล่า ก็นำมาฝากให้ได้คิดกันครับ...mata

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
mata's profile


โพสท์โดย: mata
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
88 VOTES (4/5 จาก 22 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
มดดำ คชาภา เผยทำไม เมย์วาสนา ไม่โกรธ เชนธนา แม้ติดหนี่กว่า 400 ล้าน"โรงแรมเมืองทอง" อดีตที่พักเก่าแก่แห่งโคราช สู่อาคารอนุรักษ์เคียงข้างลานย่าโมผู้อพยพชาวพม่าในไทย เผชิญกับความขุ่นเคืองที่เพิ่มขึ้นเขาคือผู้ชายที่หล่อ และดูดีที่สุดในกัมพูชา ณ เวลานี้4 เรื่องจริงเมื่อคุณได้ไปเที่ยวลาวทนายความ เผย ดิว อริสรา ออกนอกประเทศ ก่อนจะมีคดีความ ยืนยันไม่หลบหนีรวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันที่ท้องฟ้าครึ้มๆ บรรเทาความร้อนไปได้เยอะเลยเด้อครับเด้อ แข็งใจอีกนิด พรุ่งนี้หลายคนจะได้พักกันละน๊าสถานที่ท่องเที่ยวในโคราช ที่ต้องไปสักครั้ง!เซบาสเตียนโพสต์ผ่าน IG ครั้งแรกสาวเคี้ยวแหวนพัง หลังหนุ่มซ่อนแหวนในเค้กเปิดคฤหาสน์สุดหรูของ “เมย์ วาสนา” เจ้าของทรัพย์สิน 62 ล้านที่ถูก "ดิว อริสรา" ยืมไป ชาเน็ตถึงกับอึ้งเวที Miss and Mister Majestic ของกัมพูชา ชาวเน็ตมอง "ธรรมดา" ไป
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
30 แคปชั่นวันปัจฉิม ความหมายดี คำคม คำอวยพรวันปัจฉิมนิเทศ ซึ้งๆมะกันคว่ำบาตรอิหร่าน ต่อเรือบรรทุกน้ำมันและโรงกลั่นของจีนนาฬิกาอีเทอร์ OC 020 นาฬิกาที่แม่นยำที่สุดในโลกเวที Miss and Mister Majestic ของกัมพูชา ชาวเน็ตมอง "ธรรมดา" ไปมดดำ คชาภา เผยทำไม เมย์วาสนา ไม่โกรธ เชนธนา แม้ติดหนี่กว่า 400 ล้าน
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง