ชื่อนี้มีที่มา ๒
สะพานซังฮี้ ชื่อนี้มีที่มาอย่างไร ทั้งที่สะพานนี้มีชื่อว่า สะพานกรุงธน ?
ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เครื่องถ้วยชามชนิดหนึ่งจากจีนมีชื่อเรียกว่าเครื่องกิมตึ้ง เป็นนิยมอย่างมากในสยาม
ทั้งนำมาใช้สอยและประดับตกแต่ง เมื่อรัชกาลที่ ๕ สร้างพระราชวังดุสิตก็โปรดพระราชทานชื่อสถานที่
คลอง สระ ถนน ต่างๆเป็นนามของถ้วยชามชนิดนี้ หนึ่งในนั้นคือ ถนนด้านท้ายพระราชวังได้พระราชทาน
นามว่า ถนนซังฮี้ (ถนนราชวิถี) ครั้นสมัยจอมพล แปลก พิบูลสงคราม ได้สร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
สะพานนี้ขึ้น ระหว่างนั้นชาวบ้านก็ยังไม่ทราบชื่ออย่างทางการของสะพานนี้ จึงได้เรียกกันโดนทั่วไปว่า
สะพานซังฮี้ เพราะเริ่มสะพานที่ถนนซังฮี้นั่นเอง
แยกไฟฉาย ย้อนไปสมัยมหาสงครามเอเชียบูรพา ระหว่างที่ญี่ปุ่นขอเดินทัพผ่านประเทศไทย ก็ถูกฝ่ายสัมพันธมิตร
โจมตีทางอากาศ และเพื่อที่ญี่ปุ่นจะสามารถสกัดกันการโจมตีโดยอากาศยานในเวลากลางคืนจึงทำการ
ติดตั้งไฟฉายขนาดใหญ่เพื่อส่องหาอากาศยานในหลายๆจุด และที่สามแยกนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ติดตั้ง
ไฟฉายไว้ จึงได้มีชื่อว่า แยกไฟฉาย จนปัจจุบัน
วงเวียน ๒๒ กรกฎาคม ในสมัยรัชกาลที่ ๖ บริเวณนี้เป็นชุมชนที่มีผู้อยู่อาศัยกันหนาแน่นมาก ราวปี พ.ศ.๒๔๖๐
เกิดเหตุเพลิงไหม้เผาบ้านเรือนเกือบสิ้น เจ้าพระยายมราช (ปั้น) จึงกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาต
ตัดถนนผ่านบริเวณนี้เพื่อความเป็นระเบียบ รัชกาลที่ ๖ จึงโปรดให้ทำเป็นวงเวียนมีถนนตัดผ่านสามสาย
พระราชทานนามวงเวียนว่า วงเวียน ๒๒ กรกฎาคม และถนนทั้งสามสายว่า ไมตรีจิตต์ มิตรพันธ์ สันติภาพ
เพื่อเป็อนุสรณ์รำลึกถึงวันที่รัชกาลที่ ๖ ตัดสินพระทัยประกาศเข้าร่วมสงครามเมื่อ ๒๒ กรกฎาคม ๒๔๖๐
ซึ่งเมื่อแปลความแล้วจะได้ความหมายดังนี้ รอบวงเวียนมีแยกทั้งสิ้น๖แยก คือ " รัชกาลที่ ๖ ทรงประกาศ
สงครามเมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ด้วยไมตรีจิตที่มีต่อฝ่ายสัมพันธมิตรทำให้เกิดสันติภาพ "