หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

รักแท้หรือจะมีแค่ในเทพนิยาย?

โพสท์โดย bourbon

 

 

 

 

 

พิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลี่ยม แห่งเวลส์ รัชทายาทอันดับ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ กับ เคท มิดเดิลตัน ที่เปลี่ยนสถานะจากสามัญชนธรรมดา เป็นเชื้อพระวงศ์แห่งราชวงศ์อังกฤษในฐานะ ดัชเชส ออฟ เคมบริดจ์ อาจทำให้ใคร
หลายคนออกอาการละเมอเข้าให้แล้ว เพราะนึกถึงแต่ภาพความสวยงามของความรักที่สุขสมหวัง เห็นแต่ภาพงดงามราวกับเทพนิยาย จึงไม่แปลกที่จะมีใครบางคนวาดฝันไว้ว่า ชีวิตนี้ฉันจะเป็น นางเอก หรือ พระเอก ในเทพนิยายทำนองนี้ให้ได้
       การตั้งความหวังในชีวิตเป็นเรื่องดี อีกทั้งความรักก็เป็นสิ่งสวยงามที่ทุกคนต่างก็เฝ้าฝันว่ารักของฉันของเลิศเลอ สวยอย่างนั้นงามอย่างนี้ แต่เราก็ต้องหันมามองในโลกแห่งความเป็นจริงบ้าง ไม่มัวแต่ยึดติดอยู่กับภาพฝันที่มักมาจากหนัง ละคร นิยาย ที่เราได้สัมผัสกันมา เพราะภาพเหล่านั้นมักจะได้รับการ ตกแต่ง ให้สวยงามเกินจริงอยู่เสมอๆ
       เมื่อเร็วๆ นี้ กรมสุขภาพจิด กระทรวงสาธารณสุข ได้เผยแพร่เอกสารที่ชื่อว่า สานสายใย หัวใจรัก ซึ่งได้รวบรวมข้อคิดและแนวทางในการรักษาสัมพันธภาพของวัยรุ่นไว้อย่างน่าสนใจ โดยมีเนื้อหาพอสรุปได้ว่าเด็กวัยรุ่นมักฝันเฟื่อง ซึมซับ และซาบซึ้งไปกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ที่อ่านพบจากเทพนิยาย ภาพยนตร์ เพลงและหนังสือ จนเกิดการยอมรับและเกิดทัศนคติบางอย่างเกี่ยวกับความรักโดยหลบหลีกการเผชิญหน้ากับความเป็นจริง และคติรักแบบเทพนิยาย คติรักของวัยรุ่น มักจะมีลักษณะดังนี้

 

1.  สักวันหนึ่งฉันจะได้พบคนที่ถูกใจที่สมบูรณ์แบบ
      เป็นความใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะต้องได้พบคู่รักที่ดีพร้อมสรรเหมือนกับเจ้าหญิง เจ้าชายในเทพนิยายนั่นแหละ และเมื่อถูกพรมลิขิตขีดเส้นมาให้พบกันแล้วต่างก็จะตกหลุมรักและรักกันตลอดไปตราบนานเท่านาน ความรู้สึกนี้อยู่บนรากฐานของความรักด้วยใจพิศวาสปรารถนาหรือ Romantic Love และเพราะการตกหลุมรักใครสักคนจะก่อให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้น สุขสม คนที่มีคติรักแบบนี้ จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดรักแรกพบเนื่องจากจะมุ่งมองแต่ส่วนดีและคิดเอาเองว่าอีกฝ่ายนั้นดีพร้อม ความต้องการของคู่รักแบบนี้จะหวังเพียงการได้อยู่ด้วยกัน ทำอะไรร่วมกันด้วยความสุข แต่เมื่ออารมณ์รักรุนแรงผ่านพ้นไป และเริ่มมองเห็น
ข้อบกพร่องของกันและกัน ต่างก็จะรู้สึกว่าได้มองกันผิดไปตั้งแต่ต้น แต่ถ้าหากคู่รักนั้นมีวุฒิภาวะพอ เขาจะสามารถปรับตัวเข้าหากัน แก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง ยอมรับข้อเสียของอีกฝ่ายหนึ่งได้มากขึ้น และสานความรักให้มั่นคงต่อไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว ในสัมพันธภาพระหว่างกัน ย่อมมีทั้งเวลาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายจะมีอารมณ์เสีย อารมณ์ดี และมีเวลาแห่งความทุกข์และความสุข

2. รักแท้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิต
        คติรักแบบนี้อยู่บนความเชื่อที่ว่ารักแท้มิใช่ความหลงใหลลุ่มหลง คนที่เชื่อในคติรักข้อนี้ จะสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างรักแท้กับอารมณ์อื่นๆ ออกจากกันได้ นอกจากจะผ่านประสบการณ์ความรักมายาวนาน เช่น ตกหลุมรักหลายครั้งแล้วก็พบในบั้นปลายว่าไม่ได้เป็นรักแท้ แต่เป็นแค่อารมณ์หลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรียกว่าใช้ประสบการณ์เป็นครู จนสามารถเข้าใจความรู้สึกของตนเองได้อย่างถ่องแท้ เมื่อยามรักคนมักจะเชื่อว่านี่คือรักแท้ แต่พอพบว่าไม่ใช่ก็จะแสวงหาไปเรื่อยๆ ทั้งที่จริงๆ แล้ว ความรักเพียงอย่างเดียวมิได้ทำให้ความสัมพันธ์นั้นงอกงามและยืนนาน หากมีอีกหลายปัจจัยทีเดียวที่จะทำให้การครองรักยืนยาวมั่นคง 
ดังนั้นรักแท้จึงมิได้ประกอบด้วยความรู้สึกรักเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

3. ความรักไม่เคยเปลี่ยนแปลง
        เมื่อกำลังตกอยู่ในความรัก คนมักจะหวังว่ารักนั้นนิรันดร หรือจะรักกันตราบเท่าฟ้าจูบลาดิน หรืออะไรหวานๆ ทำนองนี้ และคำพูดที่พบเสมอๆ ของคนที่ถือคติรักแบบนี้คือ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเรา คือ เรารักกันและกัน หรือ ความรักของเราจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่ในโลกความเป็นจริง ความรักเป็นความรู้สึกที่เปราะบางและเปลี่ยนแปลงได้ เพราะความรักเป็น
เรื่องของอารมณ์ความรู้สึก บางครั้งมักถูกแทนที่ด้วยอารมณ์อื่นๆ ภายใน เช่น ความโกรธ ความกลัว ความวิตกกังวล หวาดระแวง ความเครียด ซึ่งมาบดบังทำให้ความรักหายไปชั่วขณะ หรืออาจถึงขนาดทำลายความรักให้หมดสิ้นไปได้ แต่ถ้ามีการร่วมกันเผชิญหน้า
กับปัญหาและช่วยกันแก้ไขก็จะทำให้ความรักนั้นเพิ่มพูน และลึกซึ้งยิ่งขึ้น ความรักจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ยิ่งนานวันความตื่นเต้นระทึกใจหรือความหวามไหวในอารมณ์จะค่อยๆ จางลง เพราะความรักปะปนด้วยอารมณ์หลายรูปแบบ บางครั้งก็เจือความรู้สึกอ่อนหวานนุ่นนวล บางครั้งยิ่งอยู่นานก็จะยิ่งรักกันลึกซึ้งมากขึ้น แต่บางครั้งก็อาจจะจืดจางเย็นชา ดังนั้นความจริงของความรัก
ข้อหนึ่งก็คือ
ความรักไม่เคยเหมือนเดิม แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

4. สิ่งภายนอกกำหนดความรัก
         คนที่ยึดถือคติรักข้อนี้จะเชื่อว่าความรักเกิดจากสิ่งที่ฝังอยู่ในความรู้สึกของตัวเราเอง แต่กลับเชื่อว่าเพราะพฤติกรรมของเขา บุคลิกภาพของเขา ประสบการณ์หรือเหตุการณ์ บางอย่างเป็นตัวกำหนดให้เราต้องตกหลุมรัก ในขณะที่ความเป็นจริง คนเรากำหนดคุณค่าของความรัก หรือลักษณะของคนที่จะรักไว้ในใจแล้ว เมื่อมาเจอคนที่มีอะไรบางอย่างตรงกับที่วาดหวังเอาไว้ก็จะปักใจรักได้
ในทันที ดังนั้นความรักจึงขึ้นอยู่กับใจของเราเอง นักประพันธ์เรืองนามชื่อ
สจ๊วต เอเมอลี เคยอธิบายว่า ถ้าเราเปิดใจและพร้อมที่จะรัก เราก็สามารถจะเกิดความรักกับใครสักคนที่อยู่ใกล้ชิด และมีคุณสมบัติตรงกับที่ใจเราต้องการได้

5. ความรักขจัดได้ทุกปัญหา
         มีคู่รักหลายคู่ที่คาดหวังในตัวตนของอีกฝ่ายไว้ว่า เมื่อคุณรักฉัน คุณต้องช่วยฉันแก้ปัญหาในทุกเรื่อง คือนึกถึงแต่ความต้องการของตัวเอง จนลืมมองถึงความต้องการของอีกฝ่ายหนึ่ง รวมทั้งลืมนึกไปว่าถึงจะรัก แต่ก็มิได้หมายความว่าเจ้าอารมณ์รักนี้จะช่วยให้ปัญหาหรือความขัดแย้งถูกละเลยหายไปได้ง่ายๆ ในความเป็นจริง ความรักไม่ได้เป็นตัวแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้หมดไป แต่อาจเป็น
ตัวสร้างปัญหาขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ความรักจะทำให้คนเราเติบโตขึ้น ถ้าเรารู้จักเผชิญหน้าเพื่อแก้ปัญหา ความรักเป็นเสมือนการเตรียมศักยภาพให้พร้อมเพื่อพัฒนาคนให้เจริญเติบโตขึ้น 
         คนที่เชื่อในคติรักที่ว่า 
ความรักขจัดได้ทุกปัญหา มักจะเกิดความผิดหวังว้าวุ่นใจ เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ปัญหาดังที่คาดหวังเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ความรักจะช่วยแก้ปัญหาได้ก็ต่อเมื่อต่างฝ่ายต่างก็ได้คำนึงถึงจิตใจและความต้องการของอีกฝ่าย เพราะความรักย่อมเป็นแรงจูงใจให้อยากช่วยแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว แต่โดยลำพังความรักเองไม่สามารถจะแก้ปัญหาอะไรได้ 
หากแต่เป็นตัวกระตุ้นให้คู่รักหันหน้าเข้าหากัน คุยกัน และช่วยกันคิดว่าจะหาทางแก้ไขต่อไปอย่างไรดี

6. ความรักที่ดีที่สุด คือ ความรักที่ปราศจากความเห็นแก่ตัว 
         ความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเห็นแก่ตัวหรือไม่เห็นแก่ตัว เพราะพฤติกรรมของคนเราขึ้นอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนั้นซึ่งมีอยู่หลากหลายอารมณ์ เช่น ถ้าอารมณ์ไม่ดี เราก็อาจทำอะไรที่แสดงถึงความเห็นแก่ตัวออกมาได้ หรือไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกคาดหวังว่าคนที่รักกันน่าจะทำให้แก่กัน แต่ในคู่ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจะพบว่าเป็นคู่ที่ต่างก็ให้ความนับถือ ให้อิสระแก่กัน 
และคำนึงถึงความรู้สึกของกันและกันเสมอ คือยอมรับว่าเธอคือเธอ และฉันก็คือฉัน ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดความคาดหวังในกันและกันมากจนเกินไป

     ดังนั้น เราจึงควรมีมุมมองเรื่องความรักให้อยู่บนพื้นฐานของโลกแห่งความเป็นจริง ไม่เพ้อฝันจนหลุดโลก ซึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อ
ความเจ็บปวดอันเองมาจากผิดหวังในความรัก ดังนี้

1. ควรมีความสุขได้ด้วยตัวเอง อย่าเอาความสุขหรือทุกข์ไปแขวนไว้กับคนอื่น
2. ควรปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขด้วย ไม่ใช่คิดถึงแต่ความสุขของตนเอง 
3. ลดความคาดหวัง การที่เราคาดหวังจากอีกฝ่ายน้อยเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะสมหวังก็ยิ่งมากขึ้น
4. ยอมรับความแตกต่างทางความคิด คนเราย่อมมีความคิดต่างกัน หากเราพยายามทำให้คนอื่นคิดเหมือนเรา นั่นเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง 
5. รู้จักยอมรับความเปลี่ยนแปลง เพราะความเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดาของโลก เพลงโปรดฟังซ้ำๆ ยังเบื่อ อาหารโปรดยังไม่มีใครกินซ้ำทุกมื้อ ความรักที่เคยหวานแหวว อาจจืดจางลงเมื่อไหร่ก็ได้ หากไม่รู้จักยอมรับความเปลี่ยนแปลง
ก็จะมีแต่ทุกข์

6. ไม่ควรทำแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ ควรมองถึงความต้องการของอีกฝ่ายด้วย จะได้ไม่ต้องมานั่งน้อยใจว่าเราทำด้วยความหวังดี แต่เขากลับไม่เห็นคุณค่า
7. เอาใจเขามาใส่ใจเรา ยิ่งถ้าเป็นคนใกล้ชิดสนิทสนม ยิ่งต้องใส่ใจให้มากเป็นพิเศษ บางที่ความใกล้ชิดกันมากทำให้เรามักเผลอคิดทำอะไรตามใจ จนลืมนึกถึงความรู้สึกของคนอื่นไป
8. รู้จักชื่นชมในเรื่องดีๆ ของกันและกัน อย่าเอาแต่บ่นโดยไม่เคยกล่าวคำชมในเรื่องดีๆ บ้าง คนเราก็ต้องการกำลังใจเหมือนกันนะ
9. รักนะ... ต้องแสดงออก หากรักแล้วไม่แสดงออกเสียเลย อีกฝ่ายคงไม่รู้ เพราะไม่มีใครมีตาทิพย์หรือสัมผัสพิเศษเหมือนในหนัง เราเองยังชอบเวลาที่คนอื่นมาบอกรัก เพราะฉะนั้นรักใครชอบใคร จงหาโอกาสบอกให้เขารู้ ด้วยความจริงใจ

     ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่อย่าคิดว่าขาดรักแล้วจะอยู่ไม่ได้ เรื่องราวในหนัง ในละคร หรือในเทพนิยาย ล้วนเป็นเรื่องที่ปรุงแต่ง และสร้างขึ้นมาตามแต่ผู้แต่งจะมีจินตนาการ และถึงแม้เรื่องราวส่วนใหญ่จะจบอย่างแฮปปี้ เอ็นดิ้ง แต่กว่าจะถึงตอนจบ พระเอก นางเอก ก็ล้วนต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรที่แย่ๆ มาก่อนทั้งนั้น
      คนดูอย่างเราๆ จึงไม่ควรเปิดประตูรับเฉพาะบางบทบางตอนที่สุขสมหวังมาเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจเราเท่านั้น อย่าลืมตอนที่เจ็บปวด หรือเศร้าสะเทือนใจ ก็เป็นสิ่งอยู่ควบคู่กันเสมอ มิฉะนั้นเรื่องรักของเราก็จะไม่น่าดูเอาเสียเลย

 

 

ซ้ำขออภัยค่ะ

 

รูปประกอบ  อินเตอร์เน็ต

ที่มา: HUG Magazine
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
bourbon's profile


โพสท์โดย: bourbon
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
8 VOTES (4/5 จาก 2 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ช็อก! "เชอรีน" น้องสาว "นิชคุณ" เลิกสามีแล้ว ลั่น! ต่อไปนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน"เอี้ยก้วย" จอมยุทธที่ผู้คนพากันชื่นชม และเกลียดชังในคนเดียวกันคนไข้ไม่เข้าใจลายมือหมอ..ไม่รู้ตนเองป่วยเป็นอะไรเคล็ดไม่ลับแกะเปลือกลูกตาลอ่อนง่ายๆค้นบ้านแฟนเก่า ล่าตัวคนปล่อยคลิปลับ "พิมพ์ กรกนก" ลั่น! รู้ตัวคนทำแล้วสาวกระโดดตึก ฆ่าตัวตายกลางห้างดัง หวังเป็นผีไปแก้แค้นไม่ใส่ซองงานแต่งผิดไหมส่องทะเบียนรถ แมวคลอดลูกใต้ท้องรถ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาวกระโดดตึก ฆ่าตัวตายกลางห้างดัง หวังเป็นผีไปแก้แค้นศปปส.บุกยื่น ปธ.สภาฯ ตั้งกรรมการสอบ "รังสิมันต์ โรม" พูดเรื่อง "บุ้ง ทะลุวัง" ลั่น! เป็นไปได้เหรอ? พวกนี้อดอาหารจริงยูเครน-รัสเซีย ไม่สนการหยุดยิงช่วงโอลิมปิคจังหวัดทางภาคเหนือของไทย ที่ถูกประกาศจัดตั้งขึ้นใหม่ล่าสุด
ตั้งกระทู้ใหม่