หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ความรักของเพศที่3

โพสท์โดย bourbon

 

 

 

 

 

สังคมยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้เราได้เรียนรู้ในเรื่อง ความต่างที่มากขึ้น แต่ความต่างที่ว่านี้จะไม่ได้เป็นปัญหาเลย หากเราเข้าใจ และไม่ได้มองว่าผิดแปลก
          เรื่องราวของเพศที่ 3 กะเทย เกย์ หรือคำอะไรก็ตามที่เราใช้เรียก หากเราลองค้นลึกลงไปในประวัติศาสตร์ ก็จะรู้ว่ามันมีมานานแล้ว เพียงแต่ว่าอาจไม่ได้รับการเปิดเผยเฉกเช่นในปัจจุบัน แต่ทุกวันนี้ ผู้คนได้รับทราบถึงความหลากหลายทางเพศที่มีมากขึ้น ทำให้คนกล้าที่จะแสดงออก ซึ่งตัวตนและภาวะทางเพศตามใจปรารถนามากขึ้นเช่นกัน

 

 

เพศที่มีในสังคมโดยกว้างๆ
         
ทางกายภาพเราสามารถแบ่งเพศได้เป็น 2 เพศ คือ ผู้ชายและผู้หญิง นอกเหนือจากนั้นก็อาจเป็นการผิดปกติทางกาย
อาทิ ‘Hermaphrodite’ หรือการมีอวัยวะเพศทั้งเพศชายเพศหญิงในร่างเดียวกัน เรียกว่า เป็นกะเทยโดยสมบูรณ์ แต่ทั้งนี้
อาจจะมีการผ่าตัดเพื่อให้เป็นเพศใดเพศหนึ่งโดยสมบูรณ์ได้เมื่อโตขึ้น
          นอกจากเพศโดยปกติทางกายภาพที่เราเข้าใจกันแล้ว ยังมีความหลากหลายทางเพศอีกมากมายที่เกิดขึ้นในสังคมโดย นพ.สุพร เกิดสว่างศาสตราจารย์เกียรติคุณ มหาวิทยาลัยมหิดล และนักวิจัยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข เคยได้อธิบายเรื่องเพศที่ 3 ไว้ในนิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 341 ว่า   
         การเป็นเกย์และกะเทยส่วนหนึ่ง มาจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา นอกนั้นคือสิ่งแวดล้อมสังคมและการเลี้ยงดูในครอบครัว
         คนทั่วไปส่วนใหญ่ยังมีความสับสนเรื่องผู้ชายที่รักผู้ชายด้วยกัน หรือผู้ชายที่มีกิริยามารยาทคล้ายผู้หญิง นอกจากคนในสังคมจะสับสนและไม่เข้าใจแล้ว ยังมองบุคคลเหล่านี้ไปในทางลบ  ทั้งนี้จะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าผู้ชายมีหลักๆ 3 กลุ่ม


คือ
          1. กลุ่มผู้ชายที่รักผู้หญิง (เพศตรงข้าม-ต่างเพศ) ซึ่งสังคมทั่วไปยอมรับ 
          2. กลุ่มผู้ชายที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชาย แต่รักผู้ชายด้วยกัน (เพศเดียวกัน – รักร่วมเพศ) ซึ่งมักนิยามตัวเองว่า เกย์ (gay) 
มาจากรากศัพท์ภาษาอังกฤษที่แปลว่า สดใส ร่าเริง 
          3. ผู้ชายที่มีจิตใจเป็นผู้หญิง หรือเป็นผู้หญิง ที่อยู่ในร่างของผู้ชายนั่นเอง คำไทยมักใช้ว่า กะเทย’ (transgender หรือ transsexual) 
    การที่ผู้ชายมีความรักเพศเดียวกันมีสาเหตุหลายอย่างทั้งปัจจัยทางชีววิทยาและจิตวิทยา เริ่มตั้งแต่สาเหตุทางพันธุกรรม การพัฒนาของสมองเด็กในครรภ์ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนเพศ ตลอดจนการอบรม เลี้ยงดู และประสบการณ์การเรียนรู้หลังจากที่เกิดมาแล้ว ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการเลียนแบบและไม่ติดต่อกัน

 

 

เพศที่ 3 ไม่ได้เป็น บ้า’ 
         
แม้ว่าสมัยก่อนเราจะเคยเข้าใจว่า   เป็นลักษณะอาการผิดปกติทางจิตหรือจิตเภท แต่ในปี พ.ศ.2516 องค์การอนามัยโลก (WHO), สมาคมนักจิตวิทยาอเมริกัน(APA : American Psychiatric Association) ได้ออกมาแก้ไขการวิเคราะห์แบบเดิมที่เคยกล่าวหาคนรักเพศเดียวกันใหม่ โดยมีการแถลงการณ์ว่า การรักเพศเดียวกันนั้นไม่ได้ถือว่า เป็นโรค ไม่ถือเป็นความ
ผิดปกติทางจิต หรือความผิดปกติทางเพศแต่อย่างใด
          สำหรับประเทศไทยเองในสมัยก่อนเรื่องการเกณฑ์ทหาร สาวประเภทสองที่ไม่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก จะถูกบันทึกเหตุผลลงไปว่า มีความผิดปกติทางจิตถาวรซึ่งมีผลมากต่อการสมัครงาน และหลังจากที่ฟ้องร้องและดำเนินการมานานนับปีล่าสุดก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงเป็น ภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด แทน
การขานรับและรับรองสิทธิในหลายๆ ประเทศ
         
เพราะการเปิดกว้าง การยอมรับในความต่าง และเพื่อความเท่าเทียมในสิทธิมนุษยชนมากขึ้น ทำให้หลายๆ ประเทศขานรับในเรื่องนี้ อาทิ สหราชอาณาจักร ที่แต่เดิมไม่ได้รับรองสิทธิให้เปลี่ยนเพศ หลังจากการผ่าตัดแปลงเพศแล้ว แต่ในปัจจุบันก็ได้อนุญาตให้ผู้ผ่าตัดแปลงเพศได้ ในสถานะทางกฎหมายตามเพศใหม่ พร้อมสิทธิต่างๆ ทั้งการแต่งงาน การแก้ไขเอกสาร
ทางกฏหมาย สวัสดิการตามเพศใหม่ทุกประการ ฯลฯ และนอกจากประเทศอังกฤษแล้ว ประเทศอื่นๆ อีกกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ก็มีกฎหมายยอมรับการเปลี่ยนแปลงสถานะของผู้ผ่าตัดแปลงเพศได้เช่นกัน 
          นอกจากเรื่องการรับรองสิทธิในการแปลงเพศแล้ว ในส่วนของการแต่งงานทั่วโลก ก็เริ่มขานรับถึงความต่างนี้ ล่าสุด ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา บารัก โอบามาก็ได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอบีซี ถึงแผนการสนับสนุนการแต่งงานของกลุ่มรักร่วมเพศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรก ที่สนับสนุนการแต่งงานของกลุ่มเกย์ระหว่างการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ  ล่าสุดรัฐสภาท้องถิ่นของ มลรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ก็ลงมติอนุมัติร่างกฎหมายรับรองการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันได้แล้ว ขณะเดียวกันรัฐสภาท้องถิ่นของนิวเจอร์ซีก็มีกำหนดการลงมติในร่างกฎหมายดังกล่าว
         

สำหรับประเทศบราซิล  หลังศาลสูงสุดออกกฎหมายใหม่อนุญาตให้คู่รักที่เป็นเพศเดียวกันเข้าพิธีสมรสได้อย่างถูกกฎหมาย ก็ทำให้ชายหญิงคู่เกย์และเลสเบี้ยน จำนวน 43 คู่ ร่วมพิธีสมรสหมู่ ณ  บริเวณสถานีรถไฟกลางกรุงริโอ เดอ จาเนโร ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานต่อต้านการรักร่วมเพศ ของรัฐบาลบราซิล

 

 

เพศที่ 3 ในโลกการ์ตูน
         
เหมือนเป็นการเกาะกระแสสนับสนุนการแต่งงานของคนเพศเดียวกันที่ประกาศโดย ประธานาธิบดีบารัก โอบามา 
ผู้ผลิตการ์ตูนชื่อดังของโลกอย่าง มาร์เวล  ก็ได้นำเสนอ ‘X-Men’ ที่เป็นเรื่องราวของสองซูเปอร์ฮีโร่ นอร์ธสตาร์และ ไคลี่
ในฐานะคู่รักเกย์ โดยได้เพื่อนๆ ซูเปอร์ฮีโร่มาร่วมเป็นสักขีพยาน แต่ยังไม่จบแค่นั้น เพราะทางค่าย ‘DC’ คู่แข่งขัน ก็ประกาศว่า
จะเปิดเผยตัวซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นรักร่วมเพศด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะเป็น แบทแมน, ซูเปอร์แมน หรือวันเดอร์ วูแมน ด้วย
          ในส่วนของการ์ตูนทางฝั่งเอเชีย ก็มีเรื่องราวของรักร่วมเพศมานานแล้วเช่นกัน หากแต่ไม่ได้มีลิขสิทธิ์ในประเทศไทย ทำให้อาจจะไม่ได้มีการพบเห็นมากนัก
ทำไมรักของเพศที่ 3 จึงดูเหมือนว่าจะไม่ยั่งยืน
        
ต้องเข้าใจก่อนว่าสื่อนั้นมีพื้นที่จำกัด ข่าวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่ออกมาในหน้าสื่อส่วนใหญ่ จึงออกมาในลักษณะที่เป็นข่าวด้านลบมากกว่าด้านบวก เช่น การหลอกลวง  ตมตุ๋น หึงหวง จนไปถึงการฆ่ากันตาย แต่ในสังคมจริงๆ  ย่อมไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องด้านลบ ความรักที่ยั่งยืนของเพศที่ 3 ถามว่า มีไหมคงตอบได้ไม่ยากว่า มี’  แต่ใครละที่จะมาทำข่าว นั่นก็เป็นหตุผลหนึ่งที่เราไม่ได้รับทราบเรื่องราวเหล่านั้นมากเท่าที่ควร
          แน่นอนว่าภาพจากสื่อก็ย่อมส่งผลต่อพวกเขาด้วย  การกระทำต่างๆ จึงยิ่งสอดรับกับภาพเหล่านั้น เช่น เมื่อเราคิดว่าการคบกันอย่างคนรัก ไม่มีทางยืดยาว เราก็จะไม่จริงใจให้แก่คนที่เขามา เพราะคิดว่าเขาไม่จริงใจกับเราเช่นกัน ผลกระทบที่เกิดก็จะเป็นเหมือนลูกโซ่แก่สังคม 
          อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ความรักที่ว่านี้ดูเหมือนจะไม่ยั่งยืน นั่นอาจเป็นไปได้ว่า กฎหมายที่มีอยู่ไม่ได้ครอบคลุมถึงเพศที่ 3 การที่เขาไม่สามารถแต่งงานกันได้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเลิกรากันง่ายตามไปด้วย 
      เราลองเปรียบเทียบง่ายๆ จากคู่แต่งงานชายหญิงปกติ  เมื่อแต่งงานก็จะเกิดพันธะนอกเหนือจากความผูกพันทางร่างกายแล้ว ยังมีความผูกพันเรื่องกฏหมาย   เรื่องของสินสมรส และรวมถึงเรื่องบุตร ดังนั้นเมื่อมีเหตุให้ทะเลาะเบาะแว้งกัน ถ้าไม่ได้มีพันธะทางกฏหมายหรือเรื่องของสินสมรส อาจทำให้ต่างคนต่างแยกย้าย  หรือแยกทางกันได้ง่ายขึ้น แม้กระทั่งหากเกิดเรื่องของการนอกใจ กฏหมายก็สามารถที่จะฟ้องหย่าหรือเรียกร้องค่าเสียหายได้ 
          แม้ใครหลายคนจะบอกว่า ทะเบียนสมรส เป็นเพียงกระดาษใบหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นคงต้องถามกลับว่า แล้วทำไมชายหญิงยังต้องจดทะเบียนสมรส ถ้าไม่ใช่เพราะชีวิตคู่มันมีอะไรที่มากกว่าแค่เรื่องของ ความรัก ไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน หากแต่เกี่ยวพันถึงครอบครัวและคนรอบข้างด้วย

          ความรัก   ไม่ใช่เพียงคำคำหนึ่งที่ออกจากปากโดยไม่มีความหมาย    แต่ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึกดีๆ ที่มีให้แก่กัน
โดยที่อาจจะไม่ต้องพ่วงความสัมพันธ์ทางร่างกาย และ ความรักก็ไม่มีเพศเป็นเครื่องกำหนดว่าเพศไหนมีได้ เพศไหนมีไม่ได้ การเป็นเพศที่ 3 ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรักกับเพศเดียวกันไปตลอดไม่สามารถเปลี่ยนได้ และไม่ได้หมายความว่า คุณจะมีความรักกับเพศเดียวกันไปตลอดชีวิตไม่ได้เพราะยังไงเสียมันก็คือ ความรัก

 

 

ซ้ำขออภัยค่ะ 

 

รูปประกอบ  อินเตอร์เน็ต

ที่มา: forward mail
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
bourbon's profile


โพสท์โดย: bourbon
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
120 VOTES (4/5 จาก 30 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
น้ำใจยิ่งใหญ่! หนุ่มไร้เงินขอติดรถกลับบ้าน เจอผู้ให้เต็มคันสุดอบอุ่น
ตั้งกระทู้ใหม่