เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ คือ เหรียญ และ ดวงตรา อันเป็นเครื่องประดับที่พระมหากษัตริย์พระราชทานแก่พระราชวงศ์ ข้าราชการ
และผู้ที่ได้กระทำคุณงามความดีให้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยในประเทศไทยมีขึ้นครั้งแรกเมื่อรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โดยทรงเรียกว่า เครื่องราชอิสริยยศ และเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าให้สร้างเครื่องอิสริยยศขึ้นอีกหลายตระกูล
จึงโปรดเกล้าให้เปลี่ยนชื่อเรียกเป็น เครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำหรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ยังอยู่ในสมัยพระราชทานปัจจุบันมีดังนี้
๑. เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นมงคลยิ่งราชมินตราภรณ์ ร.ม.ภ.
เครื่องราชฯ ชั้นสูงสุดของไทย สถาปนาในรัชสมัยปัจจุบัน สำหรับพระราชทานแก่ประมุขแห่งรัฐต่างประเทศโดยเฉพาะ
โดยแต่เดิมเคยใช้เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรื่องยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ ในการพระราชทาน
๒. เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรื่องยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ ม.จ.ก.
สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุนาธิคุณ
ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ที่ได้ทรงสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานีมาครบ ๑๐๐ ปี สำหรับพระราชทานแก่
พระบรมวงศานุวงศ์ที่สืบเนื่องโดยตรงในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และผู้ที่พระบรมวงศานุวงศ์ดังกล่าวเสกสมรสด้วย
๓. เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ น.ร.
เครื่องราช ฯ ที่มีประวัติสืบเนื่องมาสมัยอยุธยาที่แต่เดิมสร้างเป็นสร้อยสังวาลย์ประดับเนาวรัตน์ ครั้นรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแสว่า ธรรมเนียมเดิมของสยามนั้นจะมีแหวนนพเก้าสำหรับพระเข้าแผ่นดินทรงและพระราชทาน
แก่เสนาบดี จึงได้ทรงสร้างพระราชทานแก่พระบรมวงศ์และเสนาบดีรวม ๒๐ วง และ ทรงสร้าง ดวงตรานพรัตน์ดารา เพื่อประดับอกเสื้อ
พระราชทานแก่พระบรมวงศ์ ในปัจจุบันมีสำหรับพระราชทาน ๒๗ สำหรับ โดยผู้จะรับพระราชทานจะต้องเป็น พุทธมามกะ เท่านั้น อีกทั้งยังเป็น
เครื่อราช ฯ ชั้นสูงสุดที่สามัญชน จะรับพระราชทานได้
๔. เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า
สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงระลึกว่าพระมหากษัตริย์ไทยครองราชย์ประมาณ ๙๐ ปี
ไม่มีเหตุการแย่งชิงอำนาจก็ด้วยเพราะมีเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชบริพารที่ได้สร้างคุณงามความดี ช่วยพระราชภาระต่างๆ
โดยกำหนดให้เครื่องราช ฯ ตระกูลนี้สามารถสืบตระกูลได้ (ทายาทชายเท่านั้น) แบ่งออกเป็นฝ่ายหน้าและฝ่ายใน ฝ่ายหน้าสูงสุดที่ชั้น ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ ป.จ.ว.
และฝ่สยในสูงสุดที่ชั้น ปฐมจุลจอมเกล้า ป.จ. (สตรีที่ได้รับพระราชทานจะมีคำนำนามว่า คุณหญิง ท่านผู้หญิง หากสมรสแล้ว และ
คุณ หากยังมิได้สมรส)
๕.เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี
สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สำหรับพระราชทานแก่ผู้มีบำเน็จความชอบแก่ราชการทหาร ทั้งในยามสงบ
และยามสงคราม โดยผู้รับพระราชทานจะรับแต่เฉพาะพระพักตร์และจะต้องเข้าพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาด้วย
๖.เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างขึ้นโดยแต่แรกไม่มีชั้นสายสะพาย จนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้กำหนดให้มีชั้นสายสะพายในภายหลัง สำหรับพระราชแก่ผู้ที่ประกอบคุณงามความดีแก่ราชการและสาธารณะ และข้าราชการพลเรือน
ข้าราชการเมือง ทหาร ตำรวจ เครื่องราชฯ ตระกูลนี้รัฐบาลจะเป็นผู้เสนอชื่อเท่อขอพระราชทานโดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักนายกรัฐมนตรี
๗. เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย (เดิม มงกุฎสยาม)
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างเพื่อพระราชทานแก่ผู้ทำคุณประโยชน์แก่ราชการและสาธารณะ
มีหลักในการขอพระราชทารเช่นเดียวกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก
๘. เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์
พระบาทสเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นสำหรับพระราชทานแก่ ผู้ที่สร้างคุณประโยชน์ สร้างคุณงามความดี
นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ อีกทั้งผู้ที่ได้เสียสละทรัพย์สินและเงินให้เสียสาธารณะและหน่วยงานต่างๆเพื่อสร้างประโยชน์ อาทิ ศิลปินแห่งชาติ
นักกีฬาที่ชนะการแข่งขันโอลิมปิก ฯลฯ
๙.เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ
เครื่องราช ฯ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าพระราชพระบรมราชานุญาตให้สร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมกำลังใจแก่ผู้ที่
อุทิศตนให้แก่กิจการลูกเสืออย่างแท้จริง
ปล.มีรายละเอียดเยอะมากจ้ะ เลยเขียนแค่พอสังเขปนะจ๊ะ
ขอบคุณภาพจากหลายๆที่ และข้อมูลมากมายจากหลายที่เจ้าค่ะ