คุณจะเป็นฝ่ายรุกหรือเป็นฝ่ายรับดี?
เคยรักใครแล้วต้องรุกหรือเปล่าคะ?
แหม...สวยๆ อย่างนี้มีแต่ต้องให้คนอื่นมารุกสิ ชิ ชิ
ไม่แน่ใจว่ารุกในที่นี้แปลว่า Make a first move หรือเปล่า ในสมัยดึกดำบรรพ์เชื่อว่า ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายจีบผู้หญิง คือเป็นฝ่ายรุก ส่วนผุ้หญิงก็นั่งแกะสลักฟักทอง แตงกวา นั่งปั่นด้ายอยู่ที่บ้านรอผู้ชายมาจีบ คำว่า รุก ยังหมายถึง การเป็นฝ่าย active ส่วนฝ่ายตั้งรับนั้นถือเป็นฝ่าย passive
พอดูจากภาษาอังกฤษแล้วให้ภาพชัดเจนกว่าภาษาไทย ลองเปลี่ยนคำถามใหม่ว่าอยากเป็นฝ่าย active หรืออยากเป็นฝ่าย passive?จะเห็นว่าพอลองเปลี่ยนภาษามันจะไม่ใช่เรื่องของใครจีบใครก่อน แต่คำว่า activeและ passive มีนัยความหมายของการได้กำหนดชะตากรรมของตนเอง - อ่านถึงตอนนี้ใครยังนึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงไวยกรณ์ภาษาอังกฤษที่เรียนกันในชั้นมัธยมเรื่อง passive voic e คือไวยากรณ์ที่อยู่ในรูปของการ‘ถูกกระทำ’ เช่น
ฉันได้รับการให้ความสนใจ, ฉันได้รับการเชิญไปงานเลี้ยง เขาถูกอ่านจดหมายให้ฟัง ฉันถูกชวนไปดูหนัง ฯลฯ
หากยังนึกไม่ออกว่า การดำรงตนอยู่ในสภาพ Passive หรือเป็นฝ่ายตั้งรับ เกี่ยวข้องอะไรกับความรัก ฉันจะยกตัวอย่างให้ดูอีก
เพื่อนคนหนึ่งเป็นหญิงสาว สวย เก่งเธอมักจะบ่นเสมอว่าเธอเหนื่อย เหตุที่เหนื่อย เพราะเธอรู้สึกว่า แฟนของเธอ ‘นิ่ง’ เกินไป แฟนเป็นประเภท อยู่กับที่ ไม่ค่อยเป็นฝ่าย ‘รุก’ ถ้าเธอไม่เป็นฝ่ายไปหา เขาก็ไม่มาหาเธอ
ถามว่า รักกันมั้ย คำตอบคือ รัก แต่นั่นคือนิสัยของแฟนเธอ ที่คุยกันมาแล้ว ตั้งแต่ต้นก่อนตกลงเป็นแฟนกันว่าเขาเป็นคนแบบนี้ ชอบมีแฟนแบบมีระยะห่างบ้าง ให้อิสรภาพแก่กันและกัน ไม่ก้าวก่ายชีวิตกันมาก
ทีนี้ปัญหาคืออะไร ตามประสาผู้หญิง มีแฟนก็อยากใช้เวลาด้วยกัน อยากโทร.คุยกัน แต่ฝ่ายผู้ชายก็รับโทรศัพท์บ้าง ไม่รับบ้าง โทร.กลับบ้าง ไม่โทร.กลับบ้าง แถมยังเป็นฝ่าย ‘แล้วแต่เธอ’สมมุติฝ่ายหญิง เริ่มงอนว่ า‘ชั้นไม่ไปหา
เธอละ’ฝ่ายชายก็จะตอบว่า ‘ไม่เป็นไรแล้วแต่เธอ’ แต่ถามว่าฝ่ายชายรักผู้หญิงมั้ย คำตอบคือ รัก ไม่เพียงแต่รักยังซื่อสัตย์และจริงใจอีกด้วย ทั้งยังเป็นคนอ่อนโยนจิตใจดี ข้อเสียเพียงประการเดียวที่เขามีคือ ‘ไม่รุก’
เมื่อเป็นดังนี้คนที่เหนื่อยคือฝ่ายหญิงเพราะต้องเป็นฝ่าย ‘รุก’ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ เป็นฝ่ายไปหา เป็นฝ่ายวางแผนการเที่ยวในวันหยุดนานเข้าก็หมดแรง เหนื่อย ไหนจะทำงาน ไหนจะต้องขับรถ ไหนจะเป็นฝ่ายต้องโทร.หา
ในที่สุดเธอจึงตัดสินเป็นฝ่าย ‘นิ่ง’ บ้างคือ - นิ่ง - ในที่นี้เป็นคนละเรื่องกับการ ‘งอน’ นิ่งของเธอคือได้ตระหนักแล้วว่าในเมื่อแฟนเธอก็รักเธอมาก แต่ในเมื่อตัวตนของเขาเป็นแบบนั้นคือ ไม่ชอบอะไร ที่ต้องพยายามหรือฝืนจังหวะ
ชีวิตปกติ เช่น หากทั้งคู่งานยุ่งหรือไม่สะดวกที่จะเจอกัน หรือการเจอกันแล้วทำให้เหนื่อย ก็ไม่ต้องเจอ ไม่ต้องกำหนดว่าจะเจอกันอาทิตย์ละกี่ครั้ง แต่ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติคือ อยากเจอก็เจอ สะดวกสำหรับสองฝ่าย
มาเจอกันโดยที่ไม่มีใครต้องเหนื่อยก็เจอ
ทำได้ดังนี้ปรากฏว่าชีวิตของเพื่อนดีขึ้นมาก มีเวลาไปเล่นโยคะ (แทนการอุทิศเวลาขับรถข้ามเมืองไปหาแฟนแถมรถยังติดวินาศ) มีเวลาไปนั่งทำเล็บ มีเวลาอยู่กับแม่ เล่นกับหมา อ่านหนังสือ ทำงานที่บ้าน
ดีไปกว่านั้นคือ ความสัมพันธ์กับแฟนก็ดีขึ้น เพราะเมื่อไม่เหนื่อยเสียแล้วอารมณ์ของคนทั้งคู่ก็ดีขึ้นคุยกันสนุกขึ้น เมื่อห่างกันบ้าง ก็คิดถึงกันมากขึ้น ตอนนี้เป็นฝ่ายชายที่โทร.หาเธอบ่อยกว่าเดิม และแน่นอนว่าทำให้ความรักแน่นแฟ้นกว่าที่เคยเป็น
ตอนนี้เพื่อนคนนี้อารมณ์ดี ร่าเริง ไม่มีหน้าตาอิดโรยเพราะเหนื่อยล้า ทั้งยังตัดสินใจให้ตนเองได้ว่า ความรักที่ยั่งยืนต้องเริ่มจากความรักที่ไม่ขูดรีดพลังงานจากตนเองมากเกินไป
ถามว่าเพื่อนคนนี้เปลี่ยนจากฝ่ายรุกมาเป็นฝ่ายรับหรือไม่?
คำตอบคือ เพื่อนคนนี้เปลี่ยนจากฝ่าย passive คือเปลี่ยนจากจุดยืนที่ไม่กล้า ‘เลือก’ กำหนด ชีวิตของตนเองแล้วลุกขึ้นมาบอกว่า‘เอาล่ะต่อไปนี้ ฉันจะเอาตารางเวลาและกิจกรรมของฉันเป็นหลักแทนการเอาชีวิตทั้งหมด
ไปแขวนอยู่บนตารางเวลาและกิจกรรมของแฟน’
สำหรับฉันแล้วนี่คือการ ‘รุก’ นั่นคือ เราเป็นฝ่าย active เราเลือกได้ว่าเราอยากมีชีวิตแบบไหน และในความสัมพันธ์ ในชีวิตคู่ สิ่งที่สำคัญที่สุดน่าจะหมายถึงการที่ทั้งสองฝ่ายได้ ‘รุก’ หรือ active เท่าๆ กัน เพราะการที่ฝ่ายใด
ฝ่ายหนึ่งต้องเป็นฝ่าย passive หรือเป็นฝ่าย ‘รองรับ’ ความปรารถนาของอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ร่ำไป สุดท้ายมันย่อมนำมาสู่จุดที่ฝ่าย passive จะเดินมาสู่จุดที่ตะโกนออกมาว่า ‘ตูไม่ไหวแล้วโว้ยยยยย ทำไมจึงเป็นเธอที่กำหนดอะไร
ต่อมิอะไรอยู่ฝ่ายเดียว’
จะรุกหรือจะรับ คงไม่ใช่เรื่องใครจีบใครก่อนใครเริ่มรักใครก่อน แต่เป็นเรื่องการ ‘รุก’ ที่หมายถึงการรักษาอำนาจในการ‘เลือก’ และมีความรักความสัมพันธ์แบบไม่กดขี่ ขูดรีดทั้งแรงงาน เวลา และอารมณ์ ความรู้สึก
ของตนเอง ขณะเดียวกันก็ไม่เรียกร้อง ขูดรีด จากคนที่เรารักด้วย
ซ้ำขออภัยค่ะ
รูปประกอบ : อินเตอร์เน็ต
Hug Magazine