ชวนชม Jack The Giant Slayer แจ๊ค ผู้สยบยักษ์!! [[รีวิว + สปอยส์นิดๆแบบอ่านได้ ไม่เสียอรรถรส]]
Jack The Giant Slayer : แจ๊ค ผู้สยบยักษ์
คมนิด จี๊ดเลย : สถานการณ์สร้างฮีโร่ กาลเวลาสร้างวีรบุรุษ
Napat's Rating : (B) , 8 /10
Updateเรื่องหนัง ทันใจ ก่อนใคร!! คลิ๊กLIKE!!! : https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
- คำเตือน : นี่คือเรตติ้งและความคิดเห็นส่วนตัวหลังชมหนังของผมคนเดียวเท่านั้น ย้ำว่าส่วนตัวนะครับ บางคนเห็นตรง บางคนอาจเห็นต่าง ถือว่าเอามาแลกเปลี่ยนทัศนะกันเฉยๆ โปรดอย่าได้ถือสากับคำวิจารณ์ของผมเลยนะครับ เพราะเป็นเพียงอีกหนึ่งเสียงจากการชมหนังในฐานะคนดูหนังธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น -
จากใจ..ถึงหนังเรื่องนี้ : จริงๆแล้วจะว่าไปก่อนจะกล่าวถึงหนังขอกล่าวถึงประสบการณ์ในการชมหนังเรื่องนี้ในโรง"พารากอนซีนิเพล็กซ์"ซักหน่อยดีกว่า ทีแรกผมตีตั๋วมาชมเรื่องนี้ด้วยความตั้งใจที่ว่า เราจะได้พบกับหนังสนุกสุดมันส์โทนสีสันสดใสตามสไตล์เทพนิยายเป็นแน่
แต่ปรากฏว่าพอดูไปตั้งแต่เปิดเรื่อง รู้สึกว่าโทนหนังมันมืดพิกลๆ ภาพตำนานยักษ์ที่เป็นฉากเกริ่นเรื่องก็มืดมนเสียแทบมองไม่เห็น จนแอบคิดไปว่า "ไบรอัน ซิงเกอร์" ผู้กำกับเรื่องนี้เขาเปลี่ยนลุคโทนหนังเขาขนาดนี้้เชียวหรือหลังจากที่ในเอ๊กเมนซ์ หรือแม้กระทั่งซูปเปอร์แมนรีเทิร์นที่เขาเคยกำกับก็ยังมีเค้าสีสันสดใสอยู่บ้าง
ไปๆมาๆชักพิกลเพราะเมื่อเปิดตัวพระเอก หน้าพระเอกนี่ดำหมองจนเราคิดว่าทำไมเกรดสีภาพไม่เหมือนในตัวอย่างเลย จะเอาให้ดำทะมึนขนาดนี้กันเชียวหรือ?? สักพักทุกอย่างก็หายข้องใจเมื่อ...
"หนังค้าง"
ใช่ครับมันแฮงค์ไปเลย เหมือนเราดูแผ่นหนังเก๊บนจอใหญ่แล้วสะดุดอารมณ์นั้นเลยครับ สักพักก็มีพนักงานประกาศมาจากด้านบนห้องฉายว่าเครื่องฉายมีปัญหา ภาพสีดรอปและเครื่องค้าง นึกแล้วพลันโล่งใจที่ไม่ทันได้ดูแบบนี้ไปจนจบแล้วจะพาลด่าหนังเรื่องนี้ในประเด็นโทนสีภาพเอาเสียเปล่าๆ
ขณะที่ทุกคนกำลังงุนงงกำลังสิ่งที่เกิดขึ้น พนักงานก็ได้ชี้แจงมาว่าทางดรงหนังIMAXหนังเรื่องนี้กำลังจะเริ่มฉาย ใครอยากดูต่อแบบไม่เสียอารมณ์ก็ย้ายตัวตนของท่านไปยังที่นั่นเสีย ผมจึงไม่รอช้าที่จะไปไอแมกซ์ทันที และถือว่าให้อภัยกันได้ทั้งๆที่อารมณ์กำลังค้างได้ที่เลย ต้องขอบคุณทางพารากอนซีนีเพล๊กซ์ที่ออกมารับผิดชอบด้วยนะครับ รอบนี้เลยได้ผลประโยชน์ดูโรงไอแมกซ์ในราคาที่นั่งโรงปกติไปด้วยเลย ฮ่าๆ
กลับมากล่าวถึงตัวหนังกันบ้าง เพื่อไม่ให้เป้นการสปอยจนเสียอรรถรสจึงอยากจะพูดในส่วนของภาพรวมอารมณ์หลังที่ได้ชมหนังนะครับ
สำหรับเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากเทพนิยาย"แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์"ที่เด็กมากมายต้องเคยได้อ่านหรือได้ฟังก่อนนอนทั้งนั้น แต่ที่เหนือความคาดหมายคือหนังได้เอามาต่อยอดเนื้อหาต่างๆจากหนังสือจนออกมาได้รสชาติและสมจริง สนุก เร้าใจมากกว่าในหนังสือหลายเท่าตัว คิดๆไปเหมือนตอนที่นาร์เนียเคยนำหนังสือมาทำหนัง ก็มองว่าหนังได้สร้างอะไรให้เราได้"โอ้โห"ตามไปมากกว่าหนังสืออยู่หลายขุม
กล่าวง่ายๆคือเรื่องนี้คือหนังผจญภัยที่ดูสนุก ชมได้ทั้งครอบครัว มีฉากให้ได้ลุ้นตลอดเวลา บทค่อนข้างพลิกแพลงไปมาพยายามเล่นกับคนดูไม่ให้จับไต๋ตามสูตรสำเร็จได้มากเกินไป ดังนั้นเลยมักจะมีอะไรโผล่มาแบบเหนือคาดในหนังตลาดจ๋าแบบนี้ได้เช่นกัน น่าสนใจที่ว่าสุดท้ายเรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลจะไปจบลง ณ ที่ใด
หลังจากนี้สปอยส์เล็กน้อย แต่อ่านไปก็ไม่ทำให้ดูหนังสนุกน้อยลงครับ
พูดตัวละครแจ๊ค ที่รับบทโดย นิโคลัส ฮอลล์ หนุ่มสุดฮอต ณ เวลานี้ที่สลัดคราบจากซอมบี้กลายมาเป็นฮีโร่ มารอบนี้ฮอล์ได้เลือกบทที่ดีในการมาเล่นหนังอีกแล้ว เพราะคนที่ดูมีแต่จะหลงรักแจ๊คกันทั้งนั้น ไม่เชื่อลองถามแม่ยกทั้งหลายสิ 55+ ฮอล์ถ่ายทอดบทบาทของตัวเองออกมาได้ดีเลยครับและถือว่าน่าจับตาในผลงานต่อๆไปมากๆ ส่วนนางเอกที่เป็นเจ้าหญิง รวมถึงยวน เมคเกวเกอร์ในบทราชองค์รักษ์ก็ทำหน้าที่ของตนได้ดี แถมยังฝากประโยคคมๆไว้ในหนังซะด้วย
ด้านของเทคนิคภาพพอมาดูโรงไอแมกซ์ภาพมัวๆนัวๆทั้งหลายก็กลับสดใสแบบที่คิดไว้โดยพลัน ดูเป็นหนังผจญภัยขึ้นมาทันที ถือว่าทำได้สวยงามเลยครับ แม้จะมีบางฉากพานึกถึงหนังเรื่อง "อวตาร" ไปบ้าง แต่การดูสามมิติเรื่องนี้ก็ชวนลุ้นได้หลายเที่ยวครับทำให้การดูหนังสนุกมากขึ้นตั้งแต่เอาใจช่วย"แจ๊ค"ปีนต้นถั่วให้สำเร็จ แค่นี้ก็คุ้มสามมิติแล้วครับ
ทางด้านดนตรีประกอบของจอห์น ออตแมน นักประพันธ์ดนตรีคู่ใจผู้กำกับซิงเกอร์ก็ทำดนตรีออกมาได้ติดหูดีครับ มีธีมที่ดูเป็นหนังผจญภัยมากๆ เหมือนเป็นการผจญภัยแบบตะลุยแบบบ้านๆ(นึกไปถึงตั้งแต่ฉากหนุ่มบ้านนาในเรื่อง)แต่ก็แฝงไปด้วยอารมณ์พีเรียดขลังๆดูอลังการไปในเวลาเดียวกัน(นึกถึงองค์หญิง) หนังมักจะเปรียบเทียบสองตัวละครนี้ที่มีการถูกเลี้ยงดูที่ต่างกัน จึงมีแนวคิดที่ต่างกัน แต่กระนั้นเขาทั้งสองก็กลับเป็นส่วนนึงที่จะเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไปให้กันและกัน แม้ว่าจะอยู่ต่างศักดิ์ต่างชนชั้นกัน แบบนี้พลอยนึกถึงละครไทยสมัยก่อน แต่ขอบอกว่าเรื่องนี้ทำมาแล้วไม่เชยนะ มันดูเข้าถึงวัยรุ่นได้ไม่ยากซะด้วยแม้จะพีเรียดย้อนยุคก็เถอะ ขอคอนเฟิร์ม
ผู้กำกับไบรอัน ซิงเกอร์ได้เล่าเรื่องผจญภัยออกมาได้ดีตามเคยครับ รวมทั้งยังเล่าเรื่องรักกุ๊กกิ๊กออกมาได้น่ารักไม่ชวนเลี่ยนด้วย แกยังคงรักษามาตรฐานที่เคยทำหนังสนุกๆออกมาหลายเรื่องไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะดูจากหน้าหนัง นึกไม่ถึงว่าในเรื่องจะมี"อะไร"ไปมากกว่าภาพสวยๆฉากมันส์ๆ เห็นได้ชัดว่านี่เป้นอีกเรื่องที่มีการวางจังหวะเรื่องมาดี ผู้กำกับคุมจังหวะตรงนี้ได้ดีครับทำให้หนังดูตื่นเต้นและน่าติดตามตลอดเรื่องโดยไม่น่าเบื่อเลย แถมอาจจะยังไม่อยากให้จบไปด้วยซ้ำ ถือว่าน่าชื่นชมครับแต่แอบตินิดช่วงท้ายที่ควรแต่งเมคอัพตัวเอกให้สมกับอายุในโมเมนต์นั้นมากกว่านี้หน่อยแต่กระนั้นถ้าดูไม่คิดมากคงไม่ติดใจอะไรอยู่ดี ก็ชวนชมกันได้ทั้งครอบครัวครับ เป็นหนังสนุกที่ดูกันรับปิดเทอมได้เลย!!
ปล.สุดท้ายขอฝากหนังตัวอย่างทีเซอร์ "หนังซอมบี้" ผลงานเรื่องใหม่ของผมไว้ด้วยนะคร้าบ
อันนี้ตัวอย่างหนัง "แจ๊ค" ครับ
ขอลากันด้วยScoreดนตรีเพราะจากหนังเรื่องนี้ครับ ลองกดมาฟังกันได้ครับ
ติดตามผลงานรีวิวอื่นๆและผลงานหนังสั้นต่อได้ที่นี่ครับ
ใครชอบอ่านรีวิวหรืออยากติดตามเรื่องราวข่าวสารดีๆจากผม
ผมจะไป"แชร์"ให้ทุกท่านโดยตรงในเพจด้านล่างนี้นะคร้าบ
มาLikeเยอะๆนะคร้าบ คลิกไปแล้วไม่ผิดหวังครับ!!
สุดท้าย อย่าลืมช่วยกัน "โหวต" ให้กระทู้นี้ด้วยนะคร้าบ
ขอบคุณคร้าบ
https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
https://www.facebook.com/S.L.Studios.Ent