---

ฮวยคุยปู้กุ่ย 花開富贵  ... ขอให้ร่ำรวยดุจดั่ง ปุบฝาเบ่งบาน ...

 มกราคม ปีใหม่สากล กับศักราชใหม่ๆ เดี๋ยวนี้เด็กรุ่นใหม่เข้าใจว่าส่งปีนักษัตริย์ มะโรงไปเรียบร้อย

แล้ว แต่ความเป็นจริงหากนับตามจันทรคติของปฏิทินจีน และไทย เรายังคงอยู่ในปีมะโรงโค้งสุดท้าย

โดยปฏิทินของไทยและจีน จะสิ้นสุดปีมะโรงนี้ในช่วงตรุษไทยหรือจีน นั้นเองตรุษจีนปีนี้

จะเริ่มเมื่อไร ? เรื่องราวของตรุษจีน ปีนี้มีสาระ,เรื่องเล่าที่น่ารู้ที่น่าสนใจอะไรบ้าง ?

เรามาดูกันครับ....

 

---

4 กพ. บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ก่อนส่งเจ้าขึ้นสวรรค์

ที่จริงวันทำความสะอาด แห่งชาติ(จีน) จะเริ่มช่วงก่อนวันที่สี่ กพ. เล็กน้อย บรรดาร้านค้า

สมัยก่อนนิยมหยุดแค่ช่วงตรุษจีน วันธรรดาค้าขายไม่มีหยุดบ่อยแบบสมัยนี้ ร้านรวงผ่านปีย่อมขมุก

ขมัวไม่แจ่มใส การเตรียม ทำความสะอาดบ้านถือเป็นกุโลบายของบรรพบุรุษที่ให้เกิดสุขอนามัย

 ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต ขอขอบคุณ... 

---

ที่ดีต่อคนอาศัยและลูกค้า สี่ กพ. คือวันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ เราจะมีการทำการไหว้เจ้าพร้อม

เปลี่ยน"กิมฮวย" ที่หิ้งตี่จู้แล ปึ้งเถ้า เลย นัยยะให้เจ้าสะอาดสง่า สมศักศรี ก่อนขึ้นไปรายงาน

ประจำปีเกี่ยวกับพฤติกรรมชาวเรา  ...

(อ่าน รายละเอียดการไหว้ ที่นี)

 

 

---

 

 

---

 9 กพ . ชุงโจ๊ยะ วันไหว้ สารทสุดท้ายของปี 

วันไหว้ตรุษจีนปีนี้ ตรงกับวันที่ 9 กพ. เด็กๆที่ไม่ทราบมักพูดตรงกันเสมอว่าวันตรุษจีนคือวันไหว้ ซึ่ง

ไม่ถูก วันไหว้สารทสุดท้ายของชาวจีน(ชุงโจ๊ยะ春节) คือวันสุกดิบ ก่อนวันตรุษจีนหนึ่งวันต่างหาก

ในปีนี้ตรงกับวันที่ 9 กพ. ที่จะถึงครับ 

 

(อ่าน รายละเอียดการไหว้ ที่นี)

---

 

 

---

10 กพ. โต้รุ่งไหว้เทพเจ้าโชคลาภและไหว้ปีใหม่ ต้อนรับวันแรกของปี 

คนจีนนับเวลาไม่เหมือนกับชาวไทยและฝรั่ง เวลาที่สิ้นสุดของวันจริงๆ คือ ช่วงเวลา 22.59 นาที

ครั้นพอ 23.00 ถือเป็นวันใหม่ของชาวจีน ปฏิทินจันทรคติจะนำ สิบสองนักษัตริย์ มาเป็นตัวแทน

เวลา ๆ ละหนึ่งชั่วยาม ซึ่งมี สองชั่วโมง   

โดย เวลาแรกของวันคือ ชวด เริ่มตั้งแต่ 23.00 - 24.59 น.

เพราะคนทำปฏิทินคงกลัวคนรุ่นเราสับสนเรื่องเวลานี่แหละ เขาเลยมักระบุวันไหว้เทพเจ้า

โชคลาภแปะในวันท้ายปีแทน จำง่ายๆ  ว่าเราไหว้เทพเจ้าโชคลาภในวันตรุษจีน ก็พอครับ

คติการไหว้ เทพเจ้าโชคลาภ มีง่ายๆคือ ตั้งโต๊ะไหว้ในทิศที่ท่านเสด็จมา ของวันนั้นๆ

ดูตรงตารางสี่เหลี่ยมซ้ายจะระบุไว้ (ดูภาพประกอบ)  และพยายามไหว้ในฤกษแรกของปี

ที่ดี กิ๊ก(吉) หากไม่มีก็เลือกปานกลาง ตง(中)  ของวันนั้น เช่่น หนู ๆ ไม่ดี ก็ ฉลู ไล่

ไปเรื่อยๆบางปีที่ ฤกษ์แรกที่ดี ไปอยู่นู้น ตีสามก็ยังมี...

ปีนี้ฤกษ์ปานกลาง(ตง) คือฤกษ์แรกพอดี ไหว้ในคืนวันที่ เก้า กพ ครับ 

การไหว้เจ้าในบ้านเป็นปฐมฤกษ์ของปี โดยมากจะไหว้ในเวลาเดียวกับไหว้เทพเจ้าโชคลาภ

จึงไม่ยุ่งยาก โดยเราเพียงเพิ่มส้ม และขนมจันอับ กระดาษเงินทอง ไหว้ตี่จู้ ,ปึงเถ้า(ถ้าบ้านไหนมี)

ก็พอ หลังไหว้บรรดาส้มนี้แหละจะถูกนำไปแจกญาติผู้ใหญ่ในวันเยี่ยมเยี่ยนนั้นเอง...

ธรรมเนียมการอยู่โต้รุ่งเพื่อตอนรับปีใหม่ของชาวจีนเรียกว่า ซิ่วส่วย守岁(จ.กลาง โส่วซุ่ย)

(อ่าน รายละเอียดการไหว้ ที่นี)

 

---

วันปีใหม่... วันถือ วันเที่ยว

"วันถือ" ที่เด็กรุ่นใหม่ชอบถาม ก็คือวันตรุษจีนนี้แหละครับ โดยเช้าๆ ของปี ชาวจีนจะทำใจให้แจ่มใส

กินเจ ในมื้อแรกของปี โดยหุ่งข้าวสวย ชาวจีนรุ่นเก่าเขาถือว่าหากมื้อแรกของปีทานข้าวต้ม

ปีนั้นทั้งปีจะเจอแต่ฝนทั้งปี ... 

กับข้าวก็เอาอาหารเจแห้ง ที่เราไหว้เทพเจ้าโชคลาภแต่เมื่อคืนล้างแช่น้ำไว้ พอเช้าเห็หอม เห็ดหูหนู

วุ้นเส้นฯลฯ ก็นำมาผัดอาหารเจ ทานในตอนเช้านี่แหละครับ...

วันนี้จะเป็นวันดี ทุกคนจะนำเสื้อผ้าใหม่ๆ หรือที่ดีที่สุด สีมงคล ไม่นิยมใส่สีน้ำเงินหรือ ดำ ขาว

ซึ่งเป็นสีไว้ทุกข์ วันนี้ของปีต้องไม่ ดุด่า ตี  บริวาร  ,ไม่ทานยา เพราะเดี๋ยวจะป่วยทั้งปี

ไม่ตัดผม , ไม่กวาดบ้าน เพราะเดี๋ยวโชคลาภจะหายไป หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆจะใช้ผ้าเช็ดๆๆแทน

ไม่ทำจานชามแตก หากแจ๊กพ๊อต ทำแตก ต้องเอ่ยคำมงคลดังๆ เช่น

 " ฮุ้ยพั่วฉุ่ย ไต่ปู้กุ่ย"   จานชามเปิดปาก(ซึ่งคือแตก) ร่ำรวยทรัพย์อนันต์ .... เพื่อเป็นเคล็ด

ไม่ทำการณ์อันทำให้เกิดเรื่องราวขึ้นโรง,ศาล , โรงพยาบาล รวมถึงไปงานศพ ซึ่งหากเป็นเพื่อน

ที่สนิมมากๆ ก็เลี่ยงวันนี้ หนึ่งวัน ...  อันที่จริงในห้วงสิบห้าวันแรกของจีน (เจียง้วยเถ้า) นี้คนจีน

ก็พยายามไม่ให้มีเรื่องราวใดใดไม่ดีทั้งนั้นก็เพื่อถือเป็นคติว่าเริ่มปีใหม่ เริ่มอะไรดีดี

ก็จะดีไปตลอดปีนั้นเอง...

 

 

---

ก่อนจะถึง 13 กพ. วันพักผ่อนหยุดเที่ยวประจำปี...

กำนัลส้มกำนัลโชค

ในช่วงเวลาพักผ่อนนานทีปีหนของชาวจีนรุ่นพ่อเรา มีกิจกรรมไม่กี่อย่าง คือ ไปไหว้เจ้า ทำบุญ

และ พ๊ะเก่ง ตามวัดหรือศาลเจ้าที่เคารพเช่น หลวงพ่อโตวัดพนัญเชิง ,หลวงพ่อโตวัดกัลยา,

ศาลเจ้าไต้ฮงกงโจ้วซือ ที่พลับพลาชัย เป็นต้น 

 

กินอี้ เผ่งอัง อี้ต้มเปลือกส้มของศาลเจ้าไต้ฮงกง แวะทานหลังจากไปพ๊ะเก่งขอ ฮู้อากง นำกลับบ้าน ..ขอบคุณเวป ไต้ฮงกง

---

กิจกรรมถัดมาคือการไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่นับถือ สิ่งสำคัญในช่วง เจียง้วยเถ้า นี้เราต้องไม่ไป

มือเปล่า เราต้องติดส้ม ก็ส้มที่เราไปไหว้เจ้ามานั้นแหละ พกไปด้วย นำไปกำนัลให้เจ้าบ้าน

พร้อมเอ่ยคำมงคลดีดี ส่วนมากที่ฮิตๆๆก็ 

新正如意  新年發財

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวกไช้ (เจีย ก็ย่อมาจากเจียง้วยเถ้านี่แหละครับ ....ผู้เขียน)

สุขสมปรารถนานับแต่ต้นปี ค้าขายรุ่งเรือง

หากเป็นผู้ใหญ่สูงอายุ ก็อาจอวยพรว่า

เซ็งที่เกี่ยงคั่ง          ฮะแกเพ่งอัง 

身体健康              合家平安

ขอให้สุขภาพแข็งแรง สวัสดิมงคลทัังครอบครัว.... (เราถือท่านเป็นตัวแทน ครอบครัว ...ผู้เขียน)

ทางเจ้าบ้านก็จะเอ่ยคำมงคลตอบมาเช่นกัน 

 หนี่นี้อู่อื้อ ...มีกินตลอดปี อื้อ 余 เสียงคล้าย ฮื้อ 鱼  ที่แปลว่าปลา สื่อความหมายว่ามีกินมีใช้อุดมสมบูรณ์ตลอดปี

---

 สำหรับกรณีคนค้าคนขายคำอวยพรที่นิยมมากๆก็คือ

 เซ้งลี่เฮงล้ง    หนี่นี้อู่อื้อ 

 生意興隆      年年有余

(ค้าขายร่ำรวย   มีกินมีใช้ ตลอดปี)

หรือ อาจ แค่บอกว่า แป่แกตั่งตั้ง   ขอให้พรนี้เสมือนกันทั้งสองครอบครัว ก็ได้...

แล้วธรรมเนียมเจ้าบ้านจะรับส้มทั้งหมดไม่ได้ ต้องนำสองลูกคืน บวกกับส้มตัวเองอีกสอง

ลูก รวมเป็นสี่ลูก ส่งกำนัลกลับไป เพื่อให้พรนั้นคืนกลับผู้มาเยี่ยมด้วย ถือเป็นธรรมเนียม

ปฏิบัติที่ดีตอบครับ

(อ่านรายละเอียดเรื่องการพ๊ะเก่งและทำบุญแก้ชงที่นี่)

 ชิวสี่ 初四 ... บรรดาเจ้าลงจากสวรรค์ 

---

13 กพ.  ไห้วรับเจ้าที่กลับจากสวรรค์ .หมดเวลาพัก เริ่มลุยงาน คุยกัง開工 !!

บรรดาเจ้าที่เสด็จขึ้นสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 24(ตามจันทรคติ) วัันนี้จะเป็นวันกำหนดที่ท่านกลับลงมา

ชาวจีนจึงจะมีการไหว้เจ้าตามปรกติ แต่ชาวจีนรุ่นเก่าๆมักจะเริ่มทำงาน(คุยกัง 開工) กันในวันนี้

ไปด้วยเลย โดยจะมีการแกะฮู้ หรือ ยันต์ปีเก่าๆที่ปิดไว้ นำไป เฮี่ยงหรือ เผา และ นำฮู้ใหม่ๆมาติด

ก่อน ไหว้เจ้าในช่วงเช้า โดยรุ่นคุณพ่อนิยม นำ กระดาษแดง มาตวัดพู่กัน

เขียนอักษรมงคลกลอนคู่ หรือ ตุ้ยเลี้ยง มงคลมาติดที่ประตู ร้านค้า ส่วนมากเป็นคำมงคล

ที่คล้องจองไพเราะลึกซึ้งมากนัยยะ เพื่อเป็นการเอาฤกษ์ นั้นเอง ครั้นไหว้เจ้าเสร็จ

ก็จะทำการจุดประทัด และพร้อมที่จะเริ่มงานใหม่ในปีใหม่ๆ ที่ดีๆเป็นมงคลแล้ว...

 ตุ้ยเลี้ยงกลอนคู่(คู่ใครคู่มัน สังเกตุจากการสัมผัสของกลอน...ผู้เขียน) ภาพจากอินเตอร์เน็ต ขอขอบคุณ

  

---

 

 

เจ็ดค่ำ ทานผักเจ็ดอย่าง...

---

16 กพ. ชิวฉิก ทานผักเจ็ดอย่าง

ชิวเฉ่ก "วันมนุษย์" 人日 นั้งยิก ตอนสร้างโลกเทพ หนี่วา ได้ปั้นมนุษย์ขึ้นในวันนี้ วันนี้เลยถือเป็น

วันกำเนิดมนุษย์นั้นเอง...

เจ็ดค่ำ ทานผักเจ็ดอย่าง(七樣菜  ฉิกเอี่ยไฉ่) โดยเลือกบรรดาผักที่ชื่อฟ้องกับคำมงคลต่างๆ

เจ็ดชนิดนำมาปรุง หากหาไม่ได้ก็ให้เสริมผักธรรมดาแซมๆให้ครบเจ็ดชนิดก็ได้ครับ 

ส่วนวิธีการปรุงก็แตกต่างกันไปตามภาคต่างๆ ส่วนมากผัดแล้วอบและเติมซุปทำเป็น จับฉ่าย

รับประทาน ในวันเจ็ดค่ำจีน บางท้องถิ่นนิยม ทานเพียงหกอย่าง (六樣菜) หลักเอี่ยไฉ่ ก็มี

ผักเจ็ดอย่างประกอบด้วย

1 芹 菜   แต้จิ๋ว  คึ้งไฉ่ , คิ้งไฉ่, เข่งไฉ่   (ฉินไช่  จ.กลาง)  คึ้งไฉ่  ซึ่งไปพ้องเสียงกับคำว่า

                                  勤 คึ้ง  ที่แปลว่าขยัน ซึ่งเป็นความหมายมงคล

---

2 ชุงไฉ่ 春 菜 พ้องกับคำว่า “ ชุงที  ” ( 春天 ชุนเทียน ) ฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นฤดูที่สดใส ตื่นจากการ

การหลับใหลในฤดูหนาว ชีวิตกสิกรรม เริ่มต้นอีกครา  อีกความหมายที่ฟ้องเสียงกับคำว่า

伸 ชุง (จ.กลาง เซิน แปลว่า ยืด หรือ ยื่น)  กับสำนวน 伸腰 ชุงเอีย (จ.กลาง เซินยาว .. ยืดเอว ) 

เป็นสำนวนว่า "ลืมตาอ้าปาก" ซึ่งเป็นคำมงคล บางถิ่น ก็จะหมาย ถึง เหลือ ... ชุ้ง 存 (จ.กลาง ฉุน)

ซึ่งหมายถึงทานแล้ว เหลือกินเหลือใช้ตลอดปี ก็มี

 

---

 3. เก่าฮะ  厚 合 (โฮ้วเก่อ)  ผักเขียว ๆ ใบหนา ๆ ที่มีความหมายคือ รักใคร่ (ฮะ 合) กันอย่าง

กลมเกลียวกันมาก (เก่า 厚)   ซึ่งเป็นมงคลสำหรับการครองเรือนนั้นเอง...

 

---

 4. สึ่ง 蒜(จ.กลาง ซ้วน) คือ ต้นกระเทียมที่งอก ลักษณะคล้ายๆต้นหอม คำว่าสึ่ง พ้องเสียงกับคำว่า

“ สึ่ง “ ( 算 ) แปลว่า “นับ , คำนวน การวางแผน ”  ...หมายความว่าทานแล้วเก่งกาจ ในการคำนวน

หรือวางแผนเก่งนั้นเอง...

 

 

---

5. ตั่วไฉ่ 大 菜  ผักกาดเขียว    ตั่ว 大  แปลว่า ใหญ่ หรือ โต  เช่น  เจ้าคนนายคน .. ตั่วนั้ง 大人

หรือ แปลว่า ข้าราชการก็ได้   ดังนั้น ทาน ตั่วไฉ่ ทานแล้วได้เป็นเจ้าคนนายคนนั้นเอง 

 

 

---

6. ไช่เท้า 菜 頭  คำว่า เท้า 頭 (จ.กลาง โถว ) แปลว่าเป็น หัวหน้า ,เป็นผู้นำ  เช่น 頭手 เถ่าชิ้ว

หมาย ถึงหัวหน้ากุ๊ก เป็นต้น  

 

---

7. คะน้า 甲 藍 หากออกเสียงถูกจริงๆคือ คือ กะนั้ม  คำว่า กะ 甲 (จ.กลาง เจี่ย) หมายถึง

ลำดับที่หนึ่งใน สิบจักรแผนภูมิสวรรค์ 十天干 จับเทียงกัง (สือเทียนกาน)  ดูหมายเหตุประกอบ

ดังนั้นหากทานคะน้าย่อมหมายถึงเราจะเป็นหนึ่ง ซึ่งเป็นความหมายที่มงคล...

 

 

---

18 กพ. ไหว้ทีกง 天公生ทีกงแซ

ทีกง 天公 คือการสื่อนัยยะถึงการเคารพสักการะ ฟ้า  ซึ่งชาวจีนถือว่าสูงสุด ในวันที่ 18 กพ นี้

ชิวเก้า หรือเก้าค่ำ ถือเป็นการไหว้ ทีกง ครั้งแรกของปี  

(อ่านรายละเอียดเรื่องราวของ ทีกง ได้ที่นี่ )

 

 

---

24 สิ้นสุด ช่วง "ต้นปี" ไหว้เจ้า เชิญ เจดีย์น้ำตาล

วันสุดท้ายของ "ช่วงปีใหม่จีน"  เจียง้วยเท้า(正月頭) คือ วันที่ 24 กพ .ซึ่ง คนไทย จะรู้จักกัน

ว่าเป็น วันพระ สิบห้าค่ำแรกของจีน อันที่จริง วันนี้ ถือเป็นสารทแรกของจีน เรียกว่า

ง้วงเซียวโจ๊ยะ 元宵节

โดย ชาวจีน ทั่วโลก จะรู้จักว่า ค่ำคืนนี้จะมีเทศกาลโคมไฟ นั้นเอง ส่วนชาวไทยไม่เป็นที่นิยม

จึงมีเพียงการไหว้เจ้าในช่วงเช้า และทำบุญพ๊ะเก่ง  ที่เด่นๆน่าสนใจ ก็คือคติความเชื่อ

(ซึ่งไม่ใช่ประเพณี) ในการ ขอทุน (เงินขวัญถุง) ,การขอลูกโดยจะไป ขอเงินขวัญถุง

(คนรุ่นเก่าใช้คำว่ายืม) หรือไปขอลูกโดยไปบูชา(สมัยก่อนใช้คำว่า"ขโมย"เป็นเคล็ด)

สิงห์โตน้ำตาล (ไซทึ้ง) หรือ เจดีย์น้ำตาล(ทึ้งถะ) ที่ศาลเจ้าพ่อเสือ ถนนตะนาว พระนคร ...