หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“วิธีล่าอาหารแบบดั้งเดิมที่น่าทึ่งสุดๆ”

เนื้อหาโดย paama

whalejumpDM0407_800x384

 

ทุกวันนี้บางที่ในโลกผู้คนก็ยังคงหาอาหารด้วยวิธีการแบบดั้งเดิมนั่นคือ การออกล่า แต่เรื่องของเราในวันนี้ไม่ใช่แค่การล่าธรรมดาๆ แต่แบบวิธีการล่าแบบสุดขั้วที่เห็นแล้วจะต้องทึ่งว่า เขาลงทุนกันขนาดนี้เลยหรือนี่

 

 

ห้อยตัวจากหน้าผาเพื่อเก็บน้ำผึ้ง

Bees-Nepal-Hunters30 ที่มาภาพ the honey gatherers  

การเก็บน้ำผึ้งจากรังผึ้งปกติก็เป็นขั้นตอนอันตรายสำหรับมนุษย์อยู่แล้ว แต่สำหรับหมู่บ้านโดดเดี่ยวแห่งหนึ่งในประเทศเนปาล การห้อยตัวลงมาจากหน้าผาเพื่อเก็บน้ำผึ้งจากรังของผึ้งนับล้านๆ ตัวที่สร้างอยู่ตามขอบหน้าผานั้น กลับเป็นธรรมเนียมที่ทำกันมานานจนเป็นเรื่องปกติ แน่นอนว่านอกจากอันตรายจากผึ้งแล้ว ยังมีคนจำนวนมากที่ต้องจบชีวิตลงจากการตกหน้าผา และนี่คือสาเหตุที่ชื่อของหน้าผาส่วนใหญ่แถบนั้นตั้งตามชื่อของคนที่เสียชีวิตในจุดนั้นจากความพยายามที่จะไปเก็บน้ำผึ้ง

Bees-Nepal-Hunters24 ที่มาภาพ the honey gatherers  

วิธีการเก็บน้ำผึ้งแบบชาวบ้านต้องทำกันเป็นทีม 2 ทีม คือ ทีมบนหน้าผาและทีมบนพื้น ซึ่งแต่ละคนจะต้องมีความเชี่ยวชาญในงานของตัวเอง ขั้นแรกของการเก็บน้ำผึ้งคือการเผาไม้บริเวณฐานของหน้าผาเพื่อให้ควันลอยขึ้นไปยังรังผึ้งและให้ผึ้งหนีออกจากรังก่อน หลังจากนั้น คนที่อยู่บนหน้าผาจะหย่อนบันไดที่ยาวเหยียดลงไปพร้อมกับตะกร้าที่จะใช้เก็บน้ำผึ้ง จากนั้นคนที่อยู่ข้างล่างหน้าผาจะปีนบันไดขึ้นมาพร้อมกับถือไม้ไผ่ยาวๆ เพื่อใช้ในการสอยรังผึ้งมาด้วย  

bee

  ที่มาภาพ the honey gatherers

คนเก็บรังผึ้งจะมัดตัวเองเข้ากับบันได จากนั้นก็จะใช้ไม้ไผ่แทงสุ่มๆ เข้าไปในรังผึ้งเพื่อให้มันตกลงไปในตะกร้าตามคำบอกทิศทางของคนข้างบนและข้างล่าง คนด้านล่างจะมีหน้าที่คอยเลื่อนบันไดไปทางซ้ายหรือขวา ส่วนคนด้านบนก็มีหน้าที่สาวตะกร้าเก็บรังผึ้งขึ้นไปเมื่อเต็มแล้ว ที่ลำบากที่สุดน่าจะเป็นคนแหย่รังผึ้ง เพราะจะต้องโดนเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาตามหน้าผาพร้อมกับโดนฝูงผึ้งที่กำลังโกรธเกรี้ยวต่อยด้วยตลอดเวลา การเก็บน้ำผึ้งแบบนี้จะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง และน้ำผึ้งที่ได้คงต้องอร่อยมากทีเดียวถึงยอมลงทุนกันขนาดนี้ ลองเข้าไปดูภาพถ่ายขั้นตอนเต็มๆ ได้ ที่นี่    

 

 

ขโมยเนื้อจากสิงโต

154639 ที่มาภาพ Cracked

ชนเผ่ามาไซเป็นผู้ค้นพบว่า แทนที่จะออกล่าสัตว์เหมือนอย่างที่บรรพบุรุษเคยทำกันมา การขโมยเนื้อจากสิงโตง่ายกว่ากันเยอะ (รึเปล่า?) เลยได้วิธีการใหม่ในการหาอาหารที่เสี่ยงตายน่าดูแบบนี้แทน  

 

 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ การแย่งเนื้อจากสิงโตใช้คนแค่ 3 คนเท่านั้น ชายเผ่ามาไซเหล่านี้จะเดินเรียงหน้ากระดานเข้าไปหาสิงโตอย่างมั่นใจและไม่แสดงความหวาดกลัวแม้แต่น้อย โดยไม่มีทั้งอาวุธและไม่ได้ตะโกนข่มขู่ใดๆ ทั้งสิ้น แต่สิงโตกลับตกใจและถอยหนีไป ทิ้งอาหารที่มันหามาอย่างยากลำบากให้เป็นลาภปากแก่เหล่ามนุษย์ธรรมดาๆ เสียอย่างนั้น กว่าสิงโตเหล่านี้จะหายงงแล้วนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองมีพวกมากกว่าและไม่เห็นต้องไปกลัวกับมนุษย์แค่ไม่กี่คนเลยนี่นา อาหารที่ลืมทิ้งไว้เมื่อกี้ก็โดนขโมยไปจนหมดแล้ว    

 

 

 

เก็บเพรียงตามหินชายฝั่ง

1231011223

ที่มาภาพ lasuerteestaechada

ณ ชายฝั่งอันสวยงามของประเทศสเปน มีสถานที่หนึ่งซึ่งเหล่าคนที่ไม่เกรงกลัวต่อคลื่นลมเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อเก็บ เพรียงคอห่าน สัตว์ทะเลตัวเล็กๆ ที่ดูยังไงก็ไม่เห็นเหมือนห่านหรือคอห่านเลยสักนิด

percebes4
เพรียงคอห่าน

ที่มาภาพ vinosel  

เพรียงคอห่าน เป็นวัตถุดิบในการทำอาหารที่มีราคาสูงและเป็นที่นิยมมาก ที่คือเหตุผลว่าทำไมจึงมีคนเสี่ยงชีวิตมากมายเพื่อเก็บมันไปขาย คนเหล่านี้มีชื่อเรียกว่า "Percebeiros" ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บเพรียงในพื้นที่นี้โดยเฉพาะ เหล่า Percebeiros จะทำงานเป็นทีมอย่างน้อย 2 คน พวกเขาจะไปที่ชายฝั่ง Galicia ที่มีสภาพเป็นหินขรุขระซึ่งมีเพรียงคอห่านอาศัยอยู่มาก โดยจะพลัดกันฝ่าคลื่นแรงเข้าไปเก็บเพรียงเหล่านี้โดยมีเพียงเชือกหนึ่งเส้นมัดตัวติดไว้เท่านั้น

percebeira1

ที่มา flickr , albertoalonso  

แต่ที่อันตรายกว่านั้นคือ ถ้าต้องการเพรียงตัวใหญ่ซึ่งอาศัยอยู่ในส่วนลึกของหมู่หิน Percebeiros จะต้องไต่หินลื่นๆ เหล่านี้เข้าไปเองโดยหวังว่าคงจะไม่ล้มหัวฟาดหินหรือโดนคลื่นซัดตกทะเลไปก่อน และแน่นอนว่ามีเพียงไม่กี่คนที่ยอมเสี่ยงขนาดนี้ ทำให้ความต้องการและราคาของเพรียงคอห่านสูงขึ้นเรื่อยๆ ประมาณการกันว่า ใน 1 ปี จะมี Percebeiros เสียชีวิตจากการเก็บเพรียงแบบนี้ 5 คน    

 

 

 

หาหอยแมลงภู่ใต้พื้นน้ำแข็ง

_50923103_musselgather640bbc ที่มาภาพ bbc  

ชาวพื้นเมืองอินูอิตทางตอนเหนือของประเทศแคนาดามีอาหารหลักก็คือ เนื้อแมวน้ำ เพราะแถบนั้นนอกจากของทะเลแบบนี้แล้วแทบจะหาอะไรกินไม่ได้ แม้แต่พืชผักก็แทบจะไม่ขึ้นในพื้นที่หนาวเย็นแบบนั้น และเมื่อเนื้อแมวน้ำมีไม่พอหรือเมื่อเบื่อกินเนื้อแมวน้ำกันแทบตายแล้ว ชาวอินูอิตก็จะลงไปใต้พื้นน้ำแข็งหนาวเหน็บเพื่อหาหอยแมลงภู่มากินเป็นอาหารแทน

LO-RES-FEA-PHOTOS-MUSSEL-HARVEST-10094A0282
หอยแมลงภู่

ที่มาภาพ indian country today media network  

ในบริเวณแถบขั้วโลกนั้นผิวน้ำจะเป็นน้ำแข็งตลอดเกือบทั้งปี แต่จะมีบางครั้งเมื่อน้ำลงก็จะเหลือแต่เพียงแผ่นน้ำแข็งปกคลุมอยู่และพื้นข้างล่างก็จะกลายเป็นอุโมงค์แห้งๆ และพวกหอยต่างๆ ก็โผล่ขึ้นมาบนพื้นดิน และในช่วงเวลานี้เองที่ชาวอินูอิตจะขุดน้ำแข็งเพื่อลงไปเก็บหอยขึ้นมา

inuit ที่มาภาพ bbc , karipearls  

ชาวอินูอิตจะมีเวลาประมาณชั่วโมงครึ่งเท่านั้นในการเก็บหอยก่อนที่น้ำทะเลจะขึ้นมาอีกและถ้ำใต้น้ำแข็งก็จะกลายสภาพเป็นกับดักน้ำที่ไม่มีทางออก นอกจากจะเสี่ยงเรื่องเวลาน้ำขึ้นแล้ว ยังต้องคอยลุ้นไม่ให้แผ่นน้ำแข็งข้างบนเกิดถล่มลงมาใส่เพราะไม่มีอะไรรองรับน้ำหนักของน้ำแข็งอยู่เลยในขณะนั้น    

 

 

 

การล่าวาฬของชาว Lamalera

WhaleBM_800x477 ที่มาภาพ dailymail  

ชาว Lamalera บนเกาะทางตะวันออกของประเทศอินโดนีเซียมีประเพณีการล่าวาฬกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ต่างจากการล่าวาฬในปัจจุบันซึ่งถูกต่อต้านจากหลายประเทศทั่วโลก ชาว Lamalera ล่าวาฬโดยมีเพียงเรือพายกับหอกไม้ไผ่ และไม่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยใดๆ ทั้งสิ้น ชาว Lamalera จะเริ่มต้นการล่าวาฬด้วยการอยู่บนชายหาดและมองหาวาฬที่อาจหลงมาใกล้ๆ เมื่อพบแล้ว เหล่าชาวเกาะก็จะรีบออกเรือและพายไปยังจุดที่เห็นวาฬ ซึ่งแค่ขั้นตอนพายไปนี้ก็อาจจะกินเวลาหลายชั่วโมง เนื่องจากเรือของชาว Lamalera เป็นเรือแจวธรรมดาๆ ที่ต้องใช้แรงช่วยกันพายไป และถ้าเรือสามารถเข้าไปใกล้กับวาฬได้มากพอ นักแม่นหอกก็จะหยิบหอกไม้ไผ่ขึ้นมาแล้วพุ่งหลาวลงไป (ทั้งตัว) จนหอกปักโดนวาฬ

whalejumpDM0407_800x384
วิธีพุ่งหลาวของแบบชาว Lamalera ที่ถูกต้องต้องบินลงไปทั้งตัวแบบนี้

ที่มาภาพ dailymail  

มาถึงตอนนี้ บางครั้งวาฬก็จะดำน้ำหนีไปโดยดึงเรือลงไปด้วย หรือไม่ก็โจมตีเรือจนแตกเสียหาย ถ้าวาฬเกิดหลุดหนีไปได้พวกชาวเกาะก็จะไปตามล่าวาฬตัวต่อไปที่อยู่แถวๆ นั้นแทน (ส่วนมาก กว่าจะจับได้ ก็หลังจากพยายามจับมาแล้วหลายตัว) แต่ถ้าเรือยังคงรอดอยู่และคนบนเรือยังอยู่ดี พวกเขาก็จะช่วยกันแทงและฟันวาฬที่กำลังว่ายไปรอบๆ เรือ แต่โดยส่วนมากแล้วไม่มีใครอยู่บนเรือเท่าไหร่ เพราะเมื่อแทงวาฬได้แล้วครั้งหนึ่งคนบนเรือก็จะพากันดำน้ำลงไปเอามีดหรือหอกแทงวาฬใต้น้ำต่อ

whale

ที่มาภาพ dailymail

สุดท้ายเมื่อวาฬหมดแรงสู้แล้ว ชาวเกาะก็จะลากมันกลับมาเข้าฝั่งพร้อมกับร้องเพลงเพื่อขอบคุณและขอโทษวิญญาณของวาฬที่ล่ามาได้ จากนั้นเนื้อของมันก็จะถูกแจกจ่ายให้กับคนในหมู่บ้านกินเป็นอาหารต่อไป

 

 
ที่มา Cracked
แปล และเรียบเรียง Everyday-Readers.com

เนื้อหาโดย: http://www.everyday-readers.com
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
paama's profile


โพสท์โดย: paama
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
36 VOTES (4/5 จาก 9 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เเตเเต มิสแกรนด์พม่า แต่งหน้าไม่สวยเหมือนตอนอยู่ไทย10 อาหารลดบวมน้ำ ตัวช่วยจากผักและผลไม้ ขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกายผัวช็อก!! หลังเมียคลอดลูกออกมา ลูกมีผิวดำนักแสดงดัง แจ้งข่าว ติดเชื้อ “HIV” ก่อนโพสต์สุดเศร้าGen Z ไฟแรง สูงทะเยอทะยาน อยากโตไว ไม่รอแล้วนะ!เก็บตก! งาน Top9 MGI Queen’s Celebration 2024 งานแฟชั่นโชว์สุดอลังการฉลองความสำเร็จ Miss Grand International
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เเตเเต มิสแกรนด์พม่า แต่งหน้าไม่สวยเหมือนตอนอยู่ไทยเก็บตก! งาน Top9 MGI Queen’s Celebration 2024 งานแฟชั่นโชว์สุดอลังการฉลองความสำเร็จ Miss Grand Internationalน้ำมันตับปลา ยาอายุวัฒนะจากท้องทะเลลึก สู่ช้อนชาในโรงเรียนอังกฤษ
ตั้งกระทู้ใหม่