เรื่องแปลกแต่จริงที่คนโพสยังอ่านไม่หมดเลย
โพสท์โดย inoi
1. น้ำหนักวิญญาณ
เชื่อ หรือไม่คะว่าวิญญาณของพวกเราก็มีน้ำหนักด้วยเหมือนกันนักวิทยาศาสตร์ทดลอง ชั่งน้ำหนักของวิญญาณโดยชั่งน้ำหนักของคนในขณะที่มีชีวิตอยู่เปรียบเทียบกับ น้ำหนักหลังจากเสียชีวิตทันทีพบว่าน้ำหนักหายไป 21 กรัม จึงสรุปว่าดวงวิญญาณของพวกเรามีน้ำหนัก 21 กรัมด้วย
2. สารฆ่าความเจ็บปวด
เคย สังเกตไหมว่าทำไมบางครั้งนักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บในระหว่างการแข่งขันยัง สามารถลงแข่งขันได้จนจบหรือทหารที่ได้รับบาดเจ็บในสนามรบยังคงทนต่อสู้ข้า ศึกอยู่ได้พวกเขาไม่เจ็บกันหรือนักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วค่ะว่าเมื่อมนุษย์ เผชิญสถานการณ์ที่ตึงเครียดสมองจะปล่อยสารออกมายับยั้งความรู้สึกเจ็บปวดเอา ไว้ทำให้มนุษย์ต่อสู้กับความเจ็บปวดได้
3. ไม่มีน้ำตา
รู้ หรือปล่าวว่าตอนที่เราอายุ 4-5 เดือน เราร้องไห้ไม่มีน้ำตากันหรอกค่ะแม้จะร้องเสียงดังแค่ไหนก็ตามที่เป็นเช่นนี้ เพราะต่อมน้ำตาของคนเราจะพัฒนาขึ้นหลังจากเกิดมาแล้ว 4 -5 เดือนตอนนี้พวกเราคงจะร้องไห้มีน้ำตากันทุกคนแล้วนะค่ะ
4. หิวเพราะกลิ่น
พอกลิ่น หอมของอาหารลอยมาพวกเราคงเคยรู้สึกหิวตามกลิ่นนั้นไปด้วยใช่ไหมล่ะก็กลิ่น อาหารเข้าไปกระตุ้นระบบการย่อยอาหารของเราน่ะสิคะทำให้น้ำย่อยในปากและท้อง ทำงานเราจึงรู้สึกหิวทั้งๆที่บางครั้งเราไม่ต้องการกินอีกแล้ว
5. กระเพาะแข็งแกร่ง
ใน กระเพาะอาหารของเรามีน้ำย่อยที่มีฤทธิ์เป็นกรดสูงมาก จนสามารถละลายสังกะสีได้แต่กรดเหล่านี้ไม่สามารถละลายผนังกระเพาะของเราได้ เนื่องจากทุกนาทีเซลล์ผนังกระเพาะเก่า 5000 เซลล์จะถูกเซลล์ใหม่แทนที่และเปลี่ยนเป็นเซลล์ใหม่ทั้งหมดทุกๆ 3 วัน
เชื่อ หรือไม่คะว่าวิญญาณของพวกเราก็มีน้ำหนักด้วยเหมือนกันนักวิทยาศาสตร์ทดลอง ชั่งน้ำหนักของวิญญาณโดยชั่งน้ำหนักของคนในขณะที่มีชีวิตอยู่เปรียบเทียบกับ น้ำหนักหลังจากเสียชีวิตทันทีพบว่าน้ำหนักหายไป 21 กรัม จึงสรุปว่าดวงวิญญาณของพวกเรามีน้ำหนัก 21 กรัมด้วย
2. สารฆ่าความเจ็บปวด
เคย สังเกตไหมว่าทำไมบางครั้งนักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บในระหว่างการแข่งขันยัง สามารถลงแข่งขันได้จนจบหรือทหารที่ได้รับบาดเจ็บในสนามรบยังคงทนต่อสู้ข้า ศึกอยู่ได้พวกเขาไม่เจ็บกันหรือนักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วค่ะว่าเมื่อมนุษย์ เผชิญสถานการณ์ที่ตึงเครียดสมองจะปล่อยสารออกมายับยั้งความรู้สึกเจ็บปวดเอา ไว้ทำให้มนุษย์ต่อสู้กับความเจ็บปวดได้
3. ไม่มีน้ำตา
รู้ หรือปล่าวว่าตอนที่เราอายุ 4-5 เดือน เราร้องไห้ไม่มีน้ำตากันหรอกค่ะแม้จะร้องเสียงดังแค่ไหนก็ตามที่เป็นเช่นนี้ เพราะต่อมน้ำตาของคนเราจะพัฒนาขึ้นหลังจากเกิดมาแล้ว 4 -5 เดือนตอนนี้พวกเราคงจะร้องไห้มีน้ำตากันทุกคนแล้วนะค่ะ
4. หิวเพราะกลิ่น
พอกลิ่น หอมของอาหารลอยมาพวกเราคงเคยรู้สึกหิวตามกลิ่นนั้นไปด้วยใช่ไหมล่ะก็กลิ่น อาหารเข้าไปกระตุ้นระบบการย่อยอาหารของเราน่ะสิคะทำให้น้ำย่อยในปากและท้อง ทำงานเราจึงรู้สึกหิวทั้งๆที่บางครั้งเราไม่ต้องการกินอีกแล้ว
5. กระเพาะแข็งแกร่ง
ใน กระเพาะอาหารของเรามีน้ำย่อยที่มีฤทธิ์เป็นกรดสูงมาก จนสามารถละลายสังกะสีได้แต่กรดเหล่านี้ไม่สามารถละลายผนังกระเพาะของเราได้ เนื่องจากทุกนาทีเซลล์ผนังกระเพาะเก่า 5000 เซลล์จะถูกเซลล์ใหม่แทนที่และเปลี่ยนเป็นเซลล์ใหม่ทั้งหมดทุกๆ 3 วัน
6. ท้องร้องจ๊อกๆ
เรา เคยได้ยินเสียงท้องร้องเมื่อรู้สึกหิวบ้างไหมสาเหตุที่ท้องร้องก็เพราะสมอง ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมความรู้สึกหิวของเราจะคอยจัดลำดับการทำงานของกระเพาะ อาหารและลำไส้ ถ้าในเลือดมีสารอาหารพอเพียงสมองก็จะสั่งให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลงแต่ เมื่อใดที่มีสารอาหารในเลือดน้อยระบบย่อยอาหารจะทำงานเร็วขึ้นเราจึงได้ยิน เสียงท้องร้อง
7. ตกใจจนหน้าซีด
เมื่อ เราตกใจหน้าจะซีดเนื่องจากเลือดบริเวณแก้มจะไหลย้อนกลับอย่างรวดเร็วเพื่อทำ หน้าที่ฉุกเฉินคือให้สารอาหารและออกซิเจนแก่กล้ามเนื้อส่วนอื่นเนื่อง จากร่างกายไม่ได้เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องเผชิญความตกใจเมื่อเลือด จากแก้มไหลออกไป หน้าเราจึงซีด
8. เขินอาย
เมื่อ เรารู้สึกเชินอายหน้าเราก็จะแดง โดยเฉพาะบริเวณแก้มและลำคอเพราะขณะที่เราเขินอาย เซลล์ประสาทจะถูกกระตุ้นให้ปล่อยสารเคมีที่พลังงานสูงชื่อว่าเปปไทด์ (peptide) ออกมา ทำให้เส้นเลือดที่แก้มและลำคอขยายตัวหน้าของเราจึงแดงมากกว่าปกติ
9. มาจากดวงดาว
ร่าง กายของเราประกอบด้วยอะตอมจำนวนมาก อะตอมเหล่านี้มาจากไหนนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มเชื่อว่าอะตอมเกิดมาจากดวงดาว ที่ดับแล้วเมื่อ 5000 ล้านปีก่อนที่จะมีพระอาทิตย์เกิดขึ้นและดวงดวงนี้เคยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ก่อนเมื่อโลกเกิดขึ้นเซลล์ของสิ่งมีชีวิตนี้ก็ได้พัฒนาเรื่อยมาจนกลายเป็นคน
20. ตาแหลมคม
ตา ของเหยี่ยวสามารถมองเห็นแมลงวันที่อยู่ในระยะครึ่งไมล์ได้ส่วนเสือดาวก็ สามารถมองเห็นคนกระพริบตาที่ระยะห่าง 100 หลาได้ตาของคนก็มีความพิเศษเช่นเดียวกัน เพราะสามารถแยกแยะความแตกต่างของสีได้มากถึง 17,000 สี
เรา เคยได้ยินเสียงท้องร้องเมื่อรู้สึกหิวบ้างไหมสาเหตุที่ท้องร้องก็เพราะสมอง ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมความรู้สึกหิวของเราจะคอยจัดลำดับการทำงานของกระเพาะ อาหารและลำไส้ ถ้าในเลือดมีสารอาหารพอเพียงสมองก็จะสั่งให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลงแต่ เมื่อใดที่มีสารอาหารในเลือดน้อยระบบย่อยอาหารจะทำงานเร็วขึ้นเราจึงได้ยิน เสียงท้องร้อง
7. ตกใจจนหน้าซีด
เมื่อ เราตกใจหน้าจะซีดเนื่องจากเลือดบริเวณแก้มจะไหลย้อนกลับอย่างรวดเร็วเพื่อทำ หน้าที่ฉุกเฉินคือให้สารอาหารและออกซิเจนแก่กล้ามเนื้อส่วนอื่นเนื่อง จากร่างกายไม่ได้เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องเผชิญความตกใจเมื่อเลือด จากแก้มไหลออกไป หน้าเราจึงซีด
8. เขินอาย
เมื่อ เรารู้สึกเชินอายหน้าเราก็จะแดง โดยเฉพาะบริเวณแก้มและลำคอเพราะขณะที่เราเขินอาย เซลล์ประสาทจะถูกกระตุ้นให้ปล่อยสารเคมีที่พลังงานสูงชื่อว่าเปปไทด์ (peptide) ออกมา ทำให้เส้นเลือดที่แก้มและลำคอขยายตัวหน้าของเราจึงแดงมากกว่าปกติ
9. มาจากดวงดาว
ร่าง กายของเราประกอบด้วยอะตอมจำนวนมาก อะตอมเหล่านี้มาจากไหนนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มเชื่อว่าอะตอมเกิดมาจากดวงดาว ที่ดับแล้วเมื่อ 5000 ล้านปีก่อนที่จะมีพระอาทิตย์เกิดขึ้นและดวงดวงนี้เคยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ก่อนเมื่อโลกเกิดขึ้นเซลล์ของสิ่งมีชีวิตนี้ก็ได้พัฒนาเรื่อยมาจนกลายเป็นคน
10. สารพัดสาร
เชื่อ หรือไม่ว่าในร่างกายของเรามีสารอยู่มากมาย เช่นมีฟอสฟอรัสในปริมาณที่มากพอจะทำหัวไม้ขีดไฟ 2,000 ก้าน มีไขมันพอที่จะทำสบู่ได้ 7 ก้อน มีเหล็กมากพอที่จะทำตะปูได้ 1 ตัวมีปูนขาวที่สามารถละลายน้ำแล้วนำไปทาห้องเล็ก ๆ ได้ 1 ห้อง มีซัลเฟอร์ 1 ช้อนชาและโลหะอีกประมาณ 30 กรัม
11. นอนแล้วสูง
การ นอนช่วยให้เราสูงขึ้นได้เพราะเมื่อเรายืนหรือนั่ง แผ่นกระดูกอ่อนที่กระดูกสันหลังจะถูกแรงดึงดูดของโลกกดลงการนอนช่วยให้แรงกด นี้หายไป แผ่นกระดูกอ่อนที่ถูกกดก็จะพองตัวทำให้เราสูงขึ้นได้อีก 8 มิลลิเมตรแต่เมื่อตื่นมาเราก็จะสูงเท่าเดิม
เชื่อ หรือไม่ว่าในร่างกายของเรามีสารอยู่มากมาย เช่นมีฟอสฟอรัสในปริมาณที่มากพอจะทำหัวไม้ขีดไฟ 2,000 ก้าน มีไขมันพอที่จะทำสบู่ได้ 7 ก้อน มีเหล็กมากพอที่จะทำตะปูได้ 1 ตัวมีปูนขาวที่สามารถละลายน้ำแล้วนำไปทาห้องเล็ก ๆ ได้ 1 ห้อง มีซัลเฟอร์ 1 ช้อนชาและโลหะอีกประมาณ 30 กรัม
11. นอนแล้วสูง
การ นอนช่วยให้เราสูงขึ้นได้เพราะเมื่อเรายืนหรือนั่ง แผ่นกระดูกอ่อนที่กระดูกสันหลังจะถูกแรงดึงดูดของโลกกดลงการนอนช่วยให้แรงกด นี้หายไป แผ่นกระดูกอ่อนที่ถูกกดก็จะพองตัวทำให้เราสูงขึ้นได้อีก 8 มิลลิเมตรแต่เมื่อตื่นมาเราก็จะสูงเท่าเดิม
12. พลังกาย
ร่าง กายของคนเราแข็งแกร่งมากกว่าที่เราคิดเสียอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถใน การยกน้ำหนัก เช่น ถ้าเรานอนหลับโดยห่มผ้าหนัก 2.5 กิโลกรัม หายใจโดยเฉลี่ย 16 ครั้งต่อนาที และนอนนานประมาณ 8 ชั่วโมงทรวงอกของเราสามารถยกน้ำหนักได้ถึง 20 ตัน
13. ฉันทำไม่ได้
สิ่ง ที่ร่างกายของคนเราไม่สามารถทำได้ คือหายใจและกลืนอาหารไปพร้อม ๆ กันเพราะกระบวนการกลืนจะไปรบกวนกระบวนการหายใจด้วยการปิดกั้นอากาศไม่ให้ ผ่านเข้าไปขณะที่อาหารเคลื่อนจากปากไปยังคอหอยและผ่านไปที่กระเพาะอาหาร
14. มนุษย์พลังงาน
เชื่อ หรือไม่ว่าร่างกายของคนผลิตกระแสไฟฟ้าได้คนแต่ละคนจะมีพลังงานเทียบเท่ากับ การเปิดหลอดไฟฟ้าขนาด 120 วัตต์เพราะคนที่กินอาหารเข้าไปปริมาณ 2,500 แคลอรีในแต่ละวันจะให้พลังงานความร้อน 104 แคลอรีต่อชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากระแสไฟฟ้าที่มีพลังงาน 120 วัตต์
15. กระพริบตา
ตลอด ชีวิตของคนเรานั้นเราต้องกระพริบตาถึง 250 ล้านครั้งทีเดียว เพราะเราจะต้องกระพริบตาทุก ๆ 6 วินาทีทำให้กล้ามเนื้อตาเคลื่อนไหวประมาณ 10,000 ครั้งต่อวันถ้าเปรียบกับการทำงานของกล้ามเนื้อขาแล้ว จะเท่ากับวิ่งระยะทาง 80 กิโลเมตรต่อวัน
16. สมองบริโภค
เชื่อ หรือไม่ว่าตอนแรกเกิดสมองของเราหนักประมาณ 3% ของน้ำหนักตัวเท่านั้น แต่เมื่ออายุได้ประมาณ 15 ปี สมองจะหนักถึง 1.4 กิโลกรัมและจะมีขนาดคงที่ สมองเติบโตได้เพราะใช้พลังงานจากอากาศที่เราหายใจเข้าไป 20% และใช้เลือดหล่อเลี้ยงถึง 15% ของเลือดทั้งหมดในร่างกาย
17. กระบวนการคิด
นัก วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า อิริยาบถต่าง ๆมีผลต่อการคิดและการตัดสินใจของมนุษย์ การนอนคิดจะทำให้ความคิดกว้างไกลการยืนทำให้ความคิดแคบลงสามารถตัดสินใจได้ เร็วขึ้นส่วนการนั่งเป็นอิริยาบถที่เหมาะกับการตัดสินใจที่ไม่รีบร้อนเท่าใด นัก
18. ผมงอก
โดย ปกติ ใน 1 สัปดาห์ผมจะงอกออกมา 2 มิลลิเมตรใน 1 วัน จะมีช่วงที่ผมงอกได้ดี 2 ช่วง คือ ระหว่างเวลา 10.00 11.00 น.และ 16.00 18.00 น. แต่ไม่ต้องเอากระจกไปส่องดูการงอกของเส้นผมหรอกนะเพราะมันแทบจะมองไม่เห็น เลย
19. เส้นขนแข็งแรง
โดย เฉลี่ยแล้วคนเราจะมีเส้นขนประมาณ 5 ล้านเส้นทั่วร่างกาย ยกเว้นบริเวณริมฝีปากฝ่ามือและฝ่าเท้า เส้นขนที่แข็งแรงที่สุดคือหนวด เชื่อหรือไม่ว่าหนวดแข็งแรงพอ ๆกับลวดทองแดงที่มีขนาดเท่ากันเลยทีเดียว
ร่าง กายของคนเราแข็งแกร่งมากกว่าที่เราคิดเสียอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถใน การยกน้ำหนัก เช่น ถ้าเรานอนหลับโดยห่มผ้าหนัก 2.5 กิโลกรัม หายใจโดยเฉลี่ย 16 ครั้งต่อนาที และนอนนานประมาณ 8 ชั่วโมงทรวงอกของเราสามารถยกน้ำหนักได้ถึง 20 ตัน
13. ฉันทำไม่ได้
สิ่ง ที่ร่างกายของคนเราไม่สามารถทำได้ คือหายใจและกลืนอาหารไปพร้อม ๆ กันเพราะกระบวนการกลืนจะไปรบกวนกระบวนการหายใจด้วยการปิดกั้นอากาศไม่ให้ ผ่านเข้าไปขณะที่อาหารเคลื่อนจากปากไปยังคอหอยและผ่านไปที่กระเพาะอาหาร
14. มนุษย์พลังงาน
เชื่อ หรือไม่ว่าร่างกายของคนผลิตกระแสไฟฟ้าได้คนแต่ละคนจะมีพลังงานเทียบเท่ากับ การเปิดหลอดไฟฟ้าขนาด 120 วัตต์เพราะคนที่กินอาหารเข้าไปปริมาณ 2,500 แคลอรีในแต่ละวันจะให้พลังงานความร้อน 104 แคลอรีต่อชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากระแสไฟฟ้าที่มีพลังงาน 120 วัตต์
15. กระพริบตา
ตลอด ชีวิตของคนเรานั้นเราต้องกระพริบตาถึง 250 ล้านครั้งทีเดียว เพราะเราจะต้องกระพริบตาทุก ๆ 6 วินาทีทำให้กล้ามเนื้อตาเคลื่อนไหวประมาณ 10,000 ครั้งต่อวันถ้าเปรียบกับการทำงานของกล้ามเนื้อขาแล้ว จะเท่ากับวิ่งระยะทาง 80 กิโลเมตรต่อวัน
16. สมองบริโภค
เชื่อ หรือไม่ว่าตอนแรกเกิดสมองของเราหนักประมาณ 3% ของน้ำหนักตัวเท่านั้น แต่เมื่ออายุได้ประมาณ 15 ปี สมองจะหนักถึง 1.4 กิโลกรัมและจะมีขนาดคงที่ สมองเติบโตได้เพราะใช้พลังงานจากอากาศที่เราหายใจเข้าไป 20% และใช้เลือดหล่อเลี้ยงถึง 15% ของเลือดทั้งหมดในร่างกาย
17. กระบวนการคิด
นัก วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า อิริยาบถต่าง ๆมีผลต่อการคิดและการตัดสินใจของมนุษย์ การนอนคิดจะทำให้ความคิดกว้างไกลการยืนทำให้ความคิดแคบลงสามารถตัดสินใจได้ เร็วขึ้นส่วนการนั่งเป็นอิริยาบถที่เหมาะกับการตัดสินใจที่ไม่รีบร้อนเท่าใด นัก
18. ผมงอก
โดย ปกติ ใน 1 สัปดาห์ผมจะงอกออกมา 2 มิลลิเมตรใน 1 วัน จะมีช่วงที่ผมงอกได้ดี 2 ช่วง คือ ระหว่างเวลา 10.00 11.00 น.และ 16.00 18.00 น. แต่ไม่ต้องเอากระจกไปส่องดูการงอกของเส้นผมหรอกนะเพราะมันแทบจะมองไม่เห็น เลย
19. เส้นขนแข็งแรง
โดย เฉลี่ยแล้วคนเราจะมีเส้นขนประมาณ 5 ล้านเส้นทั่วร่างกาย ยกเว้นบริเวณริมฝีปากฝ่ามือและฝ่าเท้า เส้นขนที่แข็งแรงที่สุดคือหนวด เชื่อหรือไม่ว่าหนวดแข็งแรงพอ ๆกับลวดทองแดงที่มีขนาดเท่ากันเลยทีเดียว
20. ตาแหลมคม
ตา ของเหยี่ยวสามารถมองเห็นแมลงวันที่อยู่ในระยะครึ่งไมล์ได้ส่วนเสือดาวก็ สามารถมองเห็นคนกระพริบตาที่ระยะห่าง 100 หลาได้ตาของคนก็มีความพิเศษเช่นเดียวกัน เพราะสามารถแยกแยะความแตกต่างของสีได้มากถึง 17,000 สี
21. ตาที่สาม
เชื่อ หรือไม่ว่ามนุษย์มีสามตาตาที่สามนี้ก็คือต่อมไพเนียลซึ่งอยู่ด้านหลังของ กะโหลกศีรษะภายในต่อมมีสารเคมีที่มีชื่อว่าเซโรโตนินอยู่เป็นจำนวนมาก เชื่อกันว่าสารชนิดนี้ช่วยส่งผลให้มนุษย์มีการคิดอย่างสมเหตุสมผลนักวิทยา ศาสตร์จึงเปรียบต่อมนี้ว่าเป็นตาที่สามของมนุษย์
22. ฮัดเช้ย!
เมื่อ มีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาทำให้จมูกของเราเกิดการระคายเคืองเราจะจามออกมาโดย อัตโนมัติ ทุกครั้งที่เราจามจะมีน้ำลายฟุ้งกระจายออกมาถึง 100,000 หยด ด้วยอัตราเร็ว 152 ฟุตต่อวินาที
เชื่อ หรือไม่ว่ามนุษย์มีสามตาตาที่สามนี้ก็คือต่อมไพเนียลซึ่งอยู่ด้านหลังของ กะโหลกศีรษะภายในต่อมมีสารเคมีที่มีชื่อว่าเซโรโตนินอยู่เป็นจำนวนมาก เชื่อกันว่าสารชนิดนี้ช่วยส่งผลให้มนุษย์มีการคิดอย่างสมเหตุสมผลนักวิทยา ศาสตร์จึงเปรียบต่อมนี้ว่าเป็นตาที่สามของมนุษย์
22. ฮัดเช้ย!
เมื่อ มีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาทำให้จมูกของเราเกิดการระคายเคืองเราจะจามออกมาโดย อัตโนมัติ ทุกครั้งที่เราจามจะมีน้ำลายฟุ้งกระจายออกมาถึง 100,000 หยด ด้วยอัตราเร็ว 152 ฟุตต่อวินาที
23. ยิ้มแย้ม
ร่าง กายของเราประกอบด้วยกล้ามเนื้อประมาณ 650 มัดหากเราหน้าบึ้งจะต้องใช้กล้ามเนื้อประมาณ 400 มัด ในขณะที่การยิ้มใช้กล้ามเนื้อ 15 มัด เท่านั้น และพลังงานที่ใช้ก็น้อยกว่าการขมวดคิ้ว 1 ครั้งเสียอีกเชื่อกันว่าการขมวดคิ้ว 200,000 ครั้ง ทำให้เกิดรอย กา 1 รอย
ร่าง กายของเราประกอบด้วยกล้ามเนื้อประมาณ 650 มัดหากเราหน้าบึ้งจะต้องใช้กล้ามเนื้อประมาณ 400 มัด ในขณะที่การยิ้มใช้กล้ามเนื้อ 15 มัด เท่านั้น และพลังงานที่ใช้ก็น้อยกว่าการขมวดคิ้ว 1 ครั้งเสียอีกเชื่อกันว่าการขมวดคิ้ว 200,000 ครั้ง ทำให้เกิดรอย กา 1 รอย
24. ฟันปลา
เชื่อ กันว่าเมื่อประมาณ 1 ล้านปีที่แล้วฟันของมนุษย์มีลักษณะคล้ายกับฟันปลาเพราะมีการค้นพบฟันลักษณะ เดียวกันกับของมนุษย์อยู่ในกรามของปลาฉลามยุคก่อนประวัติศาสตร์ดังนั้น ฟันของมนุษย์และปลาฉลามจึงมีโครงสร้างพื้นฐานเหมือนกันแต่ฟันของมนุษย์ได้ พัฒนาจนมีรูปร่างเหมือนในปัจจุบัน
25. การทรงตัว
เชื่อ หรือไม่ว่าหูมีผลต่อการทรงตัว อวัยวะที่ช่วยให้เราสามารถทรงตัวอยู่ได้คือเซมิเซอร์คิวลาร์ คาแนล (semicir-cular canel) ในหูซึ่งภายในมีของเหลวที่ไวต่อการกระตุ้นของเหลวนี้จะทำหน้าที่ในการรับรู้ สมดุลหากเราหมุนไปรอบ ๆ ตัวเร็ว ๆ หลาย ๆ ครั้ง จะทำให้อวัยวะนี้เกิดความสับสนเราจึงรู้สึกเวียนศีรษะ
26. เสียงกรน
เสียงกรนเป็นเสียงที่สร้างความรำคาญแก่ผู้ได้ยินเพราะดังพอ ๆกับเสียงของสว่านไฟฟ้าซึ่งดังถึง 70 เดซิเบล
27. พลังปอด
เชื่อ หรือไม่ว่าปกติเราจะหายใจเอาอากาศเข้าไปประมาณ 6 ลิตรต่อนาทีแต่ระหว่างออกกำลังกายและหลังออกกำลังกายใหม่ ๆ เราอาจหายใจเอาอากาศเข้าไปได้มากถึง 100 ลิตรต่อนาที
เชื่อ กันว่าเมื่อประมาณ 1 ล้านปีที่แล้วฟันของมนุษย์มีลักษณะคล้ายกับฟันปลาเพราะมีการค้นพบฟันลักษณะ เดียวกันกับของมนุษย์อยู่ในกรามของปลาฉลามยุคก่อนประวัติศาสตร์ดังนั้น ฟันของมนุษย์และปลาฉลามจึงมีโครงสร้างพื้นฐานเหมือนกันแต่ฟันของมนุษย์ได้ พัฒนาจนมีรูปร่างเหมือนในปัจจุบัน
25. การทรงตัว
เชื่อ หรือไม่ว่าหูมีผลต่อการทรงตัว อวัยวะที่ช่วยให้เราสามารถทรงตัวอยู่ได้คือเซมิเซอร์คิวลาร์ คาแนล (semicir-cular canel) ในหูซึ่งภายในมีของเหลวที่ไวต่อการกระตุ้นของเหลวนี้จะทำหน้าที่ในการรับรู้ สมดุลหากเราหมุนไปรอบ ๆ ตัวเร็ว ๆ หลาย ๆ ครั้ง จะทำให้อวัยวะนี้เกิดความสับสนเราจึงรู้สึกเวียนศีรษะ
26. เสียงกรน
เสียงกรนเป็นเสียงที่สร้างความรำคาญแก่ผู้ได้ยินเพราะดังพอ ๆกับเสียงของสว่านไฟฟ้าซึ่งดังถึง 70 เดซิเบล
27. พลังปอด
เชื่อ หรือไม่ว่าปกติเราจะหายใจเอาอากาศเข้าไปประมาณ 6 ลิตรต่อนาทีแต่ระหว่างออกกำลังกายและหลังออกกำลังกายใหม่ ๆ เราอาจหายใจเอาอากาศเข้าไปได้มากถึง 100 ลิตรต่อนาที
28. หัวใจที่รัก
ใน ช่วงชีวิตของมนุษย์นั้น หัวใจจะสูบฉีดโลหิตประมาณ 500 ล้านลิตรและเต้น 2,000 ล้านครั้ง ดังนั้น ใน 1 วัน หัวใจจะสูบฉีดโลหิตมากกว่า 13,500 ลิตร และเต้น 100,000 ครั้งแต่ละวันหัวใจจึงต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้พลังงานมากพอเชื่อหรือไม่ว่า พลังงานที่ได้นี้สามารถยกรถยนต์ได้สูงถึง 15 เมตรเลยทีเดียว
29. เรื่องของผิวหนัง
เชื่อ หรือไม่ว่าพื้นที่เพียง 1 ตารางนิ้วบนผิวหนังของเรานั้นประกอบไปด้วยเซลล์ถึง 19 ล้านเซลล์ ขน 60 เส้นต่อมน้ำมัน 90 ต่อม ต่อมเหงื่อ 625 ต่อม เส้นเลือดยาว 19 ฟุต และเซลล์รับความรู้สึก 19,000 เซลล์
30. เซลล์เม็ดเลือด
มีผู้วชาญสันนิษฐานว่าถ้านำเซลล์เม็ดเลือดของเรามาต่อเป็นสายยาวจะสามารถพันรอบเส้นศูนย์สูตรได้ถึง 4 รอบเลยทีเดียว
31. น้ำในร่างกาย
ร่าง กายของเรามีสถานะใดตามหลักวิทยาศาสตร์ หลายคนอาจจะคิดว่า มีสถานะเป็นของแข็งแต่น้อง ๆ รู้หรือไม่ว่าร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำถึง 2 ใน 3 ด้วยเหตุนี้ตลอดชีวิตของคน 1 คนจึงต้องดื่มน้ำเป็นจำนวนมากถึง 70,000 ลิตร
32. ความสำคัญของเกลือแร่
เกลือ แร่เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเพราะช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง หากนำเกลือแร่ออกจากกระดูกโดยนำกระดูกไปแช่ในน้ำกรดเกลือแร่จะละลายออกมาจน สามารถนำกระดูกนั้นมาผูกให้เป็นปมได้
33. หนาวสั่น
อาการ หนาวสั่นเป็นอาการที่ร่างกายแสดงออกมาเพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อยู่ ในระดับที่เหมาะสมหลังจากที่ได้รับความเย็นมากเกินไปเพราะความเย็นจะทำให้ กระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายทำงานช้าลงและเป็นอันตรายได้หากอุณหภูมิลดต่ำลงมาก ๆ ดังนั้นกล้ามเนื้อจึงผลิตความร้อนด้วยการทำให้กล้ามเนื้อหดตัวไปมาอย่างรวด เร็ว
34. สูงและต่ำ
ตอนกลาง วันอุณหภูมิในร่างกายของเราอาจสูงขึ้นได้มาก ๆ หากเรารับประทานอาหารมื้อใหญ่อยู่ในที่อากาศร้อน หรือออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ตอนกลางคืนอุณหภูมิในร่างกายของเราจะค่อย ๆลดลงจนต่ำที่สุดเมื่อเรานอนหลับเพื่อเป็นการรักษาสมดุล
35. ลูกผู้ชาย
การ ที่ผู้ชายเชื่อว่าลูกผู้ชายต้องไม่หลั่งน้ำตานั้นส่งผลกระทบให้ผู้ชายเป็น โรคเครียดได้ง่ายกว่าผู้หญิงเพราะมีโอกาสปลดปล่อยอารมณ์ที่ถูกกดดันได้น้อย รู้อย่างนี้แล้วใครที่กำลังเครียดก็ลองหาโอกาสปลดปล่อยอารมณ์บ้างก็ดีนะคะ แต่ไม่ใช่เอาแต่นั่งร้องไห้อยู่ล่ะการออกกำลังกายก็สามารถช่วยคลายเครียดได้ เช่นกัน
36. หาวนอน
อาการ ง่วงเหงาหาวนอนเกิดจากการที่เรารู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนเพลียระบบทางเดินหายใจ ของเราจึงทำงานช้าลงเป็นผลให้กล้ามเนื้อคอหอยปิดโดยอัตโนมัติทำให้ร่างกาย ต้องการอากาศเพิ่มขึ้นเราจึงต้องหาวเพื่อเอาอากาศเข้าไปใช้ในกระบวนการหายใจ
37. ใบหน้า
วัน หนึ่ง ๆเราอาจมีอารมณ์และความรู้สึกเหล่านั้นถูกถ่ายทอดออกมาบ่อยครั้งทางใบหน้า เชื่อหรือไม่ว่ากล้ามเนื้อทั้งที่เป็นวงกลมและเป็นเส้นบนใบหน้าสามารถแสดง อารมณ์ที่หลากหลายได้มากกว่า 1,000 รูปแบบ
38. นอนหลับ
ขณะ นอนหลับเราสามารถเรียนรู้ได้หรือไม่ในสมัยก่อนนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามนุษย์ ไม่สามารถเรียนรู้ในขณะนอนหลับได้แต่จากการทดลองอย่างละเอียดของนักวิทยา ศาสตร์รุ่นหลังพบว่ามนุษย์จะไม่สามารถเรียนรู้ได้ในขณะที่นอนหลับสนิทแต่จะ สามารถเรียนรู้ได้ในขณะที่อยู่ในช่วงสะลึมสะลือ
39. ล้มตัวลงนอน
เชื่อ หรือไม่ว่าในบรรดาสิ่งมีชีวิต มีสัตว์เพียง 2-3 ชนิดเท่านั้น ที่นอนหลับโดยเอนหลังแนบกับพื้นและสัตว์ชนิดหนึ่งที่สามารถทำเช่นนี้ได้ก็ คือมนุษย์
40. น้ำหนักลด
ไม่ ว่าเราจะมีน้ำหนักมากน้อยเพียงใดก็ตาม น้ำหนักของเราจะสามารถลดลงได้ 300 กรัมทุกวันในขณะที่เรานอนหลับแต่อย่าเพิ่งดีใจไปนะคะ เพราะทันทีที่ตื่นขึ้นมาน้ำหนักของเราก็จะเท่าเดิม
41. อาณาจักรแห่งความฝัน
นัก วิทยาศาสตร์พบว่าถ้าวันหนึ่ง ๆ เรานอนหลับประมาณ 8 ชั่วโมง เราจะฝัน 3-5 ครั้งต่อคืนโดยช่วงความฝันแต่ละครั้งใช้เวลานานประมาณ 10-30 นาทีและถ้าเราถูกปลุกขึ้นมาในระหว่างที่กำลังฝันอยู่เราอาจจะจำความฝันนั้น ได้หรือไม่ได้ก็ได้
ใน ช่วงชีวิตของมนุษย์นั้น หัวใจจะสูบฉีดโลหิตประมาณ 500 ล้านลิตรและเต้น 2,000 ล้านครั้ง ดังนั้น ใน 1 วัน หัวใจจะสูบฉีดโลหิตมากกว่า 13,500 ลิตร และเต้น 100,000 ครั้งแต่ละวันหัวใจจึงต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้พลังงานมากพอเชื่อหรือไม่ว่า พลังงานที่ได้นี้สามารถยกรถยนต์ได้สูงถึง 15 เมตรเลยทีเดียว
29. เรื่องของผิวหนัง
เชื่อ หรือไม่ว่าพื้นที่เพียง 1 ตารางนิ้วบนผิวหนังของเรานั้นประกอบไปด้วยเซลล์ถึง 19 ล้านเซลล์ ขน 60 เส้นต่อมน้ำมัน 90 ต่อม ต่อมเหงื่อ 625 ต่อม เส้นเลือดยาว 19 ฟุต และเซลล์รับความรู้สึก 19,000 เซลล์
30. เซลล์เม็ดเลือด
มีผู้วชาญสันนิษฐานว่าถ้านำเซลล์เม็ดเลือดของเรามาต่อเป็นสายยาวจะสามารถพันรอบเส้นศูนย์สูตรได้ถึง 4 รอบเลยทีเดียว
31. น้ำในร่างกาย
ร่าง กายของเรามีสถานะใดตามหลักวิทยาศาสตร์ หลายคนอาจจะคิดว่า มีสถานะเป็นของแข็งแต่น้อง ๆ รู้หรือไม่ว่าร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำถึง 2 ใน 3 ด้วยเหตุนี้ตลอดชีวิตของคน 1 คนจึงต้องดื่มน้ำเป็นจำนวนมากถึง 70,000 ลิตร
32. ความสำคัญของเกลือแร่
เกลือ แร่เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเพราะช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง หากนำเกลือแร่ออกจากกระดูกโดยนำกระดูกไปแช่ในน้ำกรดเกลือแร่จะละลายออกมาจน สามารถนำกระดูกนั้นมาผูกให้เป็นปมได้
33. หนาวสั่น
อาการ หนาวสั่นเป็นอาการที่ร่างกายแสดงออกมาเพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อยู่ ในระดับที่เหมาะสมหลังจากที่ได้รับความเย็นมากเกินไปเพราะความเย็นจะทำให้ กระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายทำงานช้าลงและเป็นอันตรายได้หากอุณหภูมิลดต่ำลงมาก ๆ ดังนั้นกล้ามเนื้อจึงผลิตความร้อนด้วยการทำให้กล้ามเนื้อหดตัวไปมาอย่างรวด เร็ว
34. สูงและต่ำ
ตอนกลาง วันอุณหภูมิในร่างกายของเราอาจสูงขึ้นได้มาก ๆ หากเรารับประทานอาหารมื้อใหญ่อยู่ในที่อากาศร้อน หรือออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ตอนกลางคืนอุณหภูมิในร่างกายของเราจะค่อย ๆลดลงจนต่ำที่สุดเมื่อเรานอนหลับเพื่อเป็นการรักษาสมดุล
35. ลูกผู้ชาย
การ ที่ผู้ชายเชื่อว่าลูกผู้ชายต้องไม่หลั่งน้ำตานั้นส่งผลกระทบให้ผู้ชายเป็น โรคเครียดได้ง่ายกว่าผู้หญิงเพราะมีโอกาสปลดปล่อยอารมณ์ที่ถูกกดดันได้น้อย รู้อย่างนี้แล้วใครที่กำลังเครียดก็ลองหาโอกาสปลดปล่อยอารมณ์บ้างก็ดีนะคะ แต่ไม่ใช่เอาแต่นั่งร้องไห้อยู่ล่ะการออกกำลังกายก็สามารถช่วยคลายเครียดได้ เช่นกัน
36. หาวนอน
อาการ ง่วงเหงาหาวนอนเกิดจากการที่เรารู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนเพลียระบบทางเดินหายใจ ของเราจึงทำงานช้าลงเป็นผลให้กล้ามเนื้อคอหอยปิดโดยอัตโนมัติทำให้ร่างกาย ต้องการอากาศเพิ่มขึ้นเราจึงต้องหาวเพื่อเอาอากาศเข้าไปใช้ในกระบวนการหายใจ
37. ใบหน้า
วัน หนึ่ง ๆเราอาจมีอารมณ์และความรู้สึกเหล่านั้นถูกถ่ายทอดออกมาบ่อยครั้งทางใบหน้า เชื่อหรือไม่ว่ากล้ามเนื้อทั้งที่เป็นวงกลมและเป็นเส้นบนใบหน้าสามารถแสดง อารมณ์ที่หลากหลายได้มากกว่า 1,000 รูปแบบ
38. นอนหลับ
ขณะ นอนหลับเราสามารถเรียนรู้ได้หรือไม่ในสมัยก่อนนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามนุษย์ ไม่สามารถเรียนรู้ในขณะนอนหลับได้แต่จากการทดลองอย่างละเอียดของนักวิทยา ศาสตร์รุ่นหลังพบว่ามนุษย์จะไม่สามารถเรียนรู้ได้ในขณะที่นอนหลับสนิทแต่จะ สามารถเรียนรู้ได้ในขณะที่อยู่ในช่วงสะลึมสะลือ
39. ล้มตัวลงนอน
เชื่อ หรือไม่ว่าในบรรดาสิ่งมีชีวิต มีสัตว์เพียง 2-3 ชนิดเท่านั้น ที่นอนหลับโดยเอนหลังแนบกับพื้นและสัตว์ชนิดหนึ่งที่สามารถทำเช่นนี้ได้ก็ คือมนุษย์
40. น้ำหนักลด
ไม่ ว่าเราจะมีน้ำหนักมากน้อยเพียงใดก็ตาม น้ำหนักของเราจะสามารถลดลงได้ 300 กรัมทุกวันในขณะที่เรานอนหลับแต่อย่าเพิ่งดีใจไปนะคะ เพราะทันทีที่ตื่นขึ้นมาน้ำหนักของเราก็จะเท่าเดิม
41. อาณาจักรแห่งความฝัน
นัก วิทยาศาสตร์พบว่าถ้าวันหนึ่ง ๆ เรานอนหลับประมาณ 8 ชั่วโมง เราจะฝัน 3-5 ครั้งต่อคืนโดยช่วงความฝันแต่ละครั้งใช้เวลานานประมาณ 10-30 นาทีและถ้าเราถูกปลุกขึ้นมาในระหว่างที่กำลังฝันอยู่เราอาจจะจำความฝันนั้น ได้หรือไม่ได้ก็ได้
42. ความฝัน
เชื่อ หรือไม่ว่าความฝันช่วยทำให้จิตใจของเราสดชื่นเบิกบานได้ไม่ว่าเราจะจำความ ฝันนั้นได้หรือไม่ก็ตามเพราะความฝันจะแสดงถึงสิ่งที่เราอยากทำเมื่อตื่นแต่ เราไม่สามารถทำได้ด้วยเหตุผลนานาประการ
43. เวลาของความฝัน
ผู้ วชาญแสดงทัศนะเกี่ยวกับเวลาในช่วงของความฝันไว้ว่าเวลาที่เราตื่นอยู่ประสาท ความรู้สึกเกี่ยวกับเวลาของเราจะเป็นแนวตั้ง ดังนั้นเราจึงรับรู้แต่ขณะปัจจุบันเท่านั้น แต่เมื่อเราหลับมันจะกลายเป็นเส้นแนวนอนทำให้เราสามารถเดินทางไปในอดีตและ อนาคตได้
เชื่อ หรือไม่ว่าความฝันช่วยทำให้จิตใจของเราสดชื่นเบิกบานได้ไม่ว่าเราจะจำความ ฝันนั้นได้หรือไม่ก็ตามเพราะความฝันจะแสดงถึงสิ่งที่เราอยากทำเมื่อตื่นแต่ เราไม่สามารถทำได้ด้วยเหตุผลนานาประการ
43. เวลาของความฝัน
ผู้ วชาญแสดงทัศนะเกี่ยวกับเวลาในช่วงของความฝันไว้ว่าเวลาที่เราตื่นอยู่ประสาท ความรู้สึกเกี่ยวกับเวลาของเราจะเป็นแนวตั้ง ดังนั้นเราจึงรับรู้แต่ขณะปัจจุบันเท่านั้น แต่เมื่อเราหลับมันจะกลายเป็นเส้นแนวนอนทำให้เราสามารถเดินทางไปในอดีตและ อนาคตได้
44. สร้างความฝัน
ถ้า อยากให้ความฝันสวยงามลองงดดื่มเครื่องดื่มทุกชนิดประมาณ 1-2 ชั่วโมงก่อนเข้านอนสิครับ เพราะผู้วชาญเชื่อว่าจะทำให้ความฝันยิ่งใหญ่และถ้าใครเห็นความฝันของตนเอง เป็นสีต่าง ๆ ละก็แสดงว่าเป็นคนที่ไวต่อการกระตุ้นต่างๆ รอบตัวมากทีเดียว
ถ้า อยากให้ความฝันสวยงามลองงดดื่มเครื่องดื่มทุกชนิดประมาณ 1-2 ชั่วโมงก่อนเข้านอนสิครับ เพราะผู้วชาญเชื่อว่าจะทำให้ความฝันยิ่งใหญ่และถ้าใครเห็นความฝันของตนเอง เป็นสีต่าง ๆ ละก็แสดงว่าเป็นคนที่ไวต่อการกระตุ้นต่างๆ รอบตัวมากทีเดียว
45. จมูกของมด
ใคร รู้บ้างว่ามดใช้อะไรในการดมกลิ่นคำตอบก็คือใช้เท้านั่นเองการใช้เท้าดมกลิ่น ช่วยให้มันสามารถตามกลิ่นที่เพื่อนของมันทิ้งไว้ตามทางได้นอกจากนี้มันยัง สามารถใช้ข้อต่อที่หนวดรับกลิ่นได้อีกด้วย
46. อูฐลื่น
อูฐ เป็นสัตว์ที่ขาแต่ละข้างประกอบด้วยนิ้วขนาดใหญ่ 2 นิ้วปกคลุมด้วยแผ่นรองเท้าที่หนาและเหนียวทั้งยังมีแผ่นหนังบาง ๆเชื่อมนิ้วเท้าให้ติดกัน ทำให้เท้าอูฐแข็งแรงเหมาะสำหรับเดินในทะเลทรายแต่หากจับอูฐมาอยู่ในโคลนละก็ เท้าแบบนี้ก็ไร้ประโยชน์เพราะจะทำให้อูฐลื่นไถลได้ง่าย
ใคร รู้บ้างว่ามดใช้อะไรในการดมกลิ่นคำตอบก็คือใช้เท้านั่นเองการใช้เท้าดมกลิ่น ช่วยให้มันสามารถตามกลิ่นที่เพื่อนของมันทิ้งไว้ตามทางได้นอกจากนี้มันยัง สามารถใช้ข้อต่อที่หนวดรับกลิ่นได้อีกด้วย
46. อูฐลื่น
อูฐ เป็นสัตว์ที่ขาแต่ละข้างประกอบด้วยนิ้วขนาดใหญ่ 2 นิ้วปกคลุมด้วยแผ่นรองเท้าที่หนาและเหนียวทั้งยังมีแผ่นหนังบาง ๆเชื่อมนิ้วเท้าให้ติดกัน ทำให้เท้าอูฐแข็งแรงเหมาะสำหรับเดินในทะเลทรายแต่หากจับอูฐมาอยู่ในโคลนละก็ เท้าแบบนี้ก็ไร้ประโยชน์เพราะจะทำให้อูฐลื่นไถลได้ง่าย
47. หางเก็บอาหาร
มี สัตว์อยู่หลายชนิดที่มีหางและหางของมันก็ใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกันไป อย่างเช่นแกะพันธุ์หนึ่งที่ใช้หางของมันทำหน้าที่เก็บหญ้าซึ่งเป็นอาหารของ มันไว้เมื่อหญ้าขาดแคลนหญ้าที่ถูกสะสมไว้ที่หางก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันเพื่อ ให้พลังงานแก่ร่างกาย
48. หูหนวกเต้นระบำ
หาก ใครเคยชมภาพยนตร์อินเดียคงจะเคยเห็นงูที่เต้นระบำเมื่อได้ยินเสียงปี่ จริง ๆแล้วมันไม่ได้เต้นระบำเพราะเสียงปี่หรอกค่ะงูเป็นสัตว์ที่หูหนวกจึงไม่ได้ ยินเสียงปี่แต่ที่มันเต้นส่ายไปส่ายมาก็เพราะจังหวะการเคลื่อนไหวของหมองู ต่างหากถ้าลองใช้ไม้แทนปี่ งูก็ยังคงเต้นระบำได้เหมือนกัน
49. สุนัขน้ำร้อน
สุนัข เป็นสัตว์ที่คนนิยมเลี้ยงกันโดยทั่วไป เพราะนอกจากจะใช้เฝ้าบ้านแล้วสุนัขยังทำหน้าที่ได้หลายอย่างนานมาแล้วชาว อินเดียนแอซเทคนำสุนัขพันธุ์เม็กซิโกซึ่งตัวเล็กนิดเดียวและมีขนสั้นบางมา ใช้แทนกระเป๋าน้ำร้อนเพื่อสร้างความอบอุ่นแก่เท้าเจ้าของเมื่ออากาศหนาว
50. ช้างนักกิน
ช้าง แอฟริกามีขนาดใหญ่มากหนักถึง 7 ตัน ที่ตัวใหญ่ขนาดนี้เพราะมันใช้เวลาในการกินประมาณ 18-20 ชั่วโมงต่อหนึ่งวัน โดยกินพืชผักประมาณวันละ 350 กิโลกรัมและกินน้ำ 90 ลิตร
มี สัตว์อยู่หลายชนิดที่มีหางและหางของมันก็ใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกันไป อย่างเช่นแกะพันธุ์หนึ่งที่ใช้หางของมันทำหน้าที่เก็บหญ้าซึ่งเป็นอาหารของ มันไว้เมื่อหญ้าขาดแคลนหญ้าที่ถูกสะสมไว้ที่หางก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันเพื่อ ให้พลังงานแก่ร่างกาย
48. หูหนวกเต้นระบำ
หาก ใครเคยชมภาพยนตร์อินเดียคงจะเคยเห็นงูที่เต้นระบำเมื่อได้ยินเสียงปี่ จริง ๆแล้วมันไม่ได้เต้นระบำเพราะเสียงปี่หรอกค่ะงูเป็นสัตว์ที่หูหนวกจึงไม่ได้ ยินเสียงปี่แต่ที่มันเต้นส่ายไปส่ายมาก็เพราะจังหวะการเคลื่อนไหวของหมองู ต่างหากถ้าลองใช้ไม้แทนปี่ งูก็ยังคงเต้นระบำได้เหมือนกัน
49. สุนัขน้ำร้อน
สุนัข เป็นสัตว์ที่คนนิยมเลี้ยงกันโดยทั่วไป เพราะนอกจากจะใช้เฝ้าบ้านแล้วสุนัขยังทำหน้าที่ได้หลายอย่างนานมาแล้วชาว อินเดียนแอซเทคนำสุนัขพันธุ์เม็กซิโกซึ่งตัวเล็กนิดเดียวและมีขนสั้นบางมา ใช้แทนกระเป๋าน้ำร้อนเพื่อสร้างความอบอุ่นแก่เท้าเจ้าของเมื่ออากาศหนาว
50. ช้างนักกิน
ช้าง แอฟริกามีขนาดใหญ่มากหนักถึง 7 ตัน ที่ตัวใหญ่ขนาดนี้เพราะมันใช้เวลาในการกินประมาณ 18-20 ชั่วโมงต่อหนึ่งวัน โดยกินพืชผักประมาณวันละ 350 กิโลกรัมและกินน้ำ 90 ลิตร
51. กินทางตา
โดย ปกติสัตว์จะกินอาหารทางปาก แต่สำหรับคางคกและกบแล้วพวกมันจะกินอาหารทางตา เมื่อกินอาหารมันจะปิดตาแน่นดันลูกตาที่แข็งให้ชนเพดานปากทำให้เพดานปาก ถูกกดลงมาแนบกับลิ้นแล้วดันอาหารลงสู่กระเพาะอาหารนอกจากนี้มันยังดื่มน้ำ โดยการดูดซึมน้ำผ่านทางผิวหนังด้วย
52. ปลิงป้องกันตัว
ปลิง ทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกมีวิธีป้องกันตัวเองที่แปลกคือเมื่อถูกทำร้ายมันจะหด ตัวทันทีและจะดันอวัยวะภายในของมันออกมา แต่มันก็ยังไม่ตายอวัยวะเหล่านั้นจะเป็นอาหารของผู้ที่ทำร้ายมัน แล้วมันจะค่อย ๆ หลบหนีไป จากนั้น 2 3 สัปดาห์อวัยวะภายในของมันก็จะงอกใหม่
โดย ปกติสัตว์จะกินอาหารทางปาก แต่สำหรับคางคกและกบแล้วพวกมันจะกินอาหารทางตา เมื่อกินอาหารมันจะปิดตาแน่นดันลูกตาที่แข็งให้ชนเพดานปากทำให้เพดานปาก ถูกกดลงมาแนบกับลิ้นแล้วดันอาหารลงสู่กระเพาะอาหารนอกจากนี้มันยังดื่มน้ำ โดยการดูดซึมน้ำผ่านทางผิวหนังด้วย
52. ปลิงป้องกันตัว
ปลิง ทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกมีวิธีป้องกันตัวเองที่แปลกคือเมื่อถูกทำร้ายมันจะหด ตัวทันทีและจะดันอวัยวะภายในของมันออกมา แต่มันก็ยังไม่ตายอวัยวะเหล่านั้นจะเป็นอาหารของผู้ที่ทำร้ายมัน แล้วมันจะค่อย ๆ หลบหนีไป จากนั้น 2 3 สัปดาห์อวัยวะภายในของมันก็จะงอกใหม่
53. ตาเคลื่อนที่
ปลา ลิ้นหมาไม่ได้มีตาเดียวอย่างที่พวกเราเห็นกัน ตอนแรกที่มันเกิดมามันจะมี 2 ตาแต่เมื่ออายุมากขึ้น ตาของมันจะย้ายตำแหน่งมารวมกันโดยเคลื่อนที่ไปรวมกับตาอีกข้างหนึ่งซึ่งอยู่ บนหัว
54. ระเบิดควัน
ปลา หมึกยักษ์มีวิธีการป้องกันตัวคล้ายการสร้างระเบิดควันของทหารเมื่อเผชิญหน้า กับศัตรู มันจะพ่นหมึกดำในถุงด้านหลังลำตัวออกมาทำให้น้ำบริเวณรอบ ๆขุ่นดำ แล้วมันจะรีบหนีไปนักวิทยาศาสตร์พบว่ามันสามารถเปลี่ยนสีหมึกของมันให้เข้า กับสภาพแวดล้อมได้ด้วย เช่นสีแดง สีเหลือง สีเทา เป็นต้น
55. กบหดตัว
กบ พาราดอกซิคัล (Paradoxical) ในอเมริกาใต้มีความพิเศษคือยิ่งมันเจริญเติบโตขึ้นตัวก็ยิ่งเล็กลงเมื่อเป็น ลูกอ๊อดมันมีลำตัวยาวถึง 10 นิ้วแต่เมื่อโตเป็นกบลำตัวจะหดลงจนเหลือขนาดไม่เกิน 3 นิ้วเท่านั้น
ปลา ลิ้นหมาไม่ได้มีตาเดียวอย่างที่พวกเราเห็นกัน ตอนแรกที่มันเกิดมามันจะมี 2 ตาแต่เมื่ออายุมากขึ้น ตาของมันจะย้ายตำแหน่งมารวมกันโดยเคลื่อนที่ไปรวมกับตาอีกข้างหนึ่งซึ่งอยู่ บนหัว
54. ระเบิดควัน
ปลา หมึกยักษ์มีวิธีการป้องกันตัวคล้ายการสร้างระเบิดควันของทหารเมื่อเผชิญหน้า กับศัตรู มันจะพ่นหมึกดำในถุงด้านหลังลำตัวออกมาทำให้น้ำบริเวณรอบ ๆขุ่นดำ แล้วมันจะรีบหนีไปนักวิทยาศาสตร์พบว่ามันสามารถเปลี่ยนสีหมึกของมันให้เข้า กับสภาพแวดล้อมได้ด้วย เช่นสีแดง สีเหลือง สีเทา เป็นต้น
55. กบหดตัว
กบ พาราดอกซิคัล (Paradoxical) ในอเมริกาใต้มีความพิเศษคือยิ่งมันเจริญเติบโตขึ้นตัวก็ยิ่งเล็กลงเมื่อเป็น ลูกอ๊อดมันมีลำตัวยาวถึง 10 นิ้วแต่เมื่อโตเป็นกบลำตัวจะหดลงจนเหลือขนาดไม่เกิน 3 นิ้วเท่านั้น
56. หนอนกระสือ
หนอนกระสือ ตัวเมียจะมีอวัยวะที่เรืองแสงอยู่บริเวณใต้ท้องซึ่งใช้ส่งสัญญาณไปยังปีกของ ตัวผู้ที่บินอยู่ด้านบนหนอนกระสือตัวเมียสามารถควบคุมการเปล่งแสงได้โดยจะ ใช้แสงต่อเมื่อต้องการดึงดูดตัวผู้เท่านั้น
57. แสงนำทาง
รู้ ไหมทำไมผีเสื้อกลางคืนจึงชอบบินเข้าหาแสงไฟในตอนกลางคืนเพราะปกติผีเสื้อ กลางคืนจะใช้แสงจันทร์นำทางแต่แสงอื่นทำให้มันสับสนและประสาททางด้านทิศทาง เสียไป ดังนั้นมันจึงพยายามปรับแสงจันทร์ปลอมให้ทำมุมเดียวกันกับแสงจันทร์จริง ๆโดยการบินเป็นวงกลมเข้ามาใกล้แสงนั้นมากขึ้น
58. เครื่องขยายเสียง
จิ้งหรีด ตัวผู้จะใช้เสียงเพลงซึ่งเกิดจากขาหน้าเสียดสีกันการดึงดูดตัวเมียแต่จะไม่ ดังนัก มันจึงสร้างเครื่องขยายเสียงชนิดพิเศษโดยการขุดรังใต้ดินให้มีอุโมงค์ทาง เข้าสองทางแล้วก็ยืนส่งเสียงไพเราะอยู่ทางอุโมงค์ด้านหนึ่ง แต่ที่แปลกอีกอย่างหนึ่งก็คือหูที่ไวต่อเสียงของมันไม่ได้อยู่ที่หัวแต่ที่ อยู่ที่ขา
59. สัตว์มีเหงื่อหรือไม่
สุนัข ก็มีเหงื่อครับแต่เหงื่อของมันจะออกบริเวณฝ่าเท้า นอกจากนี้สัตว์อื่น ๆ เช่น วัวจะมีเหงื่อออกทางจมูกส่วนเหงื่อของฮิปโปโปเตมัสจะออกมาจากทุกส่วนของร่าง กายและจะเป็นเหงื่อสีแดงลองสังเกตนะคะว่าสัตว์อื่น ๆมีเหงื่อออกที่ส่วนใดของร่างกาย
60. หนึ่งไม่มีสอง
คนเรามีลายนิ้วมือไม่เหมือนกันม้าลายแต่ละตัวก็มีแถบลายเฉพาะที่ซึ่งจะไม่ซ้ำกับม้าลายตัวอื่น ๆเช่นกัน
61. หนูนักร้อง
หนู เป็นสัตว์ที่สามารถร้องเพลงได้แต่เสียงร้องของมันจะเป็นเสียงซูเปอร์โซนิค (Supersonic) ซึ่งมีลักษณะเป็นเสียงสูงและรัว ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงเพลงของมันแต่ถ้ามันลดระดับเสียงให้ต่ำลงจนถึงระดับ ปกติที่เราสามารถได้ยินเราก็จะได้ยินเสียงเพลงจากหนูได้
หนอนกระสือ ตัวเมียจะมีอวัยวะที่เรืองแสงอยู่บริเวณใต้ท้องซึ่งใช้ส่งสัญญาณไปยังปีกของ ตัวผู้ที่บินอยู่ด้านบนหนอนกระสือตัวเมียสามารถควบคุมการเปล่งแสงได้โดยจะ ใช้แสงต่อเมื่อต้องการดึงดูดตัวผู้เท่านั้น
57. แสงนำทาง
รู้ ไหมทำไมผีเสื้อกลางคืนจึงชอบบินเข้าหาแสงไฟในตอนกลางคืนเพราะปกติผีเสื้อ กลางคืนจะใช้แสงจันทร์นำทางแต่แสงอื่นทำให้มันสับสนและประสาททางด้านทิศทาง เสียไป ดังนั้นมันจึงพยายามปรับแสงจันทร์ปลอมให้ทำมุมเดียวกันกับแสงจันทร์จริง ๆโดยการบินเป็นวงกลมเข้ามาใกล้แสงนั้นมากขึ้น
58. เครื่องขยายเสียง
จิ้งหรีด ตัวผู้จะใช้เสียงเพลงซึ่งเกิดจากขาหน้าเสียดสีกันการดึงดูดตัวเมียแต่จะไม่ ดังนัก มันจึงสร้างเครื่องขยายเสียงชนิดพิเศษโดยการขุดรังใต้ดินให้มีอุโมงค์ทาง เข้าสองทางแล้วก็ยืนส่งเสียงไพเราะอยู่ทางอุโมงค์ด้านหนึ่ง แต่ที่แปลกอีกอย่างหนึ่งก็คือหูที่ไวต่อเสียงของมันไม่ได้อยู่ที่หัวแต่ที่ อยู่ที่ขา
59. สัตว์มีเหงื่อหรือไม่
สุนัข ก็มีเหงื่อครับแต่เหงื่อของมันจะออกบริเวณฝ่าเท้า นอกจากนี้สัตว์อื่น ๆ เช่น วัวจะมีเหงื่อออกทางจมูกส่วนเหงื่อของฮิปโปโปเตมัสจะออกมาจากทุกส่วนของร่าง กายและจะเป็นเหงื่อสีแดงลองสังเกตนะคะว่าสัตว์อื่น ๆมีเหงื่อออกที่ส่วนใดของร่างกาย
60. หนึ่งไม่มีสอง
คนเรามีลายนิ้วมือไม่เหมือนกันม้าลายแต่ละตัวก็มีแถบลายเฉพาะที่ซึ่งจะไม่ซ้ำกับม้าลายตัวอื่น ๆเช่นกัน
61. หนูนักร้อง
หนู เป็นสัตว์ที่สามารถร้องเพลงได้แต่เสียงร้องของมันจะเป็นเสียงซูเปอร์โซนิค (Supersonic) ซึ่งมีลักษณะเป็นเสียงสูงและรัว ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงเพลงของมันแต่ถ้ามันลดระดับเสียงให้ต่ำลงจนถึงระดับ ปกติที่เราสามารถได้ยินเราก็จะได้ยินเสียงเพลงจากหนูได้
62. สัตว์ปากกว้าง
สัตว์ ที่สามารถอ้าปากได้กว้างที่สุดคืองูเหลือมเรติคูเลเตด (Reticulated python) มันสามารถยืดตัวได้ถึง 10 เมตร และอ้าปากกว้างจนกลืนกินสัตว์ที่มีน้ำหนัก 55 กิโลกรัม จึงไม่แปลกที่จะมีคนพบสัตว์ใหญ่ ๆอย่างเสือดาวในท้องของมัน
63. ไม่เอาไมโครโฟน
ไซ เมียง (Simiang) เป็นสัตว์บกที่มีถุงลมขนาดใหญ่ จึงตะโกนได้เสียงดังกว่าสัตว์อื่น ๆมันสามารถตะโกนให้สัตว์ที่อยู่ห่างออกไปถึง 8 กิโลเมตรได้ยินได้ส่วนสัตว์น้ำที่สามารถตะโกนได้เสียงดังที่สุดคือ ปลาวาฬรอร์ควอล (Rorqual whale) มันสามารถร้องเพลงด้วยความถี่ 20 เฮิรตซ์ ให้ได้ยินไปไกลถึง 150 กิโลเมตรเลยทีเดียว
64. นักแม่นธนู
ปลา เสือมีวิธีจับเหยื่อที่คล้ายกับการยิงธนูโดยมันจะพ่นน้ำไปยังแมลงที่เกาะ อยู่บนต้นพืชเหนือน้ำ ทำให้แมลงตกลงในน้ำจากนั้นก็จะตรงเข้าไปฮุบแมลงนั้นไว้ทันที ปลาเสือสามารถพ่นน้ำใส่เหยื่อของมันในระยะ 3 เมตรได้อย่างแม่นยำ
65. อาวุธของทากทะเล
ทาก ทะเลไม่มีเปลือกห่อหุ้มร่างกาย ดังนั้นมันจึงป้องกันตัวโดยการกินเซลล์เข็มพิษของแมงกะพรุนเข้าไปเพื่อใช้ เป็นอาวุธเข็มพิษนี้จะไม่ถูกย่อยไปพร้อมกับอาหารแต่จะถูกส่งไปเก็บไว้ที่ใต้ ผิวหนังบริเวณด้านหลังเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูมันก็จะป้องกันตัวด้วยการ ปล่อยเข็มพิษออกมา
66. ปลาฉลามว่ายน้ำ
ถ้า เรามีโอกาสได้เฝ้าดูปลาฉลามอย่างใกล้ชิดก็จะพบว่าปลาฉลามต้องว่ายน้ำตลอด เวลาหากหยุดว่ายน้ำมันจะตาย เพราะปลาชนิดอื่น ๆ จะมีถุงลมทำให้หายใจได้แม้ไม่เคลื่อนที่แต่ปลาฉลามไม่มีถุงลม ดังนั้นถ้ามันหยุดว่ายน้ำก็จะทำให้ไม่มีออกซิเจนไหลผ่านเหงือกจึงไม่มี ออกซิเจนใช้ในการหายใจ
67. สุดยอดตัวอ่อน
ตัว อ่อนของสัตว์ที่กินเก่งที่สุดในโลกคือตัวอ่อนของผีเสื้อกลางคืนในอเมริกา เหนือเนื่องจากมันสามารถกินอาหารที่มีน้ำหนักมากถึง 86,000 เท่าของน้ำหนักตัวภายในเวลา 48 ชั่วโมงแรกที่มันเกิดมา
สัตว์ ที่สามารถอ้าปากได้กว้างที่สุดคืองูเหลือมเรติคูเลเตด (Reticulated python) มันสามารถยืดตัวได้ถึง 10 เมตร และอ้าปากกว้างจนกลืนกินสัตว์ที่มีน้ำหนัก 55 กิโลกรัม จึงไม่แปลกที่จะมีคนพบสัตว์ใหญ่ ๆอย่างเสือดาวในท้องของมัน
63. ไม่เอาไมโครโฟน
ไซ เมียง (Simiang) เป็นสัตว์บกที่มีถุงลมขนาดใหญ่ จึงตะโกนได้เสียงดังกว่าสัตว์อื่น ๆมันสามารถตะโกนให้สัตว์ที่อยู่ห่างออกไปถึง 8 กิโลเมตรได้ยินได้ส่วนสัตว์น้ำที่สามารถตะโกนได้เสียงดังที่สุดคือ ปลาวาฬรอร์ควอล (Rorqual whale) มันสามารถร้องเพลงด้วยความถี่ 20 เฮิรตซ์ ให้ได้ยินไปไกลถึง 150 กิโลเมตรเลยทีเดียว
64. นักแม่นธนู
ปลา เสือมีวิธีจับเหยื่อที่คล้ายกับการยิงธนูโดยมันจะพ่นน้ำไปยังแมลงที่เกาะ อยู่บนต้นพืชเหนือน้ำ ทำให้แมลงตกลงในน้ำจากนั้นก็จะตรงเข้าไปฮุบแมลงนั้นไว้ทันที ปลาเสือสามารถพ่นน้ำใส่เหยื่อของมันในระยะ 3 เมตรได้อย่างแม่นยำ
65. อาวุธของทากทะเล
ทาก ทะเลไม่มีเปลือกห่อหุ้มร่างกาย ดังนั้นมันจึงป้องกันตัวโดยการกินเซลล์เข็มพิษของแมงกะพรุนเข้าไปเพื่อใช้ เป็นอาวุธเข็มพิษนี้จะไม่ถูกย่อยไปพร้อมกับอาหารแต่จะถูกส่งไปเก็บไว้ที่ใต้ ผิวหนังบริเวณด้านหลังเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูมันก็จะป้องกันตัวด้วยการ ปล่อยเข็มพิษออกมา
66. ปลาฉลามว่ายน้ำ
ถ้า เรามีโอกาสได้เฝ้าดูปลาฉลามอย่างใกล้ชิดก็จะพบว่าปลาฉลามต้องว่ายน้ำตลอด เวลาหากหยุดว่ายน้ำมันจะตาย เพราะปลาชนิดอื่น ๆ จะมีถุงลมทำให้หายใจได้แม้ไม่เคลื่อนที่แต่ปลาฉลามไม่มีถุงลม ดังนั้นถ้ามันหยุดว่ายน้ำก็จะทำให้ไม่มีออกซิเจนไหลผ่านเหงือกจึงไม่มี ออกซิเจนใช้ในการหายใจ
67. สุดยอดตัวอ่อน
ตัว อ่อนของสัตว์ที่กินเก่งที่สุดในโลกคือตัวอ่อนของผีเสื้อกลางคืนในอเมริกา เหนือเนื่องจากมันสามารถกินอาหารที่มีน้ำหนักมากถึง 86,000 เท่าของน้ำหนักตัวภายในเวลา 48 ชั่วโมงแรกที่มันเกิดมา
ถ้าซ้ำเค้าขอโทษ
ที่มา เว็ป www.dek-D.com
ที่มา: www.dek-D.com
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
88 VOTES (4/5 จาก 22 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เอาให้สุด! แชร์ว่อนโซเชียล ยันต์ "ลาบูบู้"..หลายคนต่อคิวสักเพียบไขปริศนา! ปลายทางของ "รถดูดส้วม"..เขาเอาไปเทที่ไหนใส่รองเท้าอะไรไม่สำคัญ มันสำคัญที่ว่าใครเป็นคนใส่!!!หนุ่มใส่รองเท้าcrocsวิ่งมาราธอนด้วยpace4.13ทำลายสถิติโลกแปลปกสลากสัญจร จังหวัดชัยนาท งวด 1 มิถุนายน 2567คาถาพลิกชีวิตของ หลวงปู่ศิลา สิริจันโทด่วน!เครื่องบินประธานาธิบดีอิหร่านประสบอุบัติเหตุHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ปรมาจารย์ไทเก็ก ถูกนักมวยต่อยจนร้องไห้ บนเวทีมวยเอาให้สุด! แชร์ว่อนโซเชียล ยันต์ "ลาบูบู้"..หลายคนต่อคิวสักเพียบซึ้งน้ำใจคนไทย พี่วินมอเตอร์ไซค์ ช่วยยกรถเข็นชายพิการขึ้นบันไดด่วน!เครื่องบินประธานาธิบดีอิหร่านประสบอุบัติเหตุ