ผลวิจัยชี้ เลี้ยงแมวอาจทำให้คนอยากฆ่าตัวตาย
ผลวิจัยจากเดนมาร์กชี้ การเลี้ยงแมวอาจเพิ่มความเสี่ยงให้คนอยากทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตายมากขึ้น เพราะผู้เลี้ยงอาจได้รับเชื้อจากปรสิตในตัวแมวที่ส่งผลให้เกิดอาการทางจิต
สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ เปิดเผยผลวิจัยล่าสุดของชาวเดนมาร์กชี้ว่า ผู้ที่เลี้ยงแมว มีโอกาสที่จะได้รับเชื้อจากปรสิตชนิดหนึ่งที่พบในแมว และอาจส่งผลให้เกิดอาการทางจิตและต้องการฆ่าตัวตาย มากกว่าคนที่ไม่ได้เลี้ยงแมว
อาการดังกล่าวมีชื่อว่า Toxoplasmosis (ท็อกโซพลาสโมสิส) ซึ่งเป็นอาการติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง และส่งผลให้เกิดอาการทางจิตที่ทำให้เกิดอาการอยากทำร้ายตัวเอง และฆ่าตัวตาย โดยอาการนี้คืออาการติดเชื้อจากปรสิตที่พบในสัตว์เลือดอุ่น โดยเฉพาะแมว ที่มีชื่อว่า Toxoplasma Gondii (ท็อกโซพลาสมา กอนดิ) ซึ่งอาการนี้เกิดขึ้นได้ในคนทั่วไปที่สัมผัสใกล้ชิดกับแมว หรือ เผลอไปสัมผัสกับอุจาระแมว นอกจากนี้ คนที่มีอาการทางจิตเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั้น พบว่าจะยิ่งติดเชื้อดังกล่าวได้ง่ายยิ่งขึ้น
ในการวิจัยดังกล่าวนั้น ผู้วิจัยทดลองกับผู้หญิงชาวเดนมาร์กที่เพิ่งคลอดบุตรและเลี้ยงแมว เป็นจำนวน 45,000 คน และทำการเจาะเลือดของเด็กทารกมาเข้าห้องทดลองเพื่อตรวจหาเชื้อดังกล่าว พบว่าร้อยละ 27 ของเด็กทารกนั้น มีเชื้อดังกล่าวอยู่ด้วย นั่นหมายความว่า เด็กทารกได้รับเชื้อมาจากมารดา และมีมารดาทั้งหมด 18 รายที่ฆ่าตัวตาย ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นจำนวนน้อยที่น้อยเมื่อเทียบกับกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด แต่นักวิจัยก็ชี้ว่า ถือเป็นอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
ผู้วิจัยกล่าวว่า ผู้ที่ได้รับเชื้อดังกล่าวจากแมว จะมีความเสี่ยงที่อยากทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตาย ซึ่งผู้วิจัยกล่าวเตือนว่า ถึงแม้อาการของโรคนี้จะไม่เกิดขึ้นกับทุกคนที่เลี้ยงแมว แต่หากเป็นแล้ว จะเป็นอาการที่ไม่สามารถรักษาให้หายด้วยยาแผนปัจจุบันหรือวิธีบำบัดทางจิต อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยแนะนำว่า ทันทีที่พบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการติดเชื้อโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ นักวิจัยคาดการณ์ว่า อาจมีประชากรสูงถึง 1 ใน 3 ของประชากรโลกที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อดังกล่าว โดยบางคนอาจได้รับเชื้อ แต่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายส่งผลให้ไม่มีการแสดงอาการของโรค แต่ปรากฏว่ามีเชื้อที่หลบซ่อนอยู่ในเซลล์สมองและเซลล์กล้ามเนื้อ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่อันตราย เพราะผู้ป่วยจะไม่มีทางรู้เลยว่าจะร่างกายจะแสดงอาการออกมาเมื่อไหร่