ผลวิจัยชี้ นกสูญพันธุ์เพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20
อาจเป็นเรื่องที่หลายคนคาดเดาไม่ออก หากจะบอกว่าในอนาคตเราอาจรู้จัก “นก” จากเพียงภาพถ่ายหรือภาพวาดเท่านั้น ไม่มีนกจริงๆ ให้เห็นบนท้องฟ้า บนต้นไม้ หรือตามตึกรามบ้านช่อง แต่สถานการณ์เช่นนี้กำลังก้าวเข้ามาเรื่อยๆ เพราะนักวิจัยคาดการณ์ว่า ในช่วง 500 ปีที่ผ่านมา นกสูญพันธุ์ไปถึง 279 ชนิด โดยอัตราการสูญพันธุ์พุ่งถึงขีดสุดในช่วงต้นทศวรรษ 1990 หลังจากนั้นเริ่มลดลง แต่การศึกษาครั้งใหม่พบว่านกสูญพันธุ์เพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20
การศึกษาชิ้นนี้เผยแพร่ในวารสาร PLoS ONE โดยจูดิต ชาโบ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชาร์ลส์ ดาร์วิน ในออสเตรเลีย เขากล่าวว่านกหลายชนิดกำลังสูญพันธุ์อย่างรวดเร็วและขยายพื้นที่มากขึ้น“ก่อนทำการศึกษาชิ้นนี้เราเคยหวังว่าอัตราการสูญพันธุ์ของนกจะค่อยๆ ลดลง ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาการสูญพันธุ์มักจะเกิดขึ้นบนพื้นที่เกาะ โดยเฉพาะในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ความจริงที่เกิดขึ้นก็คือ ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา สถานการณ์การสูญพันธุ์ของนกบนเกาะเริ่มลดลง ส่วนบนแผ่นดินใหญ่กลับมีอัตราเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นกชนิดที่เปราะบางต่อสภาพแวดล้อมส่วนใหญ่สูญพันธุ์ไปเป็นเวลานานแล้วทั้งบนเกาะและแผ่นดินใหญ่”
สาเหตุหลักที่ส่งผลต่อจำนวนนกก็เนื่องมาจากมนุษย์ขยายพื้นที่อาศัยและทำกินมากขึ้นจนทำลายระบบนิเวศอันสมดุล ถิ่นที่อยู่อาศัยของนกถูกทำลายจากการทำเกษตร การถูกล่าอย่างไม่มีการควบคุม รวมทั้งการคุกคามของสัตว์ต่างถิ่นที่เร่งให้นกสูญพันธุ์มากขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมานักวิจัยยกตัวอย่างเช่น หมู ซึ่งเป็นสัตว์ที่เพิ่งมีการนำมาเลี้ยงบนเกาะฮาวายเมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานั้น การผลิตอาหารสัตว์ในระบบอุตสาหกรรมได้เปลี่ยนภูมิประเทศดั้งเดิมและเพิ่มการแพร่กระจายของพาหะนำโรคมาสู่นก เช่น แมลงต่างๆ ที่ทำให้เกิดโรคมาลาเรียในนก โรคฝีดาษในนก
จากปัจจัยทั้งหลาย สรุปได้ว่ามนุษย์เป็นปัจจัยทั้งทางตรงและทางอ้อมที่ทำให้นกสูญพันธุ์มาตั้งแต่ปี 1500 หลังจากศึกษามายาวนาน ทีมวิจัยพบกรณีที่มนุษย์ไม่ได้เป็นสาเหตุของการสูญพันธุ์ของนกได้เพียงกรณีเดียวเท่านั้น จากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ เมื่อภูเขาไฟระเบิดบนเกาะในเขตประเทศเม็กซิโกในทศวรรษ 1950 ทำให้นกชนิด San Benedicto Rock Wren (นกขนาดเล็กที่มีเฉพาะบนเกาะซาน เบเนดิคโต) สูญพันธุ์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ทีมนักวิจัยระบุอีกว่า ความพยายามอนุรักษ์นกของมนุษย์ช่วยป้องกันการสูญพันธุ์ได้อย่างน้อย 31 ชนิด แต่ปัจจุบันนกจำนวนมากยังมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการอนุรักษ์จากองค์กรที่เกี่ยวข้องเท่านั้น นั่นหมายความว่าถ้าปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติ โอกาสที่นกเหล่านี้จะรอดชีวิตอยู่มีน้อยมาก
“รายชื่อนกที่สูญพันธุ์คงจะมียาวต่อไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีการอนุรักษ์ร่วมกันในแต่ละประเทศเพื่อจะหยุดการสูญพันธุ์นี้” สจ๊วต บุตชาร์ต จากองค์การอนุรักษ์นกนานาชาติเน้น “และที่สำคัญต้องเพิ่มความพยายามในการทำงานเพื่อหยุดยั้งการทำลายสายพันธุ์นกที่มีมนุษย์เป็นส่วนเกี่ยวข้องโดยเร่งด่วน”