“ไทยน้ำทิพย์-เสริมสุข“ ชิง “ร้านอาหาร“ เดิมพันแชมป์ “น้ำอัดลม“

บริษัทเสริมสุข จะเลิกผลิตน้ำอัดลมเป๊ปซี่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
ขณะที่ เป๊ปซี่ ยังหาฐานการผลิตในไทยไม่ได้ คาดว่าจะขาดตลาดไปอีก 8 เดือน
วันที่ 31 ตุลาคม 2555 นี้ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กำลังจะหมดสัญญาการจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม "เป๊ปซี่" และจะไม่ผลิตน้ำอัดลมให้กับบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด อีกต่อไปแล้ว และขณะนี้ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กำลังทำแบรนด์น้ำอัดลมของตัวเอง เข้ามาเสียแทนเป๊ปซี่ และกำลังจะเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
ตลาดน้ำอัดลมตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนอย่างแท้จริง โดยเป็นการชิงขึ้นเป็นผู้นำตลาดระหว่าง "โค้ก" กับน้ำอัดลมแบรนด์ใหม่ของ "เสริมสุข" ที่จะเริ่มอวดโฉมออกมาตั้งแต่ต้นเดือนหน้าเป็นต้นไป
หลังจากที่ได้ มีการ "เปิดไพ่" แผนธุรกิจที่จะมุ่งไปหลังเลิกสัญญากับทางเสริมสุข ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการปั้นแบรนด์ "น้ำอัดลม" ของตัวเอง
ซึ่งต้องจับตากันต่อไปว่าเสริมสุขจะใช้กลยุทธ์อะไรในการเข้าไปนั่งในใจร้าน ค้าและผู้บริโภค
แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่มระบุว่า ขณะนี้พนักงานของเสริมสุขได้เข้ามาแจ้งทางร้านอาหารและร้านค้าต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อแจ้งกับเจ้าของร้านว่าตั้งแต่สิ้นเดือนนี้จะไม่มีเป๊ปซี่มาวางจำหน่ายอีกแล้ว
แต่จะเป็นน้ำอัดลมแบรนด์ใหม่ของเสริมสุขเอง พร้อมเสนอออปชั่นให้กับเจ้าของร้านว่าหากเลือกสั่งสินค้ากับทางเสริมสุขต่อ ก็จะสามารถสั่งต่อได้ทันทีโดยใช้ตู้แช่เดิม แต่หากจะเปลี่ยนไปสั่งน้ำอัดลมยี่ห้ออื่นก็จะต้องคืนตู้แช่ รวมถึงลังและขวดทั้งหมด
"ขณะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญ ซึ่งเสริมสุขมีความพร้อมทุกด้านอยู่แล้ว ทั้งขวดแก้วและระบบจัดจำหน่าย เชื่อว่าพอวันที่ 1 พ.ย.ก็สามารถเสียบแทนเป๊ปซี่ได้ทันที"
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่บรรดาร้านค้าและร้านอาหารยังไม่มั่นใจมากนักคือเรื่องของ "แบรนด์"
"ถ้า เป็นต่างจังหวัดอาจจะไม่ค่อยเท่าไร เพราะอาจจะไม่ได้ซีเรียสเรื่องแบรนด์มาก เหมือนตอนที่บิ๊กโคล่าสามารถแจ้งเกิดได้เริ่มที่ต่างจังหวัดก่อน แต่ถ้าเป็นคนในเมืองเรื่องแบรนด์ก็สำคัญมาก
น้ำอัดลมไม่ใช่จะทดแทนกันได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะภาพของความเป็นอินเตอร์แบรนด์เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ผู้บริโภคคำนึง ถึง" โดยเฉพาะการที่ต้องสู้กับ "โค้ก" แบรนด์อันดับ 1 ของโลกที่รอจังหวะ "เสียบ" อยู่ขณะนี้
การที่แบรนด์ใหม่แกะกล่องถอดด้าม รวมถึงเป็น "แบรนด์ไทย ๆ" ภายใต้มือ "เสริมสุข" วันนี้จึงอาจไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด
สอบถามไปยังเจ้าของร้านอาหารรายใหญ่แห่งหนึ่งระบุว่า สายส่งของเสริมสุขติดต่อมาเรียบร้อย ขณะนี้กำลังชั่งใจว่าจะเปลี่ยนไปสั่งเครื่องดื่มของโคคา-โคลาดีไหม
ซึ่งได้สอบถามไปยังเซลส์ของไทยน้ำทิพย์แล้ว ยืนยันว่าพร้อมเข้ามาเปลี่ยนตู้แช่ทั้งหมด รวมถึงให้บริการต่าง ๆ ฟรี มากกว่านั้นยังเสนอออปชั่นต่าง ๆ เป็นตัวเลือก
"จะยุ่งยากบ้างคือ ช่วงเปลี่ยน ถ้าใช้ของเสริมสุขแบบเดิมก็จะสะดวกดี แต่ติดเรื่องแบรนด์ว่าไม่มีใครรู้จัก" เจ้าของร้านอาหารรายใหญ่ระบุ
จริง ๆ แล้วน้ำอัดลม 3.8 หมื่นล้านบาทวันนี้ เป็นที่รู้กันดีว่าช่องทางที่ใหญ่ที่สุดคือ "ร้านค้าโชห่วย" และ "ร้านอาหาร" ในรูปแบบ "ขวดแก้ว" คิดเป็นสัดส่วนถึง 65% อีก 35% เป็นรูปแบบขวดพีอีที และที่เหลือ 5% คือกระป๋อง
ซึ่งเน้นขายในร้านเซเว่นฯเป็นหลัก จึงไม่แปลกที่ทุกค่ายต้องพยายามแย่งชิงลูกค้าในช่องทางนี้ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นแน่นอน และโค้กก็รอจังหวะนี้มาโดยตลอด
ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า การที่ "เป๊ปซี่" ในเมืองไทยสามารถคว่ำโค้ก ผู้นำตลาดโลกได้สำเร็จ ก็มาจากความแข็งแกร่งในด้านการกระจายสินค้าของ "เสริมสุข" เป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุด
จากเครือข่ายร้านอาหาร ร้านค้าของเสริมสุขที่มีอยู่กว่า 2 แสนจุดขายทั่วประเทศ ทำให้ที่ผ่านมา เป๊ปซี่สามารถครองความเป็นผู้นำในตลาดนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 70% ทิ้งห่างโค้กแบบขาดลอย
"ถ้า เสริมสุขสามารถซัพพลายของและรักษาลูกค้าเดิมของตัวเอง ทั้งร้านค้าและร้านอาหารไว้ได้ การจะขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ภายในชั่วเวลาข้ามคืนก็ไม่ใช่เรื่องยากของยักษ์ใหญ่รายนี้
และนั่นหมายถึงการผลักเป๊ปซี่ตกไปเป็นอันดับ 4 หรือสูสีกับบิ๊กโคล่าที่แข็งแกร่งในตลาดขวดพีอีที" แหล่งข่าวคนเดิมกล่าว
ขณะที่ผู้นำก็จะตกเป็นของ "โค้ก" ในชั่วเวลาข้ามคืนเช่นเดียวกัน
หากดูจากการทุ่มเททำตลาดอย่างหนักของโค้กในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงสุญญากาศของเป๊ปซี่ และส่วนแบ่งตลาดโค้กที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
สิ่งนี้ก็ไม่ได้ดูเกินจริงนัก ที่โค้กจะสามารถเร่งแซงได้ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ โดยเฉพาะกับลูกค้าจำนวนหนึ่งที่ยังไม่มั่นใจเรื่อง "แบรนด์ใหม่" ของเสริมสุข
แหล่ง ข่าวชี้อีกว่า เสริมสุขต้องเร่งสปีดทำตลาดแบบ "ชอร์ตคัต" ให้แบรนด์ติดตลาดได้อย่างรวดเร็วที่สุด จะมัวเสียเวลาไม่ได้เลย ที่สำคัญต้องทำให้สำเร็จก่อนที่เป๊ปซี่จะสามารถ "ตั้งหลัก" และกลับมาสู่ตลาดได้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี
หากดูจาก ประสบการณ์ของเสริมสุขที่ผ่านมา ซึ่งต้องยอมรับว่าความเชี่ยวชาญหลักอยู่ที่ระบบการจัดจำหน่าย และการทำเทรดโปรโมชั่นมากกว่าเรื่องการสร้างแบรนด์ และการตลาดที่เป็นผลผลิตมาจากเป๊ปซี่ โค บริษัทแม่เสียเป็นส่วนใหญ่
ขณะที่ทีมการตลาดของ "ไทยเบฟเวอเรจ" บริษัทแม่ของเสริมสุข ก็ยังไม่เคยผ่านงานเครื่องดื่ม "น้ำอัดลม" มาก่อนเช่นกัน
"ทุกอย่างยังคงไม่แน่นอนในเวลานี้"
ทั้งหมดนี้มีตำแหน่ง "แชมป์น้ำอัดลม" เมืองไทยเป็น "เดิมพัน"
ที่มา: The Classic
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ไวรัลอีกครั้ง! “I Promise I Will Comeback” รีรันคืนจอ
ตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้าน
ตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน