หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ความตายไยต้องเศร้า

โพสท์โดย รวมมิตร

ความตายไยต้องเศร้า - ชาดก


 
บทที่10 ชาดกในหมวดอุเบกขาบารมี
 
10.1 ความตาย ไยต้องเศร้า


สาเหตุที่ตรัสชาดก นครสาวัตถี กฎุมพีคนหนึ่งเศร้าโศกเสียใจเพราะพี่ชายตาย พระทศพลเสด็จไปโปรดกฎุมพีนั้นว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สิ่งที่ควรแตกทำลายก็แตกทำลายไป ไม่ควรคิดเสียใจในเรื่องนั้น แม้โบราณกบัณฑิตทั้งหลาย เมื่อพี่ชายตายไปก็มิได้คิดเสียใจ ทรงนำเรื่องในอดีตมาสาธกดังนี้..

ในอดีตกาลนานมา มีชายหนุ่มผู้หนึ่งดูแลบิดามารดาด้วยความกตัญญูเสมอมา แต่ทว่ากาลเวลาย่อมกลืนกินสรรพสัตว์ แม้จะเป็นบิดามารดาสุดรักบูชาของชายหนุ่มผู้นี้ก็มิอาจเว้นให้ได้ ดังนั้นทั้งสองตายไปแล้ว พี่ชายมาดูแลกิจการแทนบิดามารดา ต่อมาไม่ทันไร พี่ชายก็รีบด่วนป่วยตายตามไปอีกคน คราวนี้หมู่ญาติทั้งหมดต่างร้องห่มร้องไห้ เพราะเพียงไม่กี่วันคนในบ้านก็ตายมากเกินไปแล้ว

แต่น้องชายผู้ตายกลับไม่ร้องไห้เลยแม้สักนิด อย่าว่าแต่ร้องไห้ แม้ใบหน้าฉายแวว เสียใจสักนิดยังไม่มีปรากฏ ชายหนุ่มไม่ยอมร้องไห้ตามคนอื่น ทำตัวแตกต่างจากคนอื่นเช่นนี้ มีหรือจะไม่โดนโพทนาด่าว่าได้? ดังนั้นเวลานี้หมู่ญาติต่างพากันมารุมโพทนาด่าว่าน้องชายผู้ตายกันเป็น การใหญ่
"ดูเอาเถิดๆ! พวกเราทั้งหลาย จงมาดูคนอะไรใจกระด้างเย็นชาเหลือเกิน ขนาดพี่ชายแท้ๆของตัวตายไป หน้าสยิ้วเสียใจสักนิดก็ไม่มีเลย ช่างใจแข็งกระด้างอะไรปานนี้ สงสัยคงจะอยากให้พี่ชายตายเร็วๆ คิดฮุบสมบัติไว้คนเดียวแน่ๆ!"

เมื่อมีคนเปิดประเด็นก็มีคนตาม และดูเหมือนทุกคนจะรอรุมประณามอยู่แล้ว ดังนั้น ญาติสนิททั้งหมดของชายหนุ่มผู้นี้จึงพากันจ้องมองอย่างเหยียดหยัน คล้ายตำหนิติเตียน พากันเดินมารุมด่าว่า..
"พี่ชายตาย! ทำไมเจ้าไม่ร้องไห้?"
น้องชายผู้ตายสลดใจเหลือประมาณ แต่มิได้สลดใจที่พี่ชายตาย กลับสลดใจในหมู่ญาติพวกนี้เพราะหมู่ญาติพวกนี้ได้ตายไปแล้ว! ผู้ประมาทชื่อว่าคนตาย! ชายหนุ่มจึงค่อยๆ กล่าวอธิบายแก่หมู่ญาติว่า..

"ท่านทั้งหลายยังไม่รู้จักโลกธรรม 8 ประการ เพราะความที่ตนเป็นคนบอดเขลาจึงพากันร้องห่มร้องไห้ว่าพี่ชายของเราตาย ความจริงแม้ตัวฉันเองก็จะต้องตาย เหตุไรท่านทั้งหลายไม่ร้องไห้ถึงฉันผู้จะต้องตายบ้างล่ะ! และแม้ท่านทั้งหลายก็จะตาย แล้วเหตุไรจึงไม่ร้องไห้ถึงตนเองบ้าง? 

สังขารทั้งปวงเป็นของไม่เที่ยง ต้องเสื่อมสิ้นไปเป็นธรรมดา จะหาคงสภาพยืนยงนั้นไม่มีเลย ท่านทั้งหลายไม่รู้โลกธรรม 8 จึงได้แผดเสียงร้องไห้กันใหญ่ เอาแต่ร้องไห้ถึงแต่คนตายแล้ว กลับไม่ร้องไห้ให้กับคนที่จะต้องตาย? 

สัตว์ทั้งหลายต้องทอดร่างลงสู่ดินทั้งนั้น ทุกคนทุกชนชั้นล้วนไม่มีอิสระในสรีระร่างกายนี้เลย ถึงจะเสวยสุขอภิรมย์ชื่นชมร่างกายนี้ก็มีแต่ต้องละทิ้งชีวิตไปทั้งสิ้น แท้ที่จริงสุขและทุกข์ที่แสวงหากันอยู่ในหมู่มนุษย์เป็นของแปรผันไม่จีรังยั่งยืน การคร่ำครวญร่ำไห้ ไม่เป็นประโยชน์อันใดสักนิด ไฉนปล่อยให้ความคิดโศกเศร้ามารุมเร้าท่วมทับท่านได้เล่า พวกนักเลงและขี้เมาไม่ทำความเจริญทั้งแก่ตนและคนอื่น เป็นคนพาลห้าวหาญไร้ความขยันหมั่นเพียร เป็นคนโง่งมย่อมสำคัญนักปราชญ์ว่าเป็นคนพาล เมื่อทุกข์เพียงเล็กน้อยเกิดขึ้นก็มัวเสียใจคร่ำครวญร้องไห้ เพราะไม่รู้โลกธรรม 8 อย่างถ่องแท้ แล้วมาสำคัญเราว่าเป็นพาลที่ไม่ยอมร้องไห้ให้เหมือนกันกับเขา"

ญาติทั้งหมดนั่งฟังอย่างสงบจบลงแล้ว ก็หายเศร้าโศก ทำฌาปนกิจเสร็จแล้วก็แยกย้ายกัน กลับบ้านไปทำงานของตนๆ กันตามปกติ..

ประชุมชาดก
พระทศพลทรงประชุมชาดกว่า บัณฑิตในครั้งนั้นมาเป็นตถาคตแล

จากชาดกเรื่องนี้ ชายหนุ่มฝึกฝนตนให้อยู่เหนือโลกธรรมอย่างช่ำชองชำนาญ จนกระทั่งใจไม่สั่นคลอนไปกับความโศกเศร้า และสามารถทนเสียงกระทบกระเทียบจากผู้อื่นได้ การรักษาใจให้เป็นกลางเช่นนี้นับว่าทำได้ยากยิ่ง เพราะหากยังมีความปรารถนาลามกอยู่ก็ยากที่จะตัดใจไม่อาลัยในโลกธรรมได้ ดังนั้นผู้ที่จะสั่งสมอัธยาศัยแห่งอุเบกขาบารมีจึงต้องหมั่นปลงใจให้ได้เสมอๆ ว่าเราต้องเสื่อมลาภ เสื่อมยศ ถูกนินทา และประสบทุกขเวทนาอย่างแน่นอน แล้วขจัดความปรารถนาลามกออกไปจากใจ ต้องฝึกเป็นผู้ที่เห็นคนรักตายไม่โศก เป็นโรคร้ายไม่โวยวาย ทรัพย์มลายไม่ปรารมภ์ ใครชื่นชมไม่เริงร่า ถูกกล่าวหาไม่นำพา ใครนินทาไม่ซึมเซา ทุกข์รุมเร้าไม่โอดครวญ ประสบผันผวนไม่รวนเร

"ความยินดียินร้าย" เป็นอุปสรรคต่อนิสัยที่ทำให้ใจเป็นกลาง ดังคำเทศนาของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี(สด จนฺทสโร)ที่ได้เทศนาไว้ว่า..
"ถึงเวลาเราดีๆ อยู่ความดีใจเสียใจนี่แหละ ตีอกชกใจ กินยาตาย โดดน้ำตาย ผูกคอตาย ดีใจเสียใจนี่มันเต็มขีดเต็มส่วนของมันเข้า บังคับอย่างนี้ เพราะฉะนั้นความดีใจเสียใจนี่เป็นมารร้ายทีเดียว ..ถ้าว่าทำใจให้สบาย ให้ชื่นมื่น ให้เย็นอกเย็นใจ สบายใจ จะมั่งมีดีจนอะไรก็ช่าง ทำใจให้เบิกบานไว้ ทำใจสบายไว้ ร่างกายมันก็ชุ่มชื่นสบาย ไอ้ดีใจเสียใจมันฆ่ากายมนุษย์อย่างนี้"

"นิสัยมักเห็นโทษความหวั่นไหวว่าเป็นของทุกข์ร้อน, ชอบใจที่สงบราบเรียบ, สลัดอารมณ์, ไม่ชอบยินดียินร้ายให้ใจซัดส่ายไปมา, มีใจเสมอกันในสุขและทุกข์และเห็นโลกธรรมกระจ่างอยู่ในใจ" ทั้งหมดนี้จึงนับเป็นนิสัยในวิถีนักสร้างบารมีที่นับเนื่องเข้าในอุเบกขาบารมี

ที่มา: พลังจิตดอดคอม
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
รวมมิตร's profile


โพสท์โดย: รวมมิตร
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
36 VOTES (4/5 จาก 9 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พลังมหัศจรรย์ของ "เกลือ" เปลี่ยนการซักผ้าให้สะอาดง่ายเขมรมาเหนือเมฆ เรียกประชาชนที่อยู่รอบนครวัดมาให้ทำการปรับปรุงบ้านใหม่ ให้เน้นรูปทรงบ้านให้เป็นทรงโบราณ นักท่องเที่ยวมาเที่ยวจะได้ฟินๆ
ตั้งกระทู้ใหม่