หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

Share แชร์โพสท์โดย ดอน

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

               เพื่อนๆคนไหนสะสมสแตมป์ 7-11 ได้ครบแล้วยังครับ ผมว่ากิจกรรมนี้ดีนะครับ นอกจากเราจะได้รู้จักกับของดีของแต่ละจังหวัดแล้ว ยังสามารถนำแสตมป์ไปแลกเปลี่ยนเป็นของรางวัลมากมาย วันนี้ก็เป็นคราวของภาคกลางกันแล้ว (สามารถติดตามภาคอื่นๆก่อนหน้านี้และต่อจากนี้ด้วยนะครับ)

                      ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                                        【ภาคกลาง】

 

กล้วยน้ำว้า (จังหวัดกำแพงเพชร)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                 จังหวัดกำแพงเพชรเป็นจังหวัดที่นิยมปลูก กล้วยไข่กันมาก จนกลายเป็นพืชผลเศรษฐกิจทำรายได้เข้าจังหวัดปี หนึ่งๆ ประมาณ 100 ล้านบาท ทำให้ “กล้วยไข่” ที่ชาวสวนทั่วไป มองเป็นผลไม้พื้นๆ กลายเป็นของมีราคาขึ้น มาทันที และทำให้กำ แพงเพชรเป็นเมืองที่มีฉายาว่า “เมืองกล้วยไข่” โด่งดังไปทั่วประ เทศ แรกเริ่มทีเดียวนั้นเล่ากันว่าเมื่อ 60 ปีมาแล้ว ได้มีการปลูกสวน กล้วยไข่กันก่อนที่บ้านเกาะตาล ตำบลแสนตอง อำเภอขาณุลักษบุรี โดยชาวจีนชื่อนายหะคึ้ง แซ่เล้า นำพันธุ์กล้วยไข่จากนครสวรรค์มา ปลูก ต่อมาได้มีการขยายพันธุ์ออกไปตามท้องที่อำเภอต่างๆ ในที่สุด ไปปลูกมากในเขตอำเภอเมือง เนื่องจากมีสภาพดินฟ้าอากาศเอื้ออำ นวยในการเพาะปลูกถึงขั้นนี้จึงได้มีการรวมกลุ่มเพื่อขยายตลาดให้กว้างเพียงพอต่อผลผลิตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ได้ให้ความสนใจในกล้วยไข่เมืองกำแพงเพชรมากยิ่งขึ้น

 

 

 

อาคารแสดงสัตว์น้ำ ณ บึงบอระเพ็ด (จังหวัดนครสวรรค์)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทรงเรือกระแชงแห่งเดียวในประเทศไทย อาคารมีลักษณะเป็นรูปเรือกระแชง หรือเรือเอี้ยมจุ๊น ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าในแม่น้ำเจ้าพระยาในอดีต ขนาดกว้าง 37 เมตร ยาว 49เมตร  ภายในอาคารตื่นตากับอุโมงค์ ยาว 24 เมตร ชมพันธุ์ปลาน้ำจืด กว่า 100 ชนิด พร้อมพันธุ์ปลาน้ำเค็มอีกหลากหลายพันธุ์ แสดงปลาน้ำจืดหลากหลายพันธุ์ อาทิ ปลากระเบนราหูน้ำจืด ปลาบึก ปลาสะตือ แรดดำ สวายเผือกตาแดง ตะเพียนขาว ตะเพียนทอง ซิวอ้าว และปลาม้า  นอกจากนี้ยังมีตู้แสดงพันธุ์ปลารอบ ๆ อุโมงค์กว่า 30 ตู้ ประกอบด้วยปลาหายากและปลาสวยงามนานาชนิด เช่น ปลาตามิน ปลาหมอช้างเหยียบ ปลาเสือพ่นน้ำ ปลากระโห้ไทย ปลาตะเพียนขาว ตะเพียนทองทรงเครื่อง และปลากาแดง  นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสใกล้ชิดกับฉลามกบและเม่นทะเลที่บ่อปลา Touch Pool นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงตู้ปลาน้ำเค็มในส่วนห้องโถงด้านหน้าอุโมงค์อีกด้วย  สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มีห้องอาหาร ร้านขายของที่ระลึกไว้บริการ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 -18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.30-18.00 น.

                                               

 

 

สุนัขบางแก้ว (จังหวัดพิษณุโลก)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                  สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว จากข้อมูลที่ได้สอบถามจากประชาชนตลอดจนผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านบางแก้ว ตำบลท่านางงาม และบ้านชุมแสงสงคราม ตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พอจะสรุปได้ว่า แหล่งกำเนิดของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วนั้นอยู่ที่วัดบางแก้ว ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม สภาพภูมิประเทศทั่ว ๆ ไปนั้นยังคงเป็นป่าพง ป่าระกำป่าไผ่ และต้นไม้ชนิดต่าง ๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นเหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ชุกชุม เช่นช้างป่า เป็นโขลง ๆ หมูป่า ไก่ป่าสุนัขจิ้งจอก และหมาใน

                  มีขนปุยยาว มีความสง่างาม ว่องไวและแข็งแรง เวลายืนมักเชิดหน้าและโก่งคอคล้ายม้า เป็นสุนัขขนาดกลาง รูปทรงตั้งแต่ช่วงขาหน้าถึงขาหลังเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส อกกว้างและลึกได้ระดับกับข้อศอก ไหล่กว้าง ท้องไม่คอดกิ่ว หน้าแหลม หูเล็ก หางพวง ขนมีสองชั้น นิสัยรักเจ้าของ ฉลาดปราดเปรียว กล้าหาญ ค่อนข้างดุ สามารถฝึกหัดได้ ชอบเล่นน้ำมาก ขนาดเท่าสุนัขไทยทั่วไป หรือเล็กกว่าเล็กน้อย ไม่อ้วน ความสูงวัดที่ไหล่ ตัวผู้พ่อพันธุ์สูง 42-53 เซนติเมตร ตัวเมียแม่พันธุ์ 38-48 เซนติเมตร น้ำหนักตัวผู้ 14-16 กิโลกรัม ตัวเมีย 13-15 กิโลกรัม ลำตัว ช่วงตัวตอนหน้าใหญ่ ช่วงตัวตอนท้ายค่อนข้างเล็ก ลำตัวหนาปานกลาง อกลึกปานกลาง อกแคบ ยืดอกเวลายืน ส่วนเอวจะคอดน้อยกว่าหมาไทย ท้ายลาด สง่าเหมือนสุนัขจิ้งจอก ส่วนขา ขาหน้าจะใหญ่กว่าขาหลังเล็กน้อย ขาส่วนบนใหญ่และเรียวลงมาถึงข้อเท้า ตั้งตรงแข็งแรง ถ้าดูด้านข้างจะเห็นขนยาวเป็นเส้นตรงจากข้อเท้าด้านหลังขึ้นไปถึงข้อศอกเหมือนขาสิงห์ ขาหลังช่วงล่างมีทั้งตั้งตรงและเกือบตรง ช่วงบนด้านหลังจะมีขนยาว เป็นเส้นตรงขึ้นไปจนถึงโคนหาง เวลายืนท่าปกติจะรับน้ำหนักทรงตัวดี นิ้วเรียงชิดกัน ขนที่ปลายนิ้วยาวหุ้มเล็บ หัว กะโหลกใหญ่ ปากยาวแหลม คอยาวกว่าหมาไทยทั่วไป กะโหลกศีรษะและปากรับกันเป็นรูปสามเหลี่ยม หูเล็กสั้น ตั้งป้องไปข้างหน้า ปลายหูเบนไปข้างๆ เล็กน้อย โคนหูทั้งสองอยู่ห่างกันมากกว่าสุนัขพันธุ์อื่น ๆ 

 

 

 

จระเข้น้ำจืด (จังหวัดพิจิตร)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

              จระเข้น้ำจืด โดยปกติจะกินปลาและสัตว์อื่นที่เล็กกว่าเป็นอาหาร จะไม่ทำร้ายมนุษย์หากไม่ถูกรบกวนหรือมีอาหารเพียงพอ ในอดีตในประเทศไทยเคยพบชุกชุมในแหล่งน้ำทั่วทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะในแถบที่ราบลุ่มภาคกลาง เช่น พิจิตร ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่จระเข้ชุม เคยมีรายงานว่าพบจระเข้ถึง 200 ตัว หรือในวรรณกรรมพื้นบ้านเรื่องต่าง ๆ เช่น ไกรทอง ของจังหวัดพิจิตร เป็นต้น แต่ปัจจุบันได้สูญหายไปจนหมดแล้ว แต่ในต่างประเทศยังคงพบอยู่เช่นที่ทะเลสาบเขมร ประเทศกัมพูชาโดยเฉพาะเทือกเขาคาร์ดามอน ซึ่งช่วงแรกค้นพบเพียง 3 ตัว จนนำไปสู่การค้นพบจระเข้นับร้อยตัว ที่อาศัยโดยไม่พึ่งพาอาศัยมนุษย์ แต่ที่นี่ก็ประสบปัญหาการจับจระเข้ไปขายฟาร์มจำนวนมาก สถานะในอนุสัญญาของไซเตสได้ขึ้นบัญชีจระเข้น้ำจืดไว้อยู่ในบัญชีหมายเลข 1 (Appendix 1)

                     ปัจจุบัน จระเข้สายพันธุ์นี้แท้ ๆ ก็ยังหายากในสถานที่เลี้ยง เนื่องจากได้ถูกผสมสายพันธุ์กับจระเข้สายพันธุ์อื่นจนเสียสายพันธุ์แท้ไป เนื่องจากเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจ

 

 

 

เครื่องชามสังคโลก (จังหวัดสุโขทัย)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

               เครื่องสังคโลก หมายถึงเครื่องปั้นดินเผาที่ผลิตขึ้นในรูปภาชนะเครื่องใช้ และเครื่องประดับอาคารต่าง ๆ เช่น ถ้วย ชาม จาน ไหดิน โอ่งน้ำ ขวดดิน กระปุก ป้านน้ำชา ช้อน ตลอดดจนตุ๊กตารูปคน รูปสัตว์ เช่น ช้าง รูปยักษ์ รูปเทวดา พระพุทธรูป กระเบื้องมุงหลังคา สิงห์สังคโลก ลูกมะหวด ท่อน้ำ ตุ๊กตาเสียกบาล ตัวหมากรุก ช่อฟ้า บราลี ฯลฯ มีทั้งที่เคลือบน้ำยาและไม่เคลือบน้ำยา ลักษณะเด่นคือ เป็นเครื่องปั้นดินเผาเคลือบเนื้อละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนิดเนื้อแตกลายงาสีเขียวไข่กา วิวัฒนาการของการเคลือบสีเขียวประณีตงดงามทำให้มีการเรียกชื่อเครื่องปั้นดินเผาสีเขียวว่า "เซลาดอน" ซึ่งเคลือบสีระดับต่าง ๆ กัน เช่น สีเขียวไข่กา สีเขียวมะกอก

               การกำหนดอายุเครื่องสังคโลกจากหลักฐานที่ค้นพบเครื่องสังคโลกกับเครื่องถ้วยสีเขียวของจีนสมัยราชวงศ์หยวนในเรือที่จมใต้อ่าวไทยชื่อ เรือรางเกวียน กำหนดอายุประมาณต้นพุทธศตวรรษที่ 19 และศึกษาเปรียบเทียบเครื่องสังคโลกกับเครื่องปั้นดินเผาจีนสมัยราชวงศ์หมิงที่พบที่ประเทศฟิลิปปินส์ ได้กำหนดเครื่องสังคโลกให้มีอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ 18-19 การผลิตเครื่องสังคโลกเริ่มสมัยสุโขทัย แต่ได้รับการส่งเสริมเป็นสินค้าออกและขยายการผลิตจำนวนมากในสมัยกรุงศรีอยุธยา การผลิตเครื่องสังคโลกลดลงตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 23 เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ตลาดการค้าสังคโลกเปลี่ยนแปลงคือ การที่จีนหวนกลับมาผลิตเครื่องลายครามน้ำเงิน-ขาว ซึ่งกลายเป็นที่นิยม และการค้าสมัยกรุงศรีอยุธยาเปลี่ยนแปลงไปตามข้อเรียกร้องของชาวตะวันตกที่มีบทบาททางการเมืองในภูมิภาคนี้

 

 

 

มะขามหวาน (จังหวัดเพชรบูรณ์)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                  มะขามหวานเป็นพืชเอกลักษณ์และพืชเศรษฐกิจของจังหวัดเพชรบูรณ์มาแต่ดั้งเดิมจนได้ชื่อว่า เมืองมะขามหวาน เมื่อเอ่ยถึงเมืองมะขามหวานประชาชนโดยทั่วไปก็เข้าใจเป็นอย่างเดียวกันว่าหมายถึง เมืองเพชรบูรณ์ มะขามหวานของจังหวัดมีหลายพันธุ์ เช่น พันธุ์หมื่นจง พันธุ์สีทอง (พันธุ์นายหยัด) พันธุ์ อินทผาลัม พันธุ์สีชมภู พันธุ์ปากดุก พันธุ์นายเบื้อง พันธุ์หลังแตก พันธุ์น้ำผึ้ง พันธุ์โป่งตูม พันธุ์ผู้ใหญ่มา เป็นต้น

                   

 

 

 

ปลาแรดสะแกกรัง (จังหวัดอุทัยธานี)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

               เป็นปลาน้ำจืดเศรษฐกิจที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งของไทย โดยนิยมเพาะเลี้ยงกันในหลายพื้นที่ เช่น นิยมเลี้ยงกันที่แม่น้ำสะแกกรัง ในจังหวัดอุทัยธานี ที่มีเลี้ยงกันในกระชังในแม่น้ำจนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี

                    นอกจากนี้แล้ว ยังนิยมเลี้ยงกันเป็นปลาสวยงามอีกด้วย โดยในปลาธรรมดาจะเรียกกันว่า "แรดดำ" และในปลาที่มีผิวเผือก จะเรียกว่า "แรดเผือก" หรือ "แรดเผือกตาแดง" นอกจากนี้แล้วยังมีปลาที่สีแตกต่างออกไปด้วย

 

 

 

ขนมสาลี่ (จังหวัดสุพรรณบุรี)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                  เป็นร้านต้นตำรับความอร่อยของ ขนมสาลี่สุพรรณ ที่มีเอกลักษณ์ ทั้งในด้านรสชาติและความนุ่มเนียน ของเนื้อขนม อันเป็นจุดเด่นของ"สาลี่เอกชัย" บรรยากาศที่อบอุ่น เป็นกันเอง ละลานตาไปด้วย ขนมนานาชนิด ที่ขึ้นชื่อก็คือ "สาลี่เอกชัย" ที่มีหลายกลิ่นหลายรสทั้ง ใบเตย, นมแมว, กาแฟ, มะลิ, ส้ม และลิ้นจี่ ฯลฯ และยังมีขนมภายใต้เครื่องหมายคุณภาพ "เชลล์ชวนชิม" ซึ่งเป็นต้นตำรับความอร่อยจากร้านเอกชัย อีกมากมาย อาทิ ขนมลูกเต๋า, ขนมเปี๊ยะนมข้น และขนมสาลี่ทิพย์ รวมทั้งขนมหล่าเปี๊ยะ และขนมปังไส้ต่าง ๆ ที่ทั้งอร่อย และเปี่ยมด้วยคุณภาพหลากหลายรสชาติให้คุณได้เลือกสรรพร้อมกับของฝากอีกหลายประเภท ในอาคารทรงไทยหลังนี้ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "ศูนย์รวมของฝากที่ใหญ่ และทันสมัยที่สุดในจังหวัด สุพรรณบุรี" 

 

 

 

พระปฐมเจดีย์ (จังหวัดนครปฐม)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                   พระปฐมเจดีย์ หรือเดิมเรียกว่า พระธมเจดีย์ มีฐานะเป็นมหาธาตุหลวง ของแผ่นดินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชวินิจฉัยว่า พระธมเจดีย์องค์นี้ อาจเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้น เมื่อคราวที่พระสมณทูตในพระเจ้าอโสกมหาราช เดินทางมาเผยแผ่ศาสนายังสุวรรณภูมิ ก็เป็นได้ เพราะพระเจดีย์เดิม มีลักษณะทรงโอคว่ำ หรือทรงมะนาวผ่าซีก แบบเดียวกับพระสถูปสาญจีแต่ปรากฏว่ามียอดเป็นแบบปรางค์ ซึ่งพระองค์ฯ ทรงมีพระราชวินิจฉัยว่า อาจมีเจ้านายพระองค์ใดมาบูรณะไว้ก็เป็นได้ ซึ่งตรงกับความในศิลาจารึกหลักที่ (ศิลาจารึกวัดศรีชุม) ของ พระมหาเถรศรีศรัทธาฯ อันได้กล่าวไว้ว่า พระมหาเถรศรีศรัทธาฯ ท่านทรงได้แวะมาบูรณะพระธมเจดีย์องค์นี้ ก่อนที่ท่านจะเดินทางกลับเมืองราดเมื่อคราวที่ท่านเสด็จกลับจากศึกษาพระพุทธศาสนาที่ลังกา ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงพระราชทานนามใหม่ว่า พระปฐมเจดีย์ ด้วยทรงเชื่อ ว่านี่คือเจดีย์แห่งแรกของสุวรรณภูมิ นั่นเอง

 

 

ปูราชินี (จังหวัดกาญจนบุรี)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                ปูราชินีหรือปูสามสี เป็นปูที่มีปากและขามีสีแดงและส้ม ก้ามมีสีขาว และกระดองมีสีน้ำเงินอมม่วง เชื่อว่าสามารถเปลี่ยนสีได้เรื่อย ๆ ตามฤดูกาล ตัวเต็มวัยมีขนาดประมาณ 12.5 มิลเมตร โดยทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ขออนุญาตใช้ชื่อ สิริกิติ์ เป็นชื่อวิทยาศาสตร์ เพื่อเป็นเกียรติและเฉลิมฉลองครบรอบ 5 รอบของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และได้พระราชทานให้ในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2534ปัจจุบันพบเป็นปูประจำถิ่นในป่าพรุน้ำจืดบริเวณลุ่มน้ำน้อย อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และอุทยานแห่งชาติไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และไม่เคยมีรายงานพบที่อื่นอีกเลย มีสถานภาพเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535

 

 

 

ลอยประทีปพันดวง (จังหวัดตาก)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                 ลอยกระทงสายเป็นวัฒนธรรมพื้นบ้าน ที่สืบสานจากวิถีการกินอยู่ สู่ประเพณีบูชาสายน้ำอันงดงาม ประเพณีลอย กระทงสาย ณ ลำน้ำปิง ของชาวเมืองตาก เป็นประเพณีเก่าแก่ที่มีการปฎิบัติสืบทอดมายาวนาน ประเพณีดังกล่าว มีเอกลักษณ์ ที่แตกต่างจากที่อื่น ๆ คือ การใช้กะลา มะพร้าว เป็นองค์ประกอบหลักของกระทง กระทงจากกะลา ของชาวเมืองตาก ได้มีการสืบสานพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็น ประเพณีลอย กระทงสาย ที่เป็นเอกลักษณ์ ของจังหวัดตาก

                  ต่อมาในปีพุทธศักราช 2540 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช โปรดเกล้าฯ พระราชทานถ้วยรางวัล สำหรับทีมที่ชนะเลิศการประกวดกระทงสาย และในปีพุทธศักราช 2541 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระประทีปสำหรับ อัญเชิญลงลอยเป็นกระทงนำ ในวันเปิด งานลอยกระทงสาย ไหลประทีปพันดวง เพื่อเป็นสิริมงคลแก่งาน และในปี พุทธศักราช 2544 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระประทีปร่วมลอยด้วย

                   ปัจจุบัน ประเพณีลอยกระทงสายของจังหวัดตาก จะจัดขึ้นในช่วง เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นระยะเวลารวม 6 วัน โดยจะมีชุมชน หรือหมู่บ้านต่าง ๆ มาร่วมแข่งขันลอยกระทงสาย วันละ 4 – 5 คณะ ซึ่งคณะกรรมการจะกำหนดให้แต่ละคณะ จะต้องปล่อยกระทงนำ 1 กระทง กระทงตามที่ทำจากกะลา 1,000 ใบ และมีกระทงปิดท้ายอีก 1 กระทง กติกาดังกล่าว เป็นที่มาของชื่องาน ประเพณีลอย กระทงสาย “ไหลประทีปพันดวง” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน

 

 

 

เสาชิงช้า (กรุงเทพมหานคร)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

              เสาชิงช้า เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประกอบพิธีโล้ชิงช้า ในพระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวายของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู โดยทั่วไปหมายถึงเสาชิงช้าที่ตั้งอยู่หน้าวัดสุทัศน์เทพวรารามและลานหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ลานคนเมือง) ใกล้กับเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ในพื้นที่แขวงเสาชิงช้าและแขวงวัดราชบพิธเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของกรุงเทพมหานคร แม้พิธีโล้ชิงช้าได้เลิกไปแล้วตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ก็ตาม

                     นอกจากนี้ ในประเทศไทยยังมีเสาชิงช้าอีกแห่งหนึ่งที่หน้าหอพระอิศวร เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งมีการประกอบพิธีโล้ชิงช้ามาแต่โบราณเช่นกัน แต่ได้เลิกไปก่อนที่จะมีการก่อสร้างขึ้นใหม่ในภายหลัง โดยจำลองแบบมาจากเสาชิงช้าที่กรุงเทพมหานคร

                    เสาชิงช้าที่กรุงเทพมหานครแห่งนี้ มีลักษณะเป็นเสาชิงช้าขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนแท่นหินขนาดใหญ่ สูง 21.15 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางฐานกลมประมาณ 10.50 เมตร ฐานกลมก่อเป็นฐานปัทม์ทำด้วยหินล้างสีขาว พื้นบนปูกระเบื้องดินเผาสีแดง มีบันได 2 ขั้น ทั้ง 2 ด้าน ตามแนวโค้งของฐานติดแผ่นจารึกประวัติเสาชิงช้า เสาไม้แกนกลางคู่และเสาตะเกียบ 2 คู่ เป็นเสาหัวเม็ด ล้วนทำด้วยไม่สักกลึงกลม โครงยึดหัวเสาทั้งคู่แกะสลักอย่างสวยงามกระจังและหูช้างไม้เป็นลวดลายไทย ทั้งหมดทาสีแดงชาดติดสายล่อฟ้าจากลวดลายกระจังด้านบนลงดิน

                  ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเสาชิงช้าเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2492 นับตั้งแต่สร้างครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2327จนถึงการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งล่าสุดซึ่งเสาชิงช้าคู่เดิมถูกถอดเปลี่ยนเมื่อปี พ.ศ. 2549 เสาชิงช้ามีอายุรวมประมาณ 222 ปี

 

 

 

เครื่องปั้นดินเผา (จังหวัดนนทบุรี)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

               เครื่องปั้นดินเผาของชาวเกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นับเป็นศิลปะอันยอดเยี่ยม เป็นที่ยอมรับกันแพร่หลาย ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ เพราะผลงานที่ปรากฏจะมีรูปทรง และลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่นเกาะเกร็ด พร้อมทั้งแสดงถึงความเป็นเลิศทางด้านภูมิปัญญาชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นฝีมือการแกะสลักลวดลายอันสวยงามอ่อนช้อยยอดเยี่ยมของคนพื้นบ้านเชื้อสายไทยรามัญที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์การปั้นดินเผาตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน มิให้สูญหายอีกทั้งยังมีการพัฒนาด้านฝีมือเทคนิคให้ปรากฏถึงความประณีต สวยงามอันทรงคุณค่าของคนไทยเชื้อสายรามัญ ถ้าท่านได้มาเยือน และได้สัมผัสผลงานแล้วต้องยอมรับ และเก็บความประทับใจยากที่จะลืมผลงานศิลปะเครื่องปั้นดินเผาของเกาะเกร็ดได้

 

 

 

อาคารลูกเต๋า (จังหวัดปทุมธานี)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                 พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดตั้งโดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์จัดแสดงนิทรรศการและจัดกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี นำเสนอสาระน่ารู้นับจากการค้นพบทฤษฎี หลักการ และการประดิษฐ์ในอดีต ความก้าวหน้าถึงปัจจุบันและแนวโน้มสู่อนาคต นิทรรศการและชิ้นงานที่จัดแสดงนำเสนอ ในรูปแบบที่ให้ผู้ชมสามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจด้วยการสัมผัส ทดลอง ร่วมแสดง และโต้ตอบกับชิ้นงานแสดงต่างๆ เนื้อที่จัดแสดงมีประมาณ 10,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 6 ชั้น ตั้งอยู่ที่ เทคโนธานี ต.คลองห้า อ.คลองหลวง 

              ซึ่งมีลักษณะผิวภายนอกที่ดูแลรักษาได้ง่ายและไม่ต้องทาสีตลอด อายุการใช้งานประกอบกับลักษณะพื้นผิวที่สะท้อนแสงและการติดตั้งที่มีความลาดเอียง จึงสะท้อนความร้อนได้มากช่วยให้ประหยัดพลังงานในการปรับอุณหภูมิภายในได้เป็นอย่าง ดีภายในอาคารมีการติดตั้งระบบควบคุม อุณหภูมิระบบป้องกันอัคคีภัยที่ไดมาตรฐาน ทั้งระบบตรวจจับควันไฟ (SmokeDetector) และระบบฉีดน้ำอัตโนมัติ(Sprinkle) ตลอดจนมีการจัดระบบการอำนวยความสะดวกในการเดินชม นิทรรศการภายในอาคารทั้งสำหรับผู้ชมทั่วไป และผู้ทุพลภาพจึงนับได้ว่านอกจากจะเป็นอาคารที่มีรูปทรงดึงดูดใจ แล้วยังเป็นอาคารที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยอีกด้วย

 

 

 

ปลาสลิดบางบ่อ (จังหวัดสมุทรปราการ)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                  แม้ว่า ปลาสลิดจะสามารถหาซื้อรับประทานได้ทั่วประเทศไทย แต่หากพูดถึงเรื่องของชื่อเสียงแล้ว ปลาสลิดบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ถือว่ามีชื่อเสียงมากที่สุด และกลายเป็นสินค้าออกต่างประเทศ ไปแล้วในปัจจุบัน
                  ชาวบ้านของอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ มีความชำนาญในการเลี้ยงปลาสลิด และการเก็บรักษาปลาสลิด เป็นอย่างมาก ส่วนสาเหตุที่ทำให้ปลาสลิดบางบ่อมีรสชาติ จนเป็นที่เรื่องลือ ก็เพราะว่า ในเขตบางบ่อ เป็นน้ำกร่อยที่มีความพอดี ที่ทำให้เกิดไรแดงจำนวนมาก ซึ่งไรแดง ถือเป็นอาหารหลักของปลาสลิด บางบ่อ และมีส่วนอย่างมากที่ทำให้ปลาสลิดบางบ่อ แข็งแรง เนื้ออร่อย

 

 

 

พันท้ายนรสิงห์ (จังหวัดสมุทรสาคร)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

              พันท้ายนรสิงห์ เป็นนายท้ายเรือในสมัยพระเจ้าเสือหรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พ.ศ. 2246 – 2251) วันหนึ่งพระเจ้าเสือได้เสด็จประพาสต้นด้วยเรือพระที่นั่งเอกชัย มาตาม คลองโคกขามโดยมีพันท้ายนรสิงห์ เป็นนายท้ายเรือ คลองนี้คดเคี้ยวและน้ำเชี่ยวมากไม่สามารถบังคับทิศทางเรือได้ ทำให้หัวเรือชนเข้ากับต้นไม้จนหัวเรือหัก พันท้ายนรสิงห์จึงขอให้พระเจ้าเสือประหารตน

                    พระเจ้าเสือจึงให้ประหารตัดศรีษะพันท้ายนรสิงห์ แล้วจัดทำศาลขึ้นพลีกรรมพร้อมทั้งหัวเรือ ซึ่งเป็นไปตามกฎมณเฑียรบาล แต่ตามเกร็ดเล่าว่า พันท้ายนรสิงห์ทราบว่าจะมีพวกกบฏมาดักทำร้ายพระเจ้าเสือ เลยจำเป็นต้องทำให้หัวเรือหักเพื่อมิให้ไปถึงจุดที่กบฎวางแผนเอาไว้ โดยยอมให้ตนเองถูกประหารเพราะเป็นกฎมณเฑียรบาลที่ทำหัวเรือพระที่นั่งหักจะต้องถูกประหาร เมื่อพระเจ้าเสือทรงทราบจึงได้ให้บันทึกไว้ในพงศาวดารและให้ตั้งศาลขึ้น ณ ที่แห่งนั้น ถ้าเรื่องตามละครพระเจ้าเสือไม่ยอมประหารแต่ให้ปั้นรูปปั้นแล้วทำการตัดหัวรูปปั้นแทน แต่พันท้ายนรสิงห์ไม่ยอมเพราะจะเป็นการขัดกฏมณเฑียรบาลจึงขอให้ประหาร มิให้ผู้อื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่ก่อนที่จะประหารพันท้ายนรสิงห์ซึ่งบ้านน่าจะอยู่ใกล้ ๆ แถวนั้นได้กลับบ้านไปล่ำลาภรรยา และพันท้ายนรสิงห์จึงถูกประหารในวันเดียวกัน

                    ภายหลังพระเจ้าเสือได้ทรงให้พระยาราชสงคราม คุมไพร่พลจำนวน 3000 คน ทำการขุดคลองลัดคลองโคกขามที่คดเคี้ยว ไปออกที่บริเวณแม่น้ำท่าจีน กว้าง 5 วา ลึก 6 ศอก สร้างเสร็จในสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ พ.ศ 2252 ได้พระราชทานนามคลองนี้ว่าคลองสนามไชย ต่อมาเรียกเป็นคลองมหาชัย ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมืองมหาชัย แต่ชาวบ้านเรียกว่าคลองถ่าน ปัจจุบันชาวบ้านฝั่งธนบุรี เรียกชื่อว่า คลองด่าน

 

 

 

ปลาทูแม่กลอง (จังหวัดสมุทรสงคราม)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

             นอกจากของดีตามคำขวัญจังหวัดแล้ว สมุทรสงครามยังมี “ปลาทูแม่กลอง” เป็นอีกหนึ่งของดีอันเลื่องชื่อ ซึ่งในทุกๆวันที่ท่าเรือหน้าวัดปทุมคณาวาส ที่เป็นท่าขึ้นปลาทูขนาดใหญ่ จะเต็มไปด้วยบรรยากาศของพ่อค้า แม่ค้า และชาวประมง มาทำการซื้อขายปลาทูกันอย่างคึกคัก เพื่อที่จะนำไปนึ่งแล้วขายเป็นปลาทูนึ่งใส่เข่ง ก่อนที่จะมีคนมาเดินเลือกซื้อปลาทูกับไปทำเมนูอันโอชะอีกต่อหนึ่ง

             เหตุที่ทำให้ปลาทูแม่กลองมีความสดใหม่อยู่ทุกวัน ก็เพราะว่าเมื่อเรือเดินทางออกสู่ทะเลในช่วงเย็น ก็จะออกไปทำการกวาดต้อนจับเหล่าบรรดาปลาทูน้อยใหญ่ ซึ่งปลาที่ถูกจับขึ้นมานั้นจะถูกแช่น้ำแข็งที่ใต้ท้องเรือ และเมื่อได้ปลาทูตามปริมาณที่กำหนดไว้ ก็จะนำเรือเข้าเทียบท่าในเวลาช่วงเช้า โดยจะไม่มีการเก็บปลาไว้ค้างคืน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ปลาทูแม่กลองมีความสด ใหม่ และกินอร่อยกว่าที่อื่น

 

 

 

มีดอรัญญิก (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                 ช่างทำมีดอรัญญิก ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นผู้มีความชำนาญในการตีเหล็กเป็นอย่างมากขั้นตอนการทำมีดทุกขั้นตอนต้องใช้ความรู้ ทักษะ และความชำนาญเฉพาะตัว ตั้งแต่การเลือกวัสดุเช่น เหล็ก ถ่านที่ใช้ในการเผามีด การเผาเหล็กที่ได้อุณหภูมิพอเหมาะที่จะทำการตีขึ้นรูป(หลาบ) หรือ (ซ้ำ)หรือการใช้ค้อนตีเนื้อเหล็กที่เป็นรูปแล้วให้เรียบเป็นมันมีเนื้อแน่น(ไห่) การแต่งให้ได้รูปเล่มที่สวยงาม การทำคมให้เหมาะสมกับชนิดการใช้งานของมีดและการชุบคมให้แข็งซึ่งเป็นสูตรลับและภูมิปัญญาที่สืบทอดและพัฒนากันมา บางชนิดสามารถใช้ฟันตะปูขาดโดยคมมีดไม่มีรอยบิ่นเลยก็มี

 

 

 

ลิง (จังหวัดลพบุรี)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

               เกิดเป็นคนลพบุรี ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองของลิง ด้วยจำนวนกว่า 600 ชีวิตที่แพร่กระจายไปทั่วทั้งพื้นที่ของลพบุรี

               ในแต่ละปี ทางจังหวัดจะจัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารโต๊ะจีนแก่ฝูงลิงเฉลิมฉลอง และลิงก็เป็นสัญลักษณ์ของลพบุรี ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แม้แต่สัญลักษณ์ของทีมฟุตบอลยังใช้ลิงเป็นตัวมาสคอรต์

 

 

 

ปลาช่อนแม่ลา (จังหวัดสิงห์บุรี)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                 สิงห์บุรี ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องปลาช่อนรสดี เป็นที่ติดอกติดใจแก่ผู้เคยลิ้มลองมานับไม่ถ้วน และหากจะพูดถึงปลาของจังหวัดสิงห์บุรีแล้ว ก็คงต้องนึกถึง “ ปลาช่อนแม่ลา ” ที่มีรสชาติความอร่อยแตกต่างจากปลาช่อนที่อื่นๆโดยสิ้นเชิง

 

                  ปลาช่อนแม่ลา หลายคนคงเคยเห็นปลาช่อนแม่ลาย่างไฟอ่อนๆจนเกล็ดและหนังเกรียมดำ เมื่อแกะหนังออกมาแล้วก็จะเห็นเนื้อปลาสีขาวออกน้ำตาลอ่อนๆ มีกลิ่นหอม เนื้อนุ่ม ทานกับน้ำจิ้มปลา โดยมียอดสะเดาย่างไฟเป็นเครื่องเคียง ใครได้ทานเมนูนี้ก็ต้องบอกว่า นี่แหละสุดยอดปลาช่อนแม่ลาเผา ที่ติดอกติดใจนักชิมนักกินชนิดที่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม และหากใครอยากได้รสชาติปลาแม่ลาที่แท้จริงแล้ว ก็ต้องบอกว่าให้มาทานที่สิงห์บุรีเท่านั้น หากทานนอกเขตพื้นที่สิงห์บุรีแล้ว ก็ไม่รับประกันว่าจะได้ทานปลาช่อนแม่ลาที่เป็นต้นตำรับได้ อาจเป็นปลาช่อนเลี้ยงแล้วนำมาย่างแบบเดียวกับสูตรที่สิงห์บุรีก็เป็นไปได้ และก็เป็นแบบนั้นจริงๆด้วย

 

 

 

ส้มโอขาวแตงกวา (จังหวัดชัยนาท)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

              ส้มโอเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อของ จ. ชัยนาท เป็นส้มโอที่มีรสชาติดีมากและออกผลผลิตได้ทั้งปี รสชาติของส้มจะดีที่สุดช่วงเดือน ก.พ. - ต.ค.

                 จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ออกดอกไปจนถึงผลสุกใช้เวลาประมาณ 7 เดือนขึ้นไปรสชาติจะหวานกรอบ ถ้าเป็นส้มโออ่อนจะมีรสชาติเปรี้ยวอมขม และถ้าผลไหนที่รับประทานเนื้อส้มโอแข็งเป็นเม็ดข้าวสารแสดงว่าส้มโอลูกนั้นแก่(เก็บผลผลิตเกิน 8 เดือน)

                 

 

 

กะ-ห รี่ปั๊บ (จังหวัดสระบุรี)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                ...ปั๊บ  เป็นอาหารสไตล์ตะวันตกผสมกับอินเดีย เริ่มเป็นที่นิยมโดยชาวมุสลิมในประเทศไทย คาดว่าเป็นอาหารที่ถูกคิดค้นโดยโดยท้าวทองกีบม้า โดยตอนแรกชื่อว่า curry puff (พัฟฟ์ผง...) ต่อมาได้เพี้ยนมาเป็น ...พัฟฟ์ และเพี้ยนเป็น...ปั๊บในที่สุด ...ปํ๊ปไส้ไก่เป็นที่นิยมมาก

 

                     สถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่อง...ปั๊บที่มีชื่อเสียง คือ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี จนกลายเป็นคำขวัญของอำเภอ ที่ว่า "เนื้อนุ่ม นมดี ...ดัง" และนอกจากนี้ยังมีการทำ...ปั่บที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย หนัก300 กิโลกรัม โดยใช้เส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เมตร ลึก 80 เมตร ใช้คนทำ 20 คน และใช้นำมันพืชในการทำ ถึง 2,000 ลิตร ในงานมหกรรมสินค้าราคาถูกและงานกาชาดสระบุรี เมื่อ 28-31 ธันวาคม พ.ศ. 2540

 

 

 

กลอง (จังหวัดอ่างทอง)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                แหล่งผลิตกลองมีอยู่ทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นจังหวัดในภาคกลาง แต่กลองที่นิยมกันว่าดีมีชื่อเสียงถือเป็นกลองชั้นหนึ่งจะอยู่ในจังหวัดอ่างทองเนื่องจากผลิตกลองได้สัดส่วนสวยงาม ประณีตเรียบร้อย ที่สำคัญ เสียงกลองจะทุ้มไพเราะ จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น "ถิ่นฐานทำกลอง" รวมทั้งเป็นแหล่ง "กลองดีตีดัง" ที่ดีที่สุดในประเทศ นอกเหนือประกอบอาชีพทำไร่ ทำนาแล้วยังสร้างสรรค์อาชีพด้วยงานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน โดยการผลิตกลองที่ใช้กับเครื่องดนตรีไทย ไม่ว่าจะเป็นกลองตะโพน กลองทัด รำมะนา กลองยาว กลองรำวง แม้แต่กลองเพล รวมทั้งกลองต่างชาติที่มีออเดอร์สั่งมามากมาย โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน รวมทั้งประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ นิยมสั่งทำมาก แต่เดิมไม้เนื้อแข็ง อาทิ ไม้ประดู่ ชิงชัน มะค่า  ที่เป็นวัสดุสำคัญมีอยู่มากมายในท้องถิ่น แต่ทรัพยากรเหล่านี้หมดลงตามกาลเวลา ผู้ผลิตจึงหันมาใช้ประเภทไม้เนื้ออ่อนทดแทน คือ ไม้จามจุรี ขนุน กระท้อน ที่มีอยู่มาก แม้ว่าเสียงจะไม่ทุ้มก้อไพเราะเท่าไม้เนื้อแข็งแต่ด้วยประสบการณ์และกรรมวิธีการผลิตทำให้เสียงไม่เพี้ยนรักษามาตรฐานและคุณภาพไว้ได้จนกลายเป็นที่นิยมเพราะเสียงดี ราคาถูก "นอกเหนือจากไม้ที่เป็นวัสดุสำคัญยังมีหนังวัว หนังควายที่หาซื้อได้จากโรงฆ่าสัตว์ โดยกลองหนึ่งลูกใช้เวลาทำนานร่วมเดือน ขั้นตอนที่นานที่สุด 
คือการขึ้นหนังกลองบนแป้นโดยหนังกลองข้างหนึ่งใช้เวลาขึ้นแป้นและขึงตากเป็นเวลานานกว่าสัปดาห์                

             นอกจากนั้น ต้องแต่งเสียง ทั้งนี้ กลองแต่ละชนิดมีความยากง่ายต่างกันราคาจึงแตกต่าง ที่ง่ายที่สุดคือ กลองยาว ยากขึ้นมาคือกลองเพล ส่วนกลองที่ถือว่าทำยากสุด คือ กลองตะโพน และกลองแขก เนื่องจากเทียบเสียงกลองได้ยากกว่ากลองชนิดอื่น คนทำกลองนี้ได้ต้องมี
ประสบการณ์มาก

 

 

 

มะยงชิด (จังหวัดนาคานายก)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

               มะยงชิด  มะปรางหวาน  หนึ่งผลผลิตทางการเกษตรคุณภาพ  ซึ่งผู้มาเยือนเมืองน้ำตก  “จังหวัดนครนายก”  
ในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม  จะไม่พลาดเลือกซื้อเป็นของฝากก่อนเดินทางกลับบ้านทุกครั้ง 

              ความต่าง  “มะยงชิด - มะปรางหวาน”
               มะปราง  มี 2 ชนิด  นั้นคือ  มะปรางหวาน   ผลสุกมีรสหวานเย็น  ผลยาวรี  กิโลกรัมมีประมาณ 9 – 20 ผล      มะปรางเปรี้ยว  ผลสุกลูกมีขนาดใหญ่   หนึ่งกิโลกรัมมีประมาณ  5 – 15 ผล  สีผิวมีสีส้มชวนรับประทานแต่รสชาติเปรี้ยวมากจนมีคนเก่าคนแก่
ท่านกล่าวไว้ว่า  “เปรี้ยวจนกาวาง”  แต่มะปรางเปรี้ยวผลดิบอ่อน ๆ  นำไปแช่อิ่ม   
              มะยง   รสชาติมีสองรสในหนึ่งผล - มีหวานอมเปรี้ยว  หากรสมะยงรสชิดไปทางหวานมากกว่าเปรี้ยวจะเรียก  “มะยงชิด”
หากรสชิดไปทางเปรี้ยวมากกว่าหวาน  จะเรียก “มะยงหรือมะยงห่าง” ผลของมะยงจะมีขนาดใหญ่กว่ามะปรางหวาน

และใหญ่กว่าไข่ไก่ ขนาด  8–15 ผล/กิโลกรัม 

 

 

 

ขนมหม้อแกง (จังหวัดเพชรบุรี)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

               ขนมหม้อแกง หรือ ขนมกุมภมาศ คือขนมที่ใช้ไข่ แป้ง และกะทิเป็นส่วนประกอบสำคัญ นำผสมกันในถาดตามสัดส่วน แล้วจึงนำไปอบจนหน้าของขนมหม้อแกงมีสีน้ำตาลทอง น่ารับประทาน ปัจจุบันมีการทำเผือก เม็ดบัว ถั่ว และหอมเจียว มาผสม และแต่งหน้าขนมหม้อแกง ทำให้ขนมหม้อแกงมีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น

                 เมื่อปีพ.ศ. 2529 จังหวัดเพชรบุรีได้มีการบูรณะพระนครคีรีให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นทำขนมหม้อแกงที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นออกมาจำหน่าย ทำให้ขนมหม้อแกงเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเพชรบุรี

                ขนมหม้อแกงสมัยก่อนจะทำกินกันเฉพาะในงานสำคัญ เช่น งานบวชหรืองานแต่งงานซึ่งขนมหม้อแกงนั้นจะถูกอบในเตาถ่านที่ใช้แผ่นสังกะสีมาคลุมบนถาดขนม แล้วใช้ถ่านหรือกาบมะพร้าวจุดไฟ แล้วเกลี่ยให้ทั่วสังกะสี ขนมหม้อแกงจะได้รับความร้อนทั้งด้านบน และด้านล่าง ทำให้หน้าของขนมหม้อแกงมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลทอง

 

 

 

สัปปะรด (จังหวัดประจวบคีรีขันธ์)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

                    พูดถึงสับปะรดที่ปลูกกันมาที่สุดและอร่อยที่สุด คงต้องมีหลายๆคนนึกถึงสับปะรดประจวบฯ เพราะสับปะรดที่ได้ ได้ขึ้นเป็นถึงสิรค้า OTOP ที่สร้างรายได้มาหาศาล ภูมิอากาศของที่นี้ เหมาะสมกับการเพาะปลูกสับปะรดพันธุ์ต่างๆเป็นอย่างดี และชาวเกษตรกรก็งดใช้สารเคมีในการดูแล เปลี่ยนมาใช้เป็นปุ๋ยชีวภาพแทน ทำให้สัปรดที่นี้ ลูกใหญ่ เหลืองกรอบหวานอร่อย และราคาก็ย่อมเยาว์ ใครที่แวะไปประจวบฯ ลองซื้อมาเป็นของฝากก็ดีนะครับ

 

 

 

โอ่งมังกร (จังหวัดราชบุรี)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

              "โอ่งมังกร"สัญญาลักษณ์โดดเด่นอย่างหนึ่งของชาวจังหวัดราชบุรี  ซึ่งนับเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น หรืออุตสาหกรรมพื้นบ้านที่คนราชบุรีภาคภูมิใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  ในคำขวัญ"เมืองโอ่งมังกร"

              ตั้งแต่ตอนเราเด็กๆยังจำได้ว่า มีโอ่งมังกรไว้รองรับน้ำฝนกันทุกบ้าน บางบ้านใช้ใบเล็กเก็บข้าวสาร เป็นไหน้ำปลา หรือไหดองผัก ถือเป็นภาชนะหลักในการเก็บน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม  หรือน้ำใช้  ในห้องน้ำบ้านเราเราก็มีโอ่งน้ำไว้ตักอาบ ยังไม่มีฝักบัว หรือถังพลาสติกเหมือนในปัจจุบัน

       จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ ท่านว่าสมัยก่อนโอ่งที่ใช้กักเก็บน้ำชั้นดี  ต้องนำเข้ามาจากประเทศจีนทั้งนั้น  แต่เนื่อจากภาวะสงครามโลกคร้งที่ 2 เป็นต้นมา สินค้าจากต่างประเทศหลายอย่างไม่สามารถนำเข้าประเทศได้จึงจำเป็นต้องผลิตกันเอง

        และถ้าย้อนอดีต จากคำบอกเล่าของลูกหลาน ทายาทเจ้าของโรงโอ่ง ตั้งแต่ พ.ศ.2476 นายซ่งฮง แซ่เตีย และนายจือเหม็ง แซ่อึ้ง สองสหายที่เคยทำเครื่องปั้นดินเผาที่เมืองป้งโคย ประเทศจีน  อพยพมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย  ได้มาพบแหล่งดิน ที่จ.ราชบุรี และเห็นว่าเป็นดินที่ใช้ในการปั้นโอ่งได้  จึงเป็นที่มาของโรงโอ่ง"เถ้าแซไถ่" และโรงโอ่ง"เถ้าฮงไถ่"ผลิตโอ่งลายมังกรในเวลาต่อมา


ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

ของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)ขอขอบคุณและอนุญาติเจ้าของรูปภาพและเนื้อหาดีๆที่แบ่งปันครับของดีแต่ละจังหวัดบนแสตมป์รักเมืองไทย (ภาคกลาง)

 

 

โพสท์โดย: Rainbow Prince
ที่มา: วิกิพีเดีย
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ดอน's profile


โพสท์โดย: ดอน
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
149 VOTES (4.8/5 จาก 31 คน)
VOTED: Warit Pantajarupat
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สาวสั่งอาหารผ่านแอพฯ แต่ไรเดอร์แชทบอกเธอให้เปลี่ยนร้าน เพราะร้านนี้สกปรกมาก 😌เปิดบ้านซุปตาร์ "ลิซ่า BLACKPINK" ที่เกาหลีใต้ มูลค่ากว่า 200 ล้าน..ฉลองวันเกิดครบ 27 ปีราศีที่มีเกณฑ์ที่จะถูกหวย 1 เมษายน 2567ผู้ประกาศข่าวเตรียมตัวตกงาน..เพราะ "เนชั่นทีวี" กำลังใช้ A.I. อ่านข่าวสั้นสารก่อมะเร็ง 4 อย่าง ที่ลูกคุณอาจจะได้รับทุกวันครูหนุ่มชาวจีนโพสต์รูปตัวเอง เปรียบเทียบสมัยก่อนเเละหลังทำงานได้ 6 ปี เปลี่ยนไปจริง ๆ 😌โรคฮิตสาวโรงงานลาวขุดพบเจอหีบกะไหล่โบราณ รอการเปิด คาดว่าน่าจะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ!รพ.แม่ลาน แจง! "บังชาติ"หรือ"แม่หญิงลี" ไม่ได้เป็นบุคลากรรพ.แม่ลาน หลังบุคคลดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจผิด!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
โรคฮิตสาวโรงงานเตือนภัย! ใช้เครื่องตัดเหล็กไฟฟ้าอย่าประมาทนะครับ นี้ขนาดระวังแล้วนะ…ประเทศที่ระบบการศึกษา มีมาตรฐานดีเยี่ยมมากที่สุดในปัจจุบันจดไว้เลย!! 2ตัวล่าง 78ให้มาตรงๆ 1 เมษายน 2567
ตั้งกระทู้ใหม่