10 อันดับต่อไปนี้เป็นสัตว์ที่เราพบเห็นโดยทั่วไปในธรรมชาติ บ้างก็อยู่ใกล้ตัวเรา บ้างก็อยู่ไกลจากตัวเรา แต่เชื่อหรือไม่ว่าสัตว์ที่ดูไม่น่าจะมีอันตรายอะไรเลยมันกลับมีพิษ!! แม้บางชนิดพิษของมันอาจไม่สามารถทำให้คนตายได้ แต่กระนั้นมันน่ากลัวอยู่ดี ถ้าใครคิดจะไปแหยมกับพวกมัน!! |
10 |
นกคุ่มยุโรป (Eurasian Common Quail) |
|
|
|
เริ่มต้นกันที่อันดับ 10 ของทีมงาน toptenthailand นกเท่าที่โลกรายงานมาพบว่ามันมี 11 ชนิดที่มีพิษ ในจำนวนเหล่านี้มีนกคุ่มยุโรปซึ่งเป็นนกย้ายถิ่นที่มีอยู่ทั่วไปในยุโรป แอฟริกา และเอเชีย ที่เชื่อว่ามีพิษมากว่า 3,500 ปีมาแล้ว แต่ไม่รู้แน่ว่ามันสะสมพิษที่ใด นักวิทยาศาสตร์รู้เพียงว่าเนื้อของมันมีพิษบางตัว ในบางพื้นที บางฤดู (ช่วงอพยพ) เมื่อกินเนื้อที่มีพิษนี้เข้าไปจะทำให้ได้รับพิษ Noturnism ซึ่งทำให้มีอาการปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ อ่อนแรง บางกรณีอาจรุนแรงถึงหายใจไม่ออกและตายในที่สุด แต่กระนั้นชาวยุโรปก็ไม่เข็ดที่จะกินเนื้อนกนี้แม้จะมีพิศก็ตาม (เหมือนกับกินปลากปักเป้าของญี่ปุ่นนั้นแหละ) |
|
|
|
|
|
|
|
9 |
หมึกกระดอง (Cuttlefish) |
|
|
|
ถัดมาในอันดับ 9 ของทีมงาน toptenthailand ไม่ใช่ปลาหมึกย่าง!! แต่เป็นปลาหมึกกระดอง หรือปลาหมึก Plocctopuses ส่วนใหญ่แล้วจะใช้พิษในการจับเหยื่อ โดยต่อมน้ำลายของมันจะสกัดสารพิษที่เรียกว่า “Cephalotoxin” ซึ่งปรกติแล้วจะส่งผลต่อพวกกุ้งปูเป็นหลัก และฉีดพิษเร็วกว่างูและมีผลคล้ายกับพิษงูคือทำให้เหยื่อเป็นอัมพาต แต่กระนั้นไม่ส่งผลอันตรายต่อมนุษย์ ยกเว้นหมึกยักษ์วงฟ้าที่ติดอันดับสัตว์มีพิษร้ายแรงของโลก มีสารพิษ Maculotoxin จึ๊กเดียวมนุษย์ตายทันที!!! แต่ไม่มีรายงานว่าพบในไทยหรอกนะ พบแต่ในออสเตรเลียเท่านั้น โล่งอกไป |
|
|
|
|
|
|
|
8 |
นกพีโทวี่หัวดำ (Hooded Pitohui) |
|
|
|
ดูจากภายนอกแล้วมันเป็นนกตัวขนาดกลางๆ สีสันสดใสดูน่ารักดีนะครับ แต่ว่ามันอยู่ในอันดับ 8 ของทีมงาน toptenthailand นกพีโทนี่หัวดำที่พบในเกาะนิวกีนีเท่านั้น และเชื่อหรือไม่ว่ามันมีพิษครับ พิษมันอยู่ที่ผิวและขนที่บรรจุพิษอันทรงพลังที่เรียกว่าโมบราทาท็อกซิน (Homobrobratachotoxin) ซึ่งเป็นสารพิษชนิดเดียวกับพิษของกบลูกศรพิษ ซึ่งเป็นพิษที่ทำให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อชา และส่งผลให้หัวใจล้มเหลวทันที ถึงแม้ความรุนแรงของมันจะน้อยกว่ากบ แต่การออกฤทธิ์ก็ยังรวดเร็วพอๆ กันคือเพียงแค่สัมผัสหรือสูดดมขนของมันเท่านั้น ที่น่าเหลือเชื่อต่อมาคือมนุษย์รู้จักนกนี้มากว่า 150 ปีมาแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่ามันมีพิษ จนกระทั้งมีงานวิจัยตีพิมพ์ในนิตยสารในปี 1993 นี้แหละถึงได้รู้ ชาวเกาะเรียกนก พวกนี้ว่า “นกที่มีกลิ่นสาบ” เพราะมันมีกลิ่นสาบรุนแรงมากและติดอยู่กับผิวหนังได้นานหลายวัน นกชนิดนี้สามารถใช้เป็นอาหารได้ครับเพียงแต่ว่าชาวพื้นเมืองจะไม่นิยมกินกัน ยกเว้นถ้ามันขาดแคลนอาหารจริงๆ เท่านั้น เวลากินจะถอนขนและถลกหนังออกแล้วคลุกกับผงนำไปย่าง |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
มาที่อันดับ 7 ของทีมงาน toptenthailand เป็นสังข์ทอง เอ๊ยไม่ใช่!! หอยสังข์ เป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง จัดว่าเป็นหอยที่มีสีสันสวยงามมาก และเป็นนักฆ่าที่รวดเร็วที่สุดในโลก อีกทั้งพิษรุนแรงติดอันดับโลกด้วย ปัจจุบันยังไม่มียารักษาพิษของหอยสังข์แต่อย่างใด หอยสังข์ส่วนมากพบตามตามปะการัง และเมื่อมันพบศัตรูมันจะใช้เข็มพิษเป็นอาวุธ ซึ่งพิษของมันจะทำให้เหยื่อเป็นอัมพาตโดยเฉียบพลันภายใน 1/200 วินาที ความเร็วจู่โจมอยู่ที่ 1/4 วินาที โดยเฉพาะหอยสังข์สายพันธุ์ Conus geographus หรือหอยก้นบุหรี่ มีพิษร้านแรงมาก จนมีคำกล่าวว่าใครโดนพิษนี้เข้าไปชีวิตของคนนั้นจะอยู่ที่บุหรี่ 1 มวน พิษของมันทำให้ปวด ชา บวม กรณีร้ายแรงคือทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต สายตาพร่ามัว ระบบหายใจล้มเหลว และตายได้ |
|
|
|
|
|
|
|
6 |
กีล่ามอนสเตอร์ (Gilla Monster) |
|
|
|
ต่อไปเป็นอันดับ 6 ของทีมงาน toptenthailand เป็นกิ้งก่ามีพิษชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hekoderma sispectum พบในเขตทะเลทรายอริโซน่าตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา เป็นกิ้งก่าขนาดใหญ่โตสุดจะยาวสองฟุต ลำตัวมีลายดำ ชมพู ส้ม เหลือง นิสัยเชื่องช้า ชอบอยู่ในโพรงเป็นส่วนใหญ่ และมันมีพิษโดยเจ้ากิล่ามอนสเตอร์สามารถผลิตพิษที่ส่งผลต่อระบบประสาทของเหยื่อผ่านทางฟันทางกรามล่าง ผสมกับน้ำลายที่มีเชื้อโรคเข้าไปด้วย แต่พิษนี้ไม่อันตรายต่อมนุษย์ และมนุษย์นิยมจับมันเป็นสัตว์เลี้ยง ทั้งๆ ที่ สัตว์ชนิดนี้ได้รับขึ้นทะเบียนสัตว์สงวนใกล้สูญพันธุ์ รวมถึงประเทศไทย |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ปะการังหลายชนิดมีพิษ ปะการังพิษที่เรารู้จักกันดีและอยู่ในอันดับ 5 ของทีมงาน toptenthailand คือ ปะการังไฟที่มีเมือกเป็นพิษโดนเข้าไปจะเจ็บปวดแสบร้อนเป็นรอยไหม้และแผลเป็น แต่ชนิดที่ร้ายแรงและอันตรายที่สุด คือปะการังพรมทะเลหนัง Palythoa ที่พิษของมันสามารถฆ่ากระต่ายได้ถึง 25 ตัว มันสามารถฆ่ามนุษย์ได้เพียง 4 ไมโครกรัม โดยสารพิษของมันคือ Palytoxin อาการคือเจ็บหน้าอก หายใจลำบาก และความดันโลหิตต่ำ และตายไม่กี่นาทีโดยไม่มียารักษา OMG!! |
|
|
|
|
|
|
|
4 |
มังกรโคโมโด (Komodo Dragon) |
|
|
|
หน้าตาคล้ายๆ คุณเห้ บ้านเราเหมือนกัน อันดับ 4 ของทีมงาน toptenthailand มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า วารานัส โคโมโดเอนซิส (Varavus Komodoensis) หมายถึง ตะกวดแห่งโคโมโด เป็นสัตว์เลื่อยคลานอาศัยในเกาะโคโมโดที่อยู่ในประเทศอินโดนีเซีย ใกล้ๆ หมู่เกาะบาหลี ลักษณะเหมือนตะกวด ยาวประมาณ 3 เมตร หนักกว่า 70 กรัม และอายุยืนถึง 70 ปีเป็นสัตว์กินเนื้อเป็นอาหาร เวลามันจะล่าเหยื่อมันจะซุ่มจู่โจมเหยื่อแล้วกันด้วยฟันที่คม และใช้น้ำลายในปากซึ่งเป็นพิษ ที่ประกอบด้วยแบคทีเรียมากกว่าห้าสิบชนิด เช่นโรคไข้หวัด, โรคมือเท้าปาก, คอตีบ ฯลฯ เหยื่อที่โดนกัดจะเกิดอาการเลือดเป็นพิษและตายในเวลาไม่เกินสามวัน ถ้าเป็นมนุษย์ละก็คงต้องใช้ยาปฏิชีวนะหลายขนานเลยทีเดียว |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ไม่ได้หมายถึงนางชะนีที่ไหนอายหรอก!! แต่เป็นนางอายหรือลิงลม ในอันดับ 3 ของทีมงาน toptenthailand เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหากินเวลากลางคืน รูปร่างอ้วนกลมคล้ายตุ๊กตา ตากลม โต หูเล็ก แขนขาสั้น พบในไทย, ลาว. พม่า, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ เวลาตกใจหรือจับได้ จะชอบซุกหน้าไว้ที่วงแขน (จนเป็นที่มาของชื่อนางอาย) พิษของมันอยู่ภายในต่อมพิษที่ปาก ซึ่งจะ ใช้ป้องกันตัวจากศัตรู นอกจากนี้มันยังมีต่อมพิษท็อกซินที่ผลิตภายในศอกของมัน ใช้ละเลงทั่วตัว ทั้งตัวเองและตัวอื่นๆ เพื่อป้องกันจากการถูกสัตว์อื่นกิน |
|
|
|
|
|
|
|
2 |
ตุ่นปากเป็ด (Duck-Billed Platypus) |
|
|
|
มาถึงในอันดับ 2 ของทีมงาน toptenthailand กันแล้วนะครับ ตุ่นปากเป็ดเจ้าสัตว์หน้าตาตลก จากออสเตรเลียตะวันตกเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก อาศัยบนบกและในน้ำ มีขนนุ่ม ปากแข็งเหมือนเป็ด และมันมีพิษ (เฉพาะเพศผู้) พิษของมันอยู่ที่เดือย เวลามันเจอศัตรูหรือพวกเดียวกันที่มาแย่งอาณาเขตมัน หรือมาแย่งตัวเมียในฤดูผสมพันธุ์ มันจะใช้เดือยพิษนี้แทงและปล่อยพิษ สำหรับคนแล้วพิษนี้ไม่อาจทำให้ตายได้ แต่กระนั้นก็ทำให้เจ็บปวดสาหัสเป็นเดือนๆ เลยทีเดียว แต่สำหรับสุนัขและแมวแล้วพิษนี้อาจทำให้ตายได้ ถือว่าตุ่นปากเป็ดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่กี่ชนิดที่มีพิษ โดยจากการศึกษาพบว่ายีนที่ทำให้เกิดพิษนั้นมีลักษณะคล้ายยีนของสัตว์เลื้อยคลาน |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
และแล้วก็มาถึงอันดับ 1 ของทีมงาน toptenthailand หลายๆ คนอาจยังสงสัยอยู่ว่า “กิ้งกือมีพิษเหรอ?” เห็นเหยียบจับมันเป็นประจำไม่เห็นเป็นอะไรเลย กิ้งกือจัดอยู่ใน Class Diplopoda พบทั่วโลก เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างกลมยาว ขนาดประมาณ 30 เซนติเมตร มีหลายสี แต่ส่วนใหญ่มีสีส้ม มีขา 2 คู่ โดยพิษของมันจะอยู่ที่ต่อมหลั่งสารพิษข้างลำตัว ซึ่งบางชนิดสามารถฉีดออกมาได้ในระยะใกล้ๆ โดยใช้สำหรับปกป้องศัตรูเท่านั้น เวลาเราเอาไม้เขี่ยมันจะม้วนขดตัวเป็นวงกลม ในขณะเดียวกันมันก็ได้ปล่อยพิษสารในกลุ่ม “ไซยาไนต์ (Hydrogen Cyanide)” หรือสารที่เรียกว่า เบนโซคิโนน เป็นของเหลวเมื่อถูกอากาศจะเป็นสีแดง กลิ่นเหม็นคล้ายน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำตามโรงพยาบาล มีฤทธิ์ทำให้ผิวหนังไหม้ ทำให้มีอาการปวด 2-3 วัน และถ้าเกิดสารพิษเข้าตาอาจทำให้ตาอักเสบได้ แต่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ยกเว้นถ้ามีปริมาณมากๆ เช่น ใครเผลอตกไปในบ่อกิ้งกือนับพันๆตัวประมาณนี้ได้ล่ะมั้ง นึกแล้วขนลุก บรื๋อ!!! |
|
|
|
|
|
|
ขอบคุณ toptenthailand.com