หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

WoW! พาเที่ยวเยอรมัน ไปดู”ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา”กัน ^^

โพสท์โดย OnTheRoad

 

พาเที่ยวเยอรมัน ไปดู”ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา”กัน ^^

 

 

ปราสาทราชวัง

 

ปราสาท Neuschwanstein

ปราสาท Neuschwanstein (นอยชวันสตาย) เป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงรู้จักกันดีไปทั่วโลก มีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า ”ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา”ปราสาทนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Fussen ทางแคว้นภาคใต้ของเยอรมัน

 

 

 

 

 

เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง การเดินขึ้นไป ทำเอาผู้เดินอย่างผม เหนื่อยหอบเอาเรื่อง(เดินราว20-30นาที) ทางเดินค่อนข้างชัน แต่ถนนดี ไม่ค่อยเปลี่ยว เพราะมีนักท่องเที่ยวเดินกันเยอะ นักเรียนมัธยมชายหญิง ก็มีเดิน เห็นแก้มเป็นสีชมพูทุกคน เพราะอากาศหนาว เดินกันเป็นหมู่คณะ(สงสัยจะมาทัศนศึกษานอกสถานที่) ทางขึ้นบางช่วงจัดทำขั้นบันไดแทนถนน มีราว 200 กว่าขั้น มั๊ง!!!

ที่จริงทางขึ้น เขาก็มีให้เลือกทั้งขึ้นโดยรถเมล์(แต่รถเมล์จะขับอ้อมไปทางด้านหลังปราสาท และจอดห่างจากปราสาท) กับมีรถม้าโดยสาร นำขึ้นไป ม้าที่ใช้เป็นม้าพันธุ์ตัวใหญ่ ขาใหญ่แข็งแรงและขนยาว ขาใหญ่กว่าม้าบ้านเรามาก

รถเมล์ และ รถม้า ต้องจ่ายเงินค่าโดยสาร ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเท่าไหร่ เพราะผมไม่ได้ใช้บริการ อาจจะราวสัก 200 บาทต่อคน

ผมว่า ที่มีบางคนเดินขึ้น คงจะเรื่องศักดิ์ศรีด้วย เพราะ สว.(คนสูงวัย) ท่านจะนั่งรถ แต่คนที่รู้สึกตัวว่ายังหนุ่มสาว จะไม่ค่อยนั่งรถกัน เดี๋ยวจะถูกแซวว่าเป็น สว.

 

และอากาศในช่วงบ่ายโมงของวันนั้น อากาศหนาวราว 10 องศา ไม่มีแดดเลย แล้วทุกคนก็เพิ่งจะอิ่มจากอาหารมื้อเที่ยง ที่เป็นไก่ทอดครึ่งตัว พร้อมขนมปัง หรือไส้กรอกชิ้นใหญ่สองชิ้น พร้อมเฟรนฟรายด์ ใครชอบอะไร ก็เลือกอย่างนั้น น้ำดื่มก็เป็นน้ำผลไม้

ผมจึงคิดว่า น่าจะเดินย่อยอาหาร เพราะยังเหลือเวลาอีกราว 45 นาที จึงจะถึงเวลาของบัตรเข้าชม …อุอุ ไปเยอรมันหลายวัน ชักจะอ้วน

 

ประสบการณ์ตอนเดินขึ้นปราสาท ผมว่าสนุกและสวยดี เดินชมไม้ เดินชมหมอก ชมเบื้องล่างที่เป็นหมู่บ้านอยู่ลิบๆ ตอนแรกก็เดินคุยกันเป็นกลุ่ม พอเริ่มเหนื่อย ก็เริ่มคุยน้อย บางคนก็เริ่มบ่น ….หุหุ จากนั้นก็ไม่ค่อยจะมีใครคุย ได้ยินแต่เสียงลมหายใจเหนื่อยหอบ

ผมขอชม กลุ่มของคุณหมอทันตแพทย์ (4 อนงค์จากจ. อุบล) …วู๊ส์ เดินเก่งจริงๆ เดินตามทันผม และคุณสกนต์ ตลอดทางเลย

ที่สุด ชุดเดินขึ้นปราสาททั้งกลุ่ม ก็ไปถึงปราสาท Neuschwanstein แบบมีเหงื่อออกกลางลมหนาว ซึ่งข้างบนนั้น มีลมพัดแรงมาก ขนาดหมวกอาจจะปลิว หากไม่ยึดจับไว้

และก้อ แปลกดี กลุ่มผมเดินขึ้นไปถึงข้างบน ในเวลาเดียวกันกับรถเมล์ไปถึงเลย คงจะเพราะรถเมล์ขับอ้อมและจอดไกล ….พอตอนขากลับ ก็เลยมีหลายคนที่เคยนั่งรถเมล์ กลับใจเปลี่ยนมาหาประสบการณ์เดินลงจากภูเขา กันหลายคน

เจ้าชาย Ludwig ที่ 2 พระองค์มีพระวรกายสูง 190 ซ.ม. 

King Ludwig ที่ 2 (25 สิงหาคม ค.ศ.1845 – 13 มิถุนายน ค.ศ.1886) พระองค์เป็นผู้สร้างปราสาท Neuschwanstein, ปราสาท Linderhof, และปราสาท Herrenchiemsee

 

King Ludwig ที่ 2 มีดำริให้สร้างปราสาท Neuschwanstein หรือปราสาทหงส์ ทันทีที่เสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์ทรงโปรดหงส์สีขาวที่มีอยู่มากมายในบริเวณนี้ และทรงมองเห็นว่าหน้าผาแห่งนี้ ซึ่งพระองค์ทรงมองเห็นจากปราสาท Hohenschwangau ขณะที่พระองค์ยังเป็นเจ้าชาย และตามเสด็จมาพักร้อน กับพระราชบิดาและพระราชมารดา เหมาะที่จะสร้างเป็นปราสาทแบบเจ้าหญิงในเทพนิยาย เพราะบริเวณรอบด้าน มีทั้งป่าสวยงาม ทะเลสาบ ภูเขา และหุบเหวลึก 

 

เสียดายที่การเข้าชมภายในปราสาทนี้ เขาห้ามถ่ายภาพ และไกด์ของปราสาทผู้นำชม พูดภาษาอังกฤษเร็ว และฟังยาก ขนาดที่คุณหมอท่านหนึ่งในกลุ่มของพวกเรา ขอร้องให้ไกด์พูดช้าลงนิด เขาก็ยังคงพูดจังหวะเดิม ….โห มีวินัยดีมาก

รูปภาพนี้ นำมาจากโปสการ์ด แต่สวยไม่เท่าของจริง ของจริงตะลึงตื่นตา

                                                                                  Thron – Hall

                                                                               The Singers Hall

Study Room
Bed Room

ปราสาทนี้สร้างเสร็จไปเพียง 20 ห้องจากที่ดำริให้สร้าง 70 ห้อง ทุกห้องสวยเลิศเลอ ทั้งบนเพดาน ฝาผนัง และเครื่องประดับห้อง เช่น โคมระย้าชุดใหญ่ยักษ์ โต๊ะ ตั่ง เก้าอี้ เตียง และผ้าม่าน ล้วนแล้วแต่ถูกคัดสรรค์ออกแบบและสร้างโดยช่างฝีมือเอกแห่งยุค และทุกๆชิ้นที่เอ่ยมา จะมีสัญลักษณ์รูปหงส์ รวมทั้งมีทองคำแท้ๆ ร่วมอยู่ในทุกชิ้น

มีโคมระย้า(อัจกลับ)อยู่โคมหนึ่ง แปลกมาก ประดิษฐ์ขึ้นมาจากพอร์ซเลน(เซรามิคชนิดหนึ่ง) ร่วมกับผ้าไหม ฝีมือประณีต เส้นสายละเอียด สีสันอ่อนหวาน และมีขนาดใหญ่มาก ไกด์บอกว่าเมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระองค์ท่านก็ให้ทำลายแบบร่างให้หมด จึงไม่อาจจะมีใครสร้างโคมระย้าจากพอร์ซเลน ที่สวยงามเช่นนี้ได้อีก

ปราสาทนี้ สร้างไม่เสร็จตามพระราชดำริ ยังเหลือห้องอีก 50 ห้อง เงินในท้องพระคลังหมดเสียก่อน และKing Ludwig ที่ 2 เสด็จมาประทับพักร้อนที่ปราสาทนี้เพียงครั้งเดียว ประมาณ 10 วัน ประทับแบบเงียบๆภายในห้องส่วนพระองค์ พระองค์ยังโสด ไม่มีพระราชินี พระองค์สิ้นพระชนม์ในทะเลสาบแห่งหนึ่ง ทางใต้ของเยอรมัน แบบไม่มีใครทราบสาเหตุ

ปราสาท Hohenschwangau หรือปราสาทพ่อ

ปราสาท Hohenschwangau (โฮเฮ็น ชวานเกา)เป็นปราสาทพักร้อนสีเหลือง ของKing และ Queen ซึ่งเป็นพระราชบิดา และพระราชมารดา ของเจ้าชาย Ludwig ที่ 2 ปราสาทนี้แม้จะไม่ได้ตกแต่งอย่างหรูหรา แต่ขนาดที่เหมาะสม ห้องทุกห้องตกแต่งแบบสวยงามเรียบๆ ทำให้ปราสาทหลังนี้ สวยงามแบบอบอุ่น น่ารักมาก

เขาห้ามถ่ายภาพภายใน ไกด์ที่นำชมภายในปราสาท พูดภาษาอังกฤษชัดเจน ฟังง่าย คนไทยทุกคนประทับใจ จนปรบมือให้ เมื่อนำชมจบ

ตอนจะออกมาจากปราสาท คุณลีลาวดี ไกด์ผู้หญิงไทยคนเดียวที่ทำงานนำชมภายในปราสาทหลังนี้ เธอเข้ามาทักทายสวัสดีพวกเรา กลุ่มคนไทยทุกคนซักถามตื่นเต้นกันใหญ่ หลายคนพูดว่า “ทำไม ไม่ช่วยเป็นไกด์ให้พวกเราคนไทยล่ะ? จะได้พูดเป็นภาษาไทยเลย” คุณลีลาวดีบอกว่า “พอดี ไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มคนไทย เพราะเพิ่งจะมาเห็นกลุ่มของพวกเราในตอนหลัง และก็เห็นว่ามีฝรั่งอยู่ 4-5 คนเดินชมอยู่ด้วย”

คุณลีลาวดี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “พระพุทธเจ้าหลวง พระองค์เคยเสด็จมาที่นี่ มีเหรียญ จปร.อยู่ภายในปราสาท และพระองค์โสมฯ ก็เคยเสด็จปราสาทหลังนี้”

หากคนไทยท่านใด จะไปชมปราสาทสีเหลืองหลังนี้ ลองหาวิธีติดต่อขอให้คุณลีลาวดี เป็นไกด์ในช่วงนำชม ซิครับ แม้เธอจะพูดภาษาอังกฤษ แต่ก็คงจะมีเกร็ดเกี่ยวกับประเทศไทยภายในปราสาทหลังนี้บอกคนไทยบ้าง เพราะเธอทำงานที่นี่ มาประมาณ 30 ปีแล้ว

ปราสาทสีเหลืองนี้ อยู่บนเนินเขา เดินขึ้นไปไม่ยาก ราว 10 นาทีก็ขึ้นถึง ภาพนี้ถ่ายลงมาจากบนปราสาท มองเห็นรถนักท่องเที่ยว แต่ปราสาท Neuschwanstein หรือปราสาทหงส์ หลังสีขาว อยู่สูงกว่านี้หลายเท่า อุอุ

พระราชวัง Herrenchiemsee

พระราชวัง Herrenchiemsee (แฮเร็น คิมเซ่) King Ludwig ที่ 2 พระองค์มีดำริ ให้สร้างเป็นพระราชวังพักร้อน เลียนแบบพระราชวัง Versailles (แวร์ซายส์) ก่อนที่พระราชวังแวร์ซายส์ จะถูกเผาในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่พระราชวัง Herrenchiemsee ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ กลางทะเลสาบ ของเชิงเทือกเขาแอลป์ ปลอดภัยจากภัยสงครามโลก

การนั่งเรือข้ามทะเลสาบ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ไปถึงเกาะแล้ว ต้องเดินบนถนนเข้าไปในดงไม้ใหญ่ อีกราวครึ่งชั่วโมง แต่เดินสดชื่นภายใต้แมกไม้เขียวขจี มีเสียงนกร้อง ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อย และหากไม่ชอบเดิน ก็มีรถม้าเช่นเดียวกับ พระราชวัง Neuschwanstein ให้นั่ง แต่ต้องจ่ายเงิน

เขาห้ามถ่ายภาพข้างใน รูปนี้เป็นรูปจากโปสการ์ด

 เนื่องจากสร้างเลียนแบบพระราชวังแวร์ซายส์ ทำให้ทุกอย่างเป็นสีทองดูอลังการ ทรงคุณค่า และตื่นตาแทบทุกห้อง อย่างโคมไฟระย้า ที่หนักชิ้นละ 5 ตัน ใช้เทียนไขต่อโคมไฟระย้าราว 200 เล่ม มีนับร้อยๆโคมระย้าเลย ห้องแต่ละห้อง ก็สวยงามทั้งเพดาน ฝาผนัง พื้น ผ้าม่าน และเฟอร์นิเจอร์ ยิ่งห้องบรรทม ฐานของแท่นบรรทม สร้างจากทองคำแท้ อะไรจะ ..ขนาดน้าน

                                                                                  ภาพนี้ คือบัตรเข้าชม

ปราสาท Schwerin

ปราสาท Schwerin (ชเวริน) เป็นปราสาทกลางทะเลสาบ ในเมือง Schwerin (เมืองหลวงของแคว้น Meeklenburg – Vorpommern ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเยอรมัน) ปราสาทนี้ ถูกขนานนามว่า “ปราสาทร้อยยอด” ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ โดยมีสะพานสวยงามทอดเข้าสู่ปราสาท

                                             เสียดายครับ ช่วงนี้ ปราสาทกำลังซ่อมบำรุง เลยไม่มีโอกาสได้เข้าชมภายใน

พระราชวัง Sanssouci

พระราชวัง Sanssouci (ซัน ซูซี่) เป็นพระราชวังที่อยู่ที่เมือง Potsdam ใกล้กับกรุงเบอร์ลิน เป็นพระราชวังเก่ามาก ศิลปยุครอคโคโค เข้าไปข้างในเขาห้ามถ่ายรูป และต้องนำรองเท้าตัวเอง สวมเข้าไปในรองเท้าแตะคู่ใหญ่ยักษ์ แล้วจึงจะให้เดินเข้าไปชมภายใน

ตอนเดินเข้าไปมีไกด์นำชม พอจะเข้าห้องใดเขาก็เปิดกุญแจประตูห้องนั้น พอจะออกจากห้องใด เขาก็ล๊อคประตูห้องเดิมซะ …. อุอุ คงจะกลัวผู้ชม จะแอบนอนค้างในปราสาท ม้าง ….

                                                            รูปนี้นำมาจากโปสการ์ด เพราะเขาห้ามถ่ายภาพภายใน

แต่รูปนี้ เกิดการผิดพลาดขึ้นครับ ตอนนั้นเขายังไม่ได้บอกว่า ห้ามถ่ายภาพภายใน (เขากำลังรอให้คน เดินเข้ามาภายในห้องแรก ให้พร้อมเสียก่อน) อ่ายผม ก็กดแช๊ะไปซะแหล่ว …ดีหน่อยที่ไม่ได้ใช้แฟล็ช และเสียงชัตเตอร์ก็ไม่ดัง …อุอุ รอดตัวโดนเขม่น

ซันซูซี่ พาเลซล้ำ ลอยสวรรค์ ลงฤา

ที่จริง วิวสนามข้างนอกพระราชวัง ก็สวยครับ แต่ผมมัวแต่ถ่ายรูปเพื่อนๆ กลางดงดอกไม้กันเพลิน เพราะทุกคนกำลังตื่นตาตื่นใจ ใครๆก็ขอให้ช่วยถ่ายให้ เลยอดนำรูปปั้นสวยๆ แต่ดูเก่าๆ มาอวด

รูปนี้ ตั๋วเข้าชม …..หน้าแรกดูรูป ที่เหลืออ่านไม่ออก …. 

หน้าหลัง อ่านออกแต่ราคาค่าชม ราว 400 บาท …. อุอุ ที่เหลืออ่านไม่ออกอีก 

พระราชวัง Cecilienhof

พระราชวัง Cecilienhof อยู่ไม่ไกลจาก พระราชวัง Sanssouci

เป็นพระราชวังพักร้อน ของเจ้าชายและเจ้าหญิงของเยอรมันสองพระองค์ ตั้งอยู่กลางดงไม้ใหญ่ และใกล้กับทะเลสาบ มีลักษณะเป็นบ้านไม้หลังใหญ่ยาว

ที่สำคัญคือพระราชวังหลังนี้ เป็นที่ประชุมโต๊ะกลม เจรจาแบ่งดินแดนเยอรมันออกเป็น 4 ส่วน หลังการแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2

ห้องมหาสมบัติ ของจักรพรรดิ์
เมือง Dresden เป็นเมืองใหญ่ อยู่ในแคว้นทางตะวันออกของเยอรมัน ใกล้ๆกับชายแดน ประเทศเช็ค 

ภาพจิตรกรรมนี้ นำมาจากโปสการ์ด

 

มหาวิหารของเมือง Dresden ถูกระเบิดถล่มและไฟไหม้ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จนเหลือแต่กองอิฐและซากปรักหักพัง 

 

มีเหลืออยู่เพียงอย่างเดียวที่ไม่ไหม้ไฟ คือ กำแพงหลังนี้ …… เป็นกำแพงที่ประดับขึ้นมาจากชิ้นเซรามิคเล็กๆจำนวนมาก และเซรามิคนี้ ก็นำมาจากเมือง Maizen ของเยอรมัน ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมากทางด้านการทำพอร์ซเลน 

กำแพงนี้ยาวครับ มีนักท่องเที่ยวไปแหงนคอดูกันเยอะ……หากภาพออกมาไม่สวย ไม่ใช่เพราะกำแพงไม่สวยหรอก เพราะฝีมือผมเอง ….ถ่ายไม่เป็นตะหาก

ปัจจุบัน เมือง Dresden ได้มีการบูรณะมหาวิหารขึ้น แล้วนำคลังมหาสมบัติที่เคยส่งไปฝากเก็บไว้ที่ประเทศหนึ่ง ก่อนที่จะแพ้สงคราม ….นำกลับมาโชว์ให้นักท่องเที่ยวชม

 

ในห้องมหาสมบัติ เขาห้ามถ่ายรูปเด็ดขาดครับ รปภ. ยืนอยู่แทบจะทุก 5 เมตรเลย

โอว์ มีทั้งทอง ทั้งเพชร ทองสลับเพชร เพชรสลับทอง อัญมณีอะไรที่มีในโลก คงจะมีทีนี่หมด มั๊ง? เห็นโคตรเพชรสีเขียวด้วย วาววับล้อแสงไฟและล้อสายตา ใหญ่เท่าๆกะ ฟองไข่ไก่ 

มีทั้งการนำงาช้าง เปลือกหอย ปะการังสวยๆ ไข่นกกระจอกเทศ และสารพัดวัตถุดิบ นำมาเสกเป็นโน่น เสกเป็นนี่ ดูละลานตาไปหมด บางอย่างก็ขนาดใหญ่ แต่บางอย่างก็ต้องมองด้วยแว่นขยาย เพราะแกะสลักซ้อนแกะสลัก ขนาดเล็กจนสายตาคนแทบมองไม่เห็น แล้วคลังมหาสมบัตินี้ มีหลายห้องมากๆด้วย…..

 

ถ้าใครจะไปเยอรมัน ควรที่จะมีเมือง Dresden เมืองนี้ อยู่ในแผนการของการเดินทางนะครับ ….ไปชมให้เป็นบุญตากันจร้าาาา 

                                                  

เครดิต : โดย yyswim www.bloggang.com/mainblog.php?id=yyswim&month=26-05-2007&group=17&gblog=5

                                                                              ขอบคุณที่มาแวะชมจร้า

                                                                    ยังมี สถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆใหม่ๆ น่าสนใจอีกเพียบ

                                                                   หรืออยากจะร่วมสนุกแชร์ สิ่งที่่เพื่อนๆชอบสนใจ 
                                                      อยากชวนเพื่อนๆลองเข้ามาดูได้ที่ IAMTREND ได้เลยจร้า
                                                                (ปล.ชอบรูปไหนรบกวนกดเป็นกำลังใจให้ด้วยนะจ๊ะ)
                                                                                       ตามไปดูคลิ๊กที่รูปได้เลยจร้า
                                                     

 

 

 

                                                                       

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
OnTheRoad's profile


โพสท์โดย: OnTheRoad
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
72 VOTES (4/5 จาก 18 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หนุ่มเร่ขาย "ลาบูบู้" กลางสี่แยก..ทำเอาหลายคนแห่ถามพิกัดทีมเชื่อมจิตจ่อฟ้อง! สื่อปล่อยเฟกนิวส์..ไม่เคยบอกเชื่อมจิตแล้วจะไปนิพพานชาวเน็ตฮือฮา! ขายที่ดินพร้อมบ้าน 200 ล้าน ติดวิวสภาสัปปายะสภาสถานชาวกัมพูชาเดือด เมื่อมีบล็อคเกอร์หนุ่มคนกัมพูชา ไปถ่ายรูปล้อเลียนรูปปั้นม้าน้ำมากจนเกินงามเกินไป"เสก โลโซ" ลั่น! ผมพลาดนิดเดียว..เกือบจะได้เป็นเจ้าสัวแล้วแผ่นดินไหวทำเศียรพระพุทธเจ้าหักร้านดังเชียงใหม่ เปิดตัวไอติมฝุ่น pm 2.5อดีตพระเอกดัง เตรียมตัวย้ายประเทศไปเยอรมนีสภาพของต้นไม้ที่โดนลมกระชากจากมหาสมุทรแอนตาร์กติก จนทำให้มันเสียทรง!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ทีมเชื่อมจิตจ่อฟ้อง! สื่อปล่อยเฟกนิวส์..ไม่เคยบอกเชื่อมจิตแล้วจะไปนิพพานในปี 1939 สหภาพโซเวียตใช้เครื่องจักรสร้างถนนสมัยใหม่สภาพของต้นไม้ที่โดนลมกระชากจากมหาสมุทรแอนตาร์กติก จนทำให้มันเสียทรง!อีก 50 ปีข้างหน้า ไทยจะ "ร้อนเท่าทะเลทรายซาฮาร่า"
ตั้งกระทู้ใหม่