มนุษย์ต่างดาวตามหลักพระพุทธศาสนา
โพสท์โดย KengInMaKa
มนุษย์ต่างดาวตามหลักพระพุทธศาสนา
มนุษย์ต่างดาวหรือมนุษย์ที่อยู่ในทวีปที่เหลืออีก 3 ทวีป คือ อุตตรกุรทวีป ปุพวิเทหทวีป อมรโคยานทวีป ส่วนโลกที่เราอยู่นี้ ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า ชมพูทวีป คำว่าทวีปตามหลักพุทธศาสนานั้น ไม่ได้หมายถึงทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป หรือทวีปเอเชีย ตามที่พวกเราเข้าใจ
ดังนั้น คำว่า มนุษย์ต่างดาว ตามหลักพระพุทธศาสนา จึงหมายถึงมนุษย์ที่อาศัยอยู่นอกชมพูทวีป อันได้แก่ มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในอุตตรกุรุทวีป ปุพพวิเทหทวีป และ อปรโคยานทวีป นั่นเอง ซึ่ง มนุษย์ในทวีปทั้งสามนี้ เราสามารถเรียกสั้นๆ ตามหลักวิทยาศาสตร์และหลักดาราศาสตร์ว่า มนุษย์ต่างดาว ก็ได้ เพียงแต่รูปร่างลักษณะและที่อยู่อาศัยของมนุษย์ต่างดาวตามหลักพระพุทธศาสนา อาจจะมีความแตกต่างจากความเชื่อและหลักการตามหลักวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ เพราะฉะนั้น ถ้ามีใครถามว่า มนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริงหรือไม่ คุณครูไม่ใหญ่ก็คงตอบไปตามหลักพระพุทธศาสนาที่มีบันทึกในตำราว่า...มีอยู่จริง แล้วมันก็มีอยู่จริงๆ เสียด้วย
ต่อไปนี้เราจะได้มาเรียนรู้ถึงลักษณะต่างๆ ของมนุษย์ต่างดาวหรือมนุษย์ที่อยู่ในทวีปต่างๆ กันจากบทความข้างล่างนี้
มนุษย์ต่างดาวในพระพุทธศาสนา ตอน ที่ตั้งของมนุสฺสภูมิ 4
ที่อยู่ของมนุษย์ หรือ มนุสสภูมิ อยู่บนพื้นดินที่เรียกว่า ทวีปใหญ่ ซึ่งลอยอยู่กลางอากาศในระดับเดียวกับไหล่ เขาพระสุเมรุ หรือ เขาสิเนรุ ตั้งอยู่ในทิศทั้ง 4 ของเขาสิเนรุ ซึ่งเป็นแกนกลางของจักรวาลในกามภพ ผืนแผ่นดินใหญ่ทั้ง 4 ที่ลอยอยู่ในทิศทั้ง 4 นั้นแวดล้อมด้วยทวีปน้อยเป็นบริวารอีกทวีปละ 500 รวมทวีปน้อยมี 2,000 ทวีป
มนุษย์ต่างดาวตามหลักพระพุทธศาสนาหมายถึงมนุษย์ที่อาศัยอยู่นอกชมพูทวีป
ทวีปใหญ่ หรือ พื้นแผ่นดินทั้ง 4 ทิศ มีชื่อและที่ตั้งดังนี้
1. อุตตรกุรุทวีป ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ของเขาสิเนรุ
2. ปุพพวิเทหทวีป ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ของเขาสิเนรุ
3. อปรโคยานทวีป ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ของเขาสิเนรุ
4. ชมพูทวีป ตั้งอยู่ทางทิศใต้ ของเขาสิเนรุ
เขาสิเนรุ(สุเมรุ) คือ เป็นภูเขาสูงสุดตั้งอยู่ท่ามกลางจักรวาล หยั่งลงสู่ห้วงน้ำ ๘๔,๐๐๐ โยชน์ และสูงขึ้นไปในอากาศ ๘๔,๐๐๐ โยชน์ ยอดเขาสิเนรุมีลักษณะกลม มีเทือกเขา ๗ เทือก ล้อมรอบอยู่ คือ
ชาวโลกส่วนใหญ่ที่ยังไม่เริ่มศึกษาพระพุทธศาสนา มักมีความเข้าใจว่า มนุษย์มีอยู่เฉพาะในโลกที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น แต่หากได้ศึกษาคำสอนในพระพุทธศาสนาแล้วจะพบว่า โลกมนุษย์นั้นมีอยู่ถึง 4 ทวีปด้วยกัน แต่เราไม่สามารถไปถึงได้ เพราะอยู่ไกลกันมาก อีกทั้งยังมีความละเอียดประณีตมากกว่าโลกที่เราอยู่นี้ จึงทำให้มองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ ต้องอาศัยทิพยจักขุ ดังที่เคยกล่าวมาแล้ว โลกที่เราอาศัยอยู่นี้ เรียกว่า ชมพูทวีป
ลักษณะของมนุษย์ ในทวีปทั้ง 4 มีดังนี้
1. อุตตรทวีป
ภูมิประเทศและสังคม อุตตรกุรุทวีป มีขนาดพื้นที่ประมาณ 8,000 โยชน์ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเขาสิเนรุ ซึ่งอยู่ในทิศเดียวกันกับท้าวมหาราชชื่อกุเวรหรือเวสวัณเป็นผู้ปกครองของเทพชั้นจาตุมหาราชด้านทิศนี้ แสงจากเขาสิเนรุด้านนี้เกิดจากแสงรัตนะสีทองส่องมาทางทวีปนี้ มีต้นกัลปพฤษก์เป็นไม้ประจำทวีปนี้ วัดรอบลำต้นได้ 15 โยชน์ มีกิ่งและลำต้นยาวขนาดละ 50 โยชน์ วัดส่วนสูงทั้งหมดได้ 100 โยชน์ วัดกิ่งที่แผ่ไปรอบด้านก็กว้างได้ 100 โยชน์เหมือนกัน เป็นไม้ยืนต้น เวลาออกดอกใบจะร่วงเกือบหมด จะออกดอกตามกิ่งจนเต็ม แต่สมัยนั้นดอกใหญ่มาก พวกมนุษย์ในทวีปนี้สามารถอธิษฐานขอเสื้อผ้าและเครื่องประดับได้จากต้นไม้นี้ จะออกมาจากดอกไม้ ซึ่งก็จะได้ตามกำลังบุญ
อากาศของทวีปนี้ดีมาก ไม่มีมลภาวะที่เป็นพิษ น้ำใสสะอาดบริสุทธิ์ ภูมิประเทศสะอาดไร้สิ่งสกปรก ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีสัตว์ร้ายสัตว์พิษ มีผลไม้หลากชนิด ผลใหญ่ รสชาติดีมาก ไม่มีพืชหนามพืชพิษ อร่ามไปด้วยไม้ดอกสีสันสะดุดตา น่ามองไม่รู้เบื่อ และไม้หอมนานาชนิดคนก็ตาม สัตว์ก็ตามไม่วิวาทเบียดเบียนกัน มีตัณหาน้อย ไม่มักมากในกาม
รูปลักษณ์ มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีลักษณะใบหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยม ร่างกายไม่พิการ ไม่มีโรคหรือเจ็บป่วย รูปร่างใหญ่โตกว่าชาวชมพูทวีป 3 เท่า(ประมาณ 13 ศอก) มีผิวแดงหรือขาวเท่านั้น มีเส้นผมละเอียดอ่อน เส้นเล็กกว่าผมชาวชมพูทวีป 8 เท่า สตรีมีรูปร่างสมส่วน เป็นสาวตลอดกาล ผู้ชายก็เป็นหนุ่มตลอดกาล
คุณลักษณ์ มนุษย์ในทวีปนี้มีอายุ 1,000 ปีเท่ากันหมด หญิงตั้งครรภ์และคลอดไม่ลำบากทั้งแม่และลูก เด็กเวลาหิวก็จะมือน้ำนมหลั่งทางนิ้วมือ เกิดได้ 7 วันก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาว เมื่อญาติพลัดพรากจากไป ก็ไม่เศร้าเสียใจ ไม่ต้องรับทุกขเวทนาด้วยโรคภัย ความชราและความเสื่อมกำลัง
ลักษณะของมนุย์ต่างดาวหรือมนุษย์ในอุตตรกุรุทวีป
มีศีล 5 เป็นปกตินิสัย ไม่ยึดถือสิ่งของอันใด เช่น ผ้า ข้าวน้ำ เป็นต้นว่า เป็นของตนไม่มีความหวงแหนว่า นี้ภรรยาของเรา เป็นต้น ความกำหนัดด้วยความพอใจย่อมไม่เกิดขึ้นเพราะเห็นมารดาหรือน้องสาว
การดำเนินชีวิต มนุษย์เหล่านั้นไม่ต้องหว่านพืช และไม่ต้องนำไถออกไถ หมู่มนุษย์บริโภคข้าวสาลี อันผลิตผลในที่ไม่ต้องไถ ข้าวสาลีนั้นไม่มีรำ ไม่มีแกลบ บริสุทธิ์ มีกลิ่นหอมเป็นเมล็ดข้าวสารเลยที่เดียว เมื่อเขานำข้าวสารไปเกลี่ยลงหม้อแล้วหุง แล้วนำไปตั้งบนเตาอันปราศจากควันและเถ้า เตานั้นได้แก่หินที่ชื่อว่า โชติกปาสาณะ ที่ชนชาวอุตตรกุรุทวีปทั้งหลายวางหิน 3 ก้อน แล้วยกหม้อขึ้นตั้งบนแผ่นหิน ไฟก็เกิดขึ้นจากแผ่นหินนั้นทันทีโดยไม่มีควันเมื่อข้าวสุกแล้ว ไฟก็จะดับเอง เป็นสัญญาณให้รู้ว่าข้าวสุกแล้ว (เหมือนหม้อไฟฟ้าในปัจจุบัน) ชาวอุตตรกุรุบริโภคข้าวจากหม้อนั้น ไม่มีแกงหรือผัดอย่างอื่นเสริม เพราะบริบูรณ์ด้วยโอชาครบถ้วนอยู่แล้ว และรสชาดของข้าวนั้นเป็นรสบำรุงใจของผู้บริโภคอย่างดี ชนเหล่านั้นย่อมให้แก่ผู้มาถึงที่นั้นทุกคน ชื่อว่า จิตตระหนี่ย่อมไม่มีแก่เขาเหล่านั้น
แม้พระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นต้น ทรงฤทธิ์มาก ก็มักจะเสด็จไป ณ ที่นั้นเพื่อรับบิณฑบาต หรือ แม้แต่ฤาษีดาบสที่มีฤทธิ์ก็ชอบไปภิกขาจารที่ทวีปนี้
อนึ่ง อิตถีรัตนะ (นางแก้ว) ของพระเจ้าจักรพรรดิหรือของคนมีบุญทั้งหลายเช่นโชติกะเศรษฐี โดยมากก็นำไปจากอุตตรกุรุทวีปนี้ โดยการนำไปของเทวดา หรือมาได้เองด้วยบุญญานุภาพบ้าง หากผู้มีบุญนั้นตายไปก่อน หรือออกบวช พวกเทวดาก็จะนำนางแก้วนั้นกลับไปยังอุตตรกุรุทวีปตามเดิม
ก็มนุษย์เหล่านั้นจะนอนบนที่นอนอันประเสริฐที่ปราสาท และนั่งบนตั่งและวอเป็นต้น เที่ยวไป อรรถกถาบางแห่งกล่าวว่า ชาวทวีปนี้และชาวอปรโคยานทวีป นอนบนแผ่นดินได้สบาย ไม่จำเป็นต้องมีบ้านเรือน ก็ได้ สงสัยพื้นดินน่าจะนุ่ม ราบเรียบดีดุจปูด้วยพรหมกระมังยุงเหลือบ ริ้นไรคงจะไม่มีด้วย
เวลาที่มนุษย์ในทวีปนั้นตายไป พวกญาติก็จะนำเอาผ้าชื่อ สิเวยยกะ ห่อหุ้มคนตายแล้วทิ้งเสีย นกหัสดีลิงค์ทั้งหลาย (มีศีรษะเป็นช้างขนาดใหญ่) กำหนดห่อคนตายนั้นว่า ชิ้นเนื้อ แล้วเฉี่ยวนำไปวางที่ยอดเขาหิมพานต์ เปลื้องออกแล้วกิน
มนุษย์ในอุตตรกุรุทวีปนี้มีการรักษาศีล 5 เป็นปกติ เมื่อตายไปแล้วย่อมเกิดในเทวโลกแน่นอน แต่เมื่อเวลาที่จุติจากเทวโลกแล้ว อาจไปเกิดในอบายภูมิ 4 หรือ เกิดในทวีปเดิมหรือในทวีปอื่นใดก็ได้ หรือไปเกิดในภูมิใดภูมิหนึ่งตามอำนาจแห่งกรรม จะไม่ไปสู่อบายเพียงชั่วภพถัดไปจากที่กำลังเป็นมนุษย์อุตตรกุรุเท่านั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสถึงลักษณะที่เด่นของชาวอุตตรกุรุไว้ในฐานสูตร ว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลายมนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีป ประเสริฐกว่าเทวดาชั้นดาวดึงส์และพวกมนุษย์ชาวชมพูทวีป ด้วยฐานะ 3 ประการ 3 ประการเป็นไฉน คือ
1. ไม่มีทุกข์ เพราะตัณหาในกาม
2. ไม่มีความหวงแหน (ยึดถือในทรัพย์สมบัติ บุตร ภริยา สามี ว่าเป็นของตน)
3. มีอายุแน่นอน คือ 1,000 ปี
ที่อยู่อาศัยของมนุษย์ต่างดาวตามหลักพระพุทธศาสนา
กล่าวถึงมนุษย์ต่างดาวในทัศนคติความเข้าใจต่างๆ นาๆ ของมนุษย์ทั่วไป และมนุษย์ต่างดาวตามหลักพระพุทธศาสนา ทำให้ทราบว่าไม่ได้มีโลกใบนี้เพียงใบเดียวที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ ในตอนที่ 2 นี้จึงจะขอกล่าวถึงมนุษย์ต่างดาวในทวีปที่เหลือจากตอนที่แล้วดังบทความตอนล่างนี้
2. ปุพพวิเทหทวีป
ปุพพวิเทหทวีป มีพื้นที่ขนาด 7,000 โยชน์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาสิเนรุ ซึ่งเป็นรัตนชาติสีเงินส่องรัศมีฉาบส่องมหาสมุทรทางทิศนี้จนเป็นสีเงิน มีต้นซึก (สีรีสกะ) เป็นไม้ประจำทวีปนี้มีขนาดเท่ากับต้นกัลปพฤกษ์ของชาวอุตตรกุรุ มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีลักษณะใบหน้าตอนบนตัดโค้งมนลง ส่วนล่างคล้ายบาตร ร่างกายใหญ่สูงประมาณ 9 ศอก เด็กแรกคลอดโตขนาดเท่าเด็ก 5 เดือน
มนุษย์ต่างดาวตามหลักพระพุทธศาสนาที่อยู่ในทวีปอื่นที่ไม่ใช่ชมพูทวีป
มนุษย์ทวีปนี้ มีสีผิวหลากสี คือ ขาว ดำ สีผสม สีทอง สีด่าง มีอาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม เครื่องประดับคล้ายชาวชมพูทวีป ไม่มีการซื้อขาย รักษาศีลได้ดีกว่า แต่ไม่มีการบรรพชาอุปสมบท ประพฤติพรหมจรรย์ อายุของทวีปนี้ยืน 700 ปี
3. อปรโคยานทวีป หรือ อมรโคยานทวีป
อมรโคยานทวีพื้นที่ขนาด 7,000 โยชน์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเขาสิเนรุอันสำเร็จด้วยแก้วผลึก รัศมีแก้วผลึก นั้นจะเปล่งออกฉาบทาหลังมหาสมุทรด้านทิศนี้ ทวีปนี้มีต้นกทัมพะ (ไม้กระทุ่ม) เป็นไม้ประจำทวีปนี้ซึ่งมีขนาดเท่ากับต้นไม้ทวีปอื่น มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีลักษณะใบหน้ากลม คล้ายวงพระจันทร์ มีร่างกายสูงประมาณ 6 ศอก เด็กแรกคลอดมีขนาดเท่าเด็กอายุ 4 เดือน สีผิวมีหลากสีเช่นเดียวกับ ชาวปุพพวิเทหะ มีอาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม เครื่องประดับคล้ายชาวชมพูทวีป แต่ไม่มีการประพฤติพรหมจรรย์ การบรรพชาอุปสมบท อายุมนุษย์ในทวีปนี้ยืน 500 ปี
ลักษณะของมนุษย์ต่างดาวที่มีใบหน้ากลมเหมือนดวงจันทร์ ในหลักพระพุทธศาสนา
ความพิสดารของปุพพวิเทหทวีปและอปรโคยานทวีปท่านมิได้กล่าวไว้เลย สงสัยว่าจะมีความคล้ายคลึงกันกับของอุตตรกุรุทวีปกระมัง ท่านจึงมิได้กล่าวไว้ให้ละเอียดเหมือนอุตตรกุรุทวีป
4. ชมพูทวีป
ชมพูทวีป มีพื้นที่ขนาด 10,000 โยชน์ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเขาสิเนรุซึ่งสำเร็จด้วยแก้วมณี รัศมีแก้วมณี นั้นจะเปล่งออกฉาบทาหลังมหาสมุทรด้านทิศนี้ ต้นชมพูหรือไม้หว้าชื่อ นคะ เป็นไม้ประจำชมพูทวีปมีขนาดเท่ากับต้นไม้ประจำทวีปอื่นที่กล่าวมาแล้ว ใต้กิ่งหว้าทั้ง 4 นั้น เป็นแม่น้ำใหญ่ไหลผ่านไปในทิศทั้งหลาย ผลหว้ามีกลิ่นหอม รสหวานปานน้ำผึ้ง หมู่นกทั้งหลายชวนกันมากินผลหว้าสุกนั้น บางทีผลสุกก็หล่นลงตามฝั่งแม่น้ำ แล้วงอกออกเป็นเนื้อทอง และถูกน้ำพัดออกไปจมลงในมหาสมุทร เรียกทองนั้นว่า ทองชมพูนุท เพราะอาศัยเกิดมาจากชมพูนที (แม่น้ำชมพู)
มนุษย์ชาวชมพูทวีป เป็นผู้กล้าหาญในการทำความดีและในการทำความชั่วได้ถึงที่สุด
มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้มีลักษณะใบหน้าเป็นรูปไข่ กำหนดอายุขัยไม่แน่นอน โดยความยิ่งหย่อนในคุณธรรม สมัยใดเพียบพร้อมยิ่งด้วยคุณธรรม สมัยนั้นก็จะมีอายุน้อยถอยลงมาจนถึง 10 ปี แล้วจึงเริ่มขัยใหม่อีกครั้ง
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงคุณสมบัติของมนุษย์ชาวชมพูทวีปไว้ 3 ประการ คือ
1.เป็นผู้กล้า
2.เป็นผู้มีสติ
3.เป็นผู้อยู่ประพฤติพรหมจรรย์อันเยี่ยม
คุณสมบัติข้อที่ 1 เป็นข้อสำคัญในการที่จะทำให้อายุขัยของชาวชมพูทวีป ขึ้นลงไม่แน่นอน เพราะมนุษย์ชาวชมพูทวีป เป็นผู้กล้าหาญในการทำความดีและในการทำความชั่วได้ถึงที่สุด คือ ถ้าทำความดีทำกุศลไว้มาก กุศลเจริญ อายุขัยก็จะเจริญขึ้น ถ้าทำความชั่วอกุศลเจริญ อายุขัยก็จะลดลง และในการทำความดีนั้นก็สามารถทำดีได้สูงสุดจนสิ้นกิเลส ไปสู่ที่สุดโลกเบื้อบนคือพระนิพพาน เสวยบรมสุขสิ้นกาลนาน ถ้าทำความชั่วมากจนภพสามรองรับไม่ได้ ก็ไปที่สุดโลกเบื้อต่ำจากภพสามที่เรียกว่า โลกันต์ เสวยทุกข์ยาวนานไม่มีกำหนด
คุณสมบัติข้อที่ 2 เป็นผู้มีสติมั่นคง เพราะชมพูทวีปมีทั้งดีและชั่ว มีทั้งสุขและทุกข์ปนกันไป ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลง เป็นเหตุให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ไม่เหมือนชาวทวีปอื่นหรือพวกเทวดาซึ่งมีสุขมากมีกามคุณอันเลิศโดยส่วนเดียวทำให้ขาดสติได้บ่อยๆ ส่วนมากสัตว์นรกก็มีแต่ทุกข์โดยส่วนเดียว
คุณสมบัติข้อที่ 3 เป็นผู้อยู่ประพฤติพรหมจรรย์อันยอดเยี่ยม หมายความว่าการอยู่ประพฤติมรรคพรหมจรรย์ประกอบด้วยองค์แปด (มรรคมีองค์ 8) ย่อมมีในที่นี้เท่านั้น เพราะพระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้า อุบัติขึ้นในชมพูทวีป ทำให้สามารถประพฤติพรหมจรรย์ให้ถึงที่สุดได้
โลกมนุษย์ที่เราอยู่ปัจจุบันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของชมพูทวีป สมัยพุทธกาลท่านกำหนดเอาเพียงเขตอินเดียโบราณ แต่มนุษย์ชมพูทวีปที่เหลือที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ว่ามีทวีปเล็กอีก 500 ทวีป ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด ต้นไม้ประจำทวีปคือ ต้นหว้า ชื่อ นคะ อยู่ที่ใด ปัจจุบันยังอยู่หรือไม่ เป็นสิ่งที่น่าศึกษาอย่างยิ่งด้วยการเจริญสมาธิ(Meditation)ภาวนา มนุษย์เราปัจุบันเจริญด้วยวัตถุหยาบ ไม่เจริญทางด้านจิตใจ จะพิสูน์อะไรก็มักจะพิสูจน์กันด้วยวัตถุหยาบๆ ที่ตามองเป็นได้ ถ้าตามองเห็นไม่ได้ก็ปฏิเสธว่าไม่มี ใช้ตากับสมองหยาบหาความรู้เท่านั้น จนลืมไปว่า ช่องทางสำหรับรับรู้อีกตั้ง 5 ทางยังมีอยู่อีก โดยเฉพาะทางใจ ซึ่งอยู่ในตน ตนเองใช้ตลอดเวลาเพียงแต่หากได้รับการฝึกฝนด้วยการเจริญสมาธิภาวนาแล้ว ก็จะเป็นเครื่องมือหาความรู้ได้ไม่จำกัด
ลักษณะของมนุษย์ใน 3 ทวีปข้างต้น
เมื่อกล่าวโดยรวมแล้วมนุษย์ใน 3 ทวีปข้างต้น เฉพาะแต่ละทวีป มีรูปร่าง สัณฐาน หน้าตา อยู่ในลักษณะเดียวกัน ต่างกันที่ขนาด ความได้สัดส่วน และความประณีตสวยงาม ความสวยงามของผู้คนใน 3 ทวีป (ยกเว้นชมพูทวีป) มีความสวยงามไม่แตกต่างกัน เนื่องจากมนุษย์โดยทั่วไป มีคุณธรรมในจิตใจเสมอเหมือนกัน เฉพาะในชมพูทวีปเท่านั้นที่ผู้คนมีความสวยงามมากน้อยต่างกัน ตามแต่กุศลกรรมที่ตัวเองได้ทำไว้ในอดีต
อายุมนุษย์ ทวีปทั้ง 4 ในช่วงแรกที่โลกมนุษย์เจริญ หรือในช่วงที่มีมนุษย์ต้นกัปนั้น ไม่ว่ามนุษย์ในทวีปใด ก็มีอายุถึงอสงไขยปีทั้งสิ้น เพราะจิตใจของคนในสมัยนั้นมีกิเลส คือ โลภะ โทสะ โมหะ เบาบาง ทำให้สิ่งแวดล้อม ดิน ฟ้า อากาศ และอาหารของมนุษย์สมบูรณ์ จึงเป็นเหตุให้อายุมนุษย์ยืนยาว
ครั้นต่อมามนุษย์ในทวีปทั้ง 4 มีอกุศลจิตเกิดขึ้น ทำให้สิ่งแวดล้อมต่างๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงผิดปกติไปจากเดิม กล่าวคือ เมื่อหนาวก็หนาวเกิน เมื่อร้อนก็ร้อนเกิน ฝนก็ไม่ตกตามฤดูกาล คุณค่าทางอาหารก็ลดน้อยลง สิ่งเหล่านี้ทำให้อายุของมนุษย์ลดลงตามลำดับ เมื่ออายุขัยลดลงถึง 1,000 ปี มนุษย์ที่อยู่ในอุตตรกุรุทวีปก็คงที่เพียงนั้น ไม่ลดลงอีก เพราะไม่มีกิเลสเพิ่มขึ้นอีก ในทำนองเดียวกัน อายุขัยของมนุษย์ที่อยู่ในปุพพวิเทหทวีปคงที่อยู่ที่ 700 ปี ที่อปรโคยานทวีป อายุขัยของมนุษย์คงที่อยู่ที่ 500 ปี คงไว้แต่ชมพูทวีปเท่านั้น ที่อายุขัยของมนุษย์ยังคงลดลงเรื่อยๆ เพราะมีกิเลสกล้าไม่สิ้นสุด และจะลดลงจนกระทั่งเหลือ 10 ปี อาหารทั้งหวงที่รสดีจะหมดไป สิ่งแวดล้อมจะเสื่อมโทรม อันตรกัปใดคนในชมพูทวีปมีโลภะกล้าแข็ง ก็จะตายด้วยความอดอยาก เพราะไม่มีอาหารจะกิน เรียกว่า ทุพภิกขันตรกัป
อันตรกัปใดผู้คนมีโทสะกล้าแข็ง ผู้คนก็จะเห็นกันคล้ายเห็นพวกสัตว์ที่เป็นอาหารเหมือนนายพรานเห็นเนื้อ ก็จะหยิบจับสิ่งใดจะกลายเป็นศาสตราอาวุธทันที ฆ่าฟันกันเองจนเกิดการนองเลือดตลอด 7 วัน ยุคนี้เรียกว่า สัตถันตรกัป เพราะคนตายด้วยศาสตราอาวุธ หรือยุคมิคสัญญี เพราะมีความสำคัญกันว่าเป็นสัตว์
ในยุคมิคสัญญี จะมีมนุษย์ที่มีจิตใจดีงามกลุ่มหนึ่งที่หนีเข้าป่าไป
อันตรกัปใดผู้คนมีโมหะกล้าแข็ง ก็จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บรุนแรง มนุษย์ก็จะตายด้วยโรคยุคนี้เรียกว่า โรคันตรกัป เพราะตายด้วยโรคระบาด
ในกาลนั้นจะมีมนุษย์บางกลุ่ม หลบหนีซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาห่างไกล เกิดความสลดใจ จึงเริ่มประกอบกุศลอีกครั้ง ซึ่งมีผลทำให้อายุขัยของมนุษย์เพิ่มขึ้น และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงอสงไขยปี อายุขัยของคนในชมพูทวีปจะขึ้นลงอยู่อย่างนี้ตามอำนาจกิเลสที่แรงกล้าหรือเบาบางของมนุษย์ในแต่ละยุค เรื่องนี้มีหลักฐานปรากฏอยู่ในจักกวัตติสูตร นักศึกษาควรหาโอกาสศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม
ความเป็นอยู่ของมนุษย์ในทวีปทั้ง 3 ยกเว้นชมพูทวีป มีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย มีสิ่งแวดล้อมที่สะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีมลภาวะ ทำให้อาหารการกิน และน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ โรคภัยไข้เจ็บไม่เบียดเบียนเหมือนอย่างในชมพูทวีป ที่เป็นเช่นนี้เพราะมนุษย์ใน 3 ทวีป มีศีลธรรมที่เป็นปกติ สม่ำเสมอ ส่วนมนุษย์ในชมพูทวีป มีความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันมาก บางคนสุขสบาย บางคนลำบาก บางคนปานกลาง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของแต่ละคน แต่ละยุคในชมพูทวีปอาจกล่าวได้ว่า มนุษย์ในชมพูทวีป มีความแตกต่างกันมากที่สุดก็ว่าได้
ในตอนต่อไปนี้ จะกล่าวถึงเรื่องของชมพูทวีปเป็นประเด็นสำคัญ เพราะเป็นโลกที่เราได้อยู่อาศัย และเป็นโลกแห่งความแตกต่างที่น่าศึกษาเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง เราศึกษาเรื่องโลกนี้เพื่อเราจะได้ดำรงชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข และปลอดภัยจากอบายภูมิ
ข้อมูลต่างๆจากพระไตรปิฎก จงทำแต่ความดี...
ขอขอบคุณ DMC
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
96 VOTES (4/5 จาก 24 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
ชาวบ้านเขมรไม่กล้าเดินทางกลับบ้านเพราะกลัวกับระเบิดที่ฝังไว้ตามพื้น
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึก
เวียดนามเดือด! เขมรก็อปเพลงศิลปินดัง..ทำเพลงปลุกใจตอนสู้รบกับไทย
ชวนลองเข้ามาดูผลงานของนักออกแบบที่ใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียด
ภาพนี้ที่รอคอย !!! ทหารไทยนำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกั้นพรมแดนบ้านหนองจาน ตามเส้นเขตแดน 1:50000 เป็นที่เรียบร้อย
"โดม ปกรณ์ ลัม" ทัวร์ลงหนัก! หลังเมนต์ใส่ "จินนี่" งานนี้โดนโซเชียลถล่มยับ
เขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทย
เขมรปฏิเสธอย่างหนักแน่น "เราไม่ได้ส่งโดรน 250 ลำไปยังประเทศไทย!!"
เขมรทุ่มเงินจ้างนักร้องเกาหลีมาโปรโมทประเทศ
กองกำลังบูรพาเสริมแนวป้องกันชายแดน วางตู้คอนเทนเนอร์พร้อมระบบไฟฟ้า บ้านหนองจาน–หนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว
ชายไต้หวันแต่งงานกับเมียใหม่ แต่ยังปักหลักอยู่กับเมียเก่าเป็น 10 ปีHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ภาพนี้ที่รอคอย !!! ทหารไทยนำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกั้นพรมแดนบ้านหนองจาน ตามเส้นเขตแดน 1:50000 เป็นที่เรียบร้อย
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึก
ทายนิสัยจากอาการตอนเมา บ่งบอกตัวตนที่แท้จริง ใครเป็นสายไหนบ้าง มาดู!
ลุ้นของขวัญปีใหม่! เตรียมคืนชีพ “เกาะตาชัย” มัลดีฟส์เมืองไทย หลังปิดฟื้นฟูธรรมชาตินาน 9 ปี










