พบมนุษย์สายพันธุ์ไดโนเสาร์ (Reptilians )
โพสท์โดย beeboyza
Reptilians
โดยอาศัยจากปากนักวิทยาศาสตร์บางคนที่เผลอปากเล่าสู่กันฟังและความสื่อที่ออกมาไม่รู้จะจริงหรือไม่เท่านั้นเองครับ
โดยพวกสื่อมวลชนมักชอบไปแต่งเรื่องจนมั่วมากขนาดบ้านเราก็มีอยู่ในนิตยสารแปลกโลก
ที่มีรูปที่ดูแล้วก็บอกได้ว่า “มั่ว” พร้อมประวัติมั่วๆ
มาเล่าสู่กันฟัง
อ่านขำขำ นะคัฟ อย่าคิดมาก
อ่านขำขำ นะคัฟ อย่าคิดมาก
โดยต้นตอของเรื่องนี้คือ…………………………
ที่เทือกเขาแอนดีส ประเทศเปรู ค.ศ. 1996
นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบเจอมนุษย์ประหลาดตัวหนึ่งในบริเวณที่ตกสำรวจในเทือกเขา เป็นเพศชาย อายุ18 ปี
โดยตอนพบกันครั้งแรก
มนุษย์ประหลาดพยายามต่อสู้แต่นักสำรวจได้ใช้ลูกดอกอาบยาสลบยิงจนสามารถจับได้
จากการสำรวจพบว่ามันเป็นมนุษย์ที่พึลึกกึกกือ มีส่วนสูง 5 ฟุต 4 นิ้ว ส่วนหัวหน้าเหมือนไดโนเสาร์มีครีบใต้คางเหมือนกิ้งก่าตากลมโตเหมือนมนุษย์ต่างดาว ผิวหนังเป็นเกล็ดสีเขียวอมเทาแขนขายาวเก้งก้าง มือแต่ละข้างมี 3 นิ้ว ส่วนเท้ามี 5 นิ้ว ทั้งมือและเท้ามีพังผืดยึดติดไว้คล้ายตีนเป็ด มนุษย์หรือตัวอะไรกันแน่??????????
จากการสำรวจพบว่ามันเป็นมนุษย์ที่พึลึกกึกกือ มีส่วนสูง 5 ฟุต 4 นิ้ว ส่วนหัวหน้าเหมือนไดโนเสาร์มีครีบใต้คางเหมือนกิ้งก่าตากลมโตเหมือนมนุษย์ต่างดาว ผิวหนังเป็นเกล็ดสีเขียวอมเทาแขนขายาวเก้งก้าง มือแต่ละข้างมี 3 นิ้ว ส่วนเท้ามี 5 นิ้ว ทั้งมือและเท้ามีพังผืดยึดติดไว้คล้ายตีนเป็ด มนุษย์หรือตัวอะไรกันแน่??????????
นักมนุษยวิทยาอเมริกันได้ขอตัวมนุษย์ประหลาดนี้นำไปวิจัยที่ศูนย์วิจัยลับแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของมลรัฐมิชิแกน
พร้อมกับตั้งชื่อโครงการวิจัยนี้ว่า “โครงการวิจัยสิ่งมีชีวิตกึ่งคนกึ่งไดโนเสาร์”
มันถูกนำเข้าห้องพักที่มีลูกกรงเหล็กรายล้อมรอบ
มีโทรทัศน์วงจรปิดเพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ศึกษาพฤติกรรมได้ตลอดเวลา
ผลจากการวิจัย ในระยะแรกมนุษย์ประหลาดไม่ยอมกินอะไร ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน เอาแต่เดินงุ่มง่านภายในที่พัก
ต่อมาเมื่อมันคุ้นเคย เจ้าสิ่งนั้นเริ่มพูดภาษาคนได้ มันเรียกเผ่าตัวเองว่า “พีซะห์”หมายถึงสิ่งสะเทินบกสะเทินน้ำ
อยู่ได้ทั้งที่มืดและที่สว่าง
แต่นักวิทยาศาสตร์และนักมนุษย์วิทยาศึกษาเจาะลึกมากกว่านั้น เบื้องต้นพวกเขาตั้งสันนิษฐานไว้เป็นข้อๆ ดังนี้
ผลจากการวิจัย ในระยะแรกมนุษย์ประหลาดไม่ยอมกินอะไร ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน เอาแต่เดินงุ่มง่านภายในที่พัก
ต่อมาเมื่อมันคุ้นเคย เจ้าสิ่งนั้นเริ่มพูดภาษาคนได้ มันเรียกเผ่าตัวเองว่า “พีซะห์”หมายถึงสิ่งสะเทินบกสะเทินน้ำ
อยู่ได้ทั้งที่มืดและที่สว่าง
แต่นักวิทยาศาสตร์และนักมนุษย์วิทยาศึกษาเจาะลึกมากกว่านั้น เบื้องต้นพวกเขาตั้งสันนิษฐานไว้เป็นข้อๆ ดังนี้
ถิ่นกำเนิด
ที่อาศัยของมนุษย์ประหลาดนี้น่ามาจากใต้พิภพโลก
เพราะมันมีนัยน์ตากลมโตบ่งบอกว่ามันต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตองอาศัยที่มืดมิด
จึงต้องมีม่านตาขยายใหญ้หมือนกับตาของนกฮูกและแมวน่าจะเป็นมนุษย์ต่างดาวมาอาศัยบนโลกเมื่อหมื่นปีมาแล้ว
แต่ต้องลงจอดใต้พิภพ เพราะบนโลกสว่างมากอาจเป็นสิ่งมีชีวิตบนโลกเรามาก่อน
เพราะจากการทดสอบมันสามารถอยู่ใต้น้ำนานถึง 3 ชั่วโมง
ถึงโผล่มาหายใจเหนือผิวน้ำครั้งหนึ่ง ซึ่งมีรูแบบคล้าย จระเข้ กบ เขียด
เป็นต้นมันน่ามีวัฒนาการจากไดโนเสาร์มาเป็นมนุษย์
รูปปั้นอายุ 5,000-4,500 ก่อนคริสต์ศักราช. ทำไม๊บังเอิญจังไปเหมือนเจ้าตัวไดโนแมนนี้มากนัก
รูปปั้นอายุ 5,000-4,500 ก่อนคริสต์ศักราช. ทำไม๊บังเอิญจังไปเหมือนเจ้าตัวไดโนแมนนี้มากนัก
นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามสอนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวโลกให้กับมนุษย์ประหลาดตัวนั้นทำให้มันตอบสนองได้ในหลายประการ เช่น
--สามารถเรียนรู้ภาษาของชาวโลกได้ 2 ภาษา คือภาษาอังกฤษและสเปน แต่เป็นแค่การเรียนรู้แบบเด็กหัดเดิน
--เป็นนักฟังที่ดี แต่มีการแสดงออกน้อยนิดไม่ค่อยตอบสนองต่อความก้าวร้าว และมีความเมตตา ชอบออกกำลังกายตลอดเวลา ไม่อยู่นิ่งๆ
--วัดไอคิวอยู่ที่ 80-85 น้อยกว่าของมนุษย์โลก แต่มากกว่าของสัตว์ ตรงนี้ทำให้เชื่อว่ามันน่าอยู่ระหว่างรอยต่อของความเป็นไดโนเสาร์กับมนุษย์
มันชอบกินอาหารประเทศสัตว์ขนาดเล็ก เช่น งู หนอน หนู และพวกพืชก็รากไม้สดๆ
--มันส่งเสียงประหลาดๆ ออกมาได้ 4 ระดับเสียง คือเสียงหวีดร้อง คำราม ตะโกน เสียงที่เปร่งอยู่ระดับ125 เดซิเบล
--มันส่งเสียงประหลาดๆ ออกมาได้ 4 ระดับเสียง คือเสียงหวีดร้อง คำราม ตะโกน เสียงที่เปร่งอยู่ระดับ125 เดซิเบล
คาดว่าพวกมันน่าจะสื่อสารทางเสียงมากกว่าภาษาและท่าทาง
--และนักวิจัยนี้ได้เรียกมันว่า “ไดโนแมน”
น่าเสียดายนักที่โครงการวิจัยนี้เป็นความลับสุดยอด(ยังอุตสาห์ปล่อยออก สู่ภายนอกอีกนะ)
--และนักวิจัยนี้ได้เรียกมันว่า “ไดโนแมน”
น่าเสียดายนักที่โครงการวิจัยนี้เป็นความลับสุดยอด(ยังอุตสาห์ปล่อยออก สู่ภายนอกอีกนะ)
เราทราบเรื่องของมันเล็กน้อยจากนักวิทยาศาสตร์ที่เปิดปากให้ฟังเท่านั้นเอง
ทฤษฎีมนุษย์ไดโนเสาร์
ความจริงแล้วมนุษย์ไดโนเสาร์นั้นมีมานานแล้วครับ
นักวิทยาศาสตร์บอกว่าถ้าเจ้าไดโนเสาร์ชื่อ “โนนิโคซอรัส” ไม่สูญพันธุ์ไปก่อน(สูญพันธุ์เมื่อ 65 ล้านปี)
ทฤษฎีมนุษย์ไดโนเสาร์
ความจริงแล้วมนุษย์ไดโนเสาร์นั้นมีมานานแล้วครับ
นักวิทยาศาสตร์บอกว่าถ้าเจ้าไดโนเสาร์ชื่อ “โนนิโคซอรัส” ไม่สูญพันธุ์ไปก่อน(สูญพันธุ์เมื่อ 65 ล้านปี)
ละ มันก็จะวิวัฒนาการกลายเป็นมนุษย์ไดโนเสาร์แน่นอน
**แล้วทำไมเจ้าโนนิโคซอรัสถึงวิวัฒนาการได้แค่ชนิดเดียว ในขณะที่ไดโนเสาร์พันธุ์อื่นๆ ไม่วิวัฒนาการละ
นั้นก็เพราะเจ้าโนนิโคซอรัสนี้มีลักษณะแตกต่างจากไดโนเสาร์อื่นๆ นั้นเองครับ
หนึ่งคือมันฉลาด และที่สำคัญคือมันสามารถใช้เท้าหน้าหยิบจับสิ่งของได้นั้นเอง
(ก็เหมือนทฤษฎี ที่ว่าทำไมแมลงสาปไม่สามารถเป็นเจ้าโลกได้)
**แล้วทำไมเจ้าโนนิโคซอรัสถึงวิวัฒนาการได้แค่ชนิดเดียว ในขณะที่ไดโนเสาร์พันธุ์อื่นๆ ไม่วิวัฒนาการละ
นั้นก็เพราะเจ้าโนนิโคซอรัสนี้มีลักษณะแตกต่างจากไดโนเสาร์อื่นๆ นั้นเองครับ
หนึ่งคือมันฉลาด และที่สำคัญคือมันสามารถใช้เท้าหน้าหยิบจับสิ่งของได้นั้นเอง
(ก็เหมือนทฤษฎี ที่ว่าทำไมแมลงสาปไม่สามารถเป็นเจ้าโลกได้)
พระเจ้าของตะวันออกกลางโบราณ เห็นแล้วนึกถึงชุดนักบินอวกาศนะครับ
และหน้าตาคล้ายเจ้าตัวไดโนแมนนี่มากมาย
นี่คือ ภาพจากอารยธรรมมายาเป็นภาพงานเลี้ยง 'พระเจ้าคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน' ทำไมคล้ายตัวเจ้าตัวไดโนแมนเนี่ยเลย
อ่านขำขำ นะคัฟ อย่าคิดมาก
Religion Shapes Mayan Life
นี่ก็คล้ายไดโนแมนอีก มีเขี้ยวๆด้วย
อ่านขำขำ นะคัฟ อย่าคิดมาก
Credit :: http://ee.paitokpla.com/?p=163#more-163
และภาพที่มาจากกูเกิ้ล
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
112 VOTES (4/5 จาก 28 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"น้องธันวา 🐘 ศิลปินช้างสุดน่ารักจากปางช้างแม่แตง"