ความลับของชาติที่ปกปิดมา กว่า๔๐๐ปี กำลังจะเปิดเผย
โพสท์โดย ทูตดำ DARKNES DRAGONจุลศักราช๑๓๗๒
วิชาดาบอาทมาฎ กองดาบอันแข่งแกร่ง ของพระนเรศว
"ท่ารุกคือท่ารับ ท่ารับคือท่ารุก
หากเขาฟันเราไม่รับ หากเขารับเราไม่ฟัน
และจะรับต่อเมื่อหลบไม่พ้น”
ภาย ใต้อิทธิพลแห่งอารยธรรมคอมพิวเตอร์ อาวุธปืนถูกนำมาใช้กับเกลื่อน จนมันเกือบจะกลายเป็นบุตรแห่งพระเจ้า (พระเจ้าที่แท้จริงคือเงิน) ยังมีคนกลุ่มหนึ่งท่ามกลางเมืองหลวงที่แสนจะเจริญ กลับมาฝึกฝนวิชาดาบโบราณของไทย ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง
สำนัก ดาบอาทมาฏนเรศวร ถูกก่อตั้งขึ้นโดย อ.ชาติชาย อัชนันท์ และ ครูมาโนทย์ บุญญมัด ซึ่งในทีนี้ผมจะไม่พูดถึงประวัติของทั้งสองท่านนะครับ แต่หากใครสนใจจะติดตาม ก็ตามลิงค์ไปเลยครับ
>>จิ้มๆ<<
มา ว่ากันในเรื่องของเราต่อ วิชาดาบอาทมาฏนเรศวรเป็นวิชาดาบสองมือที่ถูกบรรจุอยู่ในตำราพิชัยสงคราม ที่ถูกฉีกทำลายออกตั้งแต่ก่อนกรุงศรีแตก และนำไปเก็บรักษาไว้ทางภาคเหนือครับ และสาเหตุที่เรียกว่าวิชาดาบอาทมาฏนเรศวรนั้น เพราะมีที่มาจากในสมัยพระนเรศวรนั่นเองครับ ตามที่ผมศึกษามา บางทีก็บอกว่า วิชาดาบอาทมาฏเป็นของกองอาทมาฏ ที่ทำหน้าที่รักษาเท้าช้างของพระมหากษัตริย์ หรือ “จตุองคบาท” นั่นเองครับ แต่บางที่ก็บอกว่า เป็นกองทหารมอญที่ทำหน้าที่หลายอย่าง ทั้งแต่สืบข่าว สอดแนม จนถึงเป็นหน่วยบุกทะลวงยามทำศึกอีกด้วยครับ บางแห่งก็พูดถึงเรื่องอาคมไว้ด้วยแน่ะ ว่า พวกนี้มักจะมีวิชากำบังกาย และวิชาอยู่ยงคงกระพัน (เล่นเอาซะผมนึกภาพไปถึง นินจาแห่งแดนอาทิตย์ อุทัยโน่นเลย = =”)
ดังที่ขึ้นเป็นบทนำ วิชาดาบอาทมาฏ จะเน้นสิ่งที่เรียกว่า ความสมบูรณ์แบบเลยก็ได้ เพราะ ทุกการรุก คือการรับ ทุกการรับ ก็จะเป็นการรุก จะไม่มีการเปิดโอกาสใดๆ ให้แก่ศัตรูเลย ไม่ว่าจะโอกาสในการรับ หรือโอกาสในการรุก โดยหลักๆ แล้ว วิชาดาบอาทมาฏจะแบ่งเป็น วิชาเท้า 4 ทิศ 8 แฉก ไว้เพื่อฝึกการหลบหลีก
วิชาควงพลอง 4 กระบวนท่า อันได้แก่ พิรุณร้องไห้ แข่งแสงสูรย์ นารายทรงจักร และไอยราฟาดงวง
แม่ ไม้หลัก หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ตามสไตล์ เด็กออนไลน์อย่างเราๆว่า skill มี 3 แม่ไม้ด้วยกันคือ คลุมไตรภพ ย้อนฟองสมุทร และ ตลบสิงขร
คลุมไตรภพ จะเป็นการ วาดดาบสองเล่ม ประสากันเป็นรูป เลข 8

ตลบสิงขน จะวาดดาบวนอยู่บริเวณเอว
ส่วน ย้อนฟองสมุทร จะคล้ายคลึงกับ คลุมไตรภพ แต่จะอยู่ในรูปของ 8 สองตัวต่อกัน
ยังไม่หมดนะครับ แม่ไม้ สาม ท่าหลักนี้ สามารถแตกได้เป็น ท่ารำอีก 12 ท่า อันได้แก่
เสือ ลากหาง ไอยราฟาดงวง ท่ายักษ์พระรามแผลงศร สอดสร้อยมาลา เรียงหมอน มอญส่องกล้อง เงื้อฟันสีดา เชิญเทียนตัดเทียน ลับหอกลับดาบ ช้างประสานงา กาล้วงไส้ พญาครุฑยุดนาค

(พิเศษ ภาพนี้ใครหาแบบที่มันชัดๆ แจ่มๆ กว่านี้มาได้ มีรางวัล)
และสำหรับท่าการ์ด อันเป็นท่ามาตรฐาน สำหรับวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวนั้น วิชาดาบอาทมาฏของเราก็มีครับ
โดย ท่าการ์ดของดาบอาทมาฏ จะต่างกับวิชาดาบอื่นๆ โดยจะก้าวขาข้างหนึ่งออกมาข้างหน้า แขนข้างเดียวกัน ยื่นออกมา หันด้านฝ่ามือเข้าหาลำตัว ดาบตั้งพาดผ่านดวงตาและคิ้ว ส่วนดาบอีกข้างทิ้งราบลงกับลำตัว ปลายยกขึ้นชี้ไปยังหน้าอกของศัตรู(เตรียมจ้วง ย่ะๆๆ อะตุ้บอะตั้บ อ่ะจ้ากกก~ แกมันตายไปแล้ว~ พอๆไม่ใช่ละ = =”)
จากท่าการ์ดนี้ เวลาฟัน เราจะใช้ดาบที่อยู่ข้างหน้าฟัน แล้วก็รีบรูดกลับไปอยู่ข้างลำตัว แล้วเอาดาบที่เคยอยู่ ข้างลำตัว ขึ้นมาตั้งพาดไว้ข้างหน้าแทน โช๊ะเข้า ให้ อย่างนี้เรียกไม่มีช่องว่างให้ฟันสวนเลยครับ เข้าคติของวิชานี้เอง ท่ารุกคือท่ารับ ท่ารับคือท่ารุก ส่วนแม่ไม้ทั้ง 3 และ ท่ารำทั้ง 12 ท่า ก็ใช่ว่าจะตายตัวนะครับ คนที่ใช้สามารถ ใช้วิจารณญาณ และความฉลาดส่วนบุคคล นำไปดัดแปลง พลิกแพลง ปะติดปะต่อออกไปได้อีกเป็นร้อยเป็นพัน แล้วแต่คนจะคิดเลยครับ ผมจะยกตัวอย่างนึง ที่อ.มาโนทย์ ได้โชว์เป็นตัวอย่างให้กับ หนังสือ “สารคดี” ได้ดูนะครับ
ครู มาโนทย์กำลังจะแสดงท่วงท่าพลิกแพลงของดาบอาทมาฏให้เราชม เขายืนประจันหน้ากับศิษย์เอก คราวนี้ทั้งสองใช้ดาบเหล็ก ยืนจดจ้องกันในท่าการ์ด แล้วเข้าสู่ท่าคลุมไตรภพ
ลูกศิษย์เป็นฝ่ายบุกเข้ามาก่อน แทงดาบขวาเข้ามา ครูมาโนทย์รับด้วยลูกไม้ท่าพิรุณร้องไห้ โดยดาบในมือซ้ายพลิกปลายลงพื้น ใช้คมต้านดาบที่แทงมา พร้อมถอยขาขวาไปข้างหลังแล้วพลิกเหลี่ยมกลับตัวไปทางขวา ดาบในมือขวาแทงย้อนกลับมาด้วยท่าไผ่พันลำ เข้าสู่แผ่นหลังอันเป็นจุดอับของคู่ต่อสู้ จากนั้นหมุนตัวทางขวาอีกครึ่งรอบ หันมาประจันกับด้านหลังคู่ต่อสู่ โดยคมดาบขวากดตรงหลังคอเอาไว้ ขาซ้ายยกขึ้นเตรียมเขย่งก้าวกระโดด ปาดดาบขวาเฉือนลง ตามด้วยดาบซ้ายฟันเฉียงจากด้านบนสู่แผลเดิมตรงหลังคอเพื่อเผด็จศึก ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ยังดีที่เป็นเพียงการสาธิต เราจึงไม่ได้เห็นเลือดจากคมดาบ
ครูมาโนทย์ให้ลูกศิษย์แทงมาอีกครั้ง เขาใช้ดาบซ้ายพลิกปลายลงรับดาบขวาที่แทงมา พร้อมพลิกตัวเบี่ยงไปทางขวาคู่ต่อสู้เช่นเดิม แต่คราวนี้แทนที่จะแทงดาบขวาย้อนกลับในท่าไผ่พันลำ กลับพลิกข้อมือให้ปลายดาบซ้ายชี้ขึ้นฟ้า แล้วจิกคมปลายดาบลงกลางหัวคู่ต่อสู้ด้วยลูกไม้ท่าไอยราฟาดงวง
ทั้งหมดคือการพลิกแพลงด้วยท่าต่อท่า แต่ลูกไม้ท่าเดียวกัน ยังสามารถแตกตัวผสมกับท่าอื่นได้อีกเป็น ยังไงครับ ยอดไปเลยใช่ปะ ยังครับยังไม่หมด ความร้ายกาจของวิดาบดาบอาทมาฏยังไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ นอกจากนี้ยังมีวิชาชั้นสูงครับ ที่ ครูมาโนทย์ และ อ.ชาติชาย ไม่ยอมเผยแพร่ครับ นอกจากกับศิษย์คนที่ไว้ใจแล้วจริงๆ นั่นคือ เคล็ดวิชา 18 ฝ่ามือสยบมังกร แห่ง บู๊ตึ้ง (ไม่ใช่ละ = =”) ล้อเล่นน่ะครับ แก้เครียด แต่มันคือ เคล็ดวิชา ตัดข้อตัดเอ็น 27 ท่า และกระบวนท่า หนุมานเชิญธง 48 ท่า อันเป็นวิชาที่ จะใช้ต่อสู้กับคนจำนวนมาก เช่น 10 -20 รุมเรา คนเดียว ประมาณนี้ แต่ตามความคิดผมนะครับ วิชาตัดข้อตัดเอ็นเนี่ย ใครเรียนอนาโตมี่ มาน่าจะเอาพวกลูกไม้ธรรมดาๆไปดัดแปลงได้นะ ส่วนวิชาหนุมานเชิญธง ชื่อมันชวนนึกไปถึง วิชาดาบ gatka ของอินเดียเลยแฮะ จะคล้ายๆกันหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจแฮะ ถ้าใครอยากรู้ว่าวิชา gatka เป็นเช่นไร กระผมก็ขอเชิญท่านไปยัง www.youtube.com หากใครเล่าเป็นเหล่าสาวก ToT องค์กรโทรศัพท์และคบนาคมอันสุดยอด และยอดสุด แห่งประเทศไทย ก็ขอเชิญยัง www.nincloack.com หากใครใช้ ninjacloack ไม่ได้ก็ให้ไปติดต่อ กับ ท่านคริสตัล หรือ ท่าน alserina เองเน้อ เขามีแหล่ง แต่ผมจำม่ายด้าย~
อ้ะ สำหรับคนที่มีความคิดแนวลบ คิดว่า ที่อาจารย์ทั้งสองท่านไม่ยอมสอนวิชาขั้นสูงทั้งสองเพราะรู้ไม่จริง อันนี้ ครูมาโนทย์ ได้แสดงกระบวนท่า หนุมานเชิญธง ต่อสู้กับ คนจำนวนมากต่อหน้าพระพักตร์ สมเด็จพระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ในโอกาสที่พระองค์เสด็จเยี่ยมชมสำนักดาบอาทมาฏนเรศวร มาแล้วนะขอบอกๆ
สำหรับ บทความและเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ ดาบอาทมาฏของผม ก็ขอจบลง แค่นี้แล้วกันนะครับ หากใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติม ก็คงต้องไปติดต่อถามที่ทางสำนักเองแล้วมั้งครับ หรือถ้ามีความสามารถจะหามาเพิ่มเติม ก็ นำมาลงเพิ่มได้เลยนะครับ ส่วนที่ตั้งสำนัก พอรู้คร่าวๆมาว่า อยู่ ซอยสาธร 7 แถว คลองด่านละมั้ง (ใช่ป่าวฟะ = =”) ขออภัยที่ความรู้ไม่ดีพอในเรื่องนี้นะครับ แล้วไว้จะเอาอะไรดีๆ มาให้อีก
แต่น่าเสียดายที่ครูมาโนทย์ บุญญมัด ปรมาจารย์ดาบอาทมาฏได้เสียชีวิตลงแล้ว
วันนี้(28 เม.ย.53)เวลาประมาณ 08.30น. ครูมาโนทย์ฯ ปรมาจารย์ดาบอาทมาฏได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัยเพียง 50 ปี เนื่องจากจมน้ำที่คลองแสนแสบ ศพจะตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดนาวง ศาลา 4 เลขที่ 177 หมู่ที่ 1 ตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี วันพรุ่งนี้(29 เม.ย.53) ขอเชิญลูกศิษย์ และผู้มีใจรักวิชาศิลปการต่อสู้ร่วมไว้อาลัยตามสถานที่ดังกล่าว
คลิปอาทมาฎ๓
http://www.youtube.com/watch?v=kb1JpIikF_Q
คลิปอาทมาฎ๔
http://www.youtube.com/watch?v=qkpz5jPLfe0
"ท่ารุกคือท่ารับ ท่ารับคือท่ารุก
หากเขาฟันเราไม่รับ หากเขารับเราไม่ฟัน
และจะรับต่อเมื่อหลบไม่พ้น”
ภาย ใต้อิทธิพลแห่งอารยธรรมคอมพิวเตอร์ อาวุธปืนถูกนำมาใช้กับเกลื่อน จนมันเกือบจะกลายเป็นบุตรแห่งพระเจ้า (พระเจ้าที่แท้จริงคือเงิน) ยังมีคนกลุ่มหนึ่งท่ามกลางเมืองหลวงที่แสนจะเจริญ กลับมาฝึกฝนวิชาดาบโบราณของไทย ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง
สำนัก ดาบอาทมาฏนเรศวร ถูกก่อตั้งขึ้นโดย อ.ชาติชาย อัชนันท์ และ ครูมาโนทย์ บุญญมัด ซึ่งในทีนี้ผมจะไม่พูดถึงประวัติของทั้งสองท่านนะครับ แต่หากใครสนใจจะติดตาม ก็ตามลิงค์ไปเลยครับ
>>จิ้มๆ<<
มา ว่ากันในเรื่องของเราต่อ วิชาดาบอาทมาฏนเรศวรเป็นวิชาดาบสองมือที่ถูกบรรจุอยู่ในตำราพิชัยสงคราม ที่ถูกฉีกทำลายออกตั้งแต่ก่อนกรุงศรีแตก และนำไปเก็บรักษาไว้ทางภาคเหนือครับ และสาเหตุที่เรียกว่าวิชาดาบอาทมาฏนเรศวรนั้น เพราะมีที่มาจากในสมัยพระนเรศวรนั่นเองครับ ตามที่ผมศึกษามา บางทีก็บอกว่า วิชาดาบอาทมาฏเป็นของกองอาทมาฏ ที่ทำหน้าที่รักษาเท้าช้างของพระมหากษัตริย์ หรือ “จตุองคบาท” นั่นเองครับ แต่บางที่ก็บอกว่า เป็นกองทหารมอญที่ทำหน้าที่หลายอย่าง ทั้งแต่สืบข่าว สอดแนม จนถึงเป็นหน่วยบุกทะลวงยามทำศึกอีกด้วยครับ บางแห่งก็พูดถึงเรื่องอาคมไว้ด้วยแน่ะ ว่า พวกนี้มักจะมีวิชากำบังกาย และวิชาอยู่ยงคงกระพัน (เล่นเอาซะผมนึกภาพไปถึง นินจาแห่งแดนอาทิตย์ อุทัยโน่นเลย = =”)
ดังที่ขึ้นเป็นบทนำ วิชาดาบอาทมาฏ จะเน้นสิ่งที่เรียกว่า ความสมบูรณ์แบบเลยก็ได้ เพราะ ทุกการรุก คือการรับ ทุกการรับ ก็จะเป็นการรุก จะไม่มีการเปิดโอกาสใดๆ ให้แก่ศัตรูเลย ไม่ว่าจะโอกาสในการรับ หรือโอกาสในการรุก โดยหลักๆ แล้ว วิชาดาบอาทมาฏจะแบ่งเป็น วิชาเท้า 4 ทิศ 8 แฉก ไว้เพื่อฝึกการหลบหลีก
วิชาควงพลอง 4 กระบวนท่า อันได้แก่ พิรุณร้องไห้ แข่งแสงสูรย์ นารายทรงจักร และไอยราฟาดงวง
แม่ ไม้หลัก หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ตามสไตล์ เด็กออนไลน์อย่างเราๆว่า skill มี 3 แม่ไม้ด้วยกันคือ คลุมไตรภพ ย้อนฟองสมุทร และ ตลบสิงขร
คลุมไตรภพ จะเป็นการ วาดดาบสองเล่ม ประสากันเป็นรูป เลข 8

ตลบสิงขน จะวาดดาบวนอยู่บริเวณเอว
ส่วน ย้อนฟองสมุทร จะคล้ายคลึงกับ คลุมไตรภพ แต่จะอยู่ในรูปของ 8 สองตัวต่อกัน
ยังไม่หมดนะครับ แม่ไม้ สาม ท่าหลักนี้ สามารถแตกได้เป็น ท่ารำอีก 12 ท่า อันได้แก่
เสือ ลากหาง ไอยราฟาดงวง ท่ายักษ์พระรามแผลงศร สอดสร้อยมาลา เรียงหมอน มอญส่องกล้อง เงื้อฟันสีดา เชิญเทียนตัดเทียน ลับหอกลับดาบ ช้างประสานงา กาล้วงไส้ พญาครุฑยุดนาค

(พิเศษ ภาพนี้ใครหาแบบที่มันชัดๆ แจ่มๆ กว่านี้มาได้ มีรางวัล)
และสำหรับท่าการ์ด อันเป็นท่ามาตรฐาน สำหรับวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวนั้น วิชาดาบอาทมาฏของเราก็มีครับ
โดย ท่าการ์ดของดาบอาทมาฏ จะต่างกับวิชาดาบอื่นๆ โดยจะก้าวขาข้างหนึ่งออกมาข้างหน้า แขนข้างเดียวกัน ยื่นออกมา หันด้านฝ่ามือเข้าหาลำตัว ดาบตั้งพาดผ่านดวงตาและคิ้ว ส่วนดาบอีกข้างทิ้งราบลงกับลำตัว ปลายยกขึ้นชี้ไปยังหน้าอกของศัตรู(เตรียมจ้วง ย่ะๆๆ อะตุ้บอะตั้บ อ่ะจ้ากกก~ แกมันตายไปแล้ว~ พอๆไม่ใช่ละ = =”)
จากท่าการ์ดนี้ เวลาฟัน เราจะใช้ดาบที่อยู่ข้างหน้าฟัน แล้วก็รีบรูดกลับไปอยู่ข้างลำตัว แล้วเอาดาบที่เคยอยู่ ข้างลำตัว ขึ้นมาตั้งพาดไว้ข้างหน้าแทน โช๊ะเข้า ให้ อย่างนี้เรียกไม่มีช่องว่างให้ฟันสวนเลยครับ เข้าคติของวิชานี้เอง ท่ารุกคือท่ารับ ท่ารับคือท่ารุก ส่วนแม่ไม้ทั้ง 3 และ ท่ารำทั้ง 12 ท่า ก็ใช่ว่าจะตายตัวนะครับ คนที่ใช้สามารถ ใช้วิจารณญาณ และความฉลาดส่วนบุคคล นำไปดัดแปลง พลิกแพลง ปะติดปะต่อออกไปได้อีกเป็นร้อยเป็นพัน แล้วแต่คนจะคิดเลยครับ ผมจะยกตัวอย่างนึง ที่อ.มาโนทย์ ได้โชว์เป็นตัวอย่างให้กับ หนังสือ “สารคดี” ได้ดูนะครับ
ครู มาโนทย์กำลังจะแสดงท่วงท่าพลิกแพลงของดาบอาทมาฏให้เราชม เขายืนประจันหน้ากับศิษย์เอก คราวนี้ทั้งสองใช้ดาบเหล็ก ยืนจดจ้องกันในท่าการ์ด แล้วเข้าสู่ท่าคลุมไตรภพ
ลูกศิษย์เป็นฝ่ายบุกเข้ามาก่อน แทงดาบขวาเข้ามา ครูมาโนทย์รับด้วยลูกไม้ท่าพิรุณร้องไห้ โดยดาบในมือซ้ายพลิกปลายลงพื้น ใช้คมต้านดาบที่แทงมา พร้อมถอยขาขวาไปข้างหลังแล้วพลิกเหลี่ยมกลับตัวไปทางขวา ดาบในมือขวาแทงย้อนกลับมาด้วยท่าไผ่พันลำ เข้าสู่แผ่นหลังอันเป็นจุดอับของคู่ต่อสู้ จากนั้นหมุนตัวทางขวาอีกครึ่งรอบ หันมาประจันกับด้านหลังคู่ต่อสู่ โดยคมดาบขวากดตรงหลังคอเอาไว้ ขาซ้ายยกขึ้นเตรียมเขย่งก้าวกระโดด ปาดดาบขวาเฉือนลง ตามด้วยดาบซ้ายฟันเฉียงจากด้านบนสู่แผลเดิมตรงหลังคอเพื่อเผด็จศึก ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ยังดีที่เป็นเพียงการสาธิต เราจึงไม่ได้เห็นเลือดจากคมดาบ
ครูมาโนทย์ให้ลูกศิษย์แทงมาอีกครั้ง เขาใช้ดาบซ้ายพลิกปลายลงรับดาบขวาที่แทงมา พร้อมพลิกตัวเบี่ยงไปทางขวาคู่ต่อสู้เช่นเดิม แต่คราวนี้แทนที่จะแทงดาบขวาย้อนกลับในท่าไผ่พันลำ กลับพลิกข้อมือให้ปลายดาบซ้ายชี้ขึ้นฟ้า แล้วจิกคมปลายดาบลงกลางหัวคู่ต่อสู้ด้วยลูกไม้ท่าไอยราฟาดงวง
ทั้งหมดคือการพลิกแพลงด้วยท่าต่อท่า แต่ลูกไม้ท่าเดียวกัน ยังสามารถแตกตัวผสมกับท่าอื่นได้อีกเป็น ยังไงครับ ยอดไปเลยใช่ปะ ยังครับยังไม่หมด ความร้ายกาจของวิดาบดาบอาทมาฏยังไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ นอกจากนี้ยังมีวิชาชั้นสูงครับ ที่ ครูมาโนทย์ และ อ.ชาติชาย ไม่ยอมเผยแพร่ครับ นอกจากกับศิษย์คนที่ไว้ใจแล้วจริงๆ นั่นคือ เคล็ดวิชา 18 ฝ่ามือสยบมังกร แห่ง บู๊ตึ้ง (ไม่ใช่ละ = =”) ล้อเล่นน่ะครับ แก้เครียด แต่มันคือ เคล็ดวิชา ตัดข้อตัดเอ็น 27 ท่า และกระบวนท่า หนุมานเชิญธง 48 ท่า อันเป็นวิชาที่ จะใช้ต่อสู้กับคนจำนวนมาก เช่น 10 -20 รุมเรา คนเดียว ประมาณนี้ แต่ตามความคิดผมนะครับ วิชาตัดข้อตัดเอ็นเนี่ย ใครเรียนอนาโตมี่ มาน่าจะเอาพวกลูกไม้ธรรมดาๆไปดัดแปลงได้นะ ส่วนวิชาหนุมานเชิญธง ชื่อมันชวนนึกไปถึง วิชาดาบ gatka ของอินเดียเลยแฮะ จะคล้ายๆกันหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจแฮะ ถ้าใครอยากรู้ว่าวิชา gatka เป็นเช่นไร กระผมก็ขอเชิญท่านไปยัง www.youtube.com หากใครเล่าเป็นเหล่าสาวก ToT องค์กรโทรศัพท์และคบนาคมอันสุดยอด และยอดสุด แห่งประเทศไทย ก็ขอเชิญยัง www.nincloack.com หากใครใช้ ninjacloack ไม่ได้ก็ให้ไปติดต่อ กับ ท่านคริสตัล หรือ ท่าน alserina เองเน้อ เขามีแหล่ง แต่ผมจำม่ายด้าย~
อ้ะ สำหรับคนที่มีความคิดแนวลบ คิดว่า ที่อาจารย์ทั้งสองท่านไม่ยอมสอนวิชาขั้นสูงทั้งสองเพราะรู้ไม่จริง อันนี้ ครูมาโนทย์ ได้แสดงกระบวนท่า หนุมานเชิญธง ต่อสู้กับ คนจำนวนมากต่อหน้าพระพักตร์ สมเด็จพระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ในโอกาสที่พระองค์เสด็จเยี่ยมชมสำนักดาบอาทมาฏนเรศวร มาแล้วนะขอบอกๆ
สำหรับ บทความและเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ ดาบอาทมาฏของผม ก็ขอจบลง แค่นี้แล้วกันนะครับ หากใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติม ก็คงต้องไปติดต่อถามที่ทางสำนักเองแล้วมั้งครับ หรือถ้ามีความสามารถจะหามาเพิ่มเติม ก็ นำมาลงเพิ่มได้เลยนะครับ ส่วนที่ตั้งสำนัก พอรู้คร่าวๆมาว่า อยู่ ซอยสาธร 7 แถว คลองด่านละมั้ง (ใช่ป่าวฟะ = =”) ขออภัยที่ความรู้ไม่ดีพอในเรื่องนี้นะครับ แล้วไว้จะเอาอะไรดีๆ มาให้อีก
แต่น่าเสียดายที่ครูมาโนทย์ บุญญมัด ปรมาจารย์ดาบอาทมาฏได้เสียชีวิตลงแล้ว
วันนี้(28 เม.ย.53)เวลาประมาณ 08.30น. ครูมาโนทย์ฯ ปรมาจารย์ดาบอาทมาฏได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัยเพียง 50 ปี เนื่องจากจมน้ำที่คลองแสนแสบ ศพจะตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดนาวง ศาลา 4 เลขที่ 177 หมู่ที่ 1 ตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี วันพรุ่งนี้(29 เม.ย.53) ขอเชิญลูกศิษย์ และผู้มีใจรักวิชาศิลปการต่อสู้ร่วมไว้อาลัยตามสถานที่ดังกล่าว
คลิปอาทมาฎ๓
http://www.youtube.com/watch?v=kb1JpIikF_Q
คลิปอาทมาฎ๔
http://www.youtube.com/watch?v=qkpz5jPLfe0

เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
5 จอมโจรขมังเวทแห่งที่ราบสูง: ตำนานเสือร้ายภาคอีสานที่โลกต้องจดจำ
ใครที่ยังตั้งรหัสผ่านง่ายๆ รีบเปลี่ยนด่วน! เพราะไม่ปลอดภัยอาจโดนเจาะได้
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
บทเรียนรักกลางสมุทร: อดีตลูกเรือสำราญเตือนสติ ทำไม "ความรักในที่ทำงาน" บนเรือถึงเป็นดราม่าที่หนีไม่พ้น
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
เปิดแฟ้มลับ 5 อันดับคดีมนต์ดำสะเทือนราชสำนักไทยHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เปิดแฟ้มลับ 5 อันดับคดีมนต์ดำสะเทือนราชสำนักไทย
บุรีรัมย์เดือด! ศึกชิงเก้าอี้ สส. วันแรกคึกคัก 'ไหม ศิริกัญญา' บุกถิ่นพรรคสีน้ำเงิน ท้าชนกลุ่มอำนาจเดิม
หลังหยุดยิง จีนบริจาคเงินและของให้เขมร มูลค่า 20 ล้านหยวน