ตลาดอสังหาฯ กันยายน 2568 ดีขึ้น คาดทั้งปีลดลงแค่ 33% ของปีก่อน

            ตลาดอสังงหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่วิเคราะห์จากการเปิดตัวใหม่ในเดือนกันยายน 2568 กระเตื้องขึ้นกว่าเดือนก่อน และคาดว่าทั้งปีตลาดจะเปิดตัวลดลงราว 33% ไม่ได้มีสภาพตกต่ำมากเช่นที่เคยประเมินไว้

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) รายงานผลการสำรวจว่าในเดือนกันยายน ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนถึง 26 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายเปิดใหม่รวมทั้งหมด  6,074 หน่วย มีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 32,984 ล้านบาท  โดยในเดือนนี้การเปิดตัวโครงการใหม่พบว่าร้อยละ 88 ยังคงเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่และบริษัทในเครือที่ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด โดยเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดที่ระดับราคาปานกลางเป็นสำคัญ ส่วนแนวราบเน้นพัฒนาที่ระดับราคาปานกลางค่อนข้างสูงถึงระดับราคาสูง

            ประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ คือ อาคารชุด ซึ่งมีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่ 3,250 หน่วย (53.5%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 1,383 หน่วย (22.8%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 741 หน่วย (12.2%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด และมีจำนวนที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดเข้าสู่ตลาดมากที่สุด โดยส่วนใหญ่จะเป็นระดับราคาปานกลาง รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ที่ส่วนใหญ่จะเป็นระดับราคาค่อนข้างถูก

 ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คือ บ้านเดี่ยว 12,608 ล้านบาท (38.2%) รองลงมาคือ อาคารชุด 12,011 ล้านบาท (36.4%) ส่วนอันดับ 3 คือ ทาวน์เฮ้าส์ 4,448 ล้านบาท (13.5%) ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ

            ผู้ประกอบการหันมาเปิดโครงการในระดับราคาจับต้องได้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์กำลังซื้อที่ยังชะลอตัวจากเศรษฐกิจและดอกเบี้ย นอกจากนี้ยังส่งผลให้ภาพตลาดในเดือนนี้มีลักษณะเป็น “ตลาดสองขั้ว” คือ ตลาดกลุ่มบนที่ยังมีความต้องการต่อเนื่องจากผู้มีรายได้สูงซึ่งไม่ถูกกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจมากนัก ขณะที่ตลาดกลุ่มกลาง–ล่างต้องอาศัยโครงการที่มีราคาจับต้องได้ เพื่อรองรับดีมานด์จริงและการลงทุนปล่อยเช่า โดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดเช่ามีความเคลื่อนไหวต่อเนื่องและมีแนวโน้มเติบโต

            เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 7 บริษัท คือ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ตามลำดับ นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในเครือ และบริษัททั่วไปที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ อีกหลายบริษัท หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป

ตารางจัดอันดับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์และบริษัทในเครือที่มีจำนวนหน่วยขายมากที่สุด 5 อันดับ

ตารางจัดอันดับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์และบริษัทในเครือที่มีมูลค่าโครงการมากที่สุด 5 อันดับ ดังนี้

            เมื่อเปรียบเทียบจำนวนโครงการที่เปิดใหม่รวม 9 เดือนแรกของปี 2568 มีจำนวนโครงการเปิดใหม่รวม 185 โครงการ น้อยกว่า 9 เดือนแรกของปี 2567 จำนวน 91 โครงการ หรือลดลง -33.0% (9 เดือนแรกของปี 67 มีจำนวนรวม 276 โครงการ) มูลค่าโครงการ 9 เดือนแรกของปี 2568 มีมูลค่าการโครงการรวม 195,763 ล้านบาท ลดลง 87,705 ล้านบาท หรือลดลง -30.9% (9 เดือนแรกของปี 67 มีมูลค่ารวม 283,465 ล้านบาท) และจำนวนหน่วยขายรวมของ 9 เดือนแรกปี 2568 มีจำนวน 29,399 หน่วย ลดลง 13,349 หน่วย หรือลดลง -31.2% (9 เดือนแรกของปี 67 มีจำนวนรวม 42,748 หน่วย) ตามลำดับ

            คาดว่าในปี 2568 ทั้งปีจะมีหน่วยขายเปิดใหม่ 42,000 หน่วย มากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ แต่ถือว่าลดลงจากปี 2567 (32% จาก 61,453 หน่วย) รวมมูลค่าประมาณ 276,000 ล้านบาท (ลดลง 33% จาก 413,773 ล้านบาท) หรือตกเป็นเงินหน่วยละ 6,571 ล้านบาท สถานการณ์จึงไม่ได้ย่ำแย่มากเท่าที่เคยคาดการณ์ไว้

หมายเหตุ: บทความนี้ลงในประชาชาชาติธุรกิจ วันที่ 22 ตุลาคม 2568

https://www.prachachat.net/property/news-1906104

            แม้ตลาดอสังหาฯ ปี 2568 จะชะลอตัวลง แต่ “ข้อมูลที่ถูกต้อง” คือโอกาสสำหรับนักลงทุนและผู้พัฒนาโครงการที่มองเห็นภาพตลาดจริง บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) พร้อมเป็นที่ปรึกษาด้านการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน เพื่อให้ทุกการตัดสินใจของคุณ “แม่นยำ มั่นใจ และมีข้อมูลรองรับ”
            ติดต่อสอบถามได้ที่ คุณสัญชัย - เจ้าหน้าที่การตลาด โทร. 02-295-3905 ต่อ 105