6 ความรู้สึกที่สัมผัสได้เมื่องดน้ำหวานครบหนึ่งเดือน

เดี๋ยวนี้น้ำหวาน น้ำชงต่าง ๆ แทบจะงอกเป็นอาการหมู่ที่ 6 ของคนในยุคนี้กันแล้ว ซึ่งเชื่อว่าเราทุกคนต่างรู้ดีว่าโทษของน้ำชงเหล่านี้มีมากกว่าประโยชน์อย่างแน่นอน แต่จะทำไงในเมื่อมันติด! ทั้งคาเฟอีนและน้ำตาลที่อยู่ในเครื่องดื่ม แต่ถ้าเราลองหักดิบสัก 30 วันล่ะ? จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเราบ้าง มาดูกัน

1. ความโหยหาน้ำตาลลดลงมากในสัปดาห์ที่สอง

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คนที่ติดน้ำชงงอมแงมขนาดนั้น ถ้าหักดิบเข้าสัปดาห์ที่สอง ความอยากน้ำตาลจะเริ่มหายไปอย่างน่าประหลาดใจ 

2. รู้สึกตัวเบาลง

บางคนน้ำหนักลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากแคลอรี่ที่ได้ก่อนหน้านั้นมาจากน้ำตาลในเครื่องดื่มเน้น ๆ เลย แต่บางคนแม้น้ำหนักไม่ลด แต่ก็รู้สึกตัวเบาเนื่องจากได้ตัดแคลอรี่จากน้ำตาลลง 

3. รู้สึกสดชื่นขึ้น ผิวพรรณดีขึ้น

นั่นเพราะเมื่อร่างกายเราไม่ได้ดีดน้ำตาลอีกต่อไป ทำให้ลดอาการง่วงเหงาหาวนอนหลังน้ำตาลหมดฤทธิ์ได้ แต่ทั้งนี้จะต้องต่อสู้ด้วยระยะเวลากันอยู่ประมาณนึงเลย ต้องงดไปจนกว่าร่างกายจะปรับสู่จุดสมดุล ผลพลอยได้คือผิวดีขึ้นเนื่องจากน้ำตาลคือตัวที่กระตุ้นให้ร่างกายอักเสบ พองดได้ผิวก็สดใสเลย

4. ไม่รู้สึกอยากของหวานหลังทานข้าวเสร็จ

เมื่อก่อนต้องมีของหวานตบท้ายมื้ออาหาร แต่พอลดปริมาณน้ำตาลลงได้ ความอยากของหวานหลังกินข้าวอิ่มก็น้อยลงตามไปด้วย

5. ประหยัดเงิน

เงินแต่ละวันที่ได้กลับคืนมาไม่ใช่น้อย 40-60 บาท พอคูณเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน ก็จะเจอว่าเราล้มละลายได้เพราะน้ำชงจริง ๆ 

6. ภูมิใจในตัวเอง

ถ้าเรายังไม่เคยทำได้ และพอทำสำเร็จโอ้โห~ แทบไม่อยากจะกลับไปแตะอีก เพราะเสียดายสถิติที่ทำมาไงล่ะ รู้สึกดีกับตัวเองสุด ๆ ไปเลย

และนี่คือ 6 ความรู้สึกที่คุณจะสัมผัสได้หลังจากงดน้ำหวานได้เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน ใครที่กำลังพยายามอยู่หรือกำลังคิดจะเริ่ม ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทำได้อย่างสำเร็จนะคะ