รักซ่อนปม เงินตรา เพื่อนสนิทหรือแฟน

เรื่องเล่า เกี่ยวกับความรัก (22/7/68)
ชื่อเรื่อง รักซ่อนปม เงินตรา เพื่อนสนิทหรือแฟน
เรื่องของความรักนั้น เกี่ยวกับจิตใจของมนุษย์เป็นอะไรที่อธิบายได้ยาก บางครั้งก็เหมือนที่จะเข้าใจง่าย แต่ทว่าในบางครั้งก็เหมือนเข้าใจยากมากๆ เหมือนที่เขาว่ากันว่าจิตใจของมนุษย์นั้นยากแท้จะหยั่งถึงได้ การที่คุณมีความรักนั้นเป็นสิ่งที่ดี ที่หัวใจสองดวงนั้นรู้สึกดีต่อกัน ความรักนั้นมีหลากหลายรูปแบบอย่างเช่นความรักที่จะเล่าเรื่องต่อไปนี้นั้นเป็นความรักระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง ที่ดูยุ่งเหยิง ซับซ้อน และดูไม่ชัดเจน การมีความรักในบางคู่นั้นบางคนนั้นก็ต้องเป็นฝ่ายยินยอม ทำตามที่อีกฝ่ายนั้นต้องการถึงแม้จะยอมเสียความเป็นตัวตนของคุณเพื่อคนที่คุณรัก เสียเงิน เสียเวลา และหลายๆอย่าง นั่นก็เพราะว่าจิตใจนั้นไม่ได้คิดถึงเรื่องผลประโยชน์ หรือคิดเรื่องความจน ความรวย หรือมีการศึกษาสูงต่ำ สถานะทางสังคม และอื่นๆๆๆ ในระยะแรกๆนั้นเมื่อแรกรักอะไรๆก็ดูดีไปหมด เช่น เราคบหากันเพราะใช้หัวใจ ไม่ได้ใช้สมอง ถึงเธอนั้นจะจนก็ไม่เป็นไร เพราะการที่ฉันจะคบใครสักคนนั้นฉันคบเพราะหัวใจ ไม่ได้สนใจเรื่องเงินทองใด ไม่ได้มีเรื่องทรัพย์สินเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่ออีกฝ่ายได้ยินคำพูดนั้นก็รู้สึกดี ซาบซึ้งในหัวใจไม่ใช่น้อย หัวใจนั้นก็รู้สึกพองโต จากที่ไม่เคยคิดจะคบหากับคนที่มีฐานะทางการเงินที่แตกต่างกันมาก ก็เลยเปลี่ยนความคิด และคิดว่าความรักนั้นคงสามารถชนะทุกสิ่งได้จริง แต่ความเป็นจริงในการใช้ชีวิตของมนุษย์หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ชีวิตไม่ได้สวยงามขนาดนั้น
โลกไม่ได้ใจดีกับทุกคน
ผู้หญิงคนคนแรกให้นามสมมุติว่า เอ เธอนั้นเกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่ดี ฐานะ การศึกษาดี มีครอบครัวที่อบอุ่น เธอเรียนเก่ง เมื่อเรียนจบก็มีงานที่ดีเงินเดือนดีๆทำ ชีวิตของเธอนั้นมีแต่คนเอาใจ ตามใจ เข้าหา อยากรู้จัก ไม่ค่อยมีใครขัดใจเธอ เธอเองจึงติดนิสัยที่ค่อนข้างจะเอาแต่ใจ ไม่ค่อยแคร์ใคร เพราะว่าชีวิตของเธอนั้นสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งพาใคร เพราะมีความพร้อมในทุกๆด้าน เธอจึงเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีอีโก้สูงพอสมควร
ส่วนผู้หญิงอีกคนใช้นามสมมุติว่า ซี เธอเกิดจากครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง ไม่ได้ร่ำรวย ชีวิตนั้นต้องดิ้นรนตั้งแต่เด็ก เรียนดี หลังเรียนจบเธอก็ทำงานที่มีรายได้ไม่ค่อยจะมากมายอะไรนัก ชีวิตนั้นต้องมีแต่คำว่าอดทนอดกลั้นมาตั้งแต่เด็กๆหลังจากที่ออกจากงานในช่วงอายุ 35 ปี เธอก็ทำการค้าขายออนไลน์ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่การค้าขายนั้นรุ่งมาก ก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง พอนำมาลงทุนเกี่ยวกับปศุสัตว์ก็ขาดทุนย่อยยับ ทำให้เธอนั้นไม่เหลือเงินเก็บเลย ต้องกู้หนี้ยืมธนาคารมาเพื่อใช้จ่ายหมุนเวียนในครอบครัวไปก่อน เพราะในครอบครัวของเธอนั้นมีเธอเป็นเสาหลักหาเลี้ยง พ่อแม่ที่แก่ชรา ในระหว่างนั้นเธอก็เริ่มต้นทำงานอิสระออนไลน์ไปด้วย คือการเขียนนิยาย ซึ่งก็ไม่ได้สร้างรายได้อะไรมากมายนัก เพราะพึ่งเริ่มต้นเขียนไม่ใช่นักเขียนดังที่มีแฟนคลับเยอะแยะอะไร
เมื่อโชคชะตานั้นได้นำพาให้สองสาวนั้นได้รู้จักกัน ในช่วงที่คบหากันแรกๆอะไรๆก็เหมือนจะดูดีไปหมดทุกอย่าง เอ เธอนั้นก็พยายามที่จะปรับตัวเพื่อให้สามารถอยู่กับครอบครัวของ ซี ได้ โดยเธอเองนั้นก็ช่วยจ่ายค่าอาหาร และอย่างอื่นให้กับครอบครัวของซี เพราะรู้ว่าซี เธอนั้นไม่ได้มีรายได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ซึ่งในระหว่างที่เอ เธอนั้นมาทดลองอยู่กับครอบครัวของซี นั้น ซีเธอก็รู้ดีว่าทั้งสองนั้นมีความแตกต่างกันมากในเรื่องความเป็นอยู่ ถึงเธอนั้นจะไม่มีเงินเลยในช่วงนั้น แต่เธอก็กดเงินบัตรเครดิตมาจำนวนหนึ่งเพื่อให้แม่ของเธอเอาไว้ใช้จ่ายซื้อของกิน พืชผัก น้ำแข็ง ปลาทู อื่นๆบ้างๆเล็กๆน้อยๆเสริมกันในช่วงเช้า เพราะเธอก็รู้ว่าเอ เธอเคยอยู่สบายเคยกินอาหารหลายๆอย่าง กินทีละเยอะๆ ถ้าอาหารน้อยก็กลัวเธอจะหิว
ในช่วงที่เอ นั้นทดลองมาอยู่กับซี ที่บ้าน ซีเธอนั้นไม่ได้ทำงานอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว นิยายก็แทบไม่ได้เขียนไม่ได้พิมพ์เลย จากที่รายได้น้อยอยู่แล้วก็กลายเป็นไม่มีรายได้เลย แต่ค่าใช้จ่ายต่างๆนั้นก็มีแต่เพิ่ม เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าประกันชีวิตพ่อแม่ อื่นๆ เพราะต้องคอยดูแล และอยู่เป็นเพื่อนเอ เพราะเธอนั้นเดินทางมาไกล และคงอยากใช้เวลาอยู่กับคนรักของเธอ เพราะว่าเอ เธอไม่เคยขัดสนเรื่องเงินทำให้เธอนั้นอาจจะเข้าใจ ว่าค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆเหล่านั้นที่บ้านของซี น่าจะสามารถจ่ายได้เธอจึงไม่ได้ไถ่ถามแต่อย่างใด ส่วนจิตใจของซีนั้นเธอก็รู้สึกเครียดอยู่พอสมควร เพราะว่า ค่าใช้จ่ายที่เธอต้องจ่ายเพิ่มนั้นมันเกินความสามารถของเธอ เพราะลำพังปกติก็กว่าจะหาเงินได้ในช่วงทีเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้มันยากมากสำหรับเธอ แต่ช่วงนั้นเธอก็ไม่ได้พูดขอเงินอะไรกับเอเพื่อมาใช้จ่ายในครอบครัว เพราะซีเธอนั้นยังคิดบวกในใจ ว่าสถานะทางการเงินของเธอนั้นอาจจะดีขึ้นถ้าหากโชคดี มีลูกค้ามาซื้อสินค้าที่เธอขาย แต่ว่ารอแล้วรอเล่าการค้าขายก็เงียบกริบ เธอจึงมีแต่หนี้สินที่ทยอยเพิ่มขึ้นทุกวัน
แล้วจู่ๆๆวันหนึ่งเอ ก็พูดขึ้นมาว่าเธอนั้นอยากจะย้ายมาอยู่กับซีแบบถาวร แต่ว่าเธอมีข้อแม้ว่า เธอจะพาเพื่อนของเธอที่ให้นามสมมุติว่า เอฟ นั้นมาอยู่ด้วยกันที่บ้านของซี โดยเธอนั้นให้เหตุผลว่าให้มาช่วยดูแลเธอเพราะว่าเธอนั้นมีปัญหาสุขภาพ เพราะว่าเอฟนั้นเป็นพยาบาล เพราะถ้าเอฟมาอยู่กับเธอไม่ได้เธอก็ไม่สามารถมาอยู่กับซีแบบถาวรได้
ครั้งแรกที่ซีเธอนั้นได้ยินสิ่งที่เอพูด นั่นก็เล่นเอาเธอนั้นอึ้งพูดอะไรไม่ออก รู้สึกจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะว่าเธอนั้นมีประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเอและเอฟ อยู่ก่อนหน้านี้ คือในครั้งแรกที่เอและซี นั้นได้เจอกัน เอฟเธอก็มาด้วยเธอเป็นคนขับรถมาส่งเอที่บ้านของซี แล้วในขณะที่เอนั้นกำลังเพลิดเพลิน พูดคุยทำตัวสนุกสนานอยู่กับครอบครัวของซี เอฟเธอนั้นทำหน้ามุ้ย แสดงออกถึงอาการไม่พอใจ แล้วก็ขับรถยนต์ของเธอเบิ้ลเครื่องยนต์เสียงดัง ขับออกไปเที่ยวในตัวจังหวัดเพียงลำพังโดยไม่บอกใคร อาการที่แสดงออกนั้นมันเหมือนการแสดง อาการหวง หึง เอ นั่นเอง แล้วที่สำคัญเอฟ เธอนั้นเอารูปภาพของเอเป็นภาพพื้นหลังและภาพพักหน้าจอ มันก็เหมือนอาการของคนเป็นแฟนกัน เวลาที่ซีนั้นเดินไปใกล้เธอ เอฟก็จะกดปุ่มด้านข้างของโทรศัพท์มือถือให้หน้าจอสว่างขึ้นเพื่ออยากให้ ซีนั้นเห็นภาพของเอ ที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอ ซีเธอนั้นก็ไม่ได้โง่เง่าพอที่จะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เธอนั้นรู้ว่าเอฟเธอคงอยากจะบอกทางอ้อมว่า เอ คือผู้หญิงของเธอ เป็นคนรักเป็นแฟนของเธอนะอะไรประมาณนั้นร้ายไม่เบา เพราะมันสามารถสร้างความหวาดระแวงให้ซีได้ไม่น้อยและเธอนั้นก็ไม่มีความสุขเอาซะเลย แสลงใจทุกครั้งที่เห็นเอและเอฟนั้นใกล้ชิดกัน เมื่อเธอบอกสิ่งที่เธอนั้นรู้สึกกับเอ สิ่งที่เอนั้นตอบกลับมาก็คือ ว่า มีคนรักดีกว่ามีคนเกลียดไหม ซึ่งเป็นคำตอบที่ไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นมาเลย เพราะถ้าคิดในทางกลับกัน ถ้าเกิดว่าเป็นฝ่ายของซีบ้าง ที่อาจจะพาเพื่อนที่รักที่ชอบเธอมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านด้วยกัน แล้วบอกเอว่าไม่มีอะไร ไม่ได้คิดอะไร แล้ว เอเธอจะรู้สึกเช่นไร คิดตรองดูให้ดี ใจเขาใจเรา
การที่คนเราที่มีปัญหาชีวิตที่ต้องแบกมากพออยู่แล้ว สุมอยู่ในสมองเต็มไปหมดเครียดอยู่แล้ว พอต้องมาเกิดปัญหาเกี่ยวกับความรักเพิ่มเข้ามาอีก ซีเธอนั้นต้องใช้ความอดทนอย่างมาก ข่มเก็บความไม่ชอบใจไว้ เพื่ออยากที่จะทำตามความต้องการของเอ ทั้งๆที่ภายในจิตใจนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ อึดอัด สงสัย ระแวง นั้นมันทรมานนะ ในตอนแรกที่ซีเธอนั้นคิดว่าเธอนั้นจะสามารถยอมรับที่จะให้เอ นั้นพาอีกคนมาอยู่ที่บ้านด้วยได้ แต่พอยิ่งเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของทั้งสองสาว ทั้งที่ได้เห็นกับตาและรับรู้ได้ยินมากับหู มันดูเหมือนกับว่าสิ่งที่ซีเธอนั้นคิดระแวงมาตลอดนั้นเหมือนจะเป็นความจริงและเหมือนว่าซีเธอนั้นกำลังโดนเอและเอฟ ร่วมมือวางแผนกันเพื่อเหตุผลอะไรบางอย่าง ที่ซีก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เช่น ทุกครั้งที่เอ นั้นอยู่กับ ซี ที่บ้านของซี เอฟเธอนั้นมักจะชอบส่งข้อความหา ไม่ก็โทรหา วีดีโอคอลหาทั้งวี่ทั้งวัน พฤติกรรมที่ทำนั้นมันเหมือนแสดงความเป็นเจ้าของ หึง หวง เหมือนคนที่เป็นแฟนกันมากกว่าเป็นเพื่อน เช่น ส่งข้อความมาหาว่าคิดถึงกันบ้างหรือเปล่า หรือไม่มีอะไรนิดๆหน่อยๆเรื่องราวเล็กๆน้อยๆเท่าขี้มด ก็ไลน์มาบอก มันดูแปลกๆเพราะอายุของเอฟก็ไม่ใช่น้อยๆเยอะกว่า ซีอีก จะต้องปรึกษาคนที่เป็นเด็กกว่าอะไรนักหนา หรือเวลาที่วีดีโอคอลกันเวลาไปไหนเอฟก็จะทำเหมือนโชว์ให้เพื่อนของเธอดูว่านี่นะ ฉันกำลังคุยกับแฟนของฉันอยู่
หรือในบางทีก็หลุด หยอกล้อทำท่าทางเหมือนจะถึงเนื้อถึงตัว และส่งสายตาหวานๆให้กันต่อหน้าต่อตาของซี นั่นยิ่งทำให้ความรู้สึกของซี นั้นยิ่งย่ำแย่ลงทุกวัน มันรู้สึกเจ็บจุก เบื่อหน่ายกับความสัมพันธ์แบบนี้ เธอนั้นรู้สึกเหมือนเป็นคนโง่ๆหัวอ่อน ที่เอนั้นคิดว่าจะทำอะไรกับเธอก็ได้ เธอต้องทำตามเพราะว่าเอนั้นเจือจุนครอบครัวและตัวของซี และเห็นว่าซีนั้นเป็นแค่ทางเลือกอีกทางหนึ่งของเธอก็เท่านั้น …แต่ความจริงที่ซียอมเอ ก็เพราะว่าความรักและรู้สึกเป็นห่วงแม้ใจจริงลึกๆจะมีแต่ความสงสัยเต็มสมองไปหมดถึงความสัมพันธ์ของเอและเอฟ และสิ่งที่เอกับเอฟนั้นทำมันก็ดูแปลกๆน่าสงสัย ที่ว่าจะมาอยู่ที่บ้านของซีด้วยกันนั้นเหมือนคนทั้งสองนั้นวางแผนอะไรกันบางอย่าง ที่ซีก็ได้แต่สงสัยว่าคืออะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆๆๆคำที่เอบอก ว่าทำทุกอย่างเพื่อให้เอและซีได้อยู่ด้วยกันนั้น ซีเธอไม่เชื่ออีกต่อไป เธอคิดว่าเอนั้นวางแผนมาเพื่อให้เธอนั้นได้อยู่กับเอฟมากกว่า เพราะคนที่มีความรู้สึกพิเศษให้กันนั้นมันมักที่จะเผลอตัวแสดงตัวตนออกมา เช่น เวลาที่อยู่กับ ซี เอ เธอนั้นมักจะพูดถึงแต่เอฟ บางทีก็พูดเหน็บว่าซีไม่สามารถทำอะไรเพื่อเธอได้สักอย่าง ไม่เหมือนเอฟเลย ที่ทุ่มเทและทำเพื่อเธอได้ทุกอย่าง เอฟดีอย่างนั้นเอฟดีอย่างนี้ แต่กับซีที่เธอบอกว่ารักนั้นเธอมักจะแสดงให้เอฟเห็นเสมอว่า ซีเป็นเหมือนแค่ลูกจ้างที่ทำอะไรต่างๆให้เอ เพราะว่าเอจ้าง เวลาทำอะไรเอก็ดูจะเกรงใจเอฟไปหมดทุกอย่าง มันมีแต่พฤติกรรมแปลกๆน่าสงสัยไปหมด อย่างตอนที่เอฟเธอนั้นมารับเอ ที่บ้านของซี เพื่อพากลับบ้าน เอก็จะทำเสียงดุๆใช้ซีให้ไปกางมุ้งให้เอฟ ทั้งๆที่ซีเธอนั้นรู้ว่าต้องกางให้อยู่แล้ว พอกางมุ้งให้แล้วก็ยังจู้จี้ให้ซีไปทับชายมุ้งให้เอฟอีก พอซีบอกว่าทำให้แล้วก็ทำท่าทางไม่เชื่อต้องเดินมาตรวจดูความเรียบร้อยอีก ทำยังกับว่าซีนั้นเป็นคนเลวร้าย ไม่พอใจแล้วจะแกล้งเพื่อนรักคนสนิทของเธออย่างนั้นแหละ คิดได้ยังไงว่าซีจะเป็นคนนิสัยแย่ ที่แยกแยะอะไรไม่ได้ขนาดนั้น
แล้วอีกอย่างหนึ่งที่ดูน่าสงสัยมากๆคือ ข้าวของเครื่องใช้จำนวนมากของเอ นั้นไปอยู่ที่ห้องของเอฟ รู้จักเพื่อนของเอฟเยอะมาก แถมเคยไปที่ทำงานของเอฟอีก มันเหมือนคนเป็นแฟนกันเลย
จุดที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นต้องจบสิ้นลง เพราะว่าซีเธอนั้นเอ่ยขอ
ใช้จ่ายกับเอ เพราะรู้ว่าเอเธอนั้นมีศักยภาพที่สามารถช่วยได้ ถ้าในสถานะปกติที่ซีเธอนั้นค้าขายดี พอมีเงินอยู่บ้างเธอก็คงไม่กล้าเอ่ยปากบากหน้าขอค่าใช้จ่ายกับเอ แต่ในตอนนี้เธอนั้นเดี้ยงและกรอบมากๆๆๆจึงลองเอ่ยปากขอดู แต่สิ่งที่เอเธอนั้นตอบกลับมาก็คือ ซีกล้าเอ่ยปากขอค่าใช้จ่าย กับเธอได้ยังไงถ้าเธอกับเพื่อนมาอยู่ที่บ้านของซีจริงๆ ซีก็ต้องรับหน้าที่รับภาระจ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟไป ….เพราะว่าเอเธอนั้นก็เคยจ่ายค่าอยู่ค่ากินตอนไปอยู่กับซีไปเป็นจำนวนมากยังจ่ายได้เลย
แม้ว่าซีจะอธิบายว่า เธอไม่มีเงินสักบาท ต้องไปกู้เงินบัตรเครดิตมาจ่าย แต่เอเธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ไม่สนใจว่า ซีจะต้องเป็นหนี้เป็นสินมาจ่าย เธออาจจะคิดว่า ซีนั้นคิดจะสูบเงินเธอ หญิงสาวจึงหงุดหงิดใส่ซี นั่นเองทำให้ความอดทนของซีสิ้นสุดลง เพราะสิ่งที่เธอนั้นคิดไว้สำหรับคนรักของเธอนั้นไม่น่าจะเป็นแบบนี้ คนที่บอกว่ารักกันมันน่าจะคุยกันได้ปรึกษากันได้ เช่น ถ้าจะขอเงินมาจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ทุกเดือน เราต้องลดค่าเครื่องดื่มมืนเมาลงนะ(ค่าเครื่องดื่มแค่ 1 สัปดาห์สามารถจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟเกือบ 3 -4 เดือนหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ) ค่าอาหารก็ลดลงบ้างก็ได้ แต่เธอเลือกที่จะทำหงุดหงิดใส่ซี แทน
…… 
พอปัญหาต่างๆๆๆๆทั้งปัญหาทางเศรษฐกิจ และปัญหาเรื่องความรักนั้นกรูกันเข้ามารุมเร้าซีมากๆ เธอนั้นก็เริ่มใช้สติคิด ได้ว่า ปัจจุบันที่บ้านของเธออยู่กันแค่ไม่กี่คนก็ลำบากกันขนาดนี้ เพราะคนเรานั้นไม่ได้มีแค่ค่าอาหาร มันยังมีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าประกันชีวิต ค่าใช้จ่ายหนี้สินรายปี ค่าใช้จ่ายหนี้สินรายเดือนหนี้บัตรเครดิต และอื่นๆอีกจิปาถะ แต่ทว่ารายได้ไม่ค่อยมีเลย แล้วถ้ามีคนมาอยู่ที่บ้านเพิ่มแล้วจะให้เธอรับภาระเพิ่มอีก มันก็เหมือนกับว่าเธอนั้นต้องมีหนี้สินเพิ่มขึ้นอีกทุกเดือน จากที่ต้องรับผิดชอบนั่นนี่มากมายในครอบครัว นั่นก็แสดงว่าชีวิตของเธอนั้นต้องลำบากมากกว่าเดิมมาก ทั้งจนไม่พอ ยังจะต้องมีหนี้สินเพิ่มทุกเดือนอีก ซีจึงยุติความสัมพันธ์กับเอ เพราะขืนดันทุรังคบกันไปต่อก็คงจะมีปัญหาอื่นๆอีกตามมา แล้วซีเธอก็รับไม่ได้ที่เอนั้นจะพา เอฟ มาอยู่ที่บ้านของเธอด้วยกัน ถึงซีจะรักเอมาก แต่นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดปล่อยให้เอเธอนั้นไปใช้ชีวิตของเธอ ให้เธอนั้นมีความสุขกับคนระดับเดียวกับเธอ กับคนที่เธอนั้นเห็นว่าเขาดีและช่วย
ซัพพอร์ตทางการเงินกับเธอได้ ไม่ใช่คนที่จะเป็นแต่ภาระของเธอ มันอาจจะเจ็บปวด แต่คนอย่างเธอนั้นก็คงทำได้เพียงเท่านี้
ชีวิตที่เหลืออยู่ของ ซี เธอนั้นก็แค่ขออยู่แบบสงบและทำในสิ่งที่เธอนั้นชอบให้ประสบความสำเร็จพยายามหาเงินมาใช้หนี้ให้บางเบา ดูแลพ่อแม่แก่ๆไปตามอัตภาพและความสามารถที่เธอนั้นจะทำได้ สำหรับเรื่องของความรักนั้น เธอเข้าใจดีแล้วว่าคนเราถ้าไม่มีเงินหรือความพร้อมในชีวิต ก็อย่าคิดที่จะมีแฟน มีคู่ครองเลย เพราะมันจะไปกันไม่รอด เพราะไม่มีใครที่อยากจะมีแฟนที่ดูเหมือนเป็นภาระของเขาหรอก ทุกคนต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่างหากล่ะ
จบเรื่องเล่า…..