(20+)สยองมาก 4 อันดับหนังที่ฆ่ากันจริงๆในเรื่อง
คําเตือน!
ภาพยนตร์ประเภทนี้มักจะถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและไร้จริยธรรม เนื่องจากการฆาตกรรมเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ในฐานะสื่อบันเทิง แต่ในความเป็นจริงการสร้างและการเผยแพร่สนัฟฟิมนั้นยังคงเป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันในสังคมและวงการบันเทิง
1. Cannibal Holocaust (1980)
หนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำให้คำว่า “สนัฟฟิม” กลายเป็นที่รู้จักคือ Cannibal Holocaust ผลงานของผู้กำกับ Ruggero Deodato ที่ออกฉายในปี 1980 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญที่รุนแรงที่สุดในยุคนั้น เรื่องราวของหนังเกี่ยวกับการค้นพบฟุตเทจจากทีมสารคดีที่หายตัวไปในป่าฝนของอเมซอน พวกเขาถ่ายทำเกี่ยวกับชนเผ่ากินคนในป่า ฟุตเทจที่พบมีฉากที่ดูเหมือนจะเป็นการฆ่าสัตว์และการทำร้ายมนุษย์อย่างรุนแรง ทำให้ผู้ชมเข้าใจผิดว่าอาจมีการฆาตกรรมจริงๆ ในการถ่ายทำ
การที่หนังมีการแสดงการฆ่าสัตว์จริงๆ และมีฉากที่ดูเหมือนการฆาตกรรมที่รุนแรงนั้น ทำให้ Cannibal Holocaust ถูกนำมาเชื่อมโยงกับ “สนัฟฟิม” เนื่องจากการถ่ายทำที่ดูเหมือนจะไม่แตกต่างจากภาพของการฆ่าคนจริงๆ ในการทำภาพยนตร์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในเวลาต่อมาผู้กำกับและทีมงานได้ชี้แจงว่าเป็นการแสดงที่ใช้เทคนิคพิเศษและไม่ใช่การฆาตกรรมจริง แต่มันก็ยังคงเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงอย่างมากในวงการหนังสยองขวัญ
2. 8mm (1999)
อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่พูดถึงประเด็นของ “สนัฟฟิม” คือ 8mm ที่กำกับโดยโจเอล ชูมัคเกอร์ ในปี 1999 เรื่องราวของการสืบสวนหาความจริงเกี่ยวกับคลิปวิดีโอที่ดูเหมือนจะเป็นการฆาตกรรมจริงๆ นักสืบที่รับหน้าที่สืบสวนได้เข้าไปในโลกมืดของการค้าขายภาพยนตร์ที่แสดงถึงความรุนแรงที่เกินเลย จากการค้นหาคลิปที่เรียกว่า “8mm” ที่มีเนื้อหาของการฆาตกรรมจริงๆ ซึ่งตัวเอกต้องพบกับความจริงที่น่าสะพรึงกลัวว่าอาจมีการฆ่าคนจริงๆ เพื่อทำการสร้างภาพยนตร์เหล่านี้
8mm ถือเป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนความกลัวและความสงสัยเกี่ยวกับการมีอยู่ของสนัฟฟิมในโลกแห่งความจริง แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องสมมติ แต่การสำรวจโลกที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและการสืบหาความจริงเกี่ยวกับการฆาตกรรมในคลิปวิดีโอกลับทำให้ผู้ชมตั้งคำถามเกี่ยวกับการสร้างสนัฟฟิมจริงๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ช่วยทำให้คำว่า “สนัฟฟิม” กลายเป็นที่รู้จัก
3. The Blair Witch Project (1999)
แม้ว่าภาพยนตร์เรื่อง The Blair Witch Project จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการฆาตกรรมหรือการสร้างสนัฟฟิม แต่มันกลับเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้เกี่ยวกับ “สนัฟฟิม” และการสร้างภาพยนตร์ในแนว “found footage” ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการบันทึกเหตุการณ์จริงๆ เรื่องราวของหนังเกี่ยวกับกลุ่มนักศึกษาที่หายตัวไปขณะถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับตำนานของแม่มดในป่า และสิ่งที่ถูกค้นพบในฟุตเทจนั้นเป็นภาพที่ดูเหมือนจริงมากจนทำให้ผู้ชมเชื่อว่ามันอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
การใช้รูปแบบ “found footage” ในหนังเรื่องนี้ช่วยกระตุ้นให้ผู้ชมเกิดความคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์อาจจะเป็นเรื่องจริงๆ ซึ่งเชื่อมโยงกับความกลัวเกี่ยวกับการมี “สนัฟฟิม” จริงๆ ที่บันทึกภาพการฆาตกรรมหรือความรุนแรง อย่างไรก็ตาม The Blair Witch Project เป็นหนังที่มีการสร้างขึ้นมาเพื่อให้ดูสมจริงและมีความหลอน แต่ก็ยังคงทำให้ผู้ชมตั้งคำถามเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์ที่ดูเหมือนจะเป็นเหตุการณ์จริง
4. Faces of Death (1978)
ภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงและถูกพูดถึงในฐานะ “สนัฟฟิม” อีกเรื่องหนึ่งคือ Faces of Death หนังสารคดีแนวสยองขวัญที่รวบรวมภาพเหตุการณ์การตายจากทั่วโลก ซึ่งบางฉากมีการถ่ายทำการฆาตกรรมจริงๆ หรือมีการแสดงความรุนแรงที่เกินเลย แม้ว่าจะมีการใช้เทคนิคพิเศษและไม่ใช่การฆาตกรรมจริงในหลายๆ ฉาก แต่บางคนก็ยังเชื่อว่า Faces of Death เป็นภาพยนตร์ที่แสดงถึงการฆาตกรรมจริง
แม้ว่าผู้สร้างภาพยนตร์จะชี้แจงว่าไม่ใช่การฆาตกรรมจริงๆ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับกลายเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำให้ “สนัฟฟิม” กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในวงการภาพยนตร์
แม้ว่าภาพยนตร์เหล่านั้นจะเป็นการแสดงหรือการสร้างเรื่องขึ้นมา แต่ก็ยังคงทำให้เกิดความสงสัยและความกลัวเกี่ยวกับการมีอยู่ของการฆาตกรรมจริงในภาพยนตร์









