10 สัตว์ที่น่าทึ่งที่สามารถพองตัวได้ / 10 Amazing Animals That Can Inflate Themselves

        ในบรรดาสัตว์นับพันชนิดที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติ มีสัตว์เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น ที่สามารถดึงดูดความสนใจด้วยรูปแบบการใช้ชีวิต บางชนิดด้วยอาหาร และบางชนิดด้วยสีสันที่น่าสนใจ แต่เราจะไม่พูดถึงสัตว์เหล่านั้นในวันนี้ เพราะในบทความนี้ เราจะพูดถึงสัตว์ที่น่าทึ่งที่สุด 10 ชนิด ซึ่งสามารถพองตัวเองได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง...

        10. Frigatebird (Fregata magnificent)
นกฟริเกต เป็นนกทะเลขนาดใหญ่ รูปร่างเบา มีขนนกสีน้ำตาลดำ ปีกแคบยาวและหางที่แยกเป็นแฉก โดยตัวผู้มีถุงสีแดงที่มีลักษณะโดดเด่น ซึ่งจะพองตัวเพื่อดึงดูดคู่ครอง วิธีการพองลมของนกฟริเกตนั้นค่อนข้างโบราณกว่าเพราะว่ามันยากในการรับอากาศเข้าคออย่างเพียงพอ เมื่อเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง นกตัวผู้จะค่อยๆ พองถุงใต้คอจนกลายเป็นลูกโป่งสีแดงสด ที่มีขนาดเกือบครึ่งหนึ่งของตัว โดยผลที่ออกมาจะคล้ายกับลูกบอลชายหาดที่ห้อยลงมาจากลำคอ

        9. Puff adder (Bitis arietans)
งูพัฟแอดเดอร์ เป็นงูพิษที่พบในทุ่งหญ้าสะวันนาและทุ่งหญ้าในแอฟริกาและคาบสมุทรอาหรับ เป็นงูพิษที่มีส่วนรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตจากงูกัดมากที่สุดในแอฟริกา เมื่อถูกคุกคาม งูพิษจะพองตัวส่วนบนและส่งเสียงฟ่อเพื่อขู่ผู้ล่าถึงแม้ว่างูพิษชนิดนี้จะเคลื่อนที่ได้ช้า แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องการโจมตีที่รวดเร็ว โดยสามารถโจมตีได้ภายใน 0.25 วินาที หลังจากถูกคุกคาม พิษนี้มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ความเสียหายของเส้นประสาท และเนื้อเยื่อตาย

        8. Elephant seals (M. angustirostris)
แมวน้ำช้างเป็นแมวน้ำขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทร ได้แก่ แมวน้ำช้างเหนือและแมวน้ำช้างใต้ แมวน้ำช้างได้ชื่อมาจากจมูกขนาดยักษ์ที่พองได้ที่เต็มไปด้วยอากาศ ซึ่งมีลักษณะคล้ายงวงโดยตัวผู้สามารถส่งเสียงคำรามที่ดังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูผสมพันธุ์ จมูกที่พองออกนั้นมีลักษณะคล้ายลูกโป่งรูปวงรีที่ติดอยู่กับใบหน้า จมูกของแมวน้ำช้างเหนือมีความยาวมากถึง 29 เซนติเมตร

        7. Siamang (Symphalangus syndactylus)
ชะนีเซียมัง หรือชะนีดำใหญ่ มีถิ่นกำเนิดในป่าของอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย เป็นชะนีที่ใหญ่ที่สุด โดยสูงได้ถึง 1 เมตร และมีน้ำหนักได้ถึง 14 กิโลกรัม ถุงคอขนาดใหญ่ ที่พบในทั้งตัวผู้และตัวเมียสามารถพองได้เท่ากับขนาดของหัวชะนี เมื่ออากาศที่ขับออกมาจากปอดเดินทางผ่านกล่องเสียง จะสะท้อนภายในถุงเหมือนซับวูฟเฟอร์ในลำโพง ซึ่งโดยปกติจะมีระดับเสียงสูงถึง 100 เดซิเบล เป็นระยะทางไกลกว่า 3 กิโลเมตร

        6. Red-eyed Tree Frog (Litoria chloris)
กบต้นไม้ตาแดงหรือกบต้นไม้ตาสีส้ม เป็น กบต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในออสเตรเลียตะวันออก กบต้นไม้นี้ส่งเสียงแหลมซึ่งแตกต่างกันเล็กน้อย เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ที่ใกล้ชิดกัน เพื่อให้เสียงร้องนั้นยาวนานที่สุดมันจะบีบอากาศหายใจเข้าออก ผ่านกล่องเสียงเดียวกันไปมาเพื่อสร้างเสียงแหลม ถุงเสียงของกบแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันอย่างมาก บางชนิดมีถุงเสียงเป็นคู่ บางชนิดขยายใหญ่ลงมาตามลำตัว หรือขยายใหญ่ขึ้นบริเวณด้านหน้าศีรษะ

        5. Attwater’s Prairie Chicken (Tympanuchus cupido attwateri)
ไก่ทุ่งหญ้าแอตต์วอเตอร์ เป็นสายพันธุ์ย่อย ที่ใกล้สูญพันธุ์ของไก่ทุ่งหญ้า มีถิ่นกำเนิดบนชายฝั่งเท็กซัสและเดิมคือรัฐลุยเซียนาในสหรัฐอเมริกา โดยตัวผู้มีขนยาวเรียกว่าพินนาย ซึ่งตั้งขึ้นจนดูเหมือนใบหูตัวผู้มีถุงลมสีส้มสดใสหรือสีทองทั้งสองข้างของคอ ซึ่งจะพองออกเมื่อผสมพันธุ์ ตัวผู้จะส่งเสียง "วู้วู" ดังออกมาจากถุงคอ เพื่อดึงดูดเพศตรงข้ามและขับไล่คู่แข่ง

        4. Slender-spined porcupine fish (Diodon nicthemerus)
ปลาเม่นหนามเรียว หรือปลาลูกโลก พบในน่านน้ำทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ดูเผินๆ แล้วคล้ายกับปลาปักเป้า บางครั้งพวกมันอาจมีขนาดใหญ่กว่า โดยบางชนิดมีความยาวเกือบหนึ่งเมตร ส่วนใหญ่เป็นปลาน้ำเค็มมีหนามสีเหลืองเพรียวที่ใช้ป้องกันสัตว์นักล่า และมีความสามารถในการพองตัวเพื่อให้หนามแหลมคมยื่นออกมาเมื่อตื่นตระหนก ซึ่งมีพิษที่ทำลายเส้นประสาท ปลาเม่นยังมีขากรรไกรขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายจะงอยปาก ซึ่งสามารถฉีกหอยได้อย่างง่ายดาย

        3. Greater Sage Grouse (Centrocercus urophasianus)
ไก่ป่าเซจตัวใหญ่ เป็นไก่ป่าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ กระจายอยู่ในทุ่งหญ้าเซจบรัช ในนก กล่องเสียง (เรียกว่าซิริงค์) มีลักษณะเป็นท่อคู่ บางชนิด เช่น ไก่ป่าเซจตัวใหญ่ จะมีถุงเสียงคู่หนึ่งอยู่ภายในถุงคอที่ยืดหยุ่นได้เมื่อคลื่นเสียงหลุดออกจากซิริงค์ เสียงจะสะท้อนกับเยื่อยืดหยุ่นของถุงแต่ละถุง เมื่อถุงขยายขึ้น ถุงจะตึงเหมือนหนังกลอง ถุงคอสามารถปัดกับขนบนปีกเพื่อให้เกิดเสียงวูบวาบอันน่าตื่นตาได้เช่นกัน

        2. Male hooded seal (Cystophora cristata)
แมวน้ำหัวหงอน เป็นแมวน้ำขนาดใหญ่ที่พบได้เฉพาะในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือตอนกลาง และตะวันตกเท่านั้น ลักษณะพิเศษคือส่วนหัวถึงจมูกจะพองยาวใหญ่เป็นพิเศษ มองจากระยะไกลเหมือนหมวกสีดำแมวน้ำจะปิดกั้นรูจมูกข้างหนึ่งและเป่าลมไปที่อีกข้างหนึ่ง อากาศที่ไหลเร็วนี้จะจับเยื่อพิเศษในรูจมูกที่พองออกเหมือนลูกโป่ง สัญญาณนี้สื่อถึงขนาดและความแข็งแกร่งของตัวผู้แต่ละตัว และช่วยกีดกันคู่แข่งไม่ให้เข้ามาใกล้

        1. African Twig Snake (Thelotornis)
งูกิ่งไม้ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าชื่องูนกหรืองูเถา เป็นสกุลงูพิษเขี้ยวหลัง ในวงศ์ Colubridae สกุลนี้มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา สัตว์ทุก งูทุกสายพันธุ์ในสกุลนี้มีรูปร่างเรียวยาว หางยาว หัวแคบ และปากแหลมเมื่อถูกคุกคาม งูจะขยายคอเพื่อแสดงรอยดำเข้มระหว่างเกล็ด การถูกงูกัดอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งพิษส่งผลต่อกลไกการแข็งตัวของเลือด และทำให้เลือดออกอย่างควบคุมไม่ได้และการตกเลือดภายใน